บทที่ 704 จักรพรรดิมู่อวิ๋น
ที่หุบเขาสิบแปดยอด ขั้วอำนาจของโจรสลัดทะเลความว่างเปล่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กล่าวคือเป็นอาณาจักรเดียวกัน
และมรดกจักรพรรดิโจรสลัดนั้นเรียกได้ว่าเป็นมรดกสืบทอดที่มีร่วมกันของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด
กติกาในการแย่งชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัดจะยกเว้นยอดฝีมือจากโลกภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดฝีมือที่อยู่เหนือขั้นราชันขึ้นไป
ในความเป็นจริงแล้ว
จักรพรรดิหรือราชันที่มาจากภายนอกไม่สามารถเข้าร่วมการแย่งชิงมรดกจักรพรรดิโจรสลัดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มีเพียงราชาโจรสลัดที่แท้จริงถึงจะมีโอกาสได้รับมรดกส่วนหนึ่งได้
ปกติขอบเขตปราณเทวะไม่มีทางทำอะไรที่เหนื่อยเปล่าเป็นแน่ จะสอดมือเข้ายุ่งการแย่งชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด และร่วมมือกับโจรสลัดทะเลความว่างเปล่าก็ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่นัก
“จักรพรรรดิปราณเทวะผู้นั้นเป็นใครกัน?”
บรรดายอดฝีมือโจรสลัดทั้งหลาย หลังจากโมโหโกรธาแล้วจึงเริ่มถามคำถามสำคัญขึ้นมา
จักรพรรรดิในขอบเขตปราณเทวะ ถึงแม้จะเป็นปราณเทวะที่สมบูรณ์พร้อม แต่ว่าก็ยังมีการแบ่งขั้นระดับล่างและบน
ถ้าหากเป็นจักรพรรดิระดับสูงเช่นนั้นก็ยุ่งยากแล้ว
แต่ทว่าจักรพรรดิระดับสูงๆ ทั่วไปก็จะไม่ลดตัวลงมาทำเรื่องที่เสียแรงเปล่าเช่นนี้
“ว่ากันว่าเป็นจักรพรรดิมู่อวิ๋น” ราชาเหมันต์จันทราเอ่ย
จักรพรรดิมู่อวิ๋น?
บรรดายอดฝีมือโจรสลัดในที่แห่งนั้น บางคนพอจะเคยได้ยินมา และก็มีบางคนที่ไม่รู้จัก
“ที่แท้ก็เป็นเขา! จักรพรรดิมู่อวิ๋นผู้นี้เป็นราชันในขอบเขตปราณเทวะคนใหม่ที่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นในช่วงร้อยปีมานี้ของดินแดนหมู่เกาะวั่นหยวน ไม่ได้อยู่ในสำนักใดทั้งสิ้น มีทั้งด้านดีและด้านชั่ว”
ชายวัยกลางคนมีหนวดเอ่ยพึมพำ
จักรพรรดิมู่อวิ๋นไม่ได้เข้าร่วมสำนักใด มีทั้งด้านดีและด้านร้าย คนเช่นเขามาช่วยเหลือราชาอสรพิษดำย่อมสามารถยอมรับได้
ภายในโถงใหญ่โจรสลัด บรรยากาศหนักอึ้งเงียบสงัด
ความกดดันที่จักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะผู้หนึ่งนำมาให้ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ขอบเขตปราณเทวะที่บริบูรณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในชั้นดวงวิญญาณ จะไปถึงระดับขั้นสมดังใจนึก พลังเพิ่มขึ้นรวดเร็ว
หากไม่เช่นนั้นแล้ว ขอบเขตปราณเทวะคงจะไม่มีการแบ่งเรียกราชันและจักรพรรดิ
“ต้องร่วมมือกับราชาฉลามยักษ์ พวกเราถึงมีความเป็นไปได้ที่จะรับมือกับราชันในขอบเขตปราณเทวะ” ราชาเหมันต์จันทราถอนหายใจเสียงต่ำ
ในโถงใหญ่ของโจรสลัด
คนในระดับสูงล้วนไม่คัดค้าน
บางทีพวกเขาอาจเคยมีความแค้นความขัดแย้งกับคนของราชาฉลามยักษ์
แต่ว่าเรื่องพวกนี้เป็นเพียงความขัดแย้งภายในเท่านั้น จักรพรรดิขอบเขตปราณเทวะนั่นต่างหากถึงจะเป็นศัตรูที่แท้จริง
ในทะเลหมอกความว่างเปล่า
พลังอำนาจของราชาฉลามยักษ์และราชาเหมันต์จันทรามีระยะห่างจากกันร้อยสองร้อยลี้ สองฝ่ายค่อยๆ คืบคลานเข้าหากัน
สวบ พรึ่บ พรึ่บ!
บนอากาศเหนือทะเลหมอก ราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์เจรจากันในระยะห่างสิบจั้ง
ราชาฉลามยักษ์ร่างกายใหญ่โตกว่าราชาอสรพิษดำ ศีรษะมีเขาแหลมอยู่หนึ่ง ผิวหนังทั่วร่างเป็นกึ่งผิวหนังกึ่งเปลือกแข็ง
“กลิ่นอายสายเลือดของราชาฉลามยักษ์ผู้นี้คล้ายกับรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ” จ้าวเฟิงมองประเมินอยู่ไกลๆ
ราชาฉลามยักษ์เป็นหนึ่งในสามสุดยอดโจรสลัดที่คนต่างยกย่องให้เป็นที่หนึ่งด้านพละกำลัง
“ข้อมูลนี้เป็นข่าวสารที่ข้าได้มาจากสายในฝั่งราชามังกรดำ เชื่อถือได้แน่”
ราชาฉลามยักษ์เอ่ยเสียงราบเรียบ
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่ข่าวลวง ราชาเหมันต์จันทราจึงส่งหน่วยลาดตะเวนไปตามสืบ
ขั้วอำนาจของสามยอดโจรสลัดล้วนแต่มีสายลับซ่อนตัวอยู่ระหว่างกัน
การเข้าร่วมกลุ่มของจักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะไม่ใช่เรื่องธรรมดา ยากที่จะปกปิดได้ ครึ่งวันต่อจากนั้น ราชาเหมันต์จันทราก็แน่ใจว่าข้อมูลเป็นเรื่องจริง ในใจพลันหนักอึ้ง
ในวันนี้เอง
ราชาฉลามยักษ์และราชาเหมันต์จันทราจึงร่วมมือกัน แล้วยังป่าวประกาศเรียกราชาโจรสลัดอีกจำนวนมาก
การกระทำของราชาอสรพิษดำเรียกได้ว่า ‘ทรยศ’ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดอย่างไม่ต้องสงสัย
ทางฟากของราชาฉลามยักษ์ มีพรรคพวกเป็นราชันในระดับลึกซึ้งสองคน ราชันธรรมดาห้าคน
ฟากของเขามีตราคำสั่งราชาโจรสลัดสี่แผ่น
“เราสองฝั่งร่วมมือกัน มีตราคำสั่งโจรสลัดแปดแผ่น ขาดอีกแค่แผ่นเดียวก็จะเปิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโจรสลัดได้” ราชาฉลามยักษ์และราชาเหมันต์จันทราปรึกษาหารือกัน
เพราะว่าการคุกคามของศัตรูที่แข็งแกร่ง ยอดราชาโจรสลัดทั้งสองสามารถร่วมมือกัน นี่ถึงรวบรวมตราคำสั่งโจรสลัดมาได้ถึงแปดแผ่นอย่างง่ายดาย
“ขาดตราอีกหนึ่ง ก็ไม่ได้ยากนัก” ราชาฉลามยักษ์ยิ้มมั่นใจ
หลายวันต่อมา
กำลังสำคัญโจรสลัดของราชาฉลามยักษ์และราชาเหมันต์จันทราเริ่มคืบคลานเข้าไปยังส่วนลึกของยอดหุบเขาสิบแปดยอด
มีคนจำนวนไม่น้อยมาเข้าร่วมอยู่เรื่อยๆ
การที่ราชาทั้งสองร่วมมือกันต่อต้านจักรพรรดิจากภายนอกได้ชนะใจใครหลายคน
เพิ่งผ่านไปสองวัน ตราคำสั่งโจรสลัดแผ่นที่เก้าก็มาเข้าร่วมกับยอดโจรสลัดทั้งสอง
โจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองยังไม่พอใจกับสิ่งนี้ ยังคงควานหาตราคำสั่งราชาโจรสลัดให้มากขึ้นอีก
การทรยศของราชามังกรดำ การเข้าแทรกแซงของจักรพรรดิปราณเทวะ แหกกฎกติกาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด ทำให้ยอดฝีมือโจรสลัดจำนวนมากเข้ามาร่วมกลุ่มด้วย
ในวันที่เจ็ดของการร่วมมือของคนทั้งสอง ตราคำสั่งโจรสลัดแผ่นที่สิบก็เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร
“ตราคำสั่งราชาโจรสลัดนับวันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนคนที่เข้าไปภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย”
“แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือพวกเราได้ตราคำสั่งราชาโจรสลัดมาสิบแผ่น ยังเหลืออีกแปดแผ่น ถึงจะพอถูไถแต่ก็ไม่อาจจะเปิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้”
ราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กลางอากาศด้วยท่าทีทระนง
หลังจากที่สะสมตราคำสั่งราชาโจรสลัดได้สิบแผ่นแล้ว พวกเขาจึงได้รับสิทธิ์ในการลงมือก่อน
นี่คือสัญญาณของการเอาชนะใจคนจำนวนมาก
หากทางฟากของราชามังกรดำคิดจะเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิจะต้องมาที่หน้าประตู
“ออกเดินทางไปที่ใจกลางสิบแปดยอด!”
เรือโจรสลัดของกองทัพทั้งสองฝั่ง ลอยเข้าไปภายในใจกลางของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สิบแปดยอด
หุบเขาสิบแปดยอด มีหุบเขารูปกรวยทั้งหมดสิบแปดแห่ง
ทุกๆ หุบเขาล้วนแต่มีราชาโจรสลัดคอยดูแลอยู่
และใจกลางของสิบแปดยอดก็คือที่ตั้งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจักพรรดิโจรสลัด
ในวันที่สิบ
กองกำลังที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของสองยอดโจรสลัดเข้าไปยังใจกลางของสิบแปดยอด
ในเวลาดังกล่าว ยอดโจรสลัดทั้งสองมีตราคำสั่งราชาโจรสลัดสิบสองแผ่นเป็นราชันในระดับลึกซึ้งเจ็ดคน ราชันธรรมดาเกือบยี่สิบคน แต่ราชันระดับสุดยอดยังคงเป็นคนทั้งสอง
เรือหุ่นเชิดศพของจ้าวเฟิงดูเล็กจ้อยอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในกลุ่มเรือขนาดใหญ่จำนวนมาก
ในระยะสิบวันที่ผ่านมา จ้าวเฟิงเพียงแค่เข้าร่วมการประชุมในบางครั้ง เวลาส่วนมากของเขาใช้ไปกับการฝึกฝนวายุอัสนีพิฆาตสีชาดและหลอมรวมพลังอัสนีเทวะ
เขาเองก็สนใจเรื่องกำลังรบระดับสูงของพันธมิตรโจรสลัดเช่นกัน
“กำลังรบของคนระดับสูงในพันธมิตรโจรสลัด พวกราชันในระดับสุดยอดยังมีน้อยไปนิด” เด็กน้อยครึ่งเซียนเอ่ย เขาเองก็สนใจในสถานการณ์นี้เช่นกัน
ราชันธรรมดายากที่จะคุกคามจักรพรรดิปราณเทวะได้ ขนาดระลอกพลังที่หลงเหลือจากการต่อสู้ของจักรพรรดิ เมื่อรับมือแล้วยังอันตรายอย่างยิ่ง
ผู้ที่สามารถสร้างความยุ่งยากให้แก่จักรพรรดิปราณเทวะได้ ก็เห็นจะมีเพียงแต่ราชันในระดับสุดยอดหรือไม่ก็ราชันในระดับลึกซึ้งเท่านั้น
แต่ว่าพันธมิตรโจรสลัดมีราชันในระดับสุดยอดเพียงสองคน
“รายงาน! ค้นพบเรือของราชามังกรดำ”
“กองกำลังของราชามังกรดำรออยู่ที่ใจกลางสิบแปดยอด”
บรรดาโจรสลัดที่เป็นหน่วยสอดแนมแจ้งข่าวคราวทีละอย่าง
กองทัพเรือของพันธมิตรโจรสลัด ในที่สุดก็หยุดการเคลื่อนไหวลง
ในใจกลางสิบแปดยอด
มีเพียงเรือลักษณะคล้ายมังกรขนาดใหญ่แผ่ไอเย็นยะเยือกสีดำ เงียบสงัดเวิ้งว้าง แต่กลับสาดซัดกลิ่นอายอันตรายที่น่าสะพรึงขวัญออกมา
เรือลำนั้นคือเรือรบมังกรดำ
“ฝั่งของราชามังกรดำส่งเรือรบมาเพียงแค่ลำเดียวงั้นรึ?”
“เหอะ เหอะ ดูไปแล้วราชามังกรดำผู้นี้จะทรยศคนทั้งหมดแล้วละ”
พันธมิตรโจรสลัดเต็มไปด้วยเสียงถกเถียงอื้ออึง
อย่างน้อยพันธมิตรโจรสลัดก็ยังมีข้อได้เปรียบในด้านของจำนวนคน
แต่ทว่า ราชาเหมันต์จันทรา ราชาฉลามยักษ์ และราชาโจรสลัดส่วนหนึ่ง ใบหน้ากลับเคร่งขรึม
ภายในเรือรบมังกรดำ กำลังรบที่ต่ำที่สุดก็คือยอดผู้สูงศักดิ์ ระดับสูงกว่านั้นคือ ครึ่งก้าวสู่ราชันและราชันปราณเทวะ
ฟากของราชามังกรดำมีตราคำสั่งราชาโจรสลัดหกแผ่นป้าย ในนั้นสี่คนเป็นราชันในระดับลึกซึ้ง
ทั่วทั้งเรือรบมังกรดำล้วนแต่แข็งแกร่ง ไร้ซึ่งผู้อ่อนแอ
ดังนั้น กลิ่นอายที่สาดซัดออกมาจากเรือมังกรดำจึงวังเวงน่ากลัว แล้วยังมีอำนาจคุกคามที่น่าพรั่นพรึงอย่างยิ่ง สามารถเก็บกวาดสำนักสองดาวธรรมดาได้หลายแห่ง
แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือจักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะผู้นั้น
ในห้องโถงลับบนเรือรบมังกรดำ
“จักรพรรดิมู่อวิ๋น ไม่เกินไปจากที่คาดไว้เลย ราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์รวบรวมตราคำสั่งโจรสลัดได้เก้าแผ่นป้ายขึ้นไป แต่ว่าพวกเขาจะต้องเปิดมรดกจักรพรรดิโจรสลัดที่ใจกลางของเขาสิบแปดยอด”
ราชามังกรดำเอ่ยด้วยสีหน้าเคารพนบนอบ
ในฐานะที่เป็นผู้ทรยศหักหลัง เขารู้ตัวดีว่ายากที่จะแย่งชิงตราคำสั่งราชาโจรสลัดกับพันธมิตรโจรสลัด
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น
การหยิบยืมชื่อเสียงของจักรพรรดิปราณเทวะก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จในการรวบรวมกำลังคนไม่น้อย
“เจ้าวางใจเถอะ ตัวข้าจะสังหารราชาเหมันต์จันทรา ราชาฉลามยักษ์ รวมไปถึงศัตรูของบิดาบุญธรรมเจ้า แต่ว่าเจ้าก็ต้องรักษาสัญญาของตนด้วยเช่นกัน”
จักรพรรดิมู่อวิ๋นในชุดคลุมตัวยาวสีขาวดำนั่งตัวตรง
บริเวณหน้าผากของราชามังกรดำมีเหงื่อไหลหยด
จักรพรรดิมู่อวิ๋นผู้นี้เป็นที่เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจใช้เงินทองจำนวนมากเชิญมา อีกทั้งยังสัญญาด้วยว่า หากเขากลายเป็น ‘จักรพรรดิโจรสลัด’ ได้แล้วจะให้ค่าตอบแทนมูลค่ามากมายมหาศาล
หากไม่เป็นเช่นนั้นจะเชิญจักรพรรดิมู่อวิ๋นมาได้อย่างไร
“ขอเพียงแค่สามารถเป็นจักรพรรดิโจรสลัด แก้แค้นให้บิดาบุญธรรม ทั้งหมดล้วนคุ้มค่าแน่นอน”
ราชามังกรดำแวววตาเด็ดเดี่ยว
เขาไม่มีทางให้ถอยกลับอีกแล้ว จักรพรรดิมู่อวิ๋นเป็นความหวังเดียวในการพลิกสถานการณ์ทั้งหมด
ถึงแม้ว่าในจำนวนของราชันในฟากของราชามังกรดำจะเสียเปรียบ
แต่ว่าไม่มีใครสงสัยเลย จักรพรรดิขอบเขตปราณเทวะผู้หนึ่งย่อมมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อยู่แล้ว
“นายท่าน แย่แล้ว ราชาฉลามยักษ์กับราชาเหมันต์จันทราตรงมาทางนี้แล้ว”
ด้านนอกเกิดความโกลาหลขึ้น
บริเวณนอกเรือรบมังกรดำ ราชาฉลามยักษ์และราชาเหมันต์จันทรานำราชันในระดับลึกซึ้งเจ็ดคน ราชันธรรมดาเกือบยี่สิบคน ล้อมรอบเรือรบมังกรดำเอาไว้ แล้วกระจายตัวในรัศมีร้อยลี้
พลานุภาพที่แข็งแกร่งของราชัน ทำให้อากาศทั้งหมดเหมือนโดนกักขังไว้
ภายในเรือรบมังกรดำ
นอกจากจักรพรรดิมู่อวิ๋น คนอื่นที่เหลือใจเต้นระรัว เกิดความรู้สึกคล้ายจะหายใจไม่ออก
ราชันในขอบเขตปราณเทวะรวมตัวกันในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด แทบจะเป็นทุกขั้วอำนาจของโจรสลัดด้วยซ้ำ!
ปกติราชาโจรสลัดทั้งหมดจะอยู่กระจัดกระจายกัน มีเพียงในยามที่แย่งชิงบัลลังก์ ‘จักรพรรดิโจรสลัด’ คนทั่วไปถึงจะเข้าใจว่าอาณาจักรของโจรสลัดนี้มีพลังที่น่ากลัวมากมายเท่าไหร่
“เหอะ เหอะ พวกคนไร้ค่า” เสียงหัวเราะเย็นๆ แว่วมาตามสายลมจากเรือรบมังกรดำ
พรึ่บ!
ร่างของบุรุษอาภรณ์สีขาวดำไม่รู้ว่าปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือทะเลหมอกตั้งแต่ตอนไหน
ในพริบตานั้น
พลังมหาศาลของจักรพรรดิกระจายเป็นรัศมีร้อยลี้ แสงเมฆสีแดงกระจัดกระจายครอบคลุมทั่วผืนฟ้า
ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ถูกบดบังจนสภาพแวดล้อมในฟ้าดินบิดเบี้ยวไปหมด
ความสามารถประเภทนี้ราวกับเรียกลมเรียกฝน ใช้เพียงมือเดียวก็สามารถพลิกฟ้าปกครองใต้หล้า
วูบ โครม โครม!
ทะเลหมอกความว่างเปล่ากับชั้นดวงวิญญาณต่างสั่นสะเทือนราวกับฟ้าดินขยับไหว
เหล่าราชันผู้เป็นกำลังหลักของทางฟากพันธมิตรโจรสลัดล้วนแต่หวาดกลัว
พลานุภาพของราชันปกติ ยามต้องเผชิญหน้ากับพลังของจักรพรรดิก็เป็นเหมือนกระดาษบางๆ ที่ฉีกขาดเป็นชิ้นอย่างง่ายดาย
สถานการณ์เช่นนั้นเปรียบได้กับก้อนหินยักษ์พุ่งลงไปยังโลกใต้น้ำ
คุณสมบัติต่างกันราวฟ้ากับเหว
ราชันที่มีพลังแฝงต่ำหน่อยเลือดลมปั่นป่วน จิตใจถูกสะกดไว้
“นี่ก็คือพลังของจักรพรรดิงั้นหรือ?”
ราชันจำนวนมากในที่ดังกล่าวเพิ่งจะเผชิญหน้ากับจักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะเป็นครั้งแรก
วิ้ง!
รัศมีร้อยสองร้อยลี้ตกเข้าสู่ห้วงแสงเมฆสีแดงหม่นที่เป็นราวคุกกักขัง ก้อนเมฆสีแดงเข้มเหล่านั้นหมุนวนไปมาคล้ายกับเมฆหมอก เหมือนกับเป็นสิ่งที่มีชีวิตและจิตใจ ควบคุมกำลังในฟ้าดินไม่หยุด
เหล่าราชันผู้ยิ่งใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรถูกอานุภาพมหาศาลในฟ้าและดินที่หมุนวนอยู่นั้นปลิดชีพและกดข่ม ไม่อาจจะต้านทาน
นี่ก็คือการกดดันในระดับสำนึกรู้อย่างหนึ่ง
“นายท่าน จักรพรรดิมู่อวิ๋นผู้นี้มีกำลังรบที่มิใช่ของจักรพรรดิขั้นต้น เขาถึงกระทั่งว่าแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิทั่วไปอยู่ส่วนหนึ่งเสียด้วยซ้ำ”
เด็กน้อยครึ่งเซียนสังเกตแสงเมฆสีแดงเข้มที่อยู่รอบๆ แล้วสีหน้าก็คล้ำลง
“เจ้ามีความเห็นอย่างไร?” สีหน้าจ้าวเฟิงราบเรียบไร้อารมณ์
“ฟากของพันธมิตรโจรสลัด ความเป็นไปได้ที่จะชนะมีเพียงสามสิบส่วนเท่านั้น ข้าแนะนำให้นายท่านถอยออกจากวังวนนี้เสีย”