Skip to content

Outside Of Time 1141


บทที่ 1141 ข้าคือจี๋กวง

สวี่ชิงยิ้ม

แม้ว่าเขาจะมีคำถามมากมาย แม้ว่าในใจจะมีความสงสัยอยู่เต็มไปหมด

ตัวอย่างเช่น เหตุใดปรมาจารย์ไป่จึงมาปรากฏตัวที่แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์

ตัวอย่างเช่น การตายของปรมาจารย์ไป่มีความลับอะไรซ่อนอยู่

และตัวอย่างเช่น…เหตุใดเขาจึงกลายเป็นกระปุกยาในความคิดของผู้นำเซียนจี๋กวง

แล้วยังมี…เหตุใดในโลกที่แปรเปลี่ยนออกมาก่อนที่ผู้นำเซียนจี๋กวงก่อนตาย ปรมาจารย์ไป่ที่เขาจำแลงออกมาจึงมีความทรงจำของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์และเจตจำนงที่เป็นอิสระ

ทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีคำตอบ

และก็ไม่สำคัญแล้ว

สิ่งสำคัญคือ…ร่างแก่ชราในชีวิตของสวี่ชิง เป็นดั่งที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า ขอเพียงไม่ตาย ก็จะได้พบกันอีก

และตอนนี้ ในโลกแห่งนี้ ก็ได้พบกันแล้ว

ดังนั้น สวี่ชิงจึงมีความสุขมาก

เขาไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว และความรู้สึกสุขใจนี้ ก็ดูเหมือนจะถูกขยายใหญ่ขึ้นอย่างมากโดยไม่รู้ตัว…

ดังนั้น เขาก็ยืดตัวไปตามสัญชาตญาณ ส่งเสียงหัวเราะออกมาตามสัญชาตญาณ ‘มอง’ ไปรอบๆ

จากนั้นก็พบว่านิยามของซ้ายขวา ได้รับอนุญาตให้มีอยู่ในที่นี้แล้ว

นี่ทำให้สวี่ชิงสามารถสัมผัสสิ่งรอบตัวได้ในสภาวะระดับต่ำเช่นนี้

เพียงแต่…สิ่งที่สัมผัสและ ‘มองเห็น’ ล้วนบิดเบี้ยวและยังคงปั่นป่วน

เพราะในโลกนี้ แม้จะมีนิยามของซ้ายขวาอยู่ แต่ทุกสิ่งก็ยังคงแบนราบอยู่ดี

เมื่อใช้สายตาแบนราบมองสิ่งที่แบนราบ สิ่งที่มองเห็นก็มีเพียงความเวิ้งว้างเท่านั้น

นิยามความสูงยังไม่ปรากฏ

แต่ความรู้สึกสุขใจกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างควบคุมไม่ได้ แผ่ซ่านไปในการรับรู้ทุกอย่าง ต้องการเป็นสิ่งเดียว

“สภาวะเช่นนี้ ดูจะไม่ค่อยถูกต้องนัก…”

ในยามที่ความรู้สึกสุขใจแผ่ซ่านไปทั่วร่าง สวี่ชิงก็สังเกตถึงความผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงจะสะกดความรู้สึกนี้ไว้ แต่ในโลกนี้ ดูเหมือนว่าการกระทำเช่นนี้ของเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้น

ดังนั้น จึงทำได้เพียงจมอยู่ในความสุข ขณะเดียวกันก็พยายามควบคุมมัน และสุดท้าย…สวี่ชิงเลือกที่จะกระตุ้นธรรมนูญกาลอวกาศ

เขาต้องการมองเห็นหน้าตาของโลกใบนี้ให้ชัดเจนอย่างแท้จริง

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น จึงจะสามารถเข้าใจได้อย่างครอบคลุม และหาวิธีที่จะจากไปได้

ดังนั้น ในเสี้ยวขณะที่ต่อมา วิถีสูงสุดที่ 8 ก็สำแดงพลังออกมา

ราวกับเปิดม่านหมอกคลุมเครือ มอบระดับที่สูงขึ้นให้กับสวี่ชิง ทำให้ความคิดของเขายกระดับขึ้น

โลกนี้ ปรากฏขึ้นในความคิดของสวี่ชิงอย่างแท้จริง

เปลี่ยนมาชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง

……

นี่คือโลกสีขาวใบหนึ่ง

อยู่ในกระจกบานหนึ่ง

และจุดดำทั้งหมดที่เดินเข้ามาจากนอกกระจก ล้วนอยู่ในโลกของกระจกบานนี้ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ไม่ได้เป็นเพียงจุดอีกต่อไป ไม่ได้จับกลุ่มเป็นเส้นเส้นหนึ่งอีกต่อไป แต่กลับคืนสู่สภาพเดิม อีกทั้ง…มีร่างกาย มีแขนขา มีศีรษะ กลายเป็น…

เงาร่างมากมาย

ไม่ใช่แค่สีดำเท่านั้น

ที่สายตามองเห็น โลกใบนี้ที่สะท้อนในสายตาของสวี่ชิง แม้ยังคงเป็นสีขาว ทว่าภายในโลกสีขาวนั้นกลับมีสีสันพร่างพราย

เงาสีต่างๆ ประกอบกันเป็นโลกที่งดงามเจิดจรัสใบนี้

ในโลกนี้ เงาทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยความสุขล้นใจ ดูเหมือนไม่มีความทุกข์ ไม่มีเรื่องกังวล ต่างมีอิสระเสรี

บางร่างกำลังร้องเพลง บางร่างกำลังรื่นเริง บางร่างกำลังนอนหลับ บางร่างกำลังวิ่งทะยาน

เพียงแต่ ไม่มีเงาสีส้ม

แต่ดูเหมือนจะไม่มีเงาร่างใดสนใจเรื่องนี้ ต่างจมอยู่ในความสุขของตัวเอง

นอกจากนี้ โลกนี้ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำ ไม่มีสรรพสิ่งทั้งหลาย…

มีเพียงเงาหลากสีสันนับไม่ถ้วน ที่แผ่ขยายไปทั่วทุกทิศทาง

จ้องมองทุกอย่างนี้ สวี่ชิงก็ครุ่นคิด ตรวจสอบตัวเอง เขาเห็นสีของตัวเองเป็นสีเขียวคราม

“โลกชั้นแรก คือเส้นที่ประกอบด้วยจุดดำนับไม่ถ้วน ไม่มีนิยามของซ้ายขวา บนล่าง”

“โลกชั้นที่ 2 นี้ มีซ้ายขวา ราวกับพันธนาการคลายออกไปบางส่วน แต่…ก็ยังไม่มีนิยามของบนล่างที่สมบูรณ์แบบ”

“เพราะว่า นี่คือโลกในกระจก และกระจกเอง…ก็แบนราบ”

“ก็เหมือนกับภาพวาดภาพหนึ่ง”

“ข้า อยู่ในภาพวาด”

“ดังนั้น ข้าในภาพวาด ใช้ครรลองสายตาของตัวเองมองไปรอบๆ ก็เห็นแต่ความเวิ้งว้าง แต่ตัวตนที่อยู่นอกภาพวาดมองเข้ามา ที่นี่คือโลก”

“เหตุผลที่อารมณ์ได้รับอนุญาตให้มีความสุขเท่านั้น นั่นเป็นเพราะรูปแบบของภาพวาดนี้ มีหัวข้อเป็นความสุข ดังนั้นสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในภาพวาด จึงไม่อาจไม่มีความสุข”

“เช่นนั้น…วิธีการออกจากที่นี่คืออะไร”

สวี่ชิงครุ่นคิด

เนิ่นนาน เขาก็มีการวิเคราะห์อย่างหนึ่ง

ดังนั้นเขาจึงคลายธรรมนูญกาลอวกาศของตนเองออกไปในระดับหนึ่ง ลดระดับความคิดของตนเองลง และกลับกลายเป็นเงาสีเขียวครามอีกครั้ง อยู่ในโลกอันเรียบง่าย จมดิ่งอยู่ในความสุข

เขากำลังรอ รอให้สีส้มปรากฏขึ้น

กาลเวลาไหลผ่านไป ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในยามที่ความสุขที่นี่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จำนวนเงาของโลกทั้งใบดูเหมือนจะถึงจุดวิกฤตบางอย่าง…

สวี่ชิงก็รอจนกระทั่งสีส้มปรากฏขึ้นจนได้

“จอมมารผู้ยิ่งใหญ่มาแล้ว”

เสียงแหลมเล็กเสียงหนึ่ง ในเสี้ยวขณะนี้ก็ดังก้องไปทั่วทั้งโลก ดังสนั่นหวั่นไหว ดุจภูเขาถล่มทะเลทลาย แผ่ไปทั่วทุกพื้นที่ ตกลงสู่การรับรู้ของเงาทุกร่าง

เพียงพริบตา ราวกับว่าหัวข้อของภาพวาดนี้ถูกบิดเบือน จากความสุขกลายเป็นความหวาดกลัว

สีส้ม ปรากฏขึ้นแล้ว

แผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ เข้ามาใกล้เรื่อยๆ

อารมณ์ความรู้สึกในใจของสวี่ชิงก็พลิกผัน เกิดความหวาดกลัวผุดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด และธรรมนูญกาลอวกาศเขาก็เปิดใช้อีกครั้งโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ทำให้ตัวเองมีความสามารถในการ ‘มองเห็น’

เขามองเห็น…ในโลกสีขาวที่เต็มไปด้วยเงาหลากสีสันนี้ มีเงาร่างใหญ่ยักษ์ร่างหนึ่ง ร่างนี้สวมเสื้อคลุมยาวสีส้ม ใบหน้าสวมหน้ากากอันน่าสะพรึงกลัว ทั่วร่างแผ่ซ่านความชั่วร้ายไม่สิ้นสุด

มือหนึ่งถือถัง อีกมือหนึ่งถือแปรง

ถังเป็นสีส้ม ภายในบรรจุสีส้มเอาไว้ แต่แปรงนั้นกลับไม่มีสี

ตอนนี้มาเยือนอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้าใส่เงาอื่นๆ

รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เงาในโลกนี้ไม่อาจหลบหลีกได้ และไม่อาจต้านทานได้ ในเสี้ยวพริบตาที่ถูกไล่ตามทัน แปรงในมือของจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ก็สะบัด กวาดเอาสีจากร่างของเงาออกไปเป็นจำนวนมาก

ทำให้เงาเหล่านั้นไร้สีสัน กลายเป็นความว่างเปล่า

จากนั้นก็หลอมรวมเข้ากับโลกนี้ กลายเป็นจุดนับไม่ถ้วน สลายหายไป

ราวกับว่า…กลับคืนสู่ชั้นแรก!

เมื่อมองด้วยการรับรู้ของโลกนี้ นี่คือจอมมารผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ

การมาเยือนของเขา ได้เอาสีสันไป ได้เอาชีวิตไป ทำให้ทุกสิ่งกลับคืนสู่จุดเริ่มต้น

แต่ไม่ใช่เงาทั้งหมดที่จะเป็นเช่นนั้น

บางครั้ง…จะมีเงาเพียงไม่กี่ตัว ดูเหมือนจะมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง ดังนั้นจอมมารผู้ยิ่งใหญ่จึงไม่ได้เอาสีไป แต่กลับใช้แปรงในมือ จุ่มสีส้มจากในถังเล็กน้อย แล้วป้ายลงไป…

จะทาสีเปลี่ยนให้เงาที่เขาหมายตากลายเป็นสีส้ม

จากนั้นเงาสีส้มเหล่านี้ก็ตกลงไปในถัง

สวี่ชิง คือหนึ่งในนั้น

ธรรมนูญกาลอวกาศของเขา ในเสี้ยวขณะที่ถูกทา ก็ถูกควบคุมทันที!

ไม่อาจต้านทาน ไม่อาจดิ้นรนได้ แต่ก็ได้รับอนุญาตให้คงอยู่

ภาพนี้ทำให้จิตใจของสวี่ชิงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

ส่วนในถัง มีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง

เมืองสีส้ม

ในนี้ก็มีเงาเช่นกัน ล้วนเป็นสีส้มเหมือนกับสวี่ชิง

ในพริบตาที่ตกลงไปในเมือง สวี่ชิงก็ดูเหมือนจะกลายเป็นพลเมืองของเมืองนี้ ขณะเดียวกันสิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกง่วงซึม

ความรู้สึกนี้ เกินขีดจำกัดของธรรมนูญของเขา ทำให้เขาที่โดยพื้นฐานแล้วรักษาธรรมนูญกาลอวกาศไว้ได้ ก็ยังยากที่จะต้านทานความรู้สึกง่วงงุนนี้

เพราะว่า…ในเมืองสีส้มแห่งนี้ เงาทุกร่างที่ถูกส่งเข้ามาที่นี่ ได้รับอนุญาตให้ทำสิ่งเดียวเท่านั้น

นั่นคือการหลับใหลเพื่อไปสร้างความฝัน

ความฝันที่แตกต่างกัน ราวกับนิทานแต่ละเรื่อง สุดท้ายก็จะรวมด้วยกัน เกิดเป็นโลกแห่งนิทานที่สมบูรณ์

สวี่ชิงก็ไม่ต่างกัน

ในเมืองสีส้มแห่งนี้ เขาจำต้องหลับตาลง จมดิ่งอยู่ในความฝัน

ความฝันครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อตัวขึ้นในความคิดของเขาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็ถูกดูดซับไปอย่างตะกละตะกลาม

กลายเป็นวงจรที่ไม่มีวันสิ้นสุด

และไม่อาจตื่นขึ้นมาในความหมายที่แท้จริงได้

มีเพียงบางครั้งที่ในความฝัน สวี่ชิงจะพยายามคิดหาเหตุผลของเรื่องทั้งหมด

เขาค่อยๆ จินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้นำเซียนจี๋กวง ยืนอยู่ในมุมมองของผู้นำเซียนจี๋กวง สัมผัสทำความเข้าใจว่าโลกที่เกิดจากความคิดของอีกฝ่ายก่อนตาย ต้องการจะสื่ออะไร

ดังนั้น สวี่ชิงจึงคาดเดา

เมืองสีส้มแห่งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่ามีนัยยะถึงเมืองเซียน

เช่นนั้นจอมมารผู้ยิ่งใหญ่หมายถึงใคร…

ก็มีเป้าหมายแล้ว

เช่นนี้เอง เวลาไหลผ่านไป

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร และไม่รู้ว่ากาลเวลาหมุนเวียนไปถึงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วงในปีใด ในความฝันที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบของสวี่ชิง ในครั้งนี้ มีมนุษย์จิ๋วสีขาวคนหนึ่งปรากฏขึ้น

มนุษย์จิ๋วคนนี้ ร่างกายถูกวาดด้วยเส้น มีศีรษะขนาดใหญ่ กินพื้นที่ไปครึ่งหนึ่งของร่างกาย บนหน้าผากมีอักษร 4 ตัวเขียนเอาไว้

นอกจากนี้แล้ว ร่างกายทั้งหมดของมันดูเรียบง่ายอย่างยิ่ง แบกสีหลากสีสันกลุ่มหนึ่ง เดินเข้ามาในความฝันของสวี่ชิงอย่างระมัดระวังและลับๆ ล่อๆ

ไม่พูดอะไร เพียงแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสวี่ชิง มันก็ดีดนิ้ว

เป๊าะ!

เสียงนี้ ดุจฟ้าผ่า ฟาดมาในใจของสวี่ชิง ดังกึกก้องไม่สิ้นสุด

ทำให้สติรับรู้ของสวี่ชิงปั่นป่วนในทันที ทำให้เขาตื่นขึ้นมาได้ในระยะเวลาสั้นๆ

เมื่อเห็นสวี่ชิงตื่นขึ้นมา มนุษย์จิ๋วก็ฉีกยิ้ม ยกนิ้วชี้ไปที่ตัวอักษรบนใบหน้า แล้วชี้ไปที่ไกล สุดท้ายก็ชี้ไปที่สีหลากสีสัน จากนั้น…เต็มไปด้วยความคาดหวัง

สวี่ชิงเงียบนิ่ง อาศัยการตื่นสั้นๆ นี้ เขาก็จัดระเบียบความคิดที่ขาดช่วงในความฝันของตนเองทันที ประกอบกับสีหน้าและการกระทำของมนุษย์จิ๋วเบื้องหน้า

คำตอบหนึ่ง ปรากฏขึ้นในการรับรู้ของเขา

“มนุษย์จิ๋วศีรษะโตนี้น่าจะแปลงมาจากความคิดสุดท้ายของผู้นำเซียนจี๋กวงก่อนตายเป็นแน่”

สวี่ชิงมองตัวอักษร 4 ตัวบนศีรษะใหญ่ของมนุษย์จิ๋วเบื้องหน้า

ข้าคือจี๋กวง

สวี่ชิงไม่รู้จะพูดอะไรดี ตัวอักษรบนใบหน้าของมนุษย์จิ๋วนี้ จะอย่างไรก็ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ อยู่ดี

“บางทีอาจเป็นเพราะข้ามีธรรมนูญกาลอวกาศ ดังนั้นมันจึงปรากฏตัวขึ้น หรือบางทีอาจจะปรากฏต่อหน้าผู้มาเยือนจากภายนอกที่บุกเข้ามาในโลกชั้นที่ 2 ทุกคน”

“แต่ไม่ว่าอย่างไร โลกชั้นที่ 2 ที่ผู้นำเซียนจี๋กวงสร้างขึ้นมา และวิธีการออกจากที่นี่ เขาก็ได้ให้ไว้แล้ว”

“นั่นคือการทาสีหลากสีสัน เลือกสีที่แตกต่างจากที่นี่ ราวกับว่า…เป็นการทรยศวิถี!”

เหมือนว่าจะมองความคิดของสวี่ชิงออก สีหน้าคาดหวังบนใบหน้าของมนุษย์จิ๋วยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

สวี่ชิงแอบส่ายหน้าในใจ

“หากคนผู้นี้เป็นผู้นำเซียนจี๋กวงจริงๆ เช่นนั้น…ความแค้นที่เขามีต่อราชาเซียนก็ลึกซึ้งถึงขีดสุด ถึงขนาดที่โลกที่เขาสร้างขึ้นมา วิธีการออกจากที่นี่ก็ต้องเหมือนกับการตัดสินใจของเขาในตอนนั้นจึงจะได้…”

“แต่ตอนนี้ดูแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นจริงๆ”

สวี่ชิงหรี่ตาลง ไม่ลังเลอีกต่อไป มือขวายกขึ้นคว้าไปข้างหน้า คว้าเอาสีหลากสีสันที่มนุษย์จิ๋วศีรษะโตแบกอยู่มาทันที แล้วป้ายลงไปที่ร่างของเขา

ในเสี้ยวขณะที่ต่อมา ทั้งร่างเขาสะท้านเฮือก สีของร่างกายก็เปลี่ยนจากสีส้มกลายเป็นหลากสีสันทันที

และเมืองทั้งเมืองก็ดังครืนครั่นเลื่อนลั่นขึ้นในเสี้ยวพริบตานี้ ราวกับพื้นดินสั่นไหวผืนฟ้าสะเทือน เสียงคำรามต่ำๆ ก็ดังออกมาจากความว่างเปล่า สั่นสะเทือนจนฟ้าดินไร้สี

จากนั้น สีส้มนับไม่ถ้วน ก็กลายเป็นมือใหญ่ข้างหนึ่ง พุ่งลงมาจากฟ้า ตรงดิ่งมายังสวี่ชิง!

“จอมมารผู้ยิ่งใหญ่มาแล้ว ลูกชาย หนีเร็วเข้า!”

มนุษย์จิ๋วตื่นเต้น กล่าวออกมาเป็นครั้งแรก เสียงแหลมเล็ก

ขณะที่คำพูดดังออกมา มันก็ยกมือขึ้นลากเบื้องหน้า วาดเป็นวงกลมวงหนึ่งออกมาทันที ทั้งตัวพุ่งเข้าไปในวงกลมนั้นอย่างรวดเร็ว

สวี่ชิงไม่ลังเล พุ่งเข้าไปเช่นกัน

วงกลมนั้นก็หายไปทันที

แทบจะในเสี้ยวพริบตาที่พวกเขาจากไป มือใหญ่สีส้มข้างนั้นก็มาถึงทันที คว้าไปยังบริเวณที่สวี่ชิงเคยอยู่ คว้าไปได้เพียงความว่างเปล่า

เสียงคำรามอย่างโกรธโมโห ดังสะท้านสะเทือนฟ้าดิน

เงาสีส้มเล็กๆ ทุกร่างที่หลับใหลอยู่ในเมืองทั้งหมดต่างสะดุ้งตกใจตื่น

ในเสี้ยวขณะที่ต่อมา ต่างก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า บินออกไปจากถังสีส้ม มาปรากฏตัวยังโลกภายนอก แผ่ขยายออกไปทั่วทุกสารทิศทันที

ไล่ล่าสังหาร!

จะอาบย้อมโลกใบนี้ให้กลายเป็นสีส้มทั้งหมด

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version