Skip to content

King of Gods 740

King Of Gods

บทที่ 740 คำสั่งล่าสังหาร (3)

“ไม่ได้การ!”

คู่สามีเจ้าตำหนักพิณตกใจจนพูดไม่ออก เคียวมรณะยักษ์ลากคมมีดเหมันต์แห่งความตายออกมา ตัดแยกพื้นที่มิติของทั้งสองและชั้นการป้องกันออกจากกัน

คนทั้งสองกระเด็นออกไปหลายร้อยจั้ง กระอักเลือดแล้วส่งเสียงร้องเจ็บปวด สีหน้าขาวซีด

นี่เป็นเพราะเด็กน้อยครึ่งเซียนปล่อยสิบแปดฝ่ามือผนึกนภาออกมา จึงพอจะลดอานุภาพการโจมตีของจักรพรรดิแห่งความตายไปได้สามส่วน และทำให้ความรวดเร็วปราดเปรียวลดลงไปมากมาย

หากมิเช่นนั้นแล้ว คู่สามีภรรยาเจ้าตำหนักพิณคงตายลงภายใต้การโจมตีของ ‘เคียวมรณะ’ ตั้งนานแล้ว

ฉัวะ!

ยามนั้น เงาเคียวมรณะที่มีคมมีดหนาวเหน็บสายหนึ่งฟันฉับลงทำลายเกราะป้องกันเบื้องหน้า เจ้าตำหนักพิณทั้งสองมีสีหน้าสิ้นหวัง อย่างน้อยๆ หนึ่งในสองคนนี้จะต้องตายผู้หนึ่ง

“เตี๋ยเหลี่ยน พบกันในโลกหน้า…”

บุรุษวัยกลางคนท่าทางองอาจแห่งตำหนักพิณตะเบ็งลั่น ฝืนขยับร่างกายมาบดบังอยู่เบื้องหน้าเงาเคียวมรณะ และใช้ร่างระดับราชันของเขารับการโจมตีนี้เพื่อจะช่วยชีวิตเจ้าตำหนักพิณสวรรค์

เมื่อการโจมตีผ่านพ้นไป ดวงตาของบุรุษวัยกลางคนผู้องอาจก็ปิดลง

“พี่ซิง…”

เจ้าตำหนักพิณสวรรค์ตกใจร้องเสียงหลง แต่กลับไม่มีแรงทำอะไร

ในเวลานี้จ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนก็อยู่ห่างไกลจากที่นี่พอสมควร จึงยากจะมาช่วยเหลือให้ทันเวลา

ตายอย่างแน่นอน!

มุมปากของจักรพรรดิแห่งความตายยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ

แล้วจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในชั่ววินาทีต่อมา

“เคลื่อนย้ายมิติ!”

พลังระลอกดวงตาที่เลือนรางปรากฏขึ้นยังเบื้องหน้าของบุรุษวัยกลางคนผู้องอาจ

ฟุ่บ!

เงาเคียวมรณะเยือกเย็นที่ตัดลงกลางร่างของบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นสลายหายไปในทันที

สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับส่วนกลางของจันทร์เสี้ยวถูกกัดจนแหว่งหายไปส่วนหนึ่ง

เงาเคียวที่มีคมเย็นเยียบแยกออกเป็นสองท่อน ครึ่งบนครึ่งล่าง วิ่งแฉลบผ่านเหนือหัวและใต้เท้าของบุรุษวัยกลางคนไป

“ยังไม่ตาย …” บุรุษวัยกลางคนอึ้งไป เหงื่อแตกพลั่กทั่วร่างกายเพราะเพิ่งเฉียดประตูนรกมาอย่างหวุดหวิด

“เคลื่อนย้ายมิติ การใช้ประโยชน์จากมิติแบบนี้…”

จักรพรรดิแห่งความตายตะลึงงันไปเล็กน้อย

ทันใดนั้นเหมือนว่าเขาจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้ หน้าจึงเปลี่ยนสีไป

วูบ!

คมมีดมรณะที่ขาดแหว่งหายไปทะลวงผ่านส่วนศีรษะของจักรพรรดิแห่งความตายพอดี จึงปรากฏรอยเลือดไหลซึมออกมาน้อยๆ

“มีอย่างที่ไหนกัน…”

จักรพรรดิแห่งความตายคำรามเสียงต่ำ ถึงแม้คมมรณะอันหนาวเหน็บนั้นไม่สามารถทำอันตรายร้ายแรงต่อ ‘ร่างศพอมตะ’ ของเขาได้ แต่ว่าการถูกทำร้ายโดยเคล็ดวิชามรณะของตนเองเช่นนี้ เป็นเรื่องอัปยศที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมา

“หยาดน้ำค้างปรลัย!” จักรพรรดิแห่งความตายมีสีหน้าเคร่งเครียด

ในขณะที่เขาตั้งรับกระบวนท่าโจมตี ก็ดีดนิ้วเรียกลำแสงเหมันต์มืดทะมึนสายหนึ่งออกมา ทุกที่ที่มันกวาดผ่าน อากาศว่างเปล่าล้วนแต่โดนแช่แข็งไป

“ระวัง!” คู่สามีภรรยาเจ้าตำหนักพิณเพิ่งจะพ้นจากอันตราย ทว่าต้องรู้สึกถึงพลังเหมันต์แห่งความตายที่ถึงแก่ชีวิตอีกครั้ง

เพล้ง โครม!

บุรุษวัยกลางคนผู้องอาจ

โดนโจมตีเป็นคนแรก เกราะป้องกันที่เพิ่งขึ้นเป็นรูปเป็นร่างถูกน้ำค้างแข็งที่ดำมืดทะลุผ่าน ร่างกายแข็งค้างไป

ในเวลาอันรวดเร็ว

น้ำค้างแข็งเย็นยะเยียบสีดำก็ปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง แล้วค่อยๆ แผ่ขยายออกทั่วร่างของชายวัยกลางคน ไอเย็นแห่งความตายแทรกซึมไปทั่วร่าง

ซู่ ซู่~

บุรุษวัยกลางคนผู้สง่างามไม่เพียงแต่ถูกแช่แข็ง หนำซ้ำยังไม่อาจขยับเขยื้อน ร่างกายและจิตวิญญาณล้วนแต่โดนพลังเหมันต์มรณะกัดกร่อนไป จนทำให้ชีวิตและจิตวิญญาณกำลังสูญสลายไปอย่างรวดเร็ว

“พี่ซิง!”

เจ้าตำหนักพิณสวรรค์พยายามละลายระลอกพลังที่เหลือของน้ำค้างแข็งเหล่านั้น ลำแสงสีขาวสว่างขึ้นในมือ จากนั้นประคองด้านหลังบุรุษวัยกลางคนไว้เพื่อละลายหยาดน้ำค้างปรลัย

มุมปากของจักรพรรดิแห่งความตายยกขึ้นน้อยๆ อย่างมีนัย

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงกวาดผ่านบุรุษวัยกลางคน แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป “ยั้งมือ!”

“อ๊าก…”

บุรุษวัยกลางคนผู้สง่างามร้องโอดครวญ หยาดน้ำค้างปรลัยซึ่งแฝงไปด้วยพลังเพลิงมรณะภายในร่าง เหมือนกำลังเดือดพล่านและหลอมละลายทั้งร่างกายและจิตใจ

สภาพดังกล่าวเปรียบได้กับยาพิษแช่แข็งหนึ่งขวด เมื่อเพิ่งเข้าไปภายในร่างกาย บางทีก็อาจจะทำให้หนาวเหน็บเท่านั้น

แต่ทว่าหากละลายมันแล้ว พิษดังกล่าวก็จะกระจายออกไปจนหมด

‘หยาดน้ำค้างปรลัย’ ของจักรพรรดิแห่งความตายแฝงด้วยพลังเพลิงมรณะ ซึ่งเป็นยาพิษอันตรายถึงชีวิตที่ถูกแช่แข็งเอาไว้

เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น

ทั่วร่างของบุรุษวัยกลางคนถูกกัดกร่อนจนแห้งเหี่ยวกลายเป็นกองเลือดสีดำกองหนึ่งเท่านั้น

“พี่ซิง เป็นข้าที่ทำร้ายท่าน…”

เจ้าตำหนักพิณเจ็บปวดรวดร้าวอย่างยิ่ง หัวใจเหมือนดั่งถูกกรีด

เด็กน้อยครึ่งเซียนและจ้าวเฟิงสีหน้าเคร่งเครียด ในใจรู้สึกหนักอึ้ง

กระบวนท่า ‘หยาดน้ำค้างปรลัย’ สามารถแช่แข็งเป้าหมายได้ ถ้าหากเป้าหมายใช้พลังเพลิงละลายแล้วล่ะก็ จะเท่ากับละลายเพลิงมรณะที่อยู่ภายในด้วย

แต่หากไม่ละลายออกไป พลังมรณะภายในหยาดน้ำค้างปรลัยก็จะไม่หยุดแช่แข็งไอสวรรค์ของชีวิตเป้าหมายเช่นกัน

ในความเป็นจริง บุรุษวัยกลางคนผู้สง่างามถูกวิชาดังกล่าวโจมตี ไม่ว่าเจ้าตำหนักพิณจะช่วยหรือไม่เขาก็ต้องตายอยู่ดี เพียงแต่จะช้าหรือจะเร็วเท่านั้นเอง

“ไม่จำเป็นต้องเสียใจไป ข้าจะส่งเจ้าไปพบเขาเอง”

จักรพรรดิแห่งความตายแสยะยิ้มออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วลำแสงน้ำค้างแข็งที่ดำมืดสายที่สองก็ตรงดิ่งไปที่เจ้าตำหนักพิณ

“ท่านอาจารย์…” หลีเสวี่ยอี้ที่อยู่ในค่ายกลป้องกันสำนักกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ

หากไม่มีข้อยกเว้น เจ้าตำหนักพิณต้องตายลงอย่างไม่ต้องสงสัย พลังของนางเพียงคนเดียวย่อมไม่มีทางต้านทานเคล็ดวิชามรณะของจักรพรรดิแห่งความตายได้ ถึงแม้จะได้พลังของเด็กน้อยครึ่งเซียนทำให้อ่อนกำลังลงไปแล้วก็ตาม

ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนี้เอง

ปีกอัสนีโบยบิน!

แสงแห่งปีกอัสนีที่ล้อมรอบด้วยวายุอัสนีสีชาดบดบังที่เบื้องหน้าของเจ้าตำหนักพิณ

“เจ้า…” ใบหน้างดงามของเจ้าตำหนักพิณแสดงความแปลกใจระคนสงสัยออกมาอย่างอดไม่ได้

นางเพียงรู้สึกว่ามีบุรุษหนุ่มผมสีม่วงผู้หนึ่งใช้ร่างกายของตนเองป้องกันกระบวนท่าโจมตี ‘หยาดน้ำค้างปรลัย’ เหมือนดั่งสามีของนางที่ใช้ชีวิตแลกกับอีกชีวิตอย่างนั้น

บุรุษหนุ่มผู้นั้นก็คือจ้าวเฟิง

แซ่ด!

พลังเหมันต์ในระดับสุดยอดพร้อมกลิ่นอายสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ทะลักออกมารายล้อมทั่วร่างของจ้าวเฟิง

พลังเหมันต์และกลิ่นอายกลุ่มนั้นทำให้ร่างกายและหัวใจของเจ้าตำหนักพิณรู้สึกอึดอัด

วิ้ง ~

ผิวทั่วร่างกายของจ้าวเฟิงปรากฏลายเกล็ดมังกรน้ำแข็งสีฟ้าที่งดงามวิจิตร พลังเหมันต์ของหยาดน้ำค้างปรลัยเพิ่งจะเข้ามาใกล้ ก็ถูกพลังเหมันต์ที่บริสุทธิ์ดั้งเดิมหลอมละลายไป

“โครม!”

พลังเพลิงมรณะบริสุทธิ์ที่เหลืออยู่ เมื่อตกลงบนร่างของจ้าวเฟิงก็แข็งไปทีละน้อย ทำให้อานุภาพลดลงไปสี่ห้าส่วน จึงย่อมไม่อาจคุกคามเขาผู้มีกายสายเลือดที่แข็งแกร่งอย่าง ‘เผ่าพันธุ์เกล็ดมังกรเหมันต์’ ได้

“สายเลือดหมื่นเผ่าพันธุ์…” จักรพรรดิแห่งความตายเอ่ยเสียงต่ำ แววตาเป็นประกายแวววับเล็กน้อย

สายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในลำดับร้อยหรือพันก็ล้วนแต่เป็นสายเลือดในตำนานของผืนพสุธา

ยิ่งไปกว่านั้น สายเลือดของจ้าวเฟิงมาจากเผ่าพันธุ์เกล็ดมังกรเหมันต์ในลำดับที่แปดสิบเก้า

สายเลือดประเภทนี้ชำนาญการใช้พลังเหมันต์ป้องกัน ซึ่งต้านทาน ‘หยาดน้ำค้างปรลัย’ ของจักรพรรดิแห่งความตายได้พอดี เคล็ดวิชามรณะที่เป็นประเภทเหมันต์อื่นๆ ก็จะโดนลดทอนพลังไปมากไม่ต่างกัน

“เจ้าตำหนัก เจ้าอยู่ปกป้องประตูสำนักเพื่อดูแลชีวิตของคนในตำหนักพิณ ข้าจะดึงจักรพรรดิแห่งความตายไปเอง”

เสียงของจ้าวเฟิงดังขึ้นในหัวของเจ้าตำหนักพิณ

ในใจเขามีความละอายแก่ใจอยู่หลายส่วน ด้วยเพราะจักรพรรดิแห่งความตายตามเขามา พูดได้ว่าเขาเป็นผู้นำพาหายนะมาสู่ตำหนักพิณ และทำให้สามีของเจ้าตำหนักพิณตายทางอ้อม

เมื่อเอ่ยจบ พลังที่ยิ่งใหญ่มหาศาลที่แทบจะเทียบเท่ากับจักรพรรดิปราณเทวะก็ปกคลุมทั้งร่างเจ้าตำหนักพิณ ก่อนจะส่งนางเข้าไปด้านในค่ายกลป้องกันสำนักด้านล่าง

“เจ้าเองก็ต้องระวังตัวด้วย…” เจ้าตำหนักพิณหญิงรู้ดีว่าพลังเพียงเท่านี้ของตนมีแต่จะทำให้จ้าวเฟิงลำบาก

“ดูแล้วคงยากจะขัดขวางไม่ให้จ้าวเฟิงบำเพ็ญได้พลังจักรพรรดิ…”

จักรพรรดิแห่งความตายเอ่ยพึมพำ ไม่ได้ลงมือโดยทันที

เป้าหมายหลักของเขาคือจ้าวเฟิง ส่วนเจ้าตำหนักพิณในสายตาจักรพรรดิแห่งความตายเป็นเพียงแค่มดปลวกขนาดใหญ่หน่อยตัวหนึ่งเท่านั้น

“เพลิงเนตรล้างผลาญ!”

ชั่วพริบตานั้น

ในขณะที่จ้าวเฟิงหยัดกายตรง ในดวงตาข้างซ้ายก็ทะลักเพลิงแห่งพลังดวงตา เปล่งแสงสีทองบริสุทธิ์ออกมา

โครม!

เพลิงอัสนีสีชาดกึ่งโปร่งแสงลูกหนึ่งระเบิดลงบนร่างของจักรพรรดิแห่งความตาย เสียงดังกึกก้องกัมปนาท ทะลวงผ่านทั้งโลกรูปธรรมและโลกจิตวิญญาณ

แม้แต่จักรพรรดิแห่งความตายยังตื่นตกใจและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทำให้กระวนกระวาย

เมื่อมองโดยละเอียดแล้ว บนพื้นผิวเพลิงเนตรล้างผลาญจะเปล่งแสงสีทองอ่อนออกมา กระทั่งสามารถเรียกมันว่า ‘เพลิงเนตรสีทองบริสุทธิ์’ อันอยู่ในขั้นที่สูงส่งกว่าได้

เพลิงเนตรดังกล่าวแฝงไปด้วยแก่นสำคัญของเพลิงพิฆาตสีชาด เหมือนกับวายุอัสนีสีทองที่หลอมรวมพลังอัสนีเทวะเข้าไป

ในตอนนี้ พลังอัสนีเทวะที่แฝงอยู่ในดวงวิญญาณของจ้าวเฟิงมากกว่ายามอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดหลายสิบเท่า อานุภาพไม่สามารถจะเปรียบกับตอนนี้ได้เลย

ด้วยส่วนแฝงในดวงวิญญาณระดับขั้นจักรพรรดิของจ้าวเฟิงกระตุ้นเพลิงเนตรที่เข้าใกล้ ‘ขั้นสีทอง’ ประเภทนี้ พลังของมันจึงมากพอจะทำให้จักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะทั่วไปหน้าเปลี่ยนสี

โครม เปรี้ยง เปรี้ยง

ร่างของจักรพรรดิแห่งความตายสั่นสะท้านน้อยๆ ใจและกายเหมือนประสบกับระเบิดของเพลิงอัสนีนับหมื่น โดยเฉพาะเสวียนอ้าวทำลายล้างและอัสนีเทวะที่แฝงอยู่ภายใน มันรุนแรงจนทำร้าย ‘ร่างศพอมตะ’ ของเขาให้บาดเจ็บได้

ขนาดดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของเขามีเนตรมรณะแฝงอยู่ยังได้รับผลกระทบไปเล็กน้อย

ถ้าหากเปลี่ยนเป็นจักรพรรดิทั่วไปผู้หนึ่งเกรงว่าจะเสียเปรียบไปมาก

“ในวายุอัสนีพิฆาตสีชาด นอกจากกลิ่นอายทำลายล้างแล้วกลับกลายเป็นว่ายังมีพลังอัสนีเทวะอีก มิน่า…”

จักรพรรดิแห่งความตายเคร่งเครียด

เพลิงเนตรล้างผลาญสีชาด ไม่เสียทีที่เป็นวิชาสายเลือดดวงตาที่มีพลานุภาพและแรงทำลายล้างแข็งแกร่งที่สุดของจ้าวเฟิง เมื่อหลอมรวมกับพลังอัสนีเทวะแล้วยิ่งเหมือนเสือที่ติดปีก

“ไปด้วยกัน!”

แสงปีกสีชาดบนหลังจ้าวเฟิงส่งระเบิดวายุอัสนีสีชาดที่เหมือนกำลังเผาผลาญพร้อมกับแสงสีทองอ่อนๆ ตรงดิ่งไปหาจักรพรรดิแห่งความตาย

เมื่อเอ่ยจบ เด็กน้อยครึ่งเซียนที่อยู่ด้านล่างก็เป็นดุจลูกระเบิดทอง แก่นแท้พลังกายศักดิ์สิทธิ์เป็นดั่งเนื้อแท้ ก่อนจะก่อตัวขึ้นเป็นลำแสงหมัดสีทองวิจิตรตระการตาราวภูเขาขนาดยักษ์ ซึ่งแฝงไปด้วยสำนึกรู้เป็นเอกลักษณ์เหนือใคร

“ระเบิดหมัดพิฆาต!” การโจมตีของจ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนมาถึงพร้อมกัน

ในกลุ่มนี้มีจ้าวเฟิงเป็นแรงโจมตีหลัก

‘ระเบิดหมัดพิฆาต’ นั้นสำแดงเพลิงทำลายล้างอันบ้าคลั่งซึ่งมีเฉพาะในวายุอัสนีพิฆาตสีชาดออกมาอย่างสูงสุด

ไม่เพียงเท่านี้ หมัดธรรมดาของเขาคราวนี้หลอมรวมเขตแดนมิติทั้งสามเข้าด้วยกัน

เขตแดนเมืองมายา เขตแดนฉวนปิง เขตแดนวายุอัสนี พลังของเขตแดนมิติทั้งสามรวมไว้ในหมัดเดียว

อีกทั้งเด็กน้อยครึ่งเซียนใช้แก่นแท้กายศักดิ์สิทธิ์และวิชาหมัดกดดันกายเนื้อกับสำนึกรู้ของจักรพรรดิแห่งความตาย แล้วจึงกลายเป็นปราการที่แข็งแกร่ง

ในความเป็นจริงแล้ว การดำรงอยู่ของเขาล้วนแต่จำกัดการปลดปล่อยพลังของจักรพรรดิแห่งความตาย จึงทำให้ฝ่ายหลังโจมตีจ้าวเฟิงซึ่งๆ หน้าได้อย่างยากเย็น

“เขตแดนมิติทั้งสาม? อะไรกัน….กายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทอง! เด็กน้อยผู้นั้นกับครึ่งเซียนคุนอวิ๋นมีความสัมพันธ์อะไรกัน”

จักรพรรดิแห่งความตายประหลาดใจอย่างยิ่ง

“พลั่ก ตู้ม——”

ชั่วขณะเดียว การโจมตีร่วมกันของจ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนก็ปะทะไปที่ร่างของจักรพรรดิแห่งความตาย

ร่างจักรพรรดิแห่งความตายหนักอึ้ง แต่กลับไม่ได้สับสนวุ่นวายแต่อย่างใด ต่อให้พลังที่ร่วมมือกันโจมตีของจ้าวเฟิงมากพอจะคุกคามจักรพรรดิปราณเทวะจำนวนมากมายได้ก็ตาม

“พลังมรณะ!”

อากาศที่อยู่รอบกายจักรพรรดิแห่งความตายกลายเป็นสนามพลังมืดมิดน่าสะพรึงกลัว

ภายในสนามพลังสีดำมืดนั้น พลังมรณะราวกับน้ำหมึกสีดำบิดเบี้ยวหมุนคว้าง ชีวิตในอาณาเขตดังกล่าวล้วนโดนสังหาร ไอสวรรค์ในฟ้าดินก็ถูกแทนที่ทั้งหมด

ปัง โครม!

พลังมรณะดูดซับกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของคนทั้งสองไว้เกือบหมด ทั้งยังบิดตัวจนเกิดเป็นแรงสะท้อนกลับที่น่ากลัว

“รีบถอยเร็ว!”

คนทั้งสองล้วนรู้สึกได้ถึงอันตราย กลุ่มพลังมรณะนั้นกลับสามารถดูดซึมการโจมตีจากภายนอก แล้วยังเปลี่ยนเป็นการโต้กลับได้

จ้าวเฟิงหน้าเปลี่ยนสี หัวใจเต้นระรัว เจตจำนงตั้งมั่นถูกกระตุ้นไปจนถึงขีดสุด ปีกวายุอัสนีพิฆาตสีชาดโบกสะบัดอย่างรวดเร็ว

พรึ่บ!

พลานุภาพที่สะเทือนฟ้าดินผลักดันให้จ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนถอยร่นหลบหลีกแรงสะท้อนกลับของพลังมรณะด้วยความเร็วที่มากกว่า

ตุบ ตุบ! ตุบ ตุบ!

จ้าวเฟิงใจเต้นเร็วมาก ในวินาทีเมื่อครู่อันตรายอย่างยิ่งยวดจริงๆ

“หืม?” เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องในทันใด เจตจำนงตั้งมั่นของตนเองให้ความรู้สึกที่แปลกไป ทั้งกระจ่างแจ้งและสมบูรณ์ดังใจปรารถนา

ในขณะที่ครุ่นคิด เสวียนอ้าวในฟ้าดินจำนวนมากในทุกมุมของอากาศก็หมุนวนรอบตัวเขา

โครม~~

พลังจักรพรรดิที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่สาดซัดไปทั่วฟากฟ้า จ้าวเฟิงกลายเป็นใจกลางของผืนฟ้ากว้างใหญ่ตระการตาที่มีสายฟ้าเสียงดังครึกโครม และเมฆหลากสีลอยวนเวียน

“พลังของจักรพรรดิ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version