Skip to content

Outside Of Time 1053


บทที่ 1053 สลักชะตาของเจ้าลงไป

พื้นที่แสนลี้ ทะเลไฟสีดำลุกโชน ความร้อนของเปลวไฟทำให้ฟ้าดินบิดเบี้ยว เกิดเป็นผนึกขึ้นเอง

ยิ่งกว่านั้น บนที่ราบแสนลี้แห่งนี้ โลก 7 ใบที่มาจากซีหมัวจื่อแต่ละใบๆ ต่างทับซ้อนเข้าด้วยกัน ก่อเป็นคุกโลกันต์ 7 ชั้น

ภายใต้การเพิ่มพลังนี้ ก็คืออำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในอำนาจแปลกประหลาดที่ซีหมัวจื่อตอนนี้…โลกมารฟ้า 7 โลกันต์

ในโลกมีฟ้า มืดสนิทเป็นอย่างยิ่ง

ในโลกมีแผ่นดิน แดงก่ำไร้ขอบเขต

เพลิงมารฟ้าลุกไหม้อย่างบ้าคลั่ง คลายว่าจะเผานักโทษที่ขังอยู่ในโลกใบนี้ให้กายสลายจิตดับสูญ

และซีหมัวจื่อที่นั่งขัดสมาธิอยู่นอกโลกมารฟ้า กิริยาท่าทางของเงามารฟ้าที่อยู่ข้างหลังเหมือนกับเขาทุกประการ นั่งขัดสมาธิเหมือนกัน แต่เงาร่างกลับรางเลือนกว่ามาก

ส่วนซีหมัวจื่อเอง สีหน้าของเขาเหนื่อยล้า กลิ่นอายอ่อนแรง นี่คือค่าตอบแทนที่ร่างมารฟ้าของเขาหลอมเป็นหนึ่ง และเป็นค่าตอบแทนของการปะทุพลังโลกมารฟ้า 7 โลกันต์ขึ้นมา

แต่ในตอนนี้ เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้ สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือจะหลอมสวี่ชิง

สวี่ชิงช่างจัดการยากจริงๆ ทำให้ก่อนหน้านี้เขามักจะรู้สึกว่าพลังหลอมรวมทั่วร่างแต่กลับซัดไปบนนุ่น

ทั้งๆ ที่ตัวเองโจมตีไปหลายๆ ครั้งก็สามารถทำให้สวี่ชิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ร่างของอีกฝ่ายกลับเปลี่ยนแปลงอย่างประหลาด ว่องไวปราดเปรียวจนถึงขั้นวิปริต สามารถมาปรากฏอยู่รอบๆ กายตนไม่ว่าที่ใดก็ตามอย่างเงียบเชียบ

หากเป็นแค่นี้ก็ช่างเถิด ตนก็ใช่ว่าจะไม่มีวิชาป้องกัน แต่พลังวิเศษที่หลอมผสานของอีกฝ่ายเช่นนั้นก็ชวนให้หงุดหงิดน่ารำคาญเช่นกัน ทุกครั้งที่ประทะ ล้วนหลอมผสานกลิ่นอาย ร่องรอย การป้องกัน ตลอดจนชีวิตของตน

หากเปลี่ยนเป็นเวลาอื่นก็ไม่เป็นไร แต่ภายใต้สถานการณ์ที่แปลงเป็นมารฟ้าไม่สามารถดำรงอยู่ได้นานของตน วิธีการต่อสู้เช่นนี้ทำให้ในใจของเขาอัดอั้นเป็นอย่างยิ่ง

จิตสังหารรุนแรงขึ้นตลอด

ดังนั้นเขาไม่เสียดายค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ใช้ไม้ตาย จะลบข้อได้เปรียบของอีกฝ่ายออกไป ทำให้การต่าสู้ครั้งนี้เปลี่ยนมาให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะกับตน

กลิ่นอายมารของเขาระเบิดดังก้อง เพิ่มพลังไม่หยุด และยังมีทวนยาวที่เขาโยนไปกลางท้องฟ้าเมื่อครู่ ก็พุ่งลงมาในตอนนี้เช่นกัน แทงมายังโลกมารฟ้า

ทำให้เพลิงมารที่หลอมอยู่ในโลกมารฟ้า 7 โลกันต์ปะทุพวยพุ่งขึ้นมาในทันที

ในโลกมารฟ้า ในดวงตาสวี่ชิงฉายประกายแปลกประหลาด ไม่ไปสนใจเทียนสีแดงข้างหลังที่กลืนกินเพลิงมารที่อยู่รอบๆ อย่างบ้าคลั่ง และไม่ได้ไปสนใจกลิ่นอายที่ฟื้นคืนกลับมาในนั้นยิ่งรุนแรงขึ้น

เขาในตอนนี้ จิตใจทั้งหมดล้วนรวมอยู่ที่มีดสลักที่แปลงมาจากอำนาจเทพแห่งชะตาที่อยู่ข้างหน้าเล่มนั้น

นี่แม้ในความหมายที่แท้จริงแล้วจะเป็นครั้งแรกที่สำแดงพลังอำนาจเทพแห่งชะตาของตัวเองออกมาก็ตาม

แต่จากจำนวนครั้งในการศึกษาค้นคว้าในอดีต ตลอดจนการชี้แนะของจักรพรรดินี ทำให้สวี่ชิงมีความเข้าใจใจพลังอำนาจเทพแห่งชะตาของตัวเองในขั้นต้นแล้ว

ดังนั้น เขาสูดลมหายใจลึก มือขวายกขึ้นคว้า

มีดสลักข้างหน้าพลันสั่นสะเทือนขึ้นมาทันที พุ่งตรงมาหาสวี่ชิง ในพริบตาที่มาอยู่ในมือของเขาก็กะพริบระลอกคลื่นที่ทรงพลังน่าตื่นตะลึงเป็นระลอกๆ ออกมา แผ่อิทธิพลไปทั่วสารทิศ บิดม้วนโลกใบนี้

ซีหมัวจื่อที่อยู่ข้างนอกก็ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ในใจเกิดความระมัดระวังขึ้นมา กัดฟันเผาไหม้เลือดดวงใจของตัวเอง เร่งการหลอมให้เร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น

ส่วนสวี่ชิงตอนนี้สีหน้าเคร่งขรึม

หัวใจของเขาหยุดเต้นแล้ว

โลกของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวดำ 2 สี

สีดำคือเวลา สีขาวคือมิติ

และระหว่างสีขาวดำนี้ เป็นเส้นสีเทานับไม่ถ้วน

นี่คือชะตาของสรรพสิ่งทั้งหลาย

อารมณ์ของสวี่ชิงจากหัวใจที่หยุดเต้นก็เปลี่ยนมาสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ไม่มีระลอกคลื่นอารมณ์ใดๆ เหมือนความเป็นมนุษย์ในเสี้ยวขณะนี้หายไปจากในตัวเขาโดยสมบูรณ์แล้ว

สิ่งที่เหลือมีแค่ความเป็นเทพ

อีกทั้งความเป็นเทพนี้ไม่มีความสงสาร ไม่มีเป็นตาย มีเพียงการควบคุมต่อชะตาเท่านั้น

“ซีหมัวจื่อ” สวี่ชิงใช้พลังอำนาจเทพเรียกชื่อนี้

ทันทีที่เสียงดังออกมา ซีหมัวจื่อที่อยู่โลกภายนอกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความรู้สึกหวาดกลัวแปลกประหลาด ทำให้เขาลมหายใจหอบถี่ขึ้นมา

ส่วนในโลกมารฟ้า จากลมหายใจที่หอบถี่ของสวี่ชิง เส้นสีเทานับไม่ถ้วนที่เห็นในครรลองสายตาหายไปทั้งหมดในพริบตา เหลือเพียงเส้นเดียวเท่านั้นที่ลอยอยู่ข้างหน้าเขา

บิดม้วนไม่หยุด ขยายใหญ่ไม่หยุด สุดท้ายสิ่งที่ปรากฏในสายตาของสวี่ชิงคืออดีต ปัจจุบันและอนาคตของซีหมัวจื่อ

อดีตกลายเป็นตราประทับไปแล้ว

ปัจจุบันกำลังพัฒนา

อนาคตล้วนกำหนดไว้แล้ว

ภาพที่เกี่ยวกับอนาคตของซีหมัวจื่อนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาข้างหน้าสวี่ชิง เขารู้ อนาคตเหล่านี้ล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น

หากเป็นจักรพรรดิรัฐม่วงคราม เขาจะต้องเลือกเรื่องหนึ่ง ให้อนาคตที่เลือกกลายเป็นหนึ่งเดียว

แต่การควบคุมชะตาของสวี่ชิงไม่ได้ควบคุมโชคชะตาโดยการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ถูกกำหนดไว้ หากแต่เป็นการสร้างความไม่แน่นอนขึ้นมา

ดังนั้น เขาผสานความคิดของตัวเองไปในมีดสลักในมือ แล้วสลักขีดแรกลงไปข้างหน้า

ขีดแรกที่สลักลงไปนี้ ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ในการวาดรูปใดๆ ทั้งสิ้น เพราะวาดเหมือนหรือไม่เหมือนล้วนไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือสิ่งที่คิดในใจของผู้ที่ถือมีดสลักเล่มนี้

ความคิดแรกที่สวี่ชิงคิดคือ “คนคนนี้ต้องตาย”

ดังนั้น ขีดแรกที่เขาสลักลงไป ในภาพที่ร่างขึ้นมาคือภาพที่ซีหมัวจื่อตาย

ความตายของเขาอเนจอนาถนัก ศีรษะและร่างแยกจากกัน เลือดเนื้อแห้งเหือด

นี่คือผล

จากนั้น สวี่ชิงยกมือ สลักความคิดที่ 2 ลงไป เพิ่มเหตุผลให้กับให้ภาพที่เป็นผลลัพธ์นี้

“ศีรษะขาดสะบั้นใต้กระบี่จักรพรรดิ!”

มีดสลักวาดลงไปปรากฏในภาพข้างหน้าสวี่ชิง กระบี่จักรพรรดิมาปรากฏอยู่ข้างหลังซีหมัวจื่อที่หัวและศีรษะอยู่คนละที่

ทันทีที่วาดออกมา สวี่ชิงร่างสะท้านเฮือก ในสมองยิ่งซัดโหม กระอักเลือดสดๆ คำโตออกมา ส่วนในโลกมารฟ้าทั้งใบตอนนี้ก็สั่นสะเทือนขึ้นมา

ความน่ากลัวอย่างยิ่งยวดกลุ่มหนึ่งลงมาเยือนอย่างไร้รูปร่าง

นั่นคือการเปลี่ยนแปลงโชคชะตา!

เพราะก่อนหน้านี้ ในความแน่นอนในอนาคตนับไม่ถ้วนของซีหมัวจื่อ แม้จะมีความตายแต่กลับไม่มีภาพที่ตายด้วยมือสวี่ชิง ยิ่งไม่มีภาพที่ตายใต้กระบี่จักรพรรดิ

สิ่งเหล่านี้แต่เดิมล้วนไม่มีทั้งสิ้น

แต่ตอนนี้จากการปรากฏของภาพฉาก จากการประทับไปในเส้นไหมสีเทาแห่งชะตาของซีหมัวจื่อ อนาคตของเขาเพิ่มมา 1 อย่าง

อีกทั้งเป็นอนาคตเพียงอย่างเดียวที่เกี่ยวกับกระบี่จักรพรรดิ

นี่หมายถึงกระบี่จักรพรรดิเพียงปรากฏขึ้น เช่นนั้นอนาคตของซีหมัวจื่อก็ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น

นี่ก็คือพลังของเทพเจ้า

นี่ก็คืออำนาจเทพ!

แต่ราคามหาศาลนัก

เพียงแค่ภายใต้ภาพสลักออกมา อวัยวะภายในทั้ง 5 ของสวี่ชิงก็พุ่งพล่าน วิญญาณเจ็บปวด หลังจากเลือดกระอักออกมา ก็เหมือนว่าจะหยุดไม่อยู่ กระอักออกมาอีกถึง 7-8 ครั้ง

กายเนื้อที่แข็งแกร่งของเขาเกิดความเหนื่อยล้าขึ้นมา

ความรู้สึกอ่อนแรง เกิดขึ้นจากส่วนลึกของวิญญาณแผ่ลามไปทั่วทั้งทะเลความรู้สึก

แต่สมบัติลับที่กระบี่จักรพรรดิในร่างเขา ในเสี้ยวขณะนี้…พลันปะทุขึ้นมา

ประตูสมบัติที่เปิดอยู่ ตอนนี้ปะทุปราณกระบี่ท่วมฟ้าออกมา

ในสมบัติลับกระบี่จักรพรรดิ วิญญาณจักรพรรดิผสานกระบี่จักรพรรดิ กระบี่จักรพรรดิหลังจากที่หล่อเลี้ยงมาจนถึงตอนนี้ จากเสียงระเบิดคำรามลั่นของปราณกระบี่ จากการสั่นไหวอย่างรุนแรงของตัวกระบี่ มัน…ก็พุ่งออกไปทันที

ข้ามประตูสมบัติ พุ่งผ่านทะเลความรู้สึก ทะลุผ่านไปในมิติ จากในร่างของสวี่ชิง พุ่งทะลวงออกมา

เพียงพริบตา โลกมารฟ้าสั่นคลอน พลังของกระบี่จักรพรรดิสยบซึ่งทุกสิ่ง พุ่งตรงไปยังท้องฟ้าโลกใบนี้

มันได้รับการเพิ่มพลังจากวิญญาณจักรพรรดิ ได้รับการเพิ่มพลังจากชะตา มันแข็งแกร่งทรงพลังไร้เทียมทาน!

กระบี่หนึ่ง…ทะลวงโลก!

แทงไปยังซีหมัวจื่อที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างไม่เคยมีมาก่อน

สมองซีหมัวจื่อระเบิดลั่น เลือดเนื้อทั้งร่างเหมือนกำลังกรีดร้อง ความรู้สึกอันตรายที่รุนแรงจนถึงขีดสุด ทำให้เขาถอยร่นไป ยกมือขวางกั้นโดยไม่สนทุกอย่าง

ควบคุมทวนยาวมารฟ้าเล่มนั้นซัดไปยังกระบี่จักรพรรดิ

ในพริบตาที่กระบี่กับทวนปะทะกัน ทวนยาวแหลกละเอียด พังทลาย!

ถูกกระบี่จักรพรรดิแทงทะลุ พุ่งตรงไปหาซีหมัวจื่อที่หวาดกลัวจนถึงขีดสุกอีกครั้ง ตรงไปที่ลำคอ!

เห็นว่าจะแทงมาเต็มที ในช่วงเวลาสำคัญ ในชั่วเสี้ยวพริบตาความเป็นตาย ซีหมัวจื่อปากส่งเสียงคำรามต่ำ นั่นคือเสียงคำรามที่ไม่จำนนที่ชะตาถูกควบคุม

กระดิ่งโบราณลูกหนึ่งพลันปรากฏขึ้น หลังจากที่ปกคลุมซีหมัวจื่อข้างในก็ปะทะกระบี่จักรพรรดิ

เสียงบึ้มดังขึ้น

กระดิ่งเกิดรอยร้าว แต่กลับไม่ระเบิดออก

ขัดขวางกระบี่จักรพรรดิ!

สวี่ชิงที่ขัดสมาธิในโลกมารฟ้า ตอนนี้เลือดสดๆ ทะลักจากปากไม่ขาดสาย คำแล้วคำเล่า

นี่ก็คือค่าตอบแทนของการแบกรับชะตา!

ชะตาที่เขาสลักลงไปจะต้องรับผลลัพธ์ด้วยตัวเอง ในระหว่างที่ดำเนินไปตามกระแสของโชคชะตานี้ การกระทำใดๆ ของฝ่ายตรงข้ามที่ฝ่าฝืนโชคชะตานี้ ผลสะท้อนกลับที่เกิดขึ้น เขาจะต้องเป็นผู้รับไว้ทั้งหมด

หากสุดท้ายแบกรับได้นั่นคือชะตาสำเร็จ

หากไม่สามารถแบกรับได้ เช่นนั้นการสลักชะตาล้มเหลว

ผู้สลักจะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สาหัสยิ่งกว่าเดิม

เหมือนสวี่ชิงในตอนนี้ วิญญาณของเขาอ่อนแรง รอยร้าวที่เคยหายไปบนกายเนื้อเขาปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

เขากับซีหมัวจื่ออัจฉริยะเช่นนี้ ทางด้านกำลังรบจะอย่างไรก็มีความแตกต่าง

อยากจะฆ่าอีกฝ่าย ความยากมหาศาลนัก

ส่วนซีหมัวจื่อที่อยู่กลางอากาศ ตอนนี้ลมหายใจหอบถี่ จ้องกระบี่จักรพรรดิที่อยู่นอกกระดิ่งเขม็ง หลังจากที่สังเกตว่าของวิเศษโบราณของตัวเองชิ้นนี้ต้านทานสำเร็จ ความหวาดกลัวในใจเขาแบบนั้น ในที่สุดก็ลดลง

สิ่งที่ตามมาคือความเย็นเยือกในสายตา “เจ้าไม่ใช่เสี่ยเฉินจื่อ!”

“กระบี่เล่มนี้ไม่ใช่ของเผ่าข้า พลังนี้…ส่งอิทธิพลต่อชะตาข้า นี่คือพลังเทพเจ้า!”

“ตัวตนของเจ้า…”

ซีหมัวจื่อดวงตาทั้ง 2 ฉายวาบ ฉายความกระจ่างแจ้งออกมา จากนั้นก็มีความลิงโลดปรากฏขึ้น เขาเดาตัวตนของสวี่ชิงออก จากนั้นก็มีการคาดเดาต่อหลี่ว์หลิงจื่อคนนั้น

และเรื่องนี้ใหญ่หลวงนัก แต่สำหรับเขา ต่อให้สุดท้ายพบว่าการคาดเดาผิดก็ไม่เป็นไร แต่หากเป็นความจริง เขาจะได้แต้มความชอบที่มากกว่าในสนามรบ!

ดังนั้นตอนนี้ร่างเพียงไหววูบ ก็จะหาวิธีไปจากสนามต่อสู้ ขณะเดียวกัน มือซ้ายก็เอาแผ่นหยกออกมา จะถ่ายทอดเสียงบอกอาจารย์ตัวเอง

แต่ในตอนที่ร่างของเขาถอยร่นไป อีกทั้งในพริบตาที่เอาแผ่นหยกออกมา ทันใดนั้น…เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงที่เดิมไม่ได้อยู่ในชะตาของเขาเหมือนกันก็พลันปรากฏขึ้น

มันลอยอยู่ด้านหลังเขาตลอดมา มารฟ้าที่หลังจากสัมผัสรับรู้อำนาจในตอนนั้นก็หลอมรวมปรากฏออกมา ก็คอยติดตามเขาออกศึกทั่วทุกสารทิศ ทว่าในตอนนี้ จู่ๆ การกระทำของมันกลับไม่สอดคล้องกับซีหมัวจื่ออีกต่อไป

นี่เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มันถือกำเนิดขึ้น

มันก้มศีรษะลง มองไปยังซีหมัวจื่อที่หันหลังให้มันอยู่

ในดวงตาของมัน ฉายแววโลภออกมา

จากนั้น มันพุ่งเข้าจู่โจมอย่างฉับพลัน!

ในใจซีหมัวจื่อในเสี้ยวขณะนี้มีเสียงฟาดผ่าคำรามลั่น ไม่ทันได้ถ่ายทอดเสียง ในยามที่พลันหันหน้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ คิดอยากจะหลบเลี่ยงแต่ก็ไม่ทันแล้ว

ถูกมารฟ้าที่จู่ๆ หักหลังกระโจนเข้ามาหาทันที

เสียงร้องโหยหวนน่าขนลุก ดังออกมาจากปากของซีหมัวจื่ออย่างอเนจอนาถทันที เขาคิดอยากดิ้นรน คิดอยากจะโจมตีกลับ คิดจะอยากจะควบคุม แต่สำหรับมารฟ้าที่ที่แทบจะมีต้นกำเนิดเดียวกันกับเขา อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่า ทุกอย่างนี้ล้วนไร้ประโยชน์

ทำได้เพียงปล่อยให้มารฟ้าอยู่ในร่างกายเขา ดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้ในโลกมารฟ้าข้างล่าง สวี่ชิงหน้าขาวซีด ร่างกายอ่อนแรง วิญญาณอ่อนล้า แต่ในดวงตาเขากลับฉายความเย็นเยือก

ไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆ ทั้งสิ้น

เส้นไหมสีเทาแห่งโชคชะตาของเขาที่อยู่ข้างหน้าซีหมัวจื่อ หากถูกขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า จะเห็นในภาพแห่งชะตาที่ถูกสวี่ชิงสลักภาพในนั้น มีภาพฉากที่มารฟ้าหักหลังปรากฏขึ้น!

เพราะภาพที่สวี่ชิงสลักก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ความคิด 2 ความคิด

แต่ยังมีความคิดที่ 3 ด้วย

ความคิดนี้ก็คือมารฟ้าหักหลัง!

สวี่ชิงรู้ดีถึงกำลังรบของตัวเอง คิดอยากจะสังหารอัจฉริยะอย่างซีหมัวจื่อเช่นนี้ให้สิ้นซาก ความยากสูงเป็นอย่างยิ่ง

แต่เขาฆ่าไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายตายไม่ได้

ดังนั้น เขาจึงสลักชะตาแห่งความตายที่แท้จริงให้อีกฝ่าย ความจริงไม่ใช่กระบี่จักรพรรดิ แต่เป็นการสะท้อนกัดกินของมารฟ้า!

ราวใช้แรง 4 ตำลึงผลักน้ำหนักพันชั่ง

ด้วยเหตุนี้ ความคิดแรกสุด ในภาพผลลัพธ์ที่เขาสลัก ซีหมัวจื่อไม่เพียงแต่ศีรษะและตัวอยู่คนละที่ ยังมีกายเนื้อแห้งเหี่ยว เหมือนถูกดูดพลังชีวิตไป

ผลลัพธ์นี้เห็นได้ชัดว่าเป็น 2 วิธีถึงจะเกิดขึ้นได้ ศีรษะและตัวอยู่คนละที่เพราะกระบี่จักรพรรดิ กายเนื้อแห้งเหี่ยวเหมือนถูกกลืนกินคือหักหลังของมารฟ้า

ดังนั้นความคิดที่ 2 ที่สวี่ชิงพูดคือ “ศีรษะขาดสะบั้นใต้กระบี่จักรพรรดิ”

สิ่งที่ถูกตัดคือศีรษะและตัว!

เพราะชะตาที่ถูกกระบี่จักรพรรดิสังหารเพียงอย่างเดียว สวี่ชิงไม่อาจแบกรับได้

แต่กระตุ้นให้มารฟ้าหักหลัง สวี่ชิงรับได้

ดังนั้น หลังจากที่เขากระอักเลือดออกมาอีกครั้ง นอกโลกมารฟ้า เสียงร้องน่าอเนจอนาถของซีหมัวจื่อพลันหยุดชะงัก ร่างแห้งเหี่ยวไปในทันที ถูกมารฟ้าในร่างดูดเอาพลังชีวิตทุกอย่างไป

และรวมถึงกระดิ่งที่ขวางกั้นกระบี่จักรพรรดิด้วย

ส่วนกระบี่จักรพรรดิหลังจากที่ไร้การขัดขวาง ก็พุ่งไปทันที จัดการซีหมัวจื่อที่กลายเป็นซากศพ ให้ศีรษะกับตัวอยู่คนละที่!

เหมือนกับภาพที่สวี่ชิงสลักลงไปความคิดแรก…

ทุกประการ!

“ผู้ที่สังหารซีหมัวจื่อ ไม่ใช่ข้า”

“เป็นมารฟ้าของเขา”

สวี่ชิงลุกขึ้น โลกมารฟ้ารอบๆ พังทลายแหลกสลาย

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version