1013. อสุรกาย
ไม่มีใครรู้ว่าถ้ำที่ห้าในแดนสวรรค์วิญญาณเทพซึ่งมีจักรพรรดิเทพฉิงหลินอยู่นั้นหน้าตาอย่างไร แม้กระทั่งขนาดก็ไม่รู้
มีเพียงฉิงหลินเท่านั้นที่เข้าไปได้ คนนอกไม่อนุญาติให้เข้ามาและใครฝ่ามือจะถูกสังหาร!
แม้แต่ฉิงซวงก็ไม่เคยก้าวเข้าไปข้างในแม้เพียงครึ่งก้าว ถ้ำที่ห้าแห่งนี้เป็นความลับของฉิงหลินแน่นอน!
เมื่อแสงสีม่วงจางหาย ทุกคนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หวังหลินรู้สึกร่างกายแตกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย เป็นความรู้สึกประหลาดแต่ไม่รู้สึกเจ็บปวด
รู้สึกว่ามันคงอยู่นานมากแต่ความจริงกินเวลาเพียงพริบตา หวังหลินปรากฏตัวในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
สถานที่แห่งนี้ปกคลุมไปด้วยทรายสีดำมองไม่เห็นเส้นขอบฟ้า สายลมพัดผ่านผืนทรายดุจพายุทอร์นาโด
แม้กระทั่งท้องฟ้ายังมือมนราวกับถูกห่อด้วยสีเทาๆเหนือท้องฟ้า หากมองขึ้นนานเกินไปคงรู้สึกหนักอึ้ง
หวังหลินมองท้องฟ้าและยืนอยู่ในทะเลทรายสีดำ สีหน้ามืดมน
เขาแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปแล้วแต่สัมผัสวิญญาณเขาซึ่งปกติปกคลุมทั้งดินแดนวิญญาณปิศาจได้ง่ายๆกลับไม่สามารถหาขอบเขตของมิตินี้ได้ หวังหลินอยู่เพียงคนเดียวในระยะสัมผัสวิญญาณ
ดูเหมือนทุกคนที่เข้ามากระจัดกระจายกันออกไปจนยากจะมาพบเจอกันได้
หวังหลินลอยตัวกลางอากาศ ทว่าเขาลอยขึ้นไปได้เพียงร้อยฟุตเท่านั้น สีหน้าพลันเปลี่ยนไปและสัมผัสวิกฤติตกลงมาจากเบื้องบน หวังหลินร่อนลงพื้นโดยไม่ลังเล ลำแสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากตาขวาเปลี่ยนกลายเป็นโล่ห์ฟ้าคราม
วินาทีที่โล่ห์ฟ้าครามปรากฏ ควันสีเทาตกลงมาจากท้องฟ้า สัมผัสเข้ากับโล่ห์ฟ้าครามอย่างรวดเร็วในพริบตา
ปัง!
หวังหลินถอยไปมากกว่าร้อยฟุตก่อนจะหยุดลง หวังหลินแววตาเยือกเย็นจากนั้นกำหมัดโยนออกไปโดยไม่ลังเล
ร่างเงาเทพโบราณปรากฏด้านหลัง กำปั้นแฝงพลังอำนาจเทพโบราณเข้าปะทะกับควันสีเทาและทำให้มันพังทลาย
ทว่าไม่เพียงแต่การพังทลายของมันจะไม่ทำให้หวังหลินผ่อคลาย มันยังทำให้เขาหรี่ตาแคบและรีบถอยอย่างรวดเร็ว
ควันสีเทาที่แตกสลายไม่ได้หายไปไหนแต่เปลี่ยนกลายเป็นควันสีเทาสิบสายทรงพลังยิ่งกว่าพุ่งเข้าใส่หวังหลินจากสิบทิศทาง
หวังหลินพูดบังคับให้ล่าถอยพร้อมกับเกิดเสียงดังคะนองอย่างต่อเนื่อง ควันสีเทาเคลื่อนไหวไล่ล่าเขาอย่างรวดเร็ว แม้มันจะถูกโล่ห์ขัดขวางไว้จนหมดแต่แรงกระแทกก็ยังทำให้ร่างหวังหลินสั่นสะเทือน
หวังหลินถอยไปมากกว่าหมื่นฟุต เมื่อเห็นควันสีเทาโจมตีอีกครั้งหวังหลินจึงพ่นแกนพลังดั้งเดิมออกมา
ทั้งสองปะทะกัน หวังหลินกำหมัดโยนออกไป ฉากเหตุการณ์นั้นทำให้หวังหลินอ้าปากค้างอีกครั้ง
ควันสีเทาสิบสายแตกสลายแต่พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นร้อยเส้นพุ่งใส่หวังหลิน
‘นี่มันบัดซบอะไรกัน!?’ หวังหลินหนังศีรษะด้านชา เขาไม่ลำบากนักกับแรงสะท้อนของกำปั้นแรก แต่แรงสะท้อนกำปั้นที่สองนับว่าใหญ่โตทีเดียว ฝ่ามือยังคงเจ็บปวดจากกำปั้น
แม้ความเจ็บปวดจะหายไปในเวลาไม่นาน หวังหลินไม่กล้าโยนกำปั้นที่สามออกไป
ขณะที่ถอยอย่างรวดเร็ว โล่ห์ฟ้าครามล้อมรอบหวังหลินเข้าต่อต้านการโจมตีของควันสีเทา
หวังหลินเคลื่อนร่างดุจเส้นยาวๆข้ามผ่านทะเลทรายสีดำพลางถอยร่นจากการไล่ล่าของควันสีเทา การเคลื่อนไหวของหวังหลินหวาดเป็นเส้นยาวๆในทะเลทราย
การเคลื่อนที่พริบตาไม่สามารถใช้ที่นี่ได้และหวังหลินพยายามใช้บิดมิติแล้ว ถึงแม้จะใช้ได้แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็เคลื่อนไปได้นิ้วเดียว!
‘ข้าพึ่งเข้ามาแต่ก็เจอเรื่องประหลาดแบบนี้แล้ว’ หวังหลินเผยรอยยิ้มบิดเบี้ยว เมื่อเห็นว่าควันสีเทาไล่ล่าอย่างไม่ลดละ แววตาหวังหลินกระพริบจิตสังหาร
แขนขวาสร้างผนึก จากนั้นหวังหลินหันกลับมาและร้องตะโกน “เรียกขานสายลม!”
เมื่อพลังกายไม่สามารถทำลายควันได้ หวังหลินจึงเลือกใช้วิชาเทพ
สายลมทมิฬหนาแน่นปรากฏขึ้นมาในโลกสีเทาและมังกรดำสี่ตัวปรากฏ
ทว่าขณะที่มังกรดำสี่ตัวปรากฏ ท้องฟ้าเปลี่ยนไปราวกับทะเลคลั่ง!
ปรากฏควันสีเทาหลายเส้นสายนับไม่ถ้วนในท้องฟ้า พวกมันเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกลายเป็นสายลมกวาดผ่านพื้นที่ หวังหลินตกตะลึงเมื่อเห็นมังกรดำสี่ตัวถูกกวาดผ่านออกไป
รู้สึกหนังศีรษะด้านชาและรีบหนีอีกครั้ง สายลมสีเทาด้านหลังขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้นพร้อมกับดูดซับควันสีเทามากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วมันกว้างกว่าหมื่นฟุตและไล่ล่าหวังหลิน
หวังหลินรู้สึกถึงพลังดึงดูดจากด้านหลัง สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงก็คือไม่ว่าสายลมนี้จะผ่านไปตรงจุดไหน จะเกิดควันสีเทาขึ้นมาและโดนดูดซับ
ซึ่งทำให้สายลมพายุนี้ขยายขนาดใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
‘นี่มันอะไรกันแน่!?’ หวังหลินกัดฟันแน่น ปรากฏเตาหลอมเทพโบราณขึ้นรอบตัวหวังหลิน พลังเทพโบราณเข้าไปในเตาหลอมทำให้เขาหายวับไปทันที ปรากฏตัวห่างออกไปพันฟุต
แม้จะเป็นเพียงพันฟุตแต่ก็ทำให้หวังหลินตั้งมั่นได้ สายลมใช้เวลาข้ามผ่านหนึ่งพันฟุตด้วยเวลาหนึ่งวินาที แม้เขาจะใช้พลังเทพโบราณทั้งหมดใส่ลงไปในเตาหลอมเพื่อหลยหนี มันก็ยังไม่เพียงพอ
หากต้องการหลบหนีจริงๆ เขาต้องทำให้สายลมหยุดลงให้ได้ ถึงแม้จะเพียงแค่หนึ่งวินาทีก็ทำให้หวังหลินพอมีหวัง
หวังหลินเหวี่ยงศีรษะกลับมาและสัมผัสกระเป๋า กระบี่มากกว่าสิบเล่มลอยออกมา
กระบี่ก่อตัวเป็นวังวนพุ่งเข้าใส่พายุ
ตอนนี้ไม่มีเวลามารู้สึกปวดหัว เมื่อกระบี่มากกว่าสิบเล่มเข้าไปใกล้พายุ หวังหลินร้องตะโกน “กระบี่ ระเบิด!”
ขณะร้องตะโกน กระบี่หนึ่งในนั้นส่งกลิ่นอายทำลายล้าง ระเบิดกลายเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่พายุ ขณะเดียวกันกระบี่ที่เหลือทั้งหมดก็ระเบิดไปด้วย
เศษเสี้ยวนับไม่ถ้วนผ่านสายลมเข้าไปทำให้มันหยุดชะงักหนึ่งจังหวะ
เตาหลอมเทพโบราณกระพริบวาบ หวังหลินหายตัวและปรากฏห่างออกไปพันฟุต หลังจากนั้นเตาหลอมเทพโบราณกระพริบอีกครั้ง
มันกระพริบเก้าครั้งในคราเดียว หวังหลินปรากฏตัวห่างออกไปเกือบหมื่นฟุต แต่ไม่คลายกังวล สายลมหยุดชะงักไปหนึ่งจังหวะและไล่ล่าเขาต่อไป
หวังหลินสีหน้าขมขื่นพลางกัดฟันแน่น แขนขวายื่นออกไปปรากฏรอยร้าวเบื้องหน้า และมีภาพมายาหอกสังหารเทพเจ้าออกมา
หวงหลินถือหอกเอาไว้และโยนเข้าใส่!
หอกเข้าไปใกล้สายลมทันทีและพุ่งผ่านไป กลิ่นอายทำลายล้างปะทุขึ้นและเกิดการระเบิดราวกับฟ้าดินกำลังสั่นสะเทือน
สายลมแตกสลาย!
หวังหลินใช้โอกาสนี้กระตุ้นเตาหลอมเทพโบราณอีกครั้งและใช้มันอีกหลายสิบครั้งในคราเดียว
ทว่าสีหน้าหวังหลินพลันซีดเผือดกับฉากเหตุการณ์เบื้องหลัง
สายลมที่แตกสลายไปเป็นเช่นเดียวกับควันสีเทา มันเปลี่ยนกลายเป็นสายลมหลายสิบจุดมีขนาดเดียวกันและไล่ตามหลังหวังหลิน
ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้สายลมนี้หายไปได้ ยิ่งเขาโจมตีก็ยิ่งปรากฏตัว เป็นครั้งแรกที่หวังหลินเผชิญหน้ากับของแบบนี้!
ด้วยระดับบ่มเพาะของตนเองจึงเห็นได้ว่าสายลมนั้นไม่มีอันใดเป็นของปลอม ทั้งหมดล้วนเป็นจริง!
‘ข้าไม่สามารถสลายมันได้ ทั้งใช้สมบัติและวิชาเซียน เมื่อสายลมนี้สลายไปอีกครั้งจะเปลี่ยนไปเป็นนับร้อย ข้าจะหลบมันได้อย่างไร?’
สายลมเข้ามาใกล้ขึ้นและใช้ขึ้นและดูดซับควันสีเทาอย่างต่อเนื่องจนทำให้มันแข็.แกร่ง หวังหลินรู้ว่าถึงจะมีเตาหลอมเทพโบราณสามารถรักษาระยะได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น
‘เมื่อข้าหลบมันไม่ได้ ข้าก็ต้องต่อต้าน!’ หวังหลินหยุดทันที เขาไม่ให้มันได้เพิ่มพลังขึ้นอีก เมื่อเขาหยุดลงพลังเทพโบราณเต็มไปทั่วร่างกายและร่างขยายขนาด!
ร่างที่แท้จริงของเทพโบราณปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
ร่างสูงหลายพันฟุตคล้ายจะค้ำจุนโลก ดาวเทพโบราณห้าดวงหมุนอย่างรวดเร็ว หวังหลินร้องเสียงคำรามสั่นสะเทือนทั้งโลก!
เขาไม่หนีอีกแล้ว พลางเดินไปข้างหน้า เตาหลอมเทพโบราณกระพริบวาบและหายตัวไป ปรากฏตัวเบื้องหน้าสายลม
ภายในส่วนลึกของถ้ำที่ห้าในแดนสวรรค์วิญญาณเทพมีสะพานไม้อยู่หนึ่งแห่ง ใต้สะพานมีน้ำสีดำไหลเอื่อย บางครั้งก็มีเงาน่าเกลียดกระพริบอยู่ในน้ำ
บนสะพานมีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่
มองไม่ออกว่ารูปร่างหน้าตาแบบไหนแต่พอจะบอกได้ว่ารูปร่างนั้นกำลังสวมชุดเกราะ ปกคลุมร่างด้วยหมอกสีดำหนาแน่นเต็มไปด้วยพลังมาร พลังมารหนาแน่นราวกับอยู่ในนรกปิศาจ!
ร่างกายนั่งนิ่งไม่เคลื่อนไหว เบื้องหน้ามีขวดเล็กๆลอยอยู่ปิดผนึกด้วยจุกไม้ ดูไม่ออกว่าข้างในมีอะไร
คนในสายหมอกสีดำค่อยๆลืมตาขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือดและเลียริมฝีปาก เอ่ยเสียงแหบพร่าคล้ายกระดูกเสียดสีกัน “ใครจะออกมาเป็นคนแรก…ข้าไม่ได้ลิ้มรสชาติมนุษย์มาหลายปีแล้ว…”