ตอนที่ 254 : แต่ละฝ่าย
เขตราชินี ณ คฤหาสน์หรูของเคาต์ฮอลล์
ออเดรย์กำลังสวมผ้าเช็ดปากผืนใหญ่รอบลำคอ สายตาจ้องมองสาวใช้กำลังจัดเตรียมอาหารมื้อเช้า บางคนกำลังหั่นชิ้นเบคอนแบบพอดีคำ บางคนกำลังวางไข่ดาวสองฟอง บางคนกำลังปาดแยมผลไม้ลงบนขนมปัง และบางคนกำลังราดซอสเข้มข้นบนจานเห็ดย่าง
ในตระกูลขุนนางทรงอิทธิพล สาวใช้จะถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท นอกจากสาวใช้ประจำตัวแล้ว ยังมีสาวใช้ประจำห้องนอน สาวใช้ห้องหนังสือ สาวใช้ห้องกิจกรรม สาวใช้ห้องนอนแขก สาวใช้ดูแลรองเท้า สาวใช้ดูแลอัญมณี สาวใช้ห้องอาหาร สาวใช้ซักผ้า และสาวใช้ห้องครัว พวกหล่อนจะถูกกำหนดบทบาทงานของตัวเองไม่มาก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องทำงานดังกล่าวให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
แม้จะเป็นการสิ้นเปลืองบุคลากรโดยใช่เหตุ แต่สำหรับขุนนางใหญ่ สมบัติผู้ดีคือสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด หากไม่ได้กำลังเป็นหนี้ก้อนโต พวกมันไม่คิดประหยัดเงินกับเรื่องนี้เด็ดขาด
ออเดรย์จิบชาสีน้ำตาลอมแดง ตามด้วยการหลบตาลิ้มรสกลิ่นเจือจางของมอลต์และกุหลาบภายในช่องปาก
ในวินาทีดังกล่าว เธอได้ยินเสียงของบิดาผู้เป็นสมาชิกสภาขุนนาง นายธนาคารทรงอิทธิพล และเคาต์ฮอลล์ กำลังบ่นพึมพำขณะกางหนังสือพิมพ์อ่าน
“พวกชุมนุมแสงเหนือคงเสียสติไปแล้ว”
ชุมนุมแสงเหนือ? ออเดรย์กะพริบตาถี่ๆ พร้อมกับซักถามอย่างฉงน
“พวกมันทำอะไรหรือคะท่านพ่อ?”
“ลูกรัก เจ้าคงไม่อยากรู้แน่ พวกมันลอบสังหารมิสเตอร์เบเคอร์ลัน เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐอินทิสประจำโลเอ็น บ้านเมืองอาจเกิดความวุ่นวายตามมาภายหลัง” เคาต์ฮอลล์ส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่ายพลางพลิกหน้ากระดาษ
พี่ชายของออเดรย์ ฮิบเบิร์ด·ฮอลล์ บุตรชายคนโตของเคาต์ฮอลล์ ทำการกลืนเห็ดย่างลงคอและแสดงความเห็น
“บางที พวกมันอาจหวังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรกับอินทิส เพื่อให้สงครามภายในดินแดนอาณานิคม แผ่ขยายขึ้นมายังทวีปเหนือด้วย”
บุตรตระกูลขุนนางใหญ่เกิดมาพร้อมใบหน้าอันหล่อเหลาและเส้นผมสีทองสว่าง รูปโฉมของฮิบเบิร์ดสง่างามคล้ายคลึงเทวรูปแกะสลัก ไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็ตาม
“ไม่ใช่แน่ ถ้าพวกมันต้องการเช่นนั้นจริง คงไม่ทิ้งหลักฐานไว้มากมาย และในทางกลับกัน อาณาจักรเรากำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบอบบริหารภายใน ต้องใช้เวลาอีกสักระยะเพื่อให้สภาพแวดล้อมคงตัว ฝ่าบาทไม่มีทางเริ่มสงครามอย่างบุ่มบ่าม และเหนือสิ่งอื่นใด รายละเอียดของเหตุการณ์เมื่อคืนได้ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์วันนี้แล้ว ฝ่าบาทและกลุ่มรัฐมนตรีคงทราบเรื่องราวอย่างกระจ่าง” เคาต์ฮอลล์ช่วยไขความกระจ่างแก่บุตรชาย
ออเดรย์นั่งฟังบิดาถกเถียงกับพี่ชายด้วยสีหน้ามึนงงสักพัก ก่อนจะเริ่มตระหนักถึงความจริงเบื้องหลังข่าว
เบเคอร์ลันตายแล้ว?
