1031. รอยสักร่วงโรย
ขณะที่คลื่นโกรธเกรี้ยวโผล่ขึ้นเหนือทะเลสีฟ้าคราม คลื่นหลายชั้นผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นคลื่นยักษ์ มองไกลๆมันเหมือนเส้นสีฟ้าค่อยๆแพร่กระจายเข้าหาหวังหลิน
ก่อนมันจะได้เข้ามาใกล้ คลื่นพลันเกิดเสียงกึกก้องดังออกมาจนทำให้วิงเวียน
หวังหลินสายตาเคร่งเครียดจ้องมองออกไปยังคลื่นเบื้องหน้า ฝ่าเท้าก้าวไปบนทะเลและถอยทันที พลางเกิดความคิดขึ้นในใจ
‘ที่ที่ข้าร่อนลงไปเป็นสวนดอกไม้เท่านั้น แม้ข้าไปกระตุ้นกฏเกณฑ์มันก็ไม่ควรปรากฏบนทะเลสิ…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างเฝ้าดูคลื่นที่เข้ามาเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เพียงพริบตามันก็มาถึงเบื้องหน้าเขาแล้วและบดขยี้ลงเข้าใส่
‘คลื่นกระแทกจากการพังทลายของสระฝังเทพได้ทำให้ร่างข้าบาดเจ็บและทำให้วิญญาณดั้งเดิมสั่นไหว ตอนนี้ข้าจำเป็นต้องฟื้นตัวให้เร็วที่สุด เมื่อทะเลประหลาดนี้เป็นส่วนหนึ่งของกฏเกณฑ์ เช่นนั้นจะต้องมีสิ่งที่ตามมาไม่หมดไม่สิ้น…’
ขณะคลื่นเข้ามาใกล้ ไอน้ำหนาแน่นเต็มทั่วพื้นที่ มองไกลๆดูเหมือนหมอกอยู่ส่วนหน้าของคลื่นก่อนที่มันจะถูกคลื่นพัดสลาย
คลื่นเข้ามาใกล้และสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งสูงขึ้นก็ยิ่งกระแทกใส่หวังหลินอย่างรุนแรง
วินาทีนั้นดวงตาหวังหลินกระพริบวาบ เพียงก้าวเท้าเขาก็จมลงไปในน้ำ ตกลงไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นเหล็กหลายพันชั่ง
เมื่อร่างหายไป คลื่นเข้าปะทะกับพื้นผิวทะเล เกิดการสั่นสะเทือนที่มองไม่เห็นแพร่กระจายจนมีอีกหลายคลื่นปรากฏขึ้นมากวาดผ่านไป
หวังหลินจมดิ่งลงไปอย่างต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงแรงสั่นสะเทือนจนทำให้เกิดคลื่น เขาไม่สนใจคลื่นรุนแรงบนผิวทะเลและมุ่งหน้าลงก้นทะเล
ขณะเคลื่อนที่ลงไป จึงเริ่มขมวดคิ้ว
‘นี่ไม่ใช่ทะเลของจริง ข้าไม่เห็นแม้แต่สิ่งมีชีวิตสักตัว…นอกจากนี้ยังมีเรื่องสำคัญกว่า…’ หวังหลินหยุดร่าง ฝ่ามือขวาสร้างผนึก ชี้ออกไปและเกิดวังวนขึ้นมา ตอนแรกมันไม่ได้ใหญ่นักแต่ในไม่นานมันก็แพร่กระจาย พริบตาเดียวมันกว้างร้อยฟุตและผลักน้ำให้ออกไปดูคล้ายกับฟองสบู่ยักษ์
หวังหลินเข้าไปในฟองสบู่ ฝ่ามือขวายื่นออกไปข้างหน้า น้ำขนาดเท่ากำปั้นเข้ามาข้างในฟองสบู่และร่อนลงในมือหวังหลิน
หวังหลินถือก้อนน้ำทะเลวางไว้ใกล้จมูกและดมกลิ่น ดวงตาส่องสว่างขึ้นในจังหวะนั้น
‘เป็นตามที่ข้าคาดคิด น้ำทะเลแห่งนี้ไม่มีกลิ่นเหมือนทะเล!’ หวังหลินวางไว้ใกล้ปากและเลียมัน
‘มันไม่ใช่น้ำทะเล!’ บีบแขนขวาอย่างรุนแรง ก้อนน้ำทะเลพลันพังทลายทันที
หวังหลินเงยศีรษะขึ้นขบคิด
‘มันคือน้ำค้าง! ช่วงแรกของการฝึกเซียน ข้าต้องพึ่งน้ำค้างจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า ข้าจึงคุ้นเคยกับมัน นี่มันไม่ใช่ทะเล มันคือหยดน้ำค้างบนกลีบดอกไม้หรือไม่ก็ใบไม้!’
