Skip to content

King of Gods 647

King Of Gods

บทที่ 647 ราชาเผ่าเงือก

องค์หญิงเผ่าเงือกมองแผน ‘แผนบุรุษรูปงาม’ ของเจียงฟานออกอย่างปรุโปร่ง นัยน์ตาพระจันทร์เสี้ยวคู่งามเต็มไปด้วยแววตานึกสนุกและพึงใจ

เป็นแผนการของเจ้าโง่คนไหนกัน?

เจียงฟานเกือบจะกระอักเลือดออกมา ก่นด่าจ้าวเฟิงในใจเป็นร้อยเป็นพันครั้ง

ก่อนที่จะออกเดินทาง จ้าวเฟิงมีสีหน้ามั่นอกมั่นใจนักหนา ว่าสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณของเจียงฟานมีโอกาสมากที่จะเอาชนะใจองค์หญิงเผ่าเงือก

“คิกคิก จ้าวเฟิงงั้นหรือ?”

ใบหน้าสะคราญล่มเมืองขององค์หญิงเงือกฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา

“เจ้า…เจ้ารู้ได้อย่างไร?” เจียงฟานพูดไม่ออก

องค์หญิงเงือกผู้นี้รู้จักกจ้าวเฟิงได้อย่างไร

“หรือว่า…” ใจของเจียงฟานเต้นดัง ‘ตึก ตึก’

เขาคิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง

หรือว่าจ้าวเฟิงและองค์หญิงเผ่าเงือกจะเป็นพวกเดียวกันมาตั้งนานแล้ว?

ถ้าหากว่าจุดนี้เป็นจริงแล้วล่ะก็ เช่นนั้นทั้งหมดก็ดูจะสมเหตุสมผล

ถ้าหากมิเช่นนั้นแล้ว องค์หญิงเงือกก็คงมองแผน ‘แผนบุรุษรูปงาม’ ไม่ออกในทันทีที่เห็นหน้าเขา

“จ้าวเฟิง!”

เจียงฟานขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความรู้สึกโมโหโกรธาและเคียดแค้นหยั่งรากภายในใจ

วิ้ง~

ทั่วร่างของเจียงฟานปรากฏลายเส้นสายเก่าแก่สีดำทมิฬ ผิวหนังของเขาคล้ายเกล็ดที่ทั้งแข็งทั้งหนา ประหนึ่งอสุรกายขนาดยักษ์ที่ดิบเถื่อนอย่างยิ่ง

โครม วูบ!

แขนทั้งสองข้างของเจียงฟานโบกสะบัด สายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณที่อยู่ภายในร่างระเบิดออก จัดการตัดโซ่สีทองเจิดจ้าที่รัดร่างของเขาทิ้ง

“ไม่เสียทีที่เป็นสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ…”

องค์หญิงเผ่าเงือกผู้ฝึกตนอยู่ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง ในสายเลือดและดวงวิญญาณมีแรงกดดันตามมา ร่างกายและจิตใจสั่นสะท้านด้วยความกลัวอย่างแท้จริง

ความรู้สึกเช่นนั้นประหนึ่งว่าตนเองเป็นเพียงมัจฉาตัวเล็กจ้อย ที่เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรแห่งท้องทะเลจากบรรพกาล

“จัดการเจ้าผู้เป็นองค์หญิงเงือกก่อนแล้วกัน”

เจียงฟานพลิกฝ่ามือขึ้น แล้วร่างของเขาก็โบยบินไปตะปบยังองค์หญิงนางเงือก

แต่ทว่า

เหมือนองค์หญิงเงือกจะล่วงรู้แผนการของเขาอยู่แล้ว ก่อนที่เจียงฟานจะทันได้ลงมือ หางเงือกของนางก็สะบัดอย่างแรง

วิ้ง สวบ!