มิสเตอร์ A ทำสำเร็จ?
เขาเป็นคนของชุมนุมแสงเหนือ?
เขาจงใจทิ้งหลักฐานให้ทุกคนทราบว่าเป็นฝีมือของชุมนุมแสงเหนือ เพื่อพิสูจน์ว่าตนเป็นผู้ลงมือลอบสังหารจริง ไม่ใช่นักต้มตุ๋นสวมรอยรับเงินค่าจ้าง…
ทั้งรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจนน่าตกใจ เราเพิ่งจ่ายเงินก้อนแรกเมื่อวานตอนบ่าย และได้ทราบผลลัพธ์ในเช้าวันถัดมา แถมยังเป็นผลลัพธ์ด้านบวก!
ออเดรย์ตกตะลึงจนมิอาจระงับสีหน้าไว้ได้ อารมณ์ของเธอค่อนไปทางโล่งอก แต่ขณะเดียวกันก็เกิดความหวาดกลัวเจือจาง
แน่นอน เป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อภารกิจของผู้รับใช้มิสเตอร์ฟูลลุล่วงอย่างราบรื่น แต่พลังและความน่ากลัวของมิสเตอร์ A ได้ทำให้เธอเริ่มกังวลเกี่ยวกับองค์กรเบื้องหลังของอีกฝ่าย
โชคดีว่า เราได้คุยกับกายลินและลงนามในสัญญากู้ยืมไปแล้วเมื่อวาน ในฐานะไวเคาต์ กายลินคงไม่มีปัญหาเมื่อต้องสูญเงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว…เราจะส่งมอบเงินสดให้มิสเตอร์ A ภายในสองวันถัดไป แน่นอน ต้องทำผ่านซิลและฟอร์สเท่านั้น ห้ามเปิดเผยใบหน้าแท้จริงเด็ดขาด…เราคงไม่เข้าร่วมชุมนุมของมิสเตอร์ A ไปอีกอย่างน้อยสองเดือน และคงเป็นการดีกว่า หากหาชุุมนุมอื่นในเบ็คลันด์มาทดแทนได้…ออเดรย์กัดส่วนสุดท้ายของชิ้นขนมปังทาแยมผลไม้
เมื่อมื้ออาหารเช้าดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย สาวใช้ยกเค้กครีมมาวาง รวมถึงสตรอว์เบอร์รีและเชอร์รี หลังจากใจเย็นลง เด็กสาวเริ่มบรรเทาความกังวลไปหลายส่วน
ถ้าจำไม่ผิด มิสเตอร์แฮงแมนก็ต้องการร่วมภารกิจคราวนี้ด้วย แต่ยังไม่ทันได้จ้างใคร คดีก็จบลงเสียแล้ว… สมน้ำหน้า ใครใช้ให้ออกไปท่องทะเล? ออเดรย์กำลังอารมณ์ดี เธอฉีกยิ้มกว้างขณะนั่งจัดการผลไม้และของหวาน
…
ภายในหอพักเขตฮิลสตัน ซิลและฟอร์สก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์โดยไม่กล่าวสิ่งใดออกมาเป็นเวลานาน
“…ฝีมือมิสเตอร์ A ใช่ไหม?” ซิลจ้องมองเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าตกตะลึงปนสงสัย
ฟอร์สหมุนกำไลหินตรงข้อมือเล่น พลางส่ายศีรษะพร้อมกับตอบด้วยแววตาเหม่อลอย
“คงจะใช่ ฉันรู้จักชุมนุมแสงเหนือ แต่ไม่ทราบว่ามิสเตอร์ A เป็นสมาชิกชุมนุมแสงเหนือไหม”
“ต้องใช่แน่ เพราะพวกเราเพิ่งมอบเงิน สองพันปอนด์ให้เขาเมื่อวาน คงไม่มีใครหน้าไหนกล้าลอบสังหารราชทูตเบเคอร์ลันช่วงนี้แน่…” ซิลกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