หวังหลินมองไปรอบๆอย่างชื่นชม ดวงตาเกิดความเข้าใจ
‘กฏเกณฑ์ทรงพลังอะไรกันนี่ กักขังคนไว้ในโลกที่อยู่ในหยดน้ำค้าง’ หลังจากมองทะลุทะเลแห่งนี้ ไม่เพียงแต่หวังหลินไม่สบายใจแต่อาการยิ่งเคร่งเครียด
‘กฏเกณฑ์มักจะเน้นไปที่การกักขังและโจมตี มีน้อยมากเป็นแบบกักขังอย่างเดียว ที่นี่คือถ้ำจักรรพรรดิเทพและจากที่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ามารยักษ์ ฉิวเย่าบอกมา ฉิงหลินเป็นคนที่เหี้ยมโหด ไม่มีทางที่จะวางกฏเกณฑ์ไว้ที่นี่เพียงเพื่อกักขังใครสักคน’ หวังหลินครุ่นคิด อดไม่ได้ที่จะมองดูกระเป๋า ก่อนเข้ามาเขาเห็นอวตารของฉิงหลินเข้าไปในผนึกสีเหลืองในเป๋าเขาด้วย
‘จากท่าทางของฉิวเย่า ดูไม่เหมือนว่านางจะพูดโกหก อย่างไรก็ตามจากการบ่มเพาะมากกว่าพันปีของข้า ไม่มีทางที่ข้าจะนำคำพูดคนอื่นมาตีค่า มันเหมือนขาวกับดำ หากแยกออกจากกันมันแตกต่างแน่นอน แต่หากผสมเข้าด้วยกันมันก็จะเกิดสีเทา!’ สำหรับหวังหลินแล้ว เขาไม่เคยคิดจะเชื่อคนที่คนอื่นบอกเลยเว้นแต่จะเห็นด้วยตัวเองหรือคิดได้เอง
เป็นประสบการณ์ที่เขาได้รับหลังจากบ่มเพาะเกินพันปี หากเกิดขึ้นตอนที่เขาเป็นคนธรรมดาหรือพึ่งเข้าร่วมสำนักเหิงยั่ว เขาก็คงเชื่อไปแล้ว
‘จะถูกหรือผิดก็ไม่สำคัญ อย่างน้อยข้าก็พอจะรู้นิสัยของฉิงหลินได้บ้าง ข้าไม่สามารถกระตุ้นกฏเกณฑ์ที่นี่ได้!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างพลางจัดการให้ฟองสบู่ลงไปลึกมากขึ้นอย่างระมัดระวัง
หลังผ่านไปสักพักเขาก็ร่อนลงถึงก้นทะเล ก้นทะเลเป็นสีเทาและส่งความรู้สึกสลัวๆ หวังหลินนั่งอยู่ก้นทะเล หลับตาเพื่อฟื้นฟูตัวเอง
แม้กำลังฟื้นฟูแต่ไม่ได้ปิดสัมผัสวิญญาณ เขาแพร่กระจายสัมผัสออกไปร้อยฟุตรอบตัวเอง สังเกตการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างด้วยความระวัง
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ พริบตาเดียวเจ็ดวันก็ผ่านไป ในวันที่แปด หวังหลินลืมตาขึ้นมา ในแววตากระพริบเพลิงวูบวาบ
เขาขบคิดเล็กน้อย ที่ก้นทะเลเงียบสงัด หวังหลินนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างในถ้ำจักรพรรดิเทพ คล้ายกับการตื่นขึ้นของวิหคเพลิงซึ่งทำลายโลกแห่งขวดโดยไม่คาดคิด ความทรงจำหวังหลินจับจ้องบนม้วนคัมภีร์ที่ปรากฏในมือของปิศาจโบราณเป้ยหลัว
‘เดาว่านั่นคือภาพวาดควันทะเลทรายโดดเดี่ยวแห่งภาพวาดขุนเขาและสายน้ำ’
‘วิหคเพลิงตื่นขึ้นผิดเวลา…ข้าไม่คิดว่าการตื่นขึ้นของวิหคเพลิงจะทะลวงดินแดน 99 แห่งทั้งหมดและทำให้ทุกคนรู้เรื่องนี้ ต้องขอบคุณที่พวกเขายังคิดว่าข้าเป็นคนจากสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์’
‘แม้ข้าจะไม่เห็นเงื่อนงำอันใดในสายตาปรมาจารย์ชีกง แต่รู้สึกเหมือนมีเข็มชี้เข้าใส่ข้า’
‘ยังมีหญิงสาววัยกลางคนนั่นอีก นางเป็นแค่ขั้นชำระสวรรค์เท่านั้น แม้จะซ่อนสายตาไว้ได้อย่างดี ข้าก็ยังเห็นร่องรอยต่อต้านนั้นด้วย’
‘สตรีที่คาดว่าจะเป็นเซียนสตรีฟ้ากระจ่างก็เป็นเหมือนกัน’
ตอนนี้เขาต้องระวังมากยิ่งขึ้นในถ้ำจักรพรรดิเทพ ไม่เช่นนั้นการตื่นขึ้นของวิหคเพลิงคงเป็นภัยพิบัติ้ายแรง หวังหลินสัมผัสรอยสักวิหคเพลิงและสีหน้ามืดมน
หลังจากนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับต้าซาน หวังหลินเปลี่ยนท่าทางอีกครั้ง
‘ต้าซาน…เดิมทีเป็นองครักษ์เทพของข้า โชคร้ายนัก…อย่างไรการพบเจอบรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ารอยสักก็ถือเป็นโชคดีของเขา ข้าไม่รู้ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนหรือยังจำข้าได้หรือไม่’ หวังหลินถอนหายใจ พอคิดถึงต้าซานเขาก็คิดเรื่องควันสีเขียวที่ฉิวเย่ามอบให้มา
หวังหลินยกแขนขึ้น เพียงแค่คิดควันสีเขียวก็ผุดออกมาจากแขนก่อตัวเป็นก้อนควันเขียว
ก้อนควันสีเขียวไม่ได้อยู่นิ่งแต่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หวังหลินแบ่งสัมผัสวิญญาณออกมาและส่งเข้าไปในควันเขียวตรงๆ
สีหน้าหวังหลินเปลี่ยนไปและค่อยๆขมวดคิ้ว ขณะที่สังเกตมัน บางครั้งก็ประหลาดใจปนความสุข บางครั้งก็งุนงง
ผ่านไปสักพักหวังหลินบีบแขน ก้อนควันเขียวแตกสลาย
‘รอยสักร่วงโรย…เป็นสิ่งที่ีเพียงเผ่ารอยสักสามารถสร้างขึ้นมาได้เท่านั้น หากคนนอกต้องการสร้างขึ้นมาจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากคนของเผ่ารอยสักให้มากระตุ้น พลังหลักๆแบ่งออกเป็นสี่รูปแบบ ผนึก สลาย หลบหนีและทะลวง!’ หวังหลินตบกระเป๋านำยันต์เซียนสีเหลืองอักขระรูนซับซ้อนขึ้นมา มันดูเก่าแก่และมีสีซีดจาง
เดิมทีหวังหลินได้สองยันต์เซียนนี้มาจากดาราจักรทุกชั้นฟ้า เขาเรียนรู้ศึกษามาอย่างยาวนานแต่ยังไม่รู้วิธีใช้ เขาเคยใช้มันครั้งเดียวเท่านั้นคือตอนที่สู้กับคนของตระกูลเหย่าในดาราจักรทุกชั้นฟ้า
หลังจากมองควันสีเขียว หวังหลินมั่นใจว่ายันต์นี้คือรอยสักร่วงโรย!
หลังจากมองอักขระรูนอันซับซ้อนบนตัวยันต์ หวังหลินเริ่มขบคิด ชั่วขณะต่อมาเขาก็กัดปลายนิ้วชี้และบีบเลือดออกหนึ่งหยด จากนั้นฝ่ามือซ้ายสร้างผนึกตามบันทึกในควันสีเขียวอย่างรวดเร็วและชี้ใส่โลหิต
โลหิตหยุดชะงักกลางอากาศ ตุ่มมากมายปรากฏขึ้นบนผิวโลหิต จากนั้นระเบิดกลายเป็นหมอกสีแดงพุ่งเข้าใส่ยันต์เซียน
มันเข้าไปในยันต์เซียนเร็วมาก หวังหลินจ้องมองวิชาที่เขาพึ่งใช้ไปซึ่งมันเป็นวิธีการตรวจสอบว่ารอยสักร่วงโรยนี้เป็นแบบไหน
ครู่ต่อมายันต์เซียนพลันเคลื่อนไหวและปรากฏลมหมุนสีดำ มันหมุนเร็วมากและทำให้ทะเลรอบด้านเปลี่ยนไป
ภายในลมหมุนปรากฏวิหคขนาดใหญ่รูปร่างพร่ามัว วิหคตัวนี้สีดำสนