Skip to content

King of Gods 703

King Of Gods

บทที่ 703 แนวทางความร่วมมือ

ในเสียงระเบิดดังกึกก้อง วิญญาณดั้งเดิมของผู้เฒ่าชุดผ้าป่านแตกสลายเป็นหมื่นพันชิ้น

สำหรับวิญญาณดั้งเดิมของราชันที่หลบหนีเช่นนี้ ธนูเหนือนภา เรียกได้ว่าเป็นศัตรูที่น่ากลัวราวฝันร้ายเลยทีเดียว

จ้าวเฟิงใช้เมล็ดดวงใจทมิฬติดต่อกับเรือหุ่นเชิดศพที่อยู่ไกลออกไปและกำลังเดินทางมา ดวงวิญญาณและเลือดเนื้อของราชันผู้นี้แหลกเป็นชิ้นๆ ถูกค่ายกลหุ่นเชิดศพดูดกลืนเข้าไปได้ทัน และยังได้ผลส่วนหนึ่งด้วย

ในเวลานี้เอง ทั้งสองฝั่งต่างตกตะลึง

ฝั่งราชามังกรดำ โจรสลัดมากมายมีสีหน้าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่งเมื่อมองไปยังบุรุษหนุ่มผู้มีปีกอัสนีอยู่เบื้องหลัง

ชายวัยกลางคนหนวดเคราครึ้มสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเข้าปอด

เขาเห็นขั้นตอนทั้งหมดอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

ทันทีที่จ้าวเฟิงเข้าร่วมการต่อสู้ก็สังหารโฉมงามขั้นราชันในชุดม่วง

ในวินาทีที่สังหารสำเร็จ เขาก็หายวับไป

ผู้เฒ่าชุดผ้าป่านยังไม่ทันได้ตอบโต้ จ้าวเฟิงก็ใช้ ‘ปีกอัสนีโบยบิน’ และ ‘คมปีกวายุอัสนี’ ที่เร็วกว่าทำลายร่างทิ้งไป

วิญญาณดั้งเดิมของผู้เฒ่าชุดผ้าป่านที่เพิ่งจะหลบหนีออกจากร่างยังไม่ทันได้โล่งใจ ก็ถูกธนูเหนือนภาสังหารไปเช่นกัน

ขั้นตอนทั้งหมดรวดเร็วจนเกินจะคาดคิด

เหล่าโจรสลัดมากมายทั้งสองฝ่ายเพียงแค่เหม่อลอยไป ราชันทั้งสองก็โดนสังหารสิ้น

การต่อสู้ที่รวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าเช่นนี้ ทำให้ฝ่ายราชามังกรดำถึงกับรับมือไม่ทัน

“เจ้าเด็กนี่!… เป็นเจ้า…ที่สังหารพ่อบุญธรรมข้า”

หลังจากที่ราชามังกรดำตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง นัยนต์ตาสีม่วงเข้มเผยแววโกรธแค้นทิ่มแทงลึกเข้าไปถึงกระดูก

ที่แท้ระหว่างราชามังกรดำและราชาอสรพิษดำมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา

เมื่อก่อนนานมาแล้ว ราชามังกรดำเป็นเด็กกำพร้าพเนจร ภายหลังราชาอสรพิษดำค้นพบพรสวรรค์สายเลือดของเขาจึงทุ่มเทอบรมเลี้ยงดู

ราชามังกรดำไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง หลายร้อยปีต่อมากลายมาเป็นยอดราชาโจรสลัดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สิบแปดยอด

“ธนูเหนือนภา!”

จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็นยะเยือก แล้วง้างคันธนูเหนือนภาโดยไม่แม้แต่จะคิด แสงลูกธนูสีทองดอกที่สองซึ่งล้อมรอบด้วยวายุอัสนีพิฆาตสีชาดทะลวงผ่านร่างของราชามังกรดำอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าราชามังกรดำจะเพียรพยายามหลบหลีก แต่กลับยังโดนแทงทะลุอยู่ดี เขตแดนมิติของเขา ไม่ได้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง จึงไม่อาจขัดขวางธนูเหนือนภาได้มากนัก

ฟุ่บ!

บริเวณลำคอของราชามังกรดำเลือดสาดกระจาย ลำแสงลูกธนูสีทองหักไปเมื่อเกิดเสียงดัง ‘ฉัวะ’

“ช่างเป็นกำลังรบและร่างกายที่แข็งแกร่งนัก”

จ้าวเฟิงอดตกตะลึงไม่ได้

ราชามังกรดำไม่เพียงแต่เป็นราชันขั้นสุดยอด มรดกสายเลือดก็สูงส่งด้วย

ในเวลานี้เอง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า… สังหาร!”

บุรุษมีหนวดใช้กำลังรบในระดับราชันกวาดล้างโจรสลัดหลายสิบคน แล้วจึงฉวยโอกาสนี้ไล่ตามสังหาร

ในขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงปล่อยธนูเหนือนภาดอกที่สามออกไป ลูกศรแสงสีทองปักทะลุลงส่วนศีรษะของราชามังกรดำ

ราชามังกรดำเปล่งเสียงแหบแห้งออกมา ถึงแม้มีเขตแดนและการป้องกันร่างกายทางสายเลือดก็ยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่ดี

“เหมันต์จันทราคู่!”

ราชาเหมันต์จันทราโบกสะบัดดาบ ตาเปล่ามองเห็นเพียงประกายดาบและแสงกระบี่สายหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้า มันเย็นยะเยือกราวแสงจันทร์ บิดเบี้ยวรวมกันแล้วฟันลงไปบนร่างของราชามังกรดำ

ตึง ตึง ตึง!

ราชามังกรดำโดนโจมตีอย่างต่อเนื่องจนถอยร่น เกราะป้องกันสีมืดบนร่างปรากฏรอยปริร้าวเล็กๆ  คราบเลือดกระจายอยู่เต็ม

“เป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งยิ่ง!” จ้าวเฟิงอดจะชมไม่ได้

ในกลุ่มยอดราชาโจรสลัดทั้งสาม ท่าร่างของราชาเหมันต์จันทรารวดเร็วที่สุด โจมตีตัวต่อตัวได้เก่งกาจที่สุด

เวลานี้ บุรุษผู้มีหนวดร่วมโจมตีราชามังกรดำด้วย

ราชามังกรดำเพียงคนเดียวกลับตกเข้าไปในวงล้อมของราชันสามคน

“ธนูเหนือนภาสิ้นเปลืองพลังมากเกินไปแล้ว”

ธนูโบราณสีเงินหายไปจากมือของจ้าวเฟิง ปรากฏแส้วายุอัสนีพิฆาตสีชาดขึ้นมาแทน ก่อนจะฟาดโจมตีไปทางราชามังกรดำด้วยความปราดเปรียวว่องไวราวอสรพิษ

ข้างกายราชามังกรดำไม่มีกำลังรบขั้นราชันอีกแล้ว จึงตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบทันที

“เตรียมตัวถอนกำลัง!” ราชามังกรดำถ่ายทอดคำสั่ง แล้วจึงสู้ไปพลาง ถอยทัพไปพลาง

เวลาผ่านไปไม่นาน

เพี๊ยะ!

เงาลำแสงสีทองสายหนึ่งแหวกผ่านอากาศมากับพลังที่ยิ่งใหญ่ของราชัน

ผู้มาเยือนคือบุรุษผมทองที่อยู่ด้านหลังซึ่งเป็นราชันในระดับลึกซึ้ง

ราชามังกรดำสีหน้าซีดเผือด นำทัพที่เหลือหลบหนีถอยร่นไปยังส่วนลึกของทะเลหมอกความว่างเปล่า

โชคดีที่ ‘พิษกำยานเทพ’ ของราชาเหมันต์จันทรายังกำเริบอยู่ ร่างกายนางอ่อนระทวย กำลังรบลดลงไปมาก จนไม่อาจจะตามได้ทัน

จ้าวเฟิงเองก็ลองไล่ตามดู

“รนหาที่ตาย!”

สุดท้ายแล้ว ง้าวยาวในมือราชามังกรดำเกาะกลุ่มเป็นพลังเขตแดน ทุ่มแรงฟาดฟันสะเทือนใต้หล้า ไอสีม่วงทะมึนระเบิดปะทุออกมา

แซ่ด พรึ่บ!

 

จ้าวเฟิงเรียกใช้ปีกวายุอัสนี หอบร่างโบยบินหลบหนี แต่ยังโดนพลังที่แข็งแกร่งสั่นสะเทือนจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

กำลังรบของราชันระดับสุดยอดไม่อาจจะมองข้ามได้เลย

จ้าวเฟิงรับรู้ได้ถึงความแตกต่างกับในยามที่ประมือกับราชาเหมันต์จันทรา

ความจริงแล้วเขายังไม่ได้เลื่อนขึ้นเป็นราชันในขอบเขตปราณเทวะด้วยซ้ำ พลังแฝงจึงยังไม่เพียงพอ

สวบ!

เรือทะเลหุ่นเชิดศพที่เร่งตามมากางค่ายกลหุ่นเชิดศพ แล้วกลืนกินจิตกับวิญญาณที่หลงเหลือของราชันเข้าไป

“จ้าวเฟิง ลำบากเจ้าแล้ว” สีหน้าเย็นชาของราชาเหมันต์จันทราปรากฏความซาบซึ้งใจ

นางมอบบรรณาการการรบซึ่งได้จากราชันที่ตายไปทั้งสองคนให้จ้าวเฟิง

อีกฝ่ายก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด

กลับเป็นบุรุษหนุ่มผมทองผู้นั้นที่ปากอ้าตาค้าง

“ราชันผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองโดนจ้าวเฟิงสังหารไปแล้วงั้นรึ?”

ตอนที่เขารีบมาถึง สถานการณ์ก็ผกผันไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะสังหารราชันทั้งสองไปแล้วภายในระยะเวลาอันสั้น

หลังจากนั้น

เหล่าโจรสลัดในกองทัพของราชาเหมันต์จันทราก็กลับมาเป็นฝ่ายไล่ล่าสังหาร กองกำลังโจรสลัดที่อยู่ในสังกัดราชากระดองเหล็กโดนสังหารราวหนูติดจั่นเช่นกัน

 

เนื่องจากราชาเหมันต์จันทราต้องการคลาย ‘พิษกำยานเทพ’ ให้ทุเลาลง จึงไม่ได้ไล่ตามสังหารต่อ

หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ ชื่อเสียงของราชาเหมันต์จันทราโด่งดังไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอด

ราชาเหมันต์จันทราเป็นผู้มีชัยในการการปะทะกันระหว่างยอดราชาโจรสลัด ทำให้นางมีชื่อเสียงระบือไกลกว่าเดิม

ภายในครึ่งเดือน

มีราชันในระดับลึกซึ้งหนึ่งคนกับกองทัพเรือโจรสลัดของราชันธรรมดาสามคนเข้าร่วมกับนาง

อิทธิพลของราชาเหมันต์จันทราแผ่ขยายกว้างไกลออกไป

ในเวลาดังกล่าว กองทัพของราชาเหมันต์จันทรามีตราคำสั่งราชาโจรสลัดถึงสี่แผ่นแล้ว

เพียงต้องรวมตราคำสั่งอีกห้าแผ่น ฝั่งของนางก็จะสามารถเปิดมรดกดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโจรสลัดได้

กองทัพโจรสลัดของราชาเหมันต์จันทราเริ่มขยายอาณาเขตออกไปเป็นวงกว้าง

เวลานี้ จ้าวเฟิงกลับไปที่เรือหุ่นเชิดศพ ปิดตาลงแล้วเริ่มฝึกบำเพ็ญในระยะเวลาสั้นๆ

หลังผ่านการต่อสู้ พลังแฝงที่อยู่ภายในกายของจ้าวเฟิงถูกกระตุ้น ซ้ำยังเข้าใจลึกซึ้งอีกหลายอย่าง

ทะเลวิญญาณสีม่วง

จ้าวเฟิงดูดซับพลังอัสนีเทวะอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ในตอนนี้ทะเลวิญญาณสีม่วงของเขาผสานเข้ากับอัสนีเทวะราวสองส่วน

แต่สำหรับทะเลวิญญาณที่มีรัศมีถึงพันจั้ง พลังอัสนีเทวะเพียงหนึ่งถึงสองเส้นสายนี้น้อยนิดจนเกินไป

ทว่าพลังอัสนีเทวะที่ประทับลงบนทะเลวิญญาณเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลดีต่อการฝึกตนของจ้าวเฟิง โดยเอาเสวียนอ้าวอัสนีเทวะผสานเข้ากับ ‘วายุอัสนีพิฆาตสีชาด’

วันนั้น จ้าวเฟิงเข้าไปใน ‘ห้วงฝันบรรพกาล’ อีกครั้ง เขาดื่มน้ำจากแม่น้ำในห้วงฝันบางส่วน ซึ่งส่งผลในการชะล้างเลือดเนื้อร่างกายหรือกระทั่งดวงวิญญาณอย่างช้าๆ

ในระยะนี้ สรรพสัตว์ที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำรวมไปถึงสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ เพียงแค่ไม่ใช่สัตว์ที่เกาะกลุ่มกันเป็นฝูง จ้าวเฟิงก็สามารถจัดการได้โดยง่าย

“เป้าหมายต่อไปน่าจะไปสำรวจป่าด้านตรงข้าม”

สายตาของจ้าวเฟิงมุ่งไปทางอีกฝั่งของทุ่งหญ้า

ภายในป่าย่อมต้องมีสัตว์ป่าที่แข็งแกร่งกว่า หรือบางทีอาจจะมี ‘ผลไม้’ บางอย่าง

แค่กลิ่นอายส่วนเดียวของห้วงฝันบรรพกาลก็ส่งผลประโยชน์มหาศาลต่อผู้สูงศักดิ์และยอดผู้สูงศักดิ์แล้ว

คาดการณ์ได้เลยว่า ผลไม้ที่นี่จะต้องส่งผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งกว่าน้ำในลำธารแน่

ในห้วงฝันบรรพกาล จ้าวเฟิงไม่รีบไม่ร้อน มุ่งหน้าเดินไปยังทิศทางของป่า

แน่นอนว่าจ้าวเฟิงไม่อาจรีบร้อนทำให้เสร็จลุล่วง ทุกวันเขาจึงเดินทางด้วยระยะทางเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

ถึงอย่างไรสถานการณ์ในโลกความจริงก็ไม่มั่นคง

กองกำลังโจรสลัดในฝั่งกองทัพราชาเหมันต์จันทรา ตอนนี้ต้องรับมือกับศึกทุกทิศทาง และถอยร่นเข้าไปในส่วนกลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด

มีภารกิจเล็กๆ ในบางครั้งที่ต้องใช้เรือหุ่นเชิดศพของจ้าวเฟิง ส่วนภารกิจทั่วๆ ไปมอบหมายให้กับเด็กน้อยครั้งเซียนและเจ้าหอโครงกระดูกก็เพียงพอแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ จ้าวเฟิงจึงจำต้องยอมแพ้เรื่องการสำรวจป่าไม้ภายในห้วงฝันบรรพกาล

จุดสำคัญของเขายังคงเป็นมรดกวายุอัสนีและการฝึกบำเพ็ญเพื่อเลื่อนขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอมรวมพลังอัสนีเทวะ

ในวันนี้

ราชาเหมันต์จันทราเรียกประชุมด่วนโดยฉับพลัน

“กองกำลังของราชาฉลามยักษ์โหดเหี้ยมเหิมเกริม บีบเข้าใกล้ขอบเขตเรือของฝั่งเรามาแล้ว”

ชายฉกรรจ์มีหนวดอธิบายสถานการณ์

ราชาฉลามยักษ์เป็นหนึ่งในสามยอดโจรสลัดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดเหมือนกัน

ไม่เพียงเท่านี้ ราชาฉลามยักษ์ยังมีชื่อเสียงและพลังแข็งแกร่งที่สุดในสามราชาโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วย

จ้าวเฟิงก็พอจะรู้ข้อมูลคร่าวๆ ของคนผู้นี้มาบ้าง

ราชาฉลามยักษ์มีสายเลือดของฉลามยักษ์เก่าแก่โบราณ อีกทั้งกำลังรบและการป้องกันก็อยู่เหนือคนอื่น

แต่ไหนแต่ไรมา พลังของเขาแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาราชาทั้งสามคน

แต่ในวันนี้ ราชาเหมันต์จันทราเอาชนะราชามังกรดำ พลังเพิ่มขึ้นสูงมากจนเทียบเท่ากับราชาฉลามยักษ์ได้แล้ว

“ทันทีที่การต่อสู้ในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น จะโหดร้ายรุนแรงอย่างยิ่ง แต่เพียงแค่เอาชนะได้เท่านั้น พวกเราก็จะเป็นเจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์สิบแปดยอดนี่”

ราชาเหมันต์จันทรากวาดสายตาไปทั่ว น้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง ทั้งยังเผยจิตต่อสู้ออกมา

“สังหารราชาฉลามยักษ์! รวมหุบเขาสิบแปดยอดให้เป็นหนึ่ง!”

“ราชามังกรดำถูกพวกเราโจมตีจนพ่ายแพ้ไปแล้ว ทำลายราชาฉลามยักษ์ให้พินาศในคราวเดียวเลย!”

ห้องโถงใหญ่ในเรือ โจรสลัดระดับสูงและกลางมากมายมีจิตต่อสู้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

ในฐานะที่เป็นโจรสลัด จะมีใครบ้างที่ไม่กระหายเลือด หากรักความสงบก็คงไม่เหมาะจะมาเป็นโจรสลัด

จ้าวเฟิงนั่งอยู่กลางกลุ่มคน อยู่ไม่ห่างจากราชาเหมันต์จันทรามากนัก

ฐานะของเขามากพอจะเทียบเคียงราชันระดับลึกซึ้งได้

ขั้นต่อมา ราชาเหมันต์จันทราเริ่มสั่งการราชาโจรสลัดมากมายให้กระจายกำลังทหาร เตรียมตัวไปสังหารราชาฉลามยักษ์

“รายงาน!”

หน่วยสอดแนมโจรสลัดคนหนึ่งบินเข้ามา แล้วจึงส่งป้ายแทนตนรูปร่างดาบให้

“เรียนนายท่าน นี่เป็นสิ่งที่ราชาฉลามยักษ์ส่งมา”

โจรสลัดสอดแนมเอ่ยอย่างเคารพ

ราชาเหมันต์จันทรารับป้ายแทนตนรูปร่างดาบมา แล้วจึงผสานห้วงคิดเซียนเข้าไปภายใน

สายตาของคนมากมายภายในโถงบนเรือจับจ้องไปยังราชาเหมันต์จันทรา เห็นเพียงหน้าของนางเปลี่ยนสีแล้วแค่นเสียงเย็น “มีอย่างนี้ที่ไหนกัน!”

“นายท่าน หรือว่าราชาฉลามยักษ์จะยื่นข้อเสนออะไรที่มากเกินไปรึ?”

“ไม่ต้องสนใจ เปิดฉากสู้ไปเลย!” เหล่ายอดฝีมือโจรสลัดโวยวายเสียงดัง

“ไม่ใช่! ราชาฉลามยักษ์จะมาเข้าร่วมกับพวกเรา” ราชาเหมันต์จันทราสีหน้าเคร่งเครียด

ร่วมมือ?

ราชาฉลามยักษ์เสนอขอร่วมมือด้วย?

โจรสลัดทะเลความว่างเปล่าในที่ดังกล่าวสับสนไม่เข้าใจกันใหญ่

จ้าวเฟิงตกลงสู่ห้วงความคิดไปชั่วขณะหนึ่ง ด้วยพลังอำนาจที่แข็งแกร่งของราชาฉลามยักษ์ เหตุใดจึงต้องขอความร่วมมือจากราชาเหมันต์จันทรา

หากพูดตามเหตุผล คนทั้งสองควรจะต่อสู้ให้รู้ดำรู้แดงกันไป แล้วช่วงชิงเอาบัลลังก์ของจักรพรรดิโจรสลัดมา

“ข้อเสนอนี้พวกเราควรจะตอบรับ” ราชาเหมันต์จันทราสูดหายใจเข้าลึกๆ

คนมากมายล้วนรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ตึงเครียด

ตกลงเป็นเพราะสาเหตุอย่างไรกันแน่ จึงส่งผลให้ราชาฉลามยักษ์ผู้แกร่งกล้าต้องเสนอขอความร่วมมือเช่นนี้

“ฝั่งของราชาฉลามยักษ์สืบได้ข่าวมา ราชามังกรดำที่พ่ายแพ้ไปเชิญ ‘จักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะ’ จากโลกภายนอกเข้ามาแทรกแซงการช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด”

กึ่งกลางระหว่างคิ้วของราชาเหมันต์จันทราเย็นยะเยือก

ทันที่เอ่ยประโยคนี้จบ คนทั้งหมดก็เกรี้ยวกราดขึ้น!

“มีแบบนี้ที่ไหนกัน!”

“ราชามังกรดำนั่นที่แท้ก็แหกกฎกติกาการแย่งชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด”

คนในที่แห่งนั้นพากันก่นด่า ทั้งหมดต่างรู้สึกโกรธเกรี้ยวยิ่งนัก

ภายใต้สถานการณ์ปกติทั่วไป

จักรพรรดิและราชันจากภายนอกไม่สามารถเข้ามาก้าวก่ายการต่อสู้ช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด เพราะว่าคนเหล่านั้นไม่อาจเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิโจรสลัดได้

อีกทั้งการเชิญจักรพรรดิจากภายนอกมาช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด ก็เป็นการแหกกฎของจักรพรรดิโจรสลัดด้วย

“ตามกฎของจักรพรรดิโจรสลัด พฤติกรรมของราชามังกรดำจะทำให้เขาถูกไล่ล่าจากทั่วทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด”

“มิน่าล่ะ ราชาฉลามยักษ์จึงร่วมมือกับฝั่งพวกเรา”

บรรดาโจรสลัดต่างส่งเสียงประณาม

“จักรพรรดิปราณเทวะ? สถานการณ์ของการช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัดครั้งนี้รุนแรงยิ่งขึ้นแล้ว…”

จ้าวเฟิงขมวดคิ้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version