ฟอร์สเงียบงันหลายวินาที ก่อนจะถอนหายใจพลางรำพัน
“ไม่ว่าจะเป็นมิสเตอร์ A หรือไม่ แต่พวกเราก็ต้องจ่ายอีก แปดพันปอนด์อยู่ดี เพราะไม่มีหลักฐานใดพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่คนลงมือ…หากต้องการอยู่ในชุมนุมต่อ มีแต่ต้องสะสางหนี้สินให้หมดเท่านั้น”
“ไม่ต้องกังวล คนจ่ายไม่ใช่เราอยู่แล้ว…แถมยังได้ค่าเสียเวลาอีก ห้าร้อยปอนด์ด้วย!” ซิลเสริมอย่างมีความสุข
“ปัญหาคือ ฉันรู้สึกมาสักพักแล้วว่ามิสเตอร์ A อันตราย เขาอาจลงมือปิดปากพวกเราก็ได้…” ฟอร์สเว้นวรรคพลางก้มหน้าครุ่นคิด “ฉันจะนำเงินก้อนสุดท้ายไปจ่ายตามลำพัง แบบนี้จะปลอดภัยกับเราสองคนมากกว่า”
“แต่ว่า…” ซิลออกท่าทางลังเล
“ฉันหนีคนเดียวง่ายกว่า เมื่อเทียบกับการมีเธอคอยถ่วงแข้งขา” ฟอร์สกล่าวด้วยน้ำเสียงเชิงดูแคลนขณะใช้มือจับกำไลข้อมือ
“ก็ได้…” ซิลใช้มือสางเส้มผมสีทองหยาบกระด้างพร้อมกับตอบอย่างจนปัญญา
ขณะทั้งสองกำลังกังวล ข้อความจากมิสเตอร์ A ถูกส่งมาถึงผ่านช่องทางสื่อสารส่วนตัว เนื้อหาระบุว่า พวกเธอไม่จำเป็นต้องนำเงินไปจ่ายต่อหน้าแล้ว เพียงฝากไว้ในบัญชีลับของธนาคารก็พอ แยกเป็นหลายบัญชีจากหลายธนาคารและหลายสาขา
ฟู่ว…! สองสาวผ่อนลมหายใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
…
ภายในห้องใต้ดินขนาดกว้างขวางเทียบเท่าวิหาร มิสเตอร์ A ในชุดคลุมสีดำยาว กำลังคุกเข่าท่ามกลางความมืดมิดพร้อมกับขยับปากพึมพำบางสิ่งคล้ายถ้อยคำสวดอ้อนวอน
เบื้องหน้ามันคือเทวรูปของชายร่างใหญ่ ถูกแขวนในลักษณะห้อยหัว สูงราวสามเมตร บริเวณข้อเท้าถูกโซ่ล่ามติดกับด้านบน
บุรุษห้อยหัวมีดวงตาแนวตั้งหนึ่งดวง เป็นลักษณะพิเศษของเผ่าพันธุ์คนยักษ์ แขนสองข้างกางออกในลักษณะไม้กางเขนกลับหัว
ในเวลาเดียวกัน ชายสวมชุดคลุมสีดำเดินเข้ามารายงานข่าวอย่างนอบน้อม
“มิสเตอร์ A กระผมส่งข่าวให้แล้วครับ”
“ดีมาก” มิสเตอร์ A กล่าวโดยไม่หันหลังกลับไปมอง
ชายชุดคลุมดำซักถามอย่างสงสัย
“ทำไมท่านถึงไม่ให้พวกเราสืบหาว่า ใครเป็นผู้จ้างวานภารกิจนี้”
มิสเตอร์ A ก้มศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย
“ไม่จำเป็น เจ้าต้องไม่ลืมว่าช่วงนี้คือหัวเลี้ยวหัวต่อ เป้าหมายของพวกเราคือการสร้างความปั่นป่วนไปทั่วทวีป พยายามดึงดูดสายตาของมวลชนให้มากเข้าไว้ ทั้งหมดก็เพื่อต้อนรับการกลับมาของพระองค์ท่าน!”
“ฮะฮะฮะ! แค่ก! แค่ก! แค่ก…”
มิสเตอร์ A หัวเราะกะทันหัน แต่จากนั้นก็กระแอมแห้งอย่างรุนแรงจนต้องทิ้งตัวลงไปคลานบนพื้น
“แค่ก! แค่ก!”
มันอาเจียนออกมาเป็นวัตถุสีแดงสด สิ่งนั้นกำลังบิดงอไปมาบนพื้นราวกับมีชีวิตชีวา
ชายสวมชุดคลุมดำรีบก้มศีรษะและเบือนหน้าไปทางอื่น แสร้งทำเป็นไม่เห็นสิ่งใดทั้งสิ้น
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ ร่างกายมิสเตอร์ A เริ่มกลับมาสงบนิ่ง
มันคลานไปบนพื้นพร้อมกับใช้ปากแนบวัตถุสีแดงสด จากนั้นก็พยายามเลียสิ่งของคล้ายก้อนเลือดกลับเข้าไปในปาก
…
บ้าน 126 ถนนปีใหม่ เขตฮิลสตัน
ไคลน์กำลังผ่อนคลาย วันนี้มันไม่ได้ตามสะกดรอยโดรัคเหมือนทุกที แต่เลือกเป้าหมายเป็นภรรยาน้อยอย่างเอริก้า·เทย์เลอร์แทน แน่นอน เหตุนอกใจในคู่สามีภรรยา ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังอยู่แล้ว
สาวสวยผมสีทอง สวมเครื่องสำอางคุณภาพสูง เธอมาถึงสโมสรครักซ์ก่อนโดรัคด้วยรถม้าเช่า ไคลน์ในสภาพปลอมตัวมิดชิด รีบเดินตามเข้าไปโดยนำกล้องถ่ายรูปแบบพกพาใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่
“มีห้องพักผ่อนเหลือไหม?” ไคลน์ไม่ลืมติดเข็มกลัดสโมสรไว้บนหน้าอก มันส่งเสียงซักถามสาวใช้หน้าตาดีผู้เป็นเวรต้อนรับแขกประจำวัน
สาวใช้ในชุดสีขาวสลับดำยิ้มตอบ
“มีค่ะ รบกวนเดินตามพนักงานของเราขึ้นไปยังชั้นบน”
ไคลน์ผงกศีรษะรับ มันเดินตามบริกรชายในชุดเสื้อกั๊กสีแดงขึ้นไปอย่างว่าง่าย ก่อนจะพบมิสเอริก้า·เทย์เลอร์กำลังเปิดประตูเข้าห้องพักฝั่งติดถนนโดยบังเอิญ
“อยากชมวิวแบบไหนหรือครับ เป็นถนนหรือสนามเทนนิส?” บริกรชายซักถามสุภาพ
“ถนน” ไคลน์ตอบห้วน
จากการจัดแจงของบริกรชาย ไคลน์ได้พักในห้องถัดจากเอริก้า 2 ห้อง ด้านนอกหน้าต่างสามารถมองเห็นถนนทางเข้าชัดเจน
แล้วเราจะถ่ายรูปหลังจากนี้ยังไง…ควรหาโอกาสลอบเข้าไปในห้องดังกล่าว หรือปีนท่อแก๊สไปตามผนังด้านนอกดี? ทั้งสองวิธีไม่สามารถซ่อนแสงแฟลชได้ แต่วิธีหลังจะช่วยให้สองคนนั้นเข้าใจว่าเป็นฝีมือคนนอก และเราก็จะไม่ถูกเตะออกจากสโมสร… อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นการปีนกำแพง มีโอกาสสูงว่าทั้งโดรัคและเอริก้าจะสังเกตเห็นก่อน…ใช้ยันต์หลับใหลแล้วค่อยถ่ายดีไหม? ไม่ได้ แบบนั้นจะได้แค่ภาพของคนนอนหลับ ต้องเป็นภาพขณะทั้งสองกำลังร่วมรักเท่านั้น…
