Skip to content

King of Gods 729

King Of Gods

บทที่ 729 แก่นแท้พลังกายศักดิ์สิทธิ์

สนามรบสำนักสองดาวแห่งนี้ เป็นดินแดนเกาะแห่งหนึ่งที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่งในกลุ่มดินแดนมังกรสีชาด

ดินแดนเกาะดังกล่าว ไม่ว่าจะจำนวนประชากรหรือว่าสำนักต่างๆ ล้วนแต่มากกว่าสองเท่าของทวีปบุปผาคราม

ขั้วอำนาจสำคัญในการสู้รบครั้งนี้คือสำนักสองดาวสามแห่ง รวมไปถึงสำนักหนึ่งดาวสิบแปดแห่งที่ถูกลากเข้ามาด้วย

สถานการณ์ของกลุ่มดินแดนมังกรสีชาดคล้ายคลึงกับดินแดนเกาะเทียนหลู

หนึ่งในสำนักสองดาวสามแห่งนั้นแตะไปถึงระดับสองดาวครึ่ง มีนามว่า ‘สำนักมารเทียนซิง’ ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับสำนักสองดาวที่เหลือ

ในเวลานี้เอง บริเวณอากาศเหนือสนามรบ

ฟากของสำนักมารเทียนซิงมีราชันปราณเทวะสองคน

หนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่สวมชุดคลุมสีดำ บริเวณหว่างคิ้วมีสัญลักษณ์รูปดาวสีดำเข้มเปล่งประกายวิบวับ ร่างอยู่ท่ามกลางชั้นพลังสีนิล

ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำใช้พลังของตนเองเพียงคนเดียวปะทะกับราชันในขอบเขตปราณเทวะอีกสองคนด้วยท่าทีสบายๆ

“พลังฝึกตนของ ‘เจ้าลัทธิมารเทียนซิง’ ผู้นี้ผ่านขอบเขตปราณเทวะช่วงปลายไปแล้ว พลังไม่น่าจะต่างจากราชันในระดับสุดยอดเท่าไหร่”

ราชันทั้งสองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังตกที่นั่งลำบาก ผู้หนึ่งเป็นผู้เฒ่าผมสีขาว ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นโฉมสะคราญในชุดขาว

เจ้าลัทธิมารเทียนซิงเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักมารเทียนซิง แล้วยังเป็นยอดฝีมือในขอบเขตปราณเทวะที่โดดเด่นของกลุ่มดินแดนมังกรสีชาด

“เขตแดนดารามาร!”

เห็นเพียงแขนเสื้อคลุมของเจ้าลัทธิมารเทียนซิงโบกสะบัดไหวๆ แล้วอากาศว่างเปล่าด้านหน้าก็โดนเขตแดนดารามารที่มืดมิดปกคลุมไปหมด

โครม! เพี๊ยะ เพี๊ยะ——

ในเขตแดนมิติปรากฏดวงดาราสีดำมืดมิดดวงหนึ่ง มันเปล่งลำแสงเพลิงดารามารออกมาเป็นเส้นสายเพื่อกดดันผู้เฒ่าผมขาวและโฉมสะคราญชุดขาว

นอกจากนี้

ในฟากฟ้าของดินแดนภายใน ยังมีสตรีสวมชุดนางกำนัลผู้มีใบหน้างดงามอย่างยิ่งของสำนักมารเทียนซิง ชั้นไอสีดำมืดหมุนวนรอบกายนาง พลังสายมารที่ยิ่งใหญ่ตรงดิ่งไปยังราชานักกระบี่ผู้หนึ่ง

“ราชากระบี่เทียนหลิว!”

สตรีชุดนางกำนัลจากสำนักมารยิ้มกว้างจนเห็นฟัน “ ‘กลุ่มพลังไร้อำพราง’ ของข้าถนัดการยืมแรงศัตรูโจมตีศัตรู การโจมตีของเจ้าถึงจะสูงส่งกว่านี้สามส่วนก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ครึ่งวันต่อจากนี้ เจ้าจะไม่มีกำลังสำรองต่อแน่ หรือบางทีอาจไม่ต้องรอนานขนาดนั้น ทางฟากของเจ้าสำนักน่าจะจัดการปัญหาทางนั้นได้”

“เช่นนั้นก็ลองดู!”

ราชากระบี่ไม่หวั่นไหวไปกับคำพูดดังกล่าว วิถีกระบี่ของเขาหนักแน่นราวหินผา ลำแสงกระบี่ที่ไหลเย็นราวกับทางช้างเผือกทะลวงผ่านท้องฟ้า อานุภาพรุนแรงเกินจะเปรียบ

โครม โครม!

‘กลุ่มพลังไร้อำพราง’ ของสตรีลัทธิมารไม่มั่นคงไปชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าของนางจึงเปลี่ยนสีไป

ที่แท้จริงแล้ว ราชากระบี่เทียนหลิวผู้นี้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของกลุ่มดินแดนมังกรสีชาด เป็นราชันเพียงผู้เดียวที่ฝึกฝนศาสตร์แห่งกระบี่

โครม โครม โครม——

บนพื้นดินของดินแดนภายใน กองทัพหลักในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดต่อสู้จนผืนดินแหลกละเอียด พายุหมุนรุนแรงปรากฏขึ้นทั่วสารทิศ ฝุ่นธุลีลอยคละคลุ้ง

ในดินแดนเกาะธรรมดา ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดคือผู้สูงศักดิ์ไร้เทียมทานซึ่งอยู่ในจุดสูงสุด

ราชันจำนวนหนึ่งปะทะกันกลางอากาศ กลิ่นอายทรงพลังจนทำให้เหล่าผู้สูงศักดิ์ต้องใจสั่นระรัว ไม่กล้าจะเข้าใกล้

ในวินาทีเดียวกัน

ณ ทะเลความว่างเปล่าภายนอกดินแดนมีเสียงแหวกอากาศลอยมา

สวบ!

เรือหุ่นเชิดศพลำหนึ่งเข้าไปยังเขตชายแดนสนามรบของสำนักสองดาว

เขตชายแดนตรงภายนอกดินแดนมียอดฝีมือในระดับยอดผู้สูงศักดิ์ที่ยังสู้รบกันอยู่ รวมไปถึงเรือขนส่งทรัพยากรส่วนหนึ่งด้วย

“ใครกัน!” การมาถึงของเรือหุ่นเชิดศพดึงดูดความสนใจของสำนักสองดาวแห่งหนึ่ง

เมี้ยว เมี้ยว!

บนเรือหุ่นเชิดศพ มีแมวตัวน้อยสีเทาตัวหนึ่งปักธงโครงกระดูกผืนใหญ่ขึ้นมา

“เรือโจรสลัดงั้นหรือ?”

เหล่ายอดฝีมือที่กำลังประมือกันในพื้นที่แห่งนี้มีสีหน้าตื่นตกใจและแปลกประหลาด

กองกำลังโจรสลัดทั่วไปเมื่อเจอสำนักสองดาวจะหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อเจอสนามรบของสำนักสองดาว ยอดฝีมือทั่วไปล้วนหลบหนีไม่ทัน

เหตุการณ์ในวันนี้กลับทำลายกรอบความคิดของพวกเขาลง

เมื่อเจอสนามรบสำนักสองดาว เรือโจรสลัดหุ่นเชิดศพลำนั้นไม่เพียงแต่ไม่หลบหนีไปไกล แต่ว่ายังกระตือรือร้นจะบุกเข้ามา

“ขัดขวางเรือโจรสลัดลำนั้นเอาไว้!”

ยอดผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงผู้หนึ่งนำกำลังคนประมาณสิบกว่าคนตรงดิ่งมาทางเรือโจรสลัด พลังฝึกตนต่ำสุดอยู่ในขั้นนายเหนือแท้ระดับสูง

พู่ วิ้ง!

บนเรือหุ่นเชิดศพ หมอกเพลิงปีศาจที่หนาแน่นทะลักออกมา ด้านในยังปรากฏดวงตาสีแดงก่ำดูดุร้ายนับร้อยคู่ มันปลดปล่อยพลังอาฆาตจิตวิญญาณที่น่ากลัวออกมาโจมตี

“อ๊าก อ๊าก อ๊าก…”

ยอดฝีมือในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดยังไม่ทันได้เข้าไปใกล้ จิตวิญญาณของแต่ละคนก็สูญสลาย กระทั่งดวงวิญญาณยังกระจัดกระจายออกไป

เรือหุ่นเชิดศพจึงไร้ผู้ขัดขวาง!

กองกำลังกลุ่มนี้กลายเป็นกองเลือดในพริบตาเดียว จิตและวิญญาณภายในนั้นโดนค่ายกลร้อยศพดูดซับไป

เมี้ยว เมี้ยว!

มองเห็นเพียงแมวขโมยตัวหนึ่งและเด็กน้อยครึ่งเซียนผู้หนึ่ง ทะยานผ่านอากาศไปเก็บเกี่ยวทรัพย์สมบัติบางส่วนอย่างว่องไว

แน่นอนว่ามีเพียงอาวุธจากคู่ต่อสู้ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดเท่านั้น เด็กน้อยครึ่งเซียนและเจ้าแมวขโมยตัวน้อยจึงจะลงมือเก็บมา

ภายในห้องหัวหน้าเรือ

จ้าวเฟิงนั่งสังเกตเหตุการณ์ด้านนอกอย่างสบายอารมณ์ พลางดื่มเหล้าที่เซียนบ่มไว้จากห้องบ่มสุราครึ่งเซียน

“คนทั้งหมด มอบอาวุธมา ข้าอาจจะไว้ชีวิตพวกเจ้า” เด็กน้อยครึ่งเซียนร้องตะโกน

เมี้ยว เมี้ยว!

เจ้าแมวขโมยตัวน้อยโบกธงโครงกระดูกพลางตะโกนลั่น

ทั้งสองลอยอยู่เหนืออากาศบนหมอกเพลิงหุ่นเชิดศพ ค่ายกลร้อยศพไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งสองแม้แต่น้อย

“มีแบบนี้ที่ไหนกัน! เป็นแค่โจรสลัดผู้หนึ่งแต่กลับจะปล้นพวกเราสำนักมารเทียนซิง”

คนในกองทัพสำนักมารพุ่งเข้ามาอย่างกราดเกรี้ยว

ผู้นำเป็นยอดผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงสองคน ที่เหลือเป็นผู้สูงศักดิ์ธรรมดาเจ็ดแปดคน

ค่ายกลที่จัดกระบวนเช่นนี้สามารถทำลายสำนักหนึ่งดาวที่แข็งแกร่งพินาศได้อย่างสบายๆ

แต่ทว่า

นัยน์ตาสีแดงก่ำอำมหิตจำนวนร้อยคู่ภายในเพลิงหมอกควันหุ่นเชิดศพ ทันทีที่จ้องมองก็ทำให้ไอวิญญาณของบรรดายอดฝีมือสำนักมารแต่ละคนแหลกสลาย ตกใจจนดวงวิญญาณแตกกระเจิง

ในเมื่อไม่มีแรงจะต้านทาน กองทัพนี้จึงกลายมาเป็นอาหารของค่ายกลหุ่นเชิดศพ

“ฮ่าฮ่า…สนามรบสำนักสองดาวแห่งนี้เป็นสนามอาหารบำรุงที่ดีเยี่ยมเหลือเกิน” เจ้าหอโครงกระดูกยิ้มเจ้าเล่ห์

ต่อจากนั้น ในทุกแห่งที่เรือหุ่นเชิดศพผ่านไป ยอดฝีมือในสำนักหนึ่งดาวสองดาวเพียงแค่ได้ยินเสียงก็ต้องอกสั่นขวัญหาย

เรือหุ่นเชิดศพนั้นก็ว่องไวเกินจะเปรียบ ยอดฝีมือในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดหลบหนีไม่ได้แม้แต่น้อย

“มอบอาวุธมา แล้วจะไว้ชีวิตเจ้า!” เด็กน้อยครึ่งเซียนตะเบ็งเสียง

“นายท่านโปรดไว้ชีวิตด้วย พวกเรายอมแล้ว…”

ผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดหลายคนตกใจจนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ทรุดลงคุกเข่าบนพื้น แล้วจึงมอบสิ่งของ รวมไปถึงสมบัติมีค่าและอาวุธศักดิ์สิทธิ์บนร่างให้อย่างว่านอนสอนง่าย

สายตาของเด็กน้อยครึ่งเซียนและเจ้าแมวขโมยตัวน้อยฉับไว ยอดฝีมือเหล่านั้นซ่อนของใดๆ ไม่ได้เลย

ผลสุดท้าย

ผู้สูงศักดิ์ที่ยินยอมส่งมอบอาวุธจึงสามารถเอาชีวิตรอดไปได้

ส่วนคนที่ขัดขืนไม่มีใครรอด ต้องตกเป็นอาหารบำรุงของค่ายกลร้อยศพทั้งหมด

ในเวลานั้น

สนามรบของดินแดนภายในเกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น

ทุกที่ที่เรือหุ่นเชิดศพแล่นผ่านจะเกิดความโกลาหลไปหมด มนุษย์ทุกผู้ล้วนแต่รับรู้ได้ว่าตนเองตกอยู่ในอันตราย

ยังดีที่จุดมุ่งหมายของเรือหุ่นเชิดศพคือการฉกชิงสิ่งของ ไม่ได้ต้องการปลิดชีพผู้ใด เพียงแค่มอบสิ่งของให้ก็จะรอดชีวิตไปได้

ในตอนแรก เรือหุ่นเชิดศพแค่คอยเสาะหาทรัพย์สมบัติอยู่ภายนอกสนามรบ

หลังจากที่แล่นเรือไปมาตรงรอบนอกสนามรบแล้ว เรือหุ่นเชิดศพจึงมุ่งเข้าไปสู่ใจกลางสนามรบของดินแดนภายในที่เปลี่ยนจุดไปมา

“เรือโจรสลัดจากที่ไหนกัน ใจกล้าเสียเหลือเกิน!”

บนอากาศนอกดินแดน ราชันในขอบเขตปราณเทวะหลายคนที่กำลังสู้รบกันอยู่สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น

เห็นเพียงเรือหุ่นเชิดศพลำนั้นที่ไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย ไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายธรรมะหรืออธรรม ฉกชิงสมบัติมาตลอดทาง

ราชันในขอบเขตปราณเทวะหลายคน เดิมทีนึกว่าเรือโจรสลัดลำนั้นเพียงแค่ฉวยโอกาสปล้นแถววงนอกของสนามรบเท่านั้น

แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เมื่อเรือโจรสลัดหุ่นเชิดศพปล้นชิงสมบัติที่วงนอกเสร็จสิ้น ก็ยังขยับเข้ามาในใจกลางของสนามรบ เหมือนว่าอยากจะปล้นชิงทั่วทั้งพื้นที่

“เป็นโจรสลัดของฝ่ายใดกันแน่ ยังไม่รีบไปจับมันอีก!”

ในใจกลางสนามรบ ครึ่งก้าวสู่ราชันผู้หนึ่งกับยอดผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดหลายคนพุ่งตรงมาหมายจะสังหาร

ยอดฝีมือหลายคนมาจากกองทัพของสำนักต่างๆ

เห็นได้ชัดว่าการกระทำของเรือโจรสลัดหุ่นเชิดศพทำให้เกิด ‘ความไม่พอใจในคนหมู่มาก’ จึงทำให้ทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรมช่วยกันรับมือกับเรือโจรสลัด

“ทิ้งอาวุธเสีย แล้วข้าจะไว้ชีวิต” สีหน้าของเด็กน้อยครึ่งเซียนเคร่งขรึมเย็นชา

“เด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!”

ครึ่งก้าวสู่ราชันที่เป็นผู้นำไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ พลังของครึ่งก้าวสู่ราชันตรงดิ่งข้ามอากาศมา

พู่ว พรึ่บ!

หมอกเพลิงหุ่นเชิดศพที่หนาแน่นกลายเป็นพายุหมุนรุนแรง กลืนกินกองทัพนี้ในพริบตาเดียว

“อ๊าก อ๊าก อ๊าก…”

เสียงร้องโหยหวนรวมกองกำลังของครึ่งก้าวสู่ราชันเข้าไปด้วย ทั้งหมดกลายเป็นอาหารจนสิ้น

ภาพเช่นนี้ทำให้คนทั้งสนามรบตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

ใจกลางสนามรบของสำนักสองดาวสับสนอลหม่านและหวาดกลัวไปกันหมด

เรือโจรสลัดหุ่นเชิดศพปล้นของจากบรรดายอดฝีมือด้วยพละกำลังไร้เทียมทาน

ยอดฝีมือขอบเขตแก่นก่อกำเนิดส่วนหนึ่งมอบทรัพยากรทั้งหมดให้อย่างว่าง่ายเพื่อจะเอาชีวิตรอด

เมื่อมีตัวอย่างแล้ว ยอดฝีมืออีกมากมายจึงยอมจำนนมอบให้แต่โดยดี

เมี้ยว เมี้ยว!

เจ้าแมวขโมยตัวน้อยยิ้มแย้มเบิกบานใจ เก็บทรัพย์สมบัติที่ได้มาหลังชนะไม่หยุด

แน่นอนว่ามียอดฝีมือส่วนน้อยพยายามลองสังหารมัน ทว่าก็ถูกฆ่าอย่างรวดเร็วโดยไม่มียกเว้น

ในนั้นรวมไปด้วยครึ่งก้าวสู่ราชันผู้หนึ่ง ยอดผู้สูงศักดิ์ในช่วงสุดยอดสองคน

หลังจากเชือดไก่ให้ลิงดู เหล่ายอดฝีมือที่เหลือตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ละคนสูดหายใจเย็นเข้าลึกๆ

ราชันในขอบเขตปราณเทวะหลายคนที่กำลังปะทะกันอยู่กลางอากาศ ในที่สุดก็หยุดการต่อสู้ลง

“เรือโจรสลัดลำนี้มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่!”

ราชันในขอบเขตปราณเทวะที่อยู่ในสนามรบสำนักสองดาวมองหน้ากัน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา

บนเรือหุ่นเชิดศพมีบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง เด็กน้อยคนหนึ่ง แมวตัวหนึ่ง โครงกระดูกร่างหนึ่ง กลุ่มแบบนี้ทำให้ผู้คนไม่อาจมองได้ทะลุปรุโปร่ง

แต่ว่ากลุ่มที่แปลกประหลาดนี้กลับสามารถช่วงชิงของในสนามรบได้จนสำเร็จ

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เว้นเรือโจรสลัดลำนี้ไว้”

ดวงดาวสีดำเข้มบริเวณหว่างคิ้วของเจ้าลัทธิมารเทียนซิงเต้นระรัวและกะพริบวิบวับ

ถ้าหากให้เรือโจรสลัดลำนี้ถอยหนีไปโดยไร้รอยขีดข่วน สำหรับทั่วทั้งกลุ่มดินแดนมังกรสีชาดแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างยิ่ง

ราชันปราณเทวะทั้งห้าร่วมมือกันเป็นการชั่วคราว โดยส่ง ‘ราชากระบี่เทียนหลิว’ และ ‘สตรีสำนักมาร’ ไปจัดการโจรสลัดที่เบื้องล่าง

สวบ! สวบ!

ราชันปราณเทวะทั้งสองคนโผทะยานลงมาจากฟากฟ้า พลังมหาศาลของราชันทำให้ไอสวรรค์ในอากาศนิ่งชะงักไป

“เหอะ เหอะ มีคนมามอบของให้อีกแล้ว”

เด็กน้อยครึ่งเซียนไม่ตกใจแต่กลับยินดี

เมื่อเห็นการมาเยือนของราชันทั้งสองคน แสงสีทองสว่างเจิดจ้าบนร่างของเด็กน้อยครึ่งเซียน จนดูราวกับเป็นรูปปั้นพระพุทธที่เปล่งแสงเรืองรอง พลังมหาศาลของราชันและแก่นแท้กายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวกระจายไปทั่วบริเวณ

จนมาถึงวินาทีนี้ เด็กน้อยครึ่งเซียนเพิ่งจะเผยพลังฝึกตนในขั้นราชันออกมา

โครม!

ราชากระบี่เทียนหลิวและสตรีสำนักมารร่างกายสั่นสะท้านคล้ายโดนภูเขาลูกใหญ่กดทับลงมา

ทั้งสองพากันแค่นเสียงในลำคอ เกือบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว

“แย่แล้ว! ”

“รีบไปช่วยเร็ว!”

บนฟากฟ้า พวกของเจ้าลัทธิมารเทียนซิงหลายคนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง

พลังที่เด็กน้อยครึ่งเซียนผู้นั้นสำแดงออกมาเทียบเท่าราชันในช่วงสุดยอด ราชากระบี่เทียนหลิวและสตรีสำนักมารไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

ต่อให้เป็นเจ้าลัทธิมารเทียนซิงก็ยังไม่มีกำลังรบของราชันในช่วงสุดยอดเลยด้วยซ้ำไป

“เปรี้ยง เปรี้ยง! โครม”

อากาศด้านล่างมีเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นลอยมา ภูเขาลำธารในรัศมีพันลี้แหลกสลายไปจนหมด

“คุกเข่าเสีย!”

ร่างกายเล็กๆ ของเด็กน้อยครึ่งเซียนระเบิดแก่นแท้พลังกายศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง มือขนาดใหญ่สองข้างเปล่งลำแสงสีทองสว่างแล้วฟาดลงมาในอากาศ กดราชากระบี่เทียนหลิวและสตรีสำนักมารแนบลงไปกับพื้น

อึก!

ราชันทั้งสองคนกระอักเลือดออกมาพร้อมกัน ใบหน้าซีดเผือด

เมี้ยว เมี้ยว!

เจ้าแมวขโมยตัวน้อยลอยมาฉกชิงเอาสิ่งของของราชันทั้งสองไป

นัยน์ตาของสตรีสำนักมารมีแต่ความอำมหิต กระบี่ของราชากระบี่เทียนหลิวส่งเสียงครึกโครมราวต้องการจะโต้กลับ

เด็กน้อยครึ่งเซียนหัวเราะเสียงเย็น

เคร้ง เคร้ง!

ฝ่ามือแก่นแท้พลังสองข้างนั้นกดลงไปอย่างรนุแรง บดขยี้ราชันทั้งสองจนกลายเป็นธารเลือดกองหนึ่ง ก่อนจะถูกหมอกเพลิงหุ่นเชิดศพปกคลุมในทันที

กายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทองของเด็กน้อยครึ่งเซียนเข้าสู่ขั้นที่ห้า หากพึ่งพาเพียงแค่แก่นแท้พลังกายศักดิ์สิทธิ์จะสามารถจัดการราชันในขอบเขตปราณเทวะ ถ้าหากฝึกขั้นที่ห้าสมบูรณ์แล้ว กายศักดิ์สิทธิ์จะรับมือกับจักรพรรดิได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version