ภายในกระแสธารสีฟ้าเข้ม องค์หญิงเงือกหลบการโจมตีที่รุนแรงจาก ‘เงื้อมมือ’ ของเจียงฟานได้อย่างสบาย

“จะหนีไปไหน!” ใจของเจียงฟานร้อนรน บินตรงดิ่งไปทางองค์หญิงเผ่าเงือกอีกครั้งในทันที

เขามีสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ถึงแม้ว่าพลังฝึกตนขององค์หญิงเงือกอยู่ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง ก็ไม่สามารถต่อสู้กับเขาซึ่งๆ หน้าได้

เพียงแต่ว่า

เขามองข้ามปัจจัยข้อหนึ่งไป นั่นคือสภาพแวดล้อม

ที่นี่คืออาณาจักรเผ่าเงือก ใต้ผืนน้ำนี้เป็นแหล่งพำนักของพวกเขา

เมื่ออยู่ในน้ำ ความเร็วของเขาโดนจำกัดไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นสายเลือดของ

เจียงฟานเป็นเลิศในด้านการป้องกันด้วย

“คิกคิก เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก ว๊าย ช่วยด้วย…”

องค์หญิงเผ่าเงือกปราดเปรียวคล่องแคล่วอย่างประหลาด ในฐานะที่เป็นองค์หญิงแห่งเผ่าเงือก นางจึงคุ้นเคยในบริเวณคุ้งน้ำนี้มากกว่า

ในทะเลสาบจื่อเยียน ข้อได้เปรียบด้านการเคลื่อนไหวของนางถือว่าอยู่ในจุดสูงสุด

ต่อให้เป็นสิบอัจฉริยะแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจเทียบ ความเร็วในการเคลื่อนไหวและความปราดเปรียวที่ประหลาดนี้ได้

“ซวยล่ะ!”

เจียงฟานมีท่าทีสิ้นหวังอยู่บ้าง เมื่อเขาสัมผัสรับรู้ได้ว่ายอดฝีมือของเผ่าเงือกค่อยๆ รุกคืบมาที่นี่

“หนี!” เมื่อเจียงฟานเห็นว่าทำอะไรองค์หญิงเงือกไม่ได้ จึงหันกายเตรียมจะบินจากไป

วูบ!

มือเรียวขององค์หญิงเงือกเพียงผลักออกเบาๆ ก็ปรากฏคลื่นกระบี่สีน้ำเงินเข้ม ตรงดิ่งไปหาเจียงฟาน การโจมตีนี้ทะลวงผ่านน้ำไปอย่างไร้ซึ่งอุปสรรคใด

โครม บึม!

ผิวของเจียงฟานที่มีลักษณะคล้ายเปลือกและเกล็ดมีรอยแผลเป็นริ้วเล็กๆ แล้วจึงสมานกันอย่างรวดเร็ว

ช่างเป็นการป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่ง!

องค์หญิงเผ่าเงือกเสียสมาธิไปเล็กน้อย นางทุ่มเทพลังทั้งหมดโจมตีเจียงฟาน แต่ไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับเขาได้เลย

“จ้าวเฟิง! เจ้าทำให้ข้าต้องตกอยู่ในสภาพน่าอนาถ! ข้าจะสับเจ้าออกเป็นหมื่นๆ ชิ้น!”

เจียงฟานหนีไปพลาง ด่าจ้าวเฟิงไปพลาง

“จ้าวเฟิง? คือเจ้าโง่ที่คิดแผนบุรุษรูปงามงั้นสิ?”

องค์หญิงเงือกมีท่าทีประหลาดใจอยู่ไม่น้อย คล้ายกับรู้สึกสนอกสนใจ

ผู้ที่ทำให้เจ้าของสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณทำตามคำสั่งได้ จ้าวเฟิงผู้นั้นย่อมไม่ธรรมดา

“หืม?”

เจียงฟานรู้สึกไม่ค่อยถูกต้องนัก องค์หญิงเงือกผู้นี้เหตุใดจึงล่วงรู้ถึงความคิดของตนเองดีนัก

“หรือจะเป็นวิชาอ่านใจ?” เสียงพึมพำดังขึ้นที่ข้างหูเขา

“เหอะ! เจ้าโง่! พรสวรรค์ดวงวิญญาณของราชวงศ์เงือก มีความสามารถในการ ‘อ่านความคิด’ ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์หญิงเผ่าเงือก” องค์หญิงเอ่ยด้วยท่าทีอาจหาญ

อ่านความคิด!

เจียงฟานใจเต้นรัว เหตุใดในข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจึงไม่มีเรื่องนี้เอ่ยเอาไว้กัน?

ถ้าหากเป็นเช่นนั้น

ในอดีต อัจฉริยะจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นเหตุใดจึงชนะใจองค์หญิงเผ่าเงือกได้?

“พวกเจ้าเผ่าพันธุ์มนุษย์ อัจฉริยะผู้นั้นสามารถทำสำเร็จได้ เป็นเพราะเขามี ‘ความจริงใจ’ มิเช่นนั้นจะชนะใจองค์หญิงเผ่าเงือกในยามก่อนได้อย่างไร”

มุมปากขององค์หญิงเผ่าเงือกยกขึ้นน้อยๆ เป็นรอยยิ้มเยาะ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” เสียงพึมพำนั้นเหมือนไม่มีความเกี่ยวโยงใดกับสายน้ำที่กระเพื่อมโครมคราม แต่ดังขึ้นในระดับชั้นดวงวิญญาณโดยตรง

“ใคร…ใครกัน!” ร่างกายขององค์หญิงเผ่าเงือกแข็งค้าง เมื่อเพิ่งพบว่ามีเสียงของบุคคลที่สามดังขึ้น

ในวินาทีเดียวกันนั้นเอง

แววตาของเจียงฟานมองไปยังด้านข้างเหนือศีรษะ แล้วก็ต้องตกใจอย่างยิ่ง “นั่นคือ..”

องค์หญิงเผ่าเงือกจึงแหงนศีรษะตาม

ในระลอกน้ำเหนือศีรษะ ปรากฏนัยน์ตาโปร่งแสงสีฟ้าสว่างที่ไร้รูปร่างดวงหนึ่ง จ้องมองยังเบื้องล่างอย่างเย็นชา เหมือนกับว่าได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับสายน้ำแล้ว

“จ้าว…จ้าวเฟิง!”

เจียงฟานรู้สึกเหมือนจุกในลำคอ ด้วยเสียงและดวงตาที่เห็นเบื้องหน้าล้วนแต่เป็นเอกลักษณ์ของจ้าวเฟิงทั้งสิ้น

“ตราผนึกดวงใจทมิฬ!”

 

นัยน์ตาว่างเปล่าไร้รูปร่างดวงนั้นลอดแววเย็นชาเยาะเย้ย พลังเหมันต์ต้องห้ามที่แทรกซึมเข้าสู่ดวงวิญญาณ ทะลวงผ่านไปที่องค์หญิงเผ่าเงือก

“แย่ล่ะ!” องค์หญิงเผ่าเงือกสะบัดหางไปมา ดิ้นรนอย่างสุดแรงเกิด

ในฐานะที่เป็นองค์หญิงเงือก พรสวรรค์ดวงวิญญาณของนางสูงส่งเกินจะเปรียบ มีความสามารถในประเภทวิชาอ่านใจมาแต่กำเนิด

ตราผนึกดวงใจทมิฬของจ้าวเฟิง ต่อให้อยู่ในสภาวะ ‘ดวงตาข้ามระยะทาง’ ก็ยังคงแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่การหมายจะโจมตี ‘องค์หญิงเผ่าเงือก’ ก็ยังต้องเผชิญกับแรงต้านทานอย่างรุนแรงอยู่ดี

ถ้าหากว่าดิ้นรนรุนแรงเกินไป ในขณะที่ใช้ ‘ตราผนึกดวงใจทมิฬ’ อาจทำให้ดวงวิญญาณขององค์หญิงเงือกสูญสลาย หากเป็นเช่นนั้นจะเกินความต้องการในตอนแรกของจ้าวเฟิงไป

“จ้าวเฟิงคนนี้ มีวิชาสายเลือดดวงตาแขนงดวงวิญญาณที่น่ากลัวเหลือเกิน ถึงขั้นที่สามารถใช้วิชาดวงตาวิญญาณกับข้าโดยข้ามระยะทางมาได้” องค์หญิงเงือกสัมผัสได้ถึงความต่างของดวงวิญญาณ

หากจะพูดถึงพรสวรรค์ดวงวิญญาณ บุคคลลึกลับที่ใช้ดวงตาข้ามระยะทางโจมตีผู้นั้นอยู่เหนือกว่านางมาก

“องค์หญิง!”

“รีบช่วยองค์หญิง!”

เสียงร้องโหวกเหวกขอความช่วยเหลือดังอื้ออึงไปทั่วบริเวณ

ยอดฝีมือเผ่าเงือกในขั้นยอดผู้สูงศักดิ์จำนวนไม่มากตรงดิ่งมาด้านหน้า

“ยังจะเหม่อมองอะไรอีก!” มีเสียงของจ้าวเฟิงดังขึ้นในระดับดวงวิญญาณ

 

ในขณะที่เจียงฟานร้อนใจ ร่างกายสั่นสะท้าน เขาทะยานไปรัดคอขององค์หญิงเผ่าเงือกที่อยู่เบื้องหน้าของตน

“รีบปล่อยองค์หญิง!”

ยอดฝีมือเผ่าเงือกพวกนั้นตัวแข็งค้างแล้วจ้องมองอย่างโกรธแค้น

องค์หญิงเงือกที่โดนเจียงฟานบีบคอหอยไว้ ไม่ว่าจะดวงวิญญาณหรือร่างกายล้วนเกิดความรู้สึกคล้ายจะหายใจไม่ออก แรงดิ้นรนก็ค่อยๆ ลดลง

หนึ่งสองช่วงลมหายใจจากนั้น

การดิ้นรนขององค์หญิงเงือกก็นิ่งสงบลง แววตามีความศิโรราบหวาดกลัวมาจากใจจริง

การเปลี่ยนแปลงของสีหน้าท่าทางชนิดนี้ เจียงฟานคุ้นเคยเป็นอย่างดี

พรึ่บ!

เนตรสวรรค์ที่อยู่เหนืออากาศสลายหายไป

“ห้ามไป!”

เจียงฟานรู้สึกว้าวุ่นใจ แต่ในวินาทีต่อไปก็เห็นองค์หญิงเผ่าเงือกเอ่ยเสียงเย็นๆ ว่า “คนทั้งหมดถอยออกไป”

“องค์หญิง!” ยอดฝีมือเผ่าเงือกที่รีบมาจากทั่วทุกทางตื่นตะลึงอย่างยิ่ง

แต่ไม่ว่าอย่างไร องค์หญิงอยู่ในเงื้อมมือศัตรู แล้วนี่ก็ยังเป็นคำสั่งของนางเอง พวกเขาไม่กล้าไม่เชื่อฟัง

ภายใต้คำสั่งขององค์หญิงเผ่าเงือก คนทั้งหมดจึงแหวกออกเป็นทางเดิน

“ใครลงมือข้าจะฆ่าตัวตาย” ในมือขององค์หญิงเงือกปรากฏกริชเล่มหนึ่ง ใบหน้าแข็งทื่อ

ถัดจากนั้น ยอดฝีมือเผ่าเงือกทั้งหลายใจเย็นชืด ไม่มีใครกล้าทัดทานแต่อย่างใด

เจียงฟานรู้สึกเบิกบานใจอย่างยิ่ง หลังจากนั้นทางก็โล่งปลอดโปร่ง ออกจากตำหนักขององค์หญิงเผ่าเงือกอย่างไร้อุปสรรคใดๆ

“รีบไปรายงานองค์ราชา” ยอดฝีมือเผ่าเงือกสื่อสารกัน

หนึ่งในนั้นมีครึ่งก้าวสู่ราชาที่เพิ่งรีบตามมาทีหลัง เขามองออกเลยว่าองค์หญิงเผ่าเงือกโดนควบคุมจิตวิญญาณแล้ว

องค์หญิงเผ่าเงือกในขณะนี้เป็นประหนึ่งหุ่นเชิดที่โดนคนชักจูงออกคำสั่ง

ในวินาทีเดียวกัน

ที่มุมใดมุมหนึ่งของอาณาจักรเงือก

“จ้าวเฟิง สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” สีหน้าเฉินอี้หลินตึงเครียด ยากที่จะปิดบังความกังวลในดวงตา

“แผนบุรุษรูปงามของเจียงฟานประสบความสำเร็จหรือไม่?”

คนทั้งหมดสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายในอาณาจักรเงือกและกลิ่นอายของพวกระดับสูงภายในนั้น ทำให้รู้สึกจิตใจไม่สงบ

“เหอะเหอะ ใครบอกว่าข้าใช้แผนบุรุษรูปงามกัน? องค์หญิงเผ่าเงือกผู้นั้นถูกควบคุมจิตใจเรียบร้อยแล้ว” จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ

ควบคุมองค์หญิงเผ่าเงือก?

ลูกศิษย์ผู้สืบทอดหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ใจเต้นระรัว อดจะสูดหายใจเย็นเยียบเข้าปอดไม่ได้

ความกล้าของจ้าวเฟิงชักจะมากเกินไปแล้ว ถึงขั้นกล้าควบคุมองค์หญิงเผ่าเงือก?

ปุด ปุด~

เวลานี้เอง มีเสียงระลอกสายน้ำดังขึ้นที่เบื้องหน้า

เจียงฟานและองค์หญิงเงือกว่ายน้ำเข้ามาเคียงข้างกัน

เฉินอี้หลินเหมือนยกภูเขาออกจากอก ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างปิติ แล้วจึงจ้องมองไปที่จ้าวเฟิงอย่างลึกล้ำ

แผนการของจ้าวเฟิงคล้ายคลึงกับอัจฉริยะแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เมื่อหลายพันปีก่อน คือลงมือกับองค์หญิงเผ่าเงือก

ถึงแม้รายละเอียดจะเหมือนกันอยู่บ้าง แต่ผลที่เกิดในตอนสุดท้ายไม่เหมือนกัน

หลายพันปีก่อน อัจฉริยะแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้หัวใจรักจากองค์หญิงเผ่าเงือก ด้วยเหตุนี้จึงสามารถเข้าไปภายในตำหนักใต้ทะเลสาปได้

แต่จ้าวเฟิงกลับจับเอาองค์หญิงเผ่าเงือกมาเป็นทาสของเขา

“ออกเดินทางไปตำหนักใต้ทะเลสาบ” ทันทีที่จ้าวเฟิงเอ่ยปากสั่ง คนทั้งหมดก็ตรงดิ่งไปยังจุดลึกของอาณาจักรเผ่าเงือก

ตลอดทาง องค์หญิงเผ่าเงือกมีท่าทียอมศิโรราบอย่างแท้จริง

ยออดฝีมือเผ่าเงือกทั้งหลายไม่กล้าขัดขวาง ทำได้เพียงมองตาโตก็เท่านั้น

ครึ่งชั่วเวลาจิบชาผ่านไป

คนทั้งหมดก็มาถึงตำหนักใต้ทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยแสงสีเขียวประหนึ่งหยกเรืองรอง

“เปิดประตูออก” จ้าวเฟิงออกปากสั่ง

“เจ้าค่ะ”

องค์หญิงเผ่าเงือกไปหยุดอยู่หน้าประตูใหญ่ของตำหนัก ยกแขนขาวผ่องขึ้นมาเล็กน้อย แล้วขับขานบทเพลงแห่งเงือกที่เก่าแก่โบราณออกมา

ภายในเสียงเพลงมีแรงกระเพื่อมของดวงวิญญาณลี้ลับที่ติดต่อสื่อสารกับตำหนักใต้ท้องทะเล

“ที่อาณาจักรเงือก ‘องค์หญิงเผ่าเงือก’ ทุกองค์ที่ผ่านมาล้วนแต่มีตำแหน่งพิเศษ องค์หญิงไม่ได้เป็นเพียงองค์หญิงของอาณาจักร แต่ยังต้องเป็นนางเงือกในราชวงศ์ที่มีพรสวรรค์ดวงวิญญาณพิเศษที่สุดด้วย”

จ้าวเฟิงรับรู้ความลับมากมายของอาณาจักรเงือกจากองค์หญิงเงือก

หากนับตามระดับแล้ว องค์หญิงเผ่าเงือกจะเปรียบเทียบได้กับธิดาเทพประจำเผ่า ซึ่งมีความหมายที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก

ในเวลาเดียวกัน

องค์หญิงเผ่าเงือกก็มีภารกิจบางอย่างติดตัวอยู่ สิ่งนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับพรสวรรค์ดวงวิญญาณและมรดกของนาง

“องค์หญิงเผ่าเงือกมีภารกิจมรดก ต้องเกี่ยวข้องกับตำหนักเทพของเผ่าเงือกเป็นแน่นอน”

ความคิดของจ้าวเฟิงยิ่งชัดเจนขึ้นไปเรื่อยๆ

ไม่แปลกใจเลยที่อัจฉริยะแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นสามารถเข้าไปภายในตำหนักเซียนได้อย่างสบายๆ แล้วฉกเอาน้ำอำมฤตและสุราเซียนมายามาได้

โครม วิ้ง!

บานประตูของตำหนักเทพเผ่าเงือกค่อยๆ เปิดออก สาดซัดกลิ่นอายของความเก่าแก่โบราณออกมา

“เข้าไป”

จ้าวเฟิงให้องค์หญิงเผ่าเงือกเดินนำทางอยู่เบื้องหน้า เขาและคนอื่นๆ ค่อยๆ เดินเข้าไปภายในตำหนักทีละก้าว

“เผ่ามนุษย์! ยังไม่ยอมมอบตัวอีก!” เสียงของราชันที่ดุดันโหดร้ายทะลวงผ่านในชั้นดวงวิญญาณ

ลูกศิษย์ผู้สืบทอดหลายคนของสำนักเสวียนเจินดวงวิญญาณสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว สตินึกคิดทั้งหมดเหมือนโดนแช่แข็งเอาไว้

เจ้าของน้ำเสียงผู้นั้นก็คือราชาเผ่าเงือก

อาณาจักรเผ่าเงือกเกิดอึกทึกคึกโครมเช่นนี้ องค์หญิงเผ่าเงือกก็ถูกจับ เขาจะมองดูเฉยๆได้อย่างไรกัน?

แน่นอนว่าราชาเผ่าเงือกในตอนนี้ยังคงอยู่ที่ตำหนัก มีเพียงพลังในขอบเขตออกมาเท่านั้น

“ราชาเผ่าเงือก พลังปราณเทวะของท่านไม่สามารถสังหารข้าได้ในครั้งเดียว แต่เพียงห้วงคิดเดียวของข้า สามารถทำให้วิญญาณองค์หญิงเผ่าเงือกสูญสลายหายไปในทันที”

ร่างของจ้าวเฟิงหยุดไปขณะหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเรียบด้วยท่าทีสงบ ไม่ได้ว้าวุ่นใจอย่างพวกเจียงฟานและเฉินอี้หลิน

แผนการของเขาย่อมพิจารณาถึงปัจจัยอย่างราชาเผ่าเงือกไว้แต่แรกอยู่แล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version