หมายความว่าเรามีโอกาสเดียวในการถ่ายสุดยอดภาพหลักฐานให้ได้…เราไม่ถนัดด้านนี้เลยสักนิด และไม่เก่งศิลปะด้วย จะให้วาดภาพเหมือนก็คงทำไม่ได้…ถ้าเป็นลุงนีลล์ เขาคงประกอบพิธีกรรม อ้อนวอนให้เทพธิดาช่วยลบแสงแฟลชขณะถ่าย และแน่นอน เทพธิดาคงไม่ยอมช่วยเรื่องเหลวไหลเช่นนี้…
ระหว่างไคลน์กำลังก้มหน้าตรึกตรองหาวิธีจับให้ได้คาหนังคาเขา มิสบอดี้การ์ดพลันปรากฏตัวบนกระจกเงาภายในห้องพัก
เธอยังคงสวมเดรสสีดำสไตล์โกธิกและหมวกใบเล็กสีเดียวกัน เส้นผมสีทองอ่อน ใบหน้าขาวค่อนไปทางซีด สัดส่วนโครงหน้างดงามสมบูรณ์แบบ
“คุณมีวิธีซ่อนแสงแฟลชของกล้องไหม?” ไคลน์ถามเอาจริงเอาจัง
ยังไม่ทันกล่าวจบประโยคดี มันเหลือบเห็นผิวกระจกเริ่มกระเพื่อมในลักษณะคลื่นน้ำ ขณะเดียวกันก็มีฝ่ามือโปร่งใสยื่นออกมา
มิสบอดี้การ์ดลอยตัวออกจากผิวกระจกเงาราวกับผีสาง เธอย่างกรายเข้าหาชายหนุ่มเชื่องช้า และกล่าวพร้อมผงกหัว
“มี”
คนคุ้มกันสาวสวยโน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถูกดูดหายเข้าไปในเลนส์กล้อง!
ไคลน์อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง สำหรับมัน ฉากเมื่อครู่ทำเอาเย็นเฉียบไปถึงไขกระดูก! หลังจากใช้เวลาสักพักเพื่อปรับอารมณ์ให้กลับมาสุขุมเยือกเย็น มันเริ่มนำกล้องมาถ่ายสิ่งของภายในห้องเพื่อทดสอบ
ผลลัพธ์เหนือความคาดหมาย แฟลชกล้องถูกลดความสว่างจนแทบมองไม่เห็น ขณะเดียวกัน คุณภาพของรูปก็แทบไม่ถดถอย
แบบนี้เรียกว่ากล้องผีสิงได้ไหม…ไคลน์รำพันติดตลก ก่อนจะถือกล่องไปยืนริมหน้าต่างห้องอย่างใจเย็น
เพียงไม่นาน รถม้าเช่าของโดรัค·เกเลอร์ได้เคลื่อนมาหยุดหน้าสโมสรครักซ์
เมื่อเอริก้า·เทย์เลอร์เห็นคนรักของเธอมาถึง หญิงสาวผมทองรีบออกจากห้องและเดินลงไปข้างล่างเพื่อต้อนรับ
ไคลน์ฉวยโอกาสปลดกลอนห้องพักของหล่อนด้วยไพ่ทาโรต์ ตามด้วยการเข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้า ภายในนั้นมีผ้าปูเตียงและผ้านวมสำรองเก็บไว้หลายผืน
บรรยากาศมืดสนิทรอบตัวทำให้ไคล์หวนนึกถึงค่ำคืนวาน ฉากการปรากฏกายของนักเชิดหุ่นสุดทรงพลัง โรซาโก้ ยังคงตราตรึงในความทรงจำ
เมื่อคืนเราเพิ่งเฉียดใกล้ความตาย แต่วันนี้กลับต้องมาซ่อนในตู้เสื้อผ้าเพื่อทำคดีจับชู้…ชีวิตคนเราช่างมหัศจรรย์ฉิบหาย…ขณะไคลน์กำลังตัดพ้อติดตลก เสียงเปิดประตูห้องพักพลันดังแว่ว
………………….