Skip to content

กี่ชาติกี่ภพข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้ามีความสุข 2

Cover Kj

Chapter 2 (18+)แผนถอนหมั้น 2

สาวใช้ที่ดีต้องรักษาเกียรติของเจ้านาย ไม่ยอมปล่อยให้เจ้านายอยู่ตามลำพังกับคู่หมั้น แม้ว่าจะมีน้องสาวของเจ้านายอยู่ด้วยก็ตาม เพราะว่าหากเกิดเรื่องไม่งามขึ้นมา สองปากย่อมดีกว่าปากเดียวแน่นอน! แล้วอีกอย่าง นั่นก็คือแม่นางหว่านคู่หมั้นของเขากลับขอตัวออกไป ทิ้งน้องสาวของนางเอาไว้กับเขาตามลำพังเนี่ยนะ! หากว่านางคิดหวงเขาในฐานะที่เป็นคู่หมั้นก็ไม่ควรปล่อยเขาไว้กับน้องสาวของนางตามลำพังซิ!

เท่าที่เขาคิดเหตุผลของเรื่องนี้แล้ว ดูแล้วข้อสองนี้เป็นไปได้มากสุด สถานการณ์ในตอนนี้กำลังถูกจัดฉากขึ้นมา เขาจะยอมลุยน้ำโคลนหรือไม่?

เขาเห็นแม่นางหว่านคนน้องใช้มือกระพือลมให้ตนเอง ใบหน้านางแดงระเรื่อนิดๆ ดูก็รู้ว่านางถูกพิษยาปลุกกำหนัดเข้าให้แล้ว!

“เอ่อ…นายท่านหนานเจ้าคะ ข้าขอตัวกลับก่อนเจ้าค่ะ” หว่านหรงเอ่ยขึ้นมา นางรู้สึกร้อนจนอยากจะถอดอาภรณ์ออกซะเดี๋ยวนี้เลยทีเดียว มันร้อนจนนางแทบจะทนไม่ไหวแล้ว!

นางบอกแล้วรีบลุกขึ้นทันที ก้าวเดินไปที่ประตู หนานกงเยี่ยนรีบลุกไปคว้าข้อมือนางเอาไว้ “เดี๋ยวก่อนแม่นางหว่าน”

“อ่ะ!” หว่านหรงสะดุ้ง มองมือหนานกงเยี่ยนที่ถือวิสาสะจับข้อมือนางเอาไว้ หนานกงเยี่ยนใช้อีกมือคว้าเอวหว่านหรงดึงเข้าหาตัวทันที หว่านหรงสะดุ้งอีกครั้ง “อ่ะ!”

ท่าทีตกใจของนางไม่ได้เสแสร้ง หนานกงเยี่ยนดูออก เช่นนั้นสิ่งที่เขาคิดก็คือ ข้อสอง แน่นอน! หว่านหรูอี้ไม่อยากหมั้นกับเขา จึงได้วางแผนผลักน้องสาวเข้ามาแทนที่ เขาเองก็ไม่ขัดข้องอะไร จะคนพี่หรือคนน้องเขาก็ไม่เกี่ยง ขอแค่แต่งเข้ามาเป็นฮูหยินของเขาอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวก็พอ อีกทั้งดูๆ ไปแล้วหน้าตาของคนน้องก็งามกว่าคนพี่หลายเท่า เช่นนั้นเขาจึงคิดจะตามน้ำไป ปล่อยให้แผนการของหว่านหรูอี้สำเร็จอย่างที่นางหวังก็แล้วกัน หึๆๆๆ…

เขาดึงหว่านหรงเข้ามากอด จับท้ายทอยนางตรึงเอาไว้ ให้นางเงยหน้าขึ้น เขาก้มลงไปบดจูบริมฝีปากสีแดงระเรื่อเย้ายวนราวดอกไม้แรกแย้ม หว่านหรงตกใจเบิกตาโต “อื้อ!”

นางส่งเสียงร้องแต่ว่าเสียงของนางก็หลุดออกมาเล็กน้อยเท่านั้น นางยันอกหนานกงเยี่ยนขัดขืน แต่ว่าความร้อนรุ่มในตัวนางคล้ายกับจะทุเลาลงเมื่อถูกจูบเช่นนี้ นางจึงเผลอไผลปล่อยให้เขาจูบตักตวงความหอมหวาน หนานกงเยี่ยนเลื่อนมือจากท้ายทอยลงไปลูบไล้แผ่นหลังเล็กบอบบางที่ตัวสั่นๆ ราวลูกนกต้องลมหนาว หว่านหรงรู้สึกถึงฝ่ามือที่ลูบหลังผ่านอาภรณ์ 3 ชั้น สัมผัสนั้นคล้ายเลือนๆ รางๆ แต่ว่ามันกลับช่วยคลายความรู้สึกร้อนรุ่มในตัวนางลงไปได้บ้าง นางจึงไม่ดิ้นขัดขืน

หนานกงเยี่ยนอุ้มนางขึ้นมาเหมือนอุ้มเด็ก ก้นนางวางอยู่บนท่อนแขนของเขา เขาก้าวไปที่เตียงในห้อง ซึ่งเตียงนี้มีไว้ให้ลูกค้าใช้พักผ่อนนอนหลับ หากว่าลูกค้าดื่มจนเมากลับไม่ไหวก็นอนที่นี่เลยก็ได้ เขาวางนางลงบนเตียงทั้งๆ ที่ริมฝีปากยังจูบกันอยู่ เขาดันนางนอนลงบนเตียง มือแหวกสาบเสื้อล้วงเข้าไปเค้นคลึงเต้าอวบเต่งตึงขนาดกำลังพอดีมือ

เดาว่าหากนางเติบโตมากกว่านี้สองเต้านี้คงอวบใหญ่มากกว่านี้แน่นอน นางช่างเป็นดอกไม้แรกแย้มที่คู่ควรให้เขารังแกจริงๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องสะกดกลั้นอารมณ์ใดๆ เอาไว้ ลงมือรังแกนางอย่างเต็มอกเต็มใจ หว่านหรงรู้สึกเสียวสยิวจนบิดตัวไปมา มือข้างนั้นกำลังเค้นคลึงดอกบัวตูมของนาง ทำให้นางรู้สึกเสียวสยิวเป็นครั้งแรกในชีวิต นางบิดตัวไปมา คล้ายกับจะหลบหนีจากมือข้างนั้น และคล้ายกับจะแอ่นสู้มือข้างนั้นเช่นกัน หนานกงเยี่ยนถอนปากออก เลื่อนริมฝีปากเล็มไปตามแนวคางเรียว หว่านหรงเผลอคราง “อื้อ…”

หนานกงเยี่ยนดูดที่ลำคอนางจนเป็นรอยแดงรอยหนึ่ง เขาต้องการประทับตราเอาไว้บนตัวนาง คล้ายกับจะตีตราความเป็นเจ้าของอย่างไรอย่างนั้น หว่านหรงเสียวสยิวจนขนลุกชัน นางบิดอกไปมา หนานกงเยี่ยนแหวกสาบเสื้อจนบัวตูมออกมารับลมข้างหนึ่ง

ยอดบัวเป็นป้านสีชมพูสวยงาม มีรอยแดงระเรื่อจากการถูกบีบคลึงเล็กน้อย เขาก้มลงดูดยอดบัวดอกนั้น หว่านหรงเผลอคราง “อื้อ…อย่า…”

หนานกงเยี่ยนดูดดุนยอดบัวงามอย่างเอร็ดอร่อย หว่านหรงเสียวสยิวจนเผลอคราง “อื้อ…”

นางจับศีรษะเขาอยากจะผลักออก แต่ความรู้สึกเสียวสยิวประหลาดนั้นทำให้นางไม่อาจผลักเขาออกไปได้ ตัวนางกลับบิดแอ่นไปแอ่นมาคล้ายกับจะป้อนยอดอกเข้าปากเขาให้มากขึ้น

หว่านหรูอี้แอบมองอยู่ที่ประตู นางเห็นหนานกงเยี่ยนกำลังลวนลามน้องสาวต่างมารดาก็รู้สึกสมใจยิ่งนัก รอแค่ให้ท่านพ่อมาเห็นภาพนี้ นางก็ไม่ต้องแต่งเข้าตระกูลหนานกงแล้ว! ฮี่ๆๆๆ…

ขณะที่มองดูอยู่นั้น นางรู้สึกหายใจแรงขึ้น คล้ายกับอยากจะถูกกระทำเช่นนั้นบ้าง ดอกไม้กลางตัวชื้นฉ่ำขึ้นมา นางไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสา นางเคยแอบดูท่านพ่อทำเรื่องในม่านมุ้งกับท่านแม่ ภาพที่ท่านพ่อเคลื่อนไหวอยู่บนตัวท่านแม่ทำให้สาวน้อยอย่างนางรู้สึกอยากรู้อยากเห็น นางจึงลูบคลำร่างกายตัวเองไปมา แต่ว่านางลูบเองก็ไม่รู้สึกอะไรสักเท่าไหร่ นางจึงให้ถางซือลองลูบคลำตัวนางเหมือนอย่างที่ท่านพ่อทำกับท่านแม่ นั่นทำให้นางรู้สึกถึงความรู้สึกเสียวเป็นครั้งแรกในชีวิต หลังจากนั้นถางซือจึงมีหน้าที่ช่วยคลายกำหนัดให้นางจนกว่านางจะพอใจ

นางแอบดู อยากจะเอามือล้วงไปใต้กระโปรงยิ่งนัก แต่ว่านางก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ จึงทำให้นางรู้สึกหน่วงๆ คันยุบยิบๆ ตรงดอกไม้กลางตัวเหลือเกิน!

นางมองไปที่ชั้นล่าง รออย่างร้อนใจว่าเมื่อไหร่ท่านพ่อจะมาสักที นางจะได้จบๆ เรื่องนี้แล้วรีบกลับจวนไปให้ถางซือช่วยคลายกำหนัดให้

ภายในห้องหนานกงเยี่ยนก็กำลังรังแกหว่านหรงอย่างไม่รู้สึกผิดสักนิด เขาดูดดุนยอดบัวอย่างเอร็ดอร่อย รอคอยให้ ‘ใคร’ เข้ามาเห็นภาพฉากนี้อย่างใจเย็น เขารู้สึกว่ามีคนยืนแอบมองอยู่หน้าประตู คนๆ นั้นต้องเป็นหว่านหรูอี้แน่นอน ในเมื่อนางวางแผนนี้เอาไว้ นางไม่อยากเป็นคู่หมั้นของเขา เช่นนั้นเขาก็ตามน้ำไปกับนางก็แล้วกัน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สูญเสียอะไร ซ้ำยังจะได้ฮูหยินที่งามกว่าหว่านหรูอี้เสียอีก เขาจึงยอมตกกระไดพลอยโจนไปกับแผนการในครั้งนี้ของหว่านหรูอี้เสียเลย หึๆๆๆ…

หว่านหรงรู้สึกผิดอยู่ในใจ นางพยายามผลักหนานกงเยี่ยนออกไป แต่ว่ามือนางไม่มีแรงเอาซะเลย อีกทั้งความร้อนรุ่มในกายก็ดูเหมือนจะปะทุขึ้นเรื่อยๆ นางบิดตัวไปบิดตัวมาอย่างทรมาน กัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางจนริมฝีปากล่างขาวไปหมด หนานกงเยี่ยนเหลือบมองเห็นท่าทางนางเช่นนั้น เขาจึงเลื่อนมือล้วงเข้าไปในกระโปรงผ้าหยาบๆ ของนาง หว่านหรงสะดุ้งเฮือก “อ่ะ!”

นางได้สติขึ้นมา ร้องห้ามเสียงเบา “อย่า…”

หนานกงเยี่ยนเลื่อนตัวไปกระซิบข้างหูนางว่า “เจ้าถูกวางยาปลุกกำหนัด เจ้าต้องคลายกำหนัด หาไม่แล้วเจ้าจะทรมานไปเรื่อยๆ จนตาย”

“ถูกวางยา!” หว่านหรงตกใจ นางหันไปมองเขา “เจ้าวางยาข้ารึ!?”

“ไม่ใช่ข้า ข้าก็ถูกวางยาเช่นกัน คนที่วางยาเจ้ากับข้าน่าจะเป็นพี่สาวเจ้ากระมัง เจ้าก็ยอมตามน้ำไปกับข้าเถอะ แล้วข้าจะแต่งเจ้าเข้าตระกูลมาเป็นฮูหยินของข้า” หนานกงเยี่ยนบอก หว่านหรงตกตะลึงไป นางคิดไม่ถึงว่าพี่สาวต่างมารดาจะทำเช่นนี้กับนางได้ลงคอ! นางเคยไปทำอะไรให้หว่านหรูอี้โกรธเคืองงั้นรึ!? อีกฝ่ายถึงได้ทำกับนางเช่นนี้!

ในระหว่างที่หว่านหรงตกตะลึงอยู่นั้น หนานกงเยี่ยนก็บีบคลึงกลีบดอกไม้นุ่มนิ่มแล้ว หว่านหรงสะดุ้ง “อย่า!”

นางมองหนานกงเยี่ยนอย่างขอร้อง “อย่า ได้โปรด อย่าทำกับข้าเช่นนี้…”

“แม่นาง ข้ารับปากเจ้าแล้วว่าจะแต่งเจ้าเข้าตระกูล คำพูดข้าศักดิ์สิทธิ์เหมือนวาจาของฮ่องเต้ ข้าไม่เคยผิดคำพูดตัวเอง เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่เอาเปรียบเจ้าฝ่ายเดียวหรอก แต่งเข้าตระกูลข้า เจ้าจะกลายเป็นนายหญิงที่มั่งมีจนใครๆ อิจฉาเชียวล่ะ” หนานกงเยี่ยนกล่อมลูกกวางน้อยใต้ร่างตัวเอง มือก็บีบๆ คลึงๆ กลีบดอกไม้นุ่มนิ่มไปด้วย หว่านหรงอยากจะขัดขืน อยากจะผลักไสเขาออกไป แต่ว่านางไม่มีแรงเอาซะเลย ซ้ำความรู้สึกบางอย่างมันก็รบกวนจนนางไม่ค่อยมีสติ ร่างกายมันร้อน มันรู้สึกคันยุบยิบไปหมดทั้งตัว มือเขาคล้ายกับยาที่ช่วยบรรเทาอาการร้อนๆ คันๆ อย่างไรอย่างนั้น ทำนางปฏิเสธเขาไม่ออกขึ้นมา อีกทั้งฤทธิ์ยาทำให้นางเริ่มไร้สติอีกครั้ง “อือ…”

หนานกงเยี่ยนบีบคลึงกลีบดอกไม้นุ่มนิ่มไปเรื่อยๆ นิ้วแทรกเข้าไปในรอยแยก บดบี้เกสรที่แข็งชูชัน ทำให้หว่านหรงครางออกมา “อา…”

หนานกงเยี่ยนจึงประกบปากกับริมฝีปากจิ้มลิ้มหวานล้ำอีกครั้ง ปิดปากของนางเอาไว้ ไม่ให้นางส่งเสียงครางจนเป็นที่อับอายขายหน้า เขาค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปในรูคับแคบ หว่านหรงสะดุ้ง “อื้อ!”

นางอยากผลักเขาออกไป อีกใจก็ไม่อยาก ความรู้สึกสองด้านต้านทานกันอยู่ในใจนาง แต่ว่านิ้วเขาเหมือนยาที่ช่วยบรรเทาอาการคัน ขณะที่นิ้วเขาค่อยๆ แทรกเข้าไปนั้นนางรู้สึกดีขึ้นนิดหนึ่ง เกิดความเสียวที่บรรยายไม่ถูกขึ้นมาแทนที่อาการคันๆ ร้อนๆ

หว่านหรูอี้มองไม่เห็นว่าหนานกงเยี่ยนกำลังทำอะไรกับหว่านหรงเพราะตัวหนานกงเยี่ยนบังร่างหว่านหรงเอาไว้ นางเห็นแต่สีหน้าของหว่านหรงที่คล้ายกับกำลังพึงพอใจ ทำให้นางจินตนาการอยู่ในหัวถึงท่วงท่าแบบนั้น มันทำให้ตรงกลางกายของนางรู้สึกคันยุบยิบเหมือนถูกยาปลุกกำหนัดเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

“คุณหนูเจ้าคะ” ถางซือกระซิบข้างหู ทำให้หว่านหรูอี้สะดุ้งโหยง! ร้องออกมา “อ๊า…”

แต่ดีว่าถางซือปิดปากคุณหนูของนางได้ทันทำให้เสียงร้องดังอึกๆ ถางซือรีบกระซิบบอก “คุณหนูเจ้าคะ ข้าเองเจ้าค่ะ”

หว่านหรูอี้เหลือบมองสาวใช้คนสนิท ถางซือรีบกระซิบบอก “นายท่านมาแล้วเจ้าค่ะ”

หว่านหรูอี้พยักหน้า ถางซือเอามือออก หว่านหรูอี้รีบทำท่าอึกๆ อักๆ อยู่หน้าประตูทันที ขณะเดียวกันหว่านกัวฉายก็กำลังเดินขึ้นบันไดไป เขาเห็นลูกสาวคนโตกำลังยืนอยู่หน้าห้องๆ หนึ่ง สีหน้าไม่สู้ดีเอาเสียเลย เขาจึงเดินไปหาหว่านหรูอี้พลางถาม “มีเรื่องอะไรรึ?”

“ท่านพ่อ!” หว่านหรูอี้แสร้งทำท่าตกใจ นางยิ่งทำท่าทางอึกๆ อักๆ คล้ายกับกำลังซ่อนความผิดเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น หว่านกัวฉายรู้สึกว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ ถางซือไปเชิญเขามาที่โรงเตี้ยมนี้บอกว่าหว่านหรงเกิดเรื่อง เขาก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร รู้แต่ว่าถางซือท่าทางร้อนรนกระวนกระวายพิกล เหมือนว่าจะเป็นเรื่องไม่ดีไม่งาม นังเด็กนั่นก็ไม่ยอมบอกเขาให้ชัดแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เอาแต่อึกๆ อักๆ ไม่กล้าพูด บอกแต่ว่า ‘นายท่านรีบไปเถิดเจ้าค่ะ’ เขาถึงได้รีบมาอย่างที่เห็น

ภายในห้อง หนานกงเยี่ยนได้ยินเสียงหน้าห้อง เขาจึงเร่งมือคลายกำหนัดให้หว่านหรง นิ้วแทงเข้าแทงออกในรูคับแคบอ่อนนุ่มที่ชุ่มไปด้วยน้ำจนได้ยินเสียงดังแจ๊ะๆ เบาๆ จนกระทั่งหว่านหรงตัวเกร็งกระตุก ส่งเสียงหลุดรอดออกมา “อ้าาาาา…”

หว่านกัวฉายได้ยินเสียงครางก็หูผึ่งทันที เสียงเช่นนั้นไม่ต้องให้ใครบอกเขาก็รู้ดีว่าเกิดจากอะไร หว่านหรูอี้อยู่หน้าห้อง เช่นนั้นคนที่อยู่ในห้องคงเป็นหว่านหรง!

เขาผลักบานประตูเข้าไปทันที เห็นเงาคนอยู่ที่เตียง เขามองคนๆ นั้น “นั่นใคร!?”

หว่านหรูอี้รีบก้าวตามหลังท่านพ่อไป นางเข้าไปในห้องแล้วแกล้งทำท่าตกใจ “อ๊า!”

หนานกงเยี่ยนดึงมือออกมาจากใต้กระโปรงของหว่านหรง เขาหันไปมองว่าที่พ่อตาด้วยสายตานิ่งเรียบ หว่านกัวฉายเห็นใบหน้าของคนๆ นั้น แล้วยังเห็นลูกสาวคนรองนอนอยู่บนเตียงกับชายคนนั้น ทำเขาตกตะลึงไป “เจ้า!”

หนานกงเยี่ยนดึงผ้าห่มมาปิดร่างหว่านหรงเอาไว้ แล้วลุกจากเตียงไปเผชิญหน้ากับว่าที่พ่อตาอย่างใจเย็นมาก เขากุมมือคารวะทีหนึ่งตามมารยาท “ท่านหว่านกัวฉาย”

“จะ…เจ้า…เจ้าทำอะไรลูกข้า!?” หว่านกัวฉายถามปากสั่นๆ นิ้วชี้ไปอย่างสั่นเทาไม่รู้ว่าสั่นเพราะตกใจหรือว่าโกรธกันแน่ หรือว่าอาจจะทั้งสองอย่างเลยกระมัง

“นายท่านหนานกง นี่ท่าน!” หว่านหรูอี้แกล้งทำท่าตกใจ แล้วนางรีบยกมือปิดปากเอาไว้ ทำเหมือนว่ากำลังเจอเรื่องไม่คาดฝันสุดชีวิตอย่างไรอย่างนั้น หนานกงเยี่ยนมองท่าทีของหว่านหรูอี้ที่แกล้งเล่นงิ้วฉากหนึ่งต่อหน้าต่อตาเขาอย่างสมบทบาทยิ่ง

ขณะที่ทุกคนกำลังอยู่ในอิริยาบถต่างๆ กันนั้น หว่านหรงที่เพิ่งจะสุขสมเป็นครั้งแรกในชีวิตก็สิ้นสติไปเพราะฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด นางหลับไปอย่างไม่รับรู้เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งการที่นางหลับไปแล้วนั้นหนานกงเยี่ยนเห็นว่าดีแล้ว เขาเหลือบมองนางแวบหนึ่งแล้วมองหว่านกัวฉาย เอ่ยปากว่า “ก็อย่างที่ท่านเห็น ข้ากับแม่นางหว่านหรง ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว ไม้กลายเป็นเรือแล้ว ดังนั้นเรื่องหมั้นหมายกับแม่นางหว่านหรูอี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เรื่องของหมั้นท่านไม่ต้องห่วงว่าข้าจะทวงคืน ถือเสียว่าเป็นค่าปลอบใจแม่นางหว่านหรูอี้เถอะ ส่วนแม่นางหว่านหรง ข้าจะรีบจัดพิธีแต่งงานกับนางให้เร็วที่สุด”

หว่านกัวฉายฟังแล้วอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก หนานกงเยี่ยนแม้ว่าจะอายุอ่อนกว่าเขาเป็นเด็กคราวลูก แต่ว่าตระกูลหนานกงก็ไม่ใช่ตระกูลเล็กๆ ไร้อำนาจที่เขาจะต่อกรด้วยได้เลย อีกทั้งเรื่องหมั้นหมายก็ยังไม่ทันประกาศออกไป ผู้คนรู้กันแต่ว่าตระกูลหนานกงส่งของหมั้นมาขอหมั้นบุตรสาวตระกูลหว่านเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะคนพี่หรือคนน้องก็ยังไม่ถือว่าหว่านหรูอี้เสียชื่อเสียง อีกทั้งข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว หากว่าไม่แต่งหว่านหรงออกไป เกรงว่าท้องขึ้นมาจะยิ่งงามหน้ามากกว่านี้เสียอีก

ขณะที่หว่านกัวฉายกำลังคิดอยู่นั้น หนานกงเยี่ยนก็หันไปอุ้มหว่านหรงขึ้นมา นางถือว่าเป็นคนของเขาแล้ว เช่นนั้นเขาก็จะพานางกลับบ้านล่ะ อีกอย่างถ้าปล่อยให้นางกลับไปกับหว่านกัวฉายก็ไม่รู้ว่าหว่านกัวฉายจะโมโหโกรธเคืองจนลงไม้ลงมือกับว่าที่ฮูหยินของเขาหรือไม่ เช่นนั้นเขาพานางกลับบ้านเขาไปด้วยกันดีกว่า นางอยู่บ้านของเขาย่อมปลอดภัยแน่นอน!

เขาอุ้มนางขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง ดีดเท้าทะยานตัวออกไปทางหน้าต่าง กระโจนไปบนหลังคาร้านค้าติดๆ กันราวกับนกโผบิน ภาพนั้นทำให้หว่านกัวฉายตกตะลึงจนปากอ้าค้างคางแทบจะติดพื้นแล้ว! ตาเขากะพริบปริบๆ มองดูว่าที่ลูกเขยอุ้มลูกสาวคนรองของเขาไปอย่างหน้าตาเฉยเช่นนั้น

หว่านหรูอี้ก็ตกใจเช่นกัน นางตกตะลึงจนพูดไม่ออก คิดไม่ถึงว่าการหมั้นหมายของนางกับหนานกงเยี่ยนจะถูกยกเลิกไปง่ายๆ เช่นนี้น่ะรึ!

ทำนางรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นคนไร้ค่าที่คู่หมั้นไม่ต้องการอย่างไรอย่างนั้น! นี่มัน!…นี่มันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร!? ควรเป็นนางซิที่ต้องพูดจาตัดสัมพันธ์กับหนานกงเยี่ยน!

“เอ่อ…” ถางซือกะพริบตาปริบๆ มองดูหนานกงเยี่ยนที่ห่างไปไกลลิบจนมองแทบไม่เห็นแล้ว นางหันไปสะกิดๆ คุณหนูของนาง “คะ…คุณหนู…”

หว่านหรูอี้หันไปมองสาวใช้ หว่านกัวฉายหันไปมองลูกสาวคนโตกับสาวใช้ เขากระแอมไอสองที “แค่กๆ”

แล้วถลึงตาจ้องถางซือ เอ่ยน้ำเสียงดุๆ ว่า “เรื่องในวันนี้เจ้าจงปิดปากให้เงียบเชียว หากเจ้ากล้าพูดออกไปแม้แต่ครึ่งคำ ข้าจะตัดลิ้นเจ้าแล้วขายให้หอคณิกาไปซะ!”

ถางซือถูกจ้องจนรู้สึกกลัว นางรีบพยักหน้าหงึกๆ เหมือนไก่จิกข้าว หว่านกัวฉายคว้ามือหว่านหรูอี้เดินออกไปด้วยกัน หว่านหรูอี้เดินตามท่านพ่อไปอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว การหมั้นหมายของนางกับหนานกงเยี่ยนจบลงง่ายๆ อย่างนี้เลยเรอะ!?

หว่านกัวฉายพาลูกสาวคนโตกลับจวนไป เขานั่งเงียบอยู่ในรถม้าไปตลอดทาง หว่านหรูอี้ก็นั่งเงียบไปตลอดทางเช่นกัน ถางซือซึ่งนั่งอยู่กับสารถีก็นั่งเงียบไปเหมือนกัน นางไม่กล้าพูดเรื่องราวออกไปเพราะกลัวว่าจะหลุดปากพูดเรื่องแผนการของคุณหนูของนางออกไป หากว่านางหลุดปากออกไปล่ะก็…นางได้ถูกคุณหนูหาเรื่องให้มีความผิดแล้วคงถูกตัดลิ้นขายออกไปแน่นอน

จนกระทั่งใกล้จะถึงจวน หว่านกัวฉายก็เอ่ยปากว่า “เรื่องในวันนี้เจ้าไม่ต้องเสียใจไป เจ้าถูกแย่งคู่หมั้นไปแล้วก็คิดเสียว่าไร้วาสนากับหนานกงเยี่ยนคนนั้นเถอะนะ”

หว่านหรูอี้อยากจะพูดยิ่งนักว่า ‘ข้าเสียใจที่ไหนกัน ข้าดีใจเสียด้วยซ้ำที่ไม่ต้องแต่งกับหนานกงเยี่ยน! ฮ่าๆๆๆ…’

แต่นางก็พูดออกไปไม่ได้ นางจึงได้แต่นิ่งเงียบ แกล้งทำหน้าตาเศร้าๆ หว่านกังฉายลูบๆ หัวลูกคนโตปลอบใจสองสามทีแล้วหดมือกลับไป

จนกระทั่งรถม้าหยุดลง สารถีร้องบอก “ถึงเรือนแล้วขอรับ”

หว่านกัวฉายจึงลงจากรถม้า เขาเดินเข้าเรือนไป หว่านหรูอี้ก็ลงจากรถม้า นางรีบเดินกลับเรือนของนางไป ถางซือรีบตามเจ้านายไป

เมื่อไปถึงเรือน หว่านหรูอี้ก็สั่ง “เตรียมน้ำร้อน ข้าจะอาบน้ำ”

“เจ้าค่ะ” ถางซือรับคำแล้วรีบสั่งสาวใช้คนอื่นอีกทอดหนึ่ง หว่านหรูอี้เดินไปนั่งรอน้ำร้อนในเรือน ถางซือตามไปรินชาให้คุณหนูของนาง “น้ำชาเจ้าค่ะ”

“เจ้าทำดีมาก ท่านพ่อสงสัยอะไรหรือไม่?” หว่านหรูอี้ถาม ถางซือส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ ข้าพูดตามที่คุณหนูสั่งทุกอย่าง นายท่านไม่สงสัยอะไรเลยเจ้าค่ะ รีบตามข้าไปทันทีเจ้าค่ะ”

“ดี” หว่านหรูอี้ชมพลางยิ้ม นางพูดเสียงเบาว่า “ข้าไม่ต้องแต่งกับหนานกงเยี่ยนแล้ว ดีจริงๆ ดีจริงๆ ฮ่าๆๆๆ…”

“คุณหนูเบาเสียงหน่อยเจ้าค่ะ” ถางซือเตือน หว่านหรูอี้จึงลดเสียงหัวเราะลง

“คุณหนูเจ้าคะ น้ำร้อนเต็มอ่างแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้เดินเข้าไปรายงาน หว่านหรูอี้จึงโบกมือไล่ “เจ้าจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ไม่ต้องเข้ามาจนกว่าข้าจะเรียก”

“เจ้าค่ะ” สาวใช้รับคำแล้วถอยออกไป หว่านหรูอี้สั่ง “ปิดประตูซิ”

ถางซือเดินไปปิดประตูขัดกลอน หว่านหรูอี้ลุกขึ้นยืน ถางซือช่วยถอดอาภรณ์ออก หว่านหรูอี้เหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า นางเดินไปทางห้องด้านหลัง ก้าวลงอ่างน้ำอุ่นๆ แล้วสั่งว่า “มาช่วยข้าที”

“เจ้าค่ะ” ถางซือก้าวไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างอ่าง ยื่นสองมือลงไปในอ่างลูบคลึงทรวงอกอูมของคุณหนู หว่านหรูอี้ครางเบาๆ “อือ…”

นางแอ่นอกสู้มือถางซืออย่างกระสันอยาก สั่งว่า “แรงอีกหน่อย”

“เจ้าค่ะ” ถางซือจึงบีบคลึงแรงขึ้นอีกนิด ใช้ปลายนิ้วคลึงยอดอกทั้งสองข้างไปมา ปากก็ชมว่า “ของคุณหนูสวยยิ่งนัก หากใครได้เป็นสามีคุณหนู คงไม่ยอมออกจากห้องหอง่ายๆ แน่เจ้าค่ะ”

“อื้อ…รีบถูตัวให้ข้าเถอะ ข้าทนไม่ไหวแล้ว” หว่านหรูอี้สั่ง ถางซือรับคำ “เจ้าค่ะ”

นางจึงผละจากทรวงอกอูมดั่งเด็กสาวอายุ 12 ของคุณหนู แล้วหยิบผ้ามาขัดเนื้อขัดตัวให้คุณหนู จนขัดทั่วตัวแล้วหว่านหรูอี้ก็ลุกขึ้น ก้าวออกจากอ่าง ถางซือรีบหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้คุณหนูทันที หลังจากเช็ดตัวแห้งแล้วหว่านหรูอี้ก็เดินตัวเปลือยเปล่าไปนอนบนเตียง ถางซือรีบตามไปขึ้นคร่อมบนตัวคุณหนู ก้มลงไปดูดยอดอกสีน้ำตาลดูดเลียไปมา หว่านหรูอี้ครางเบาๆ “อา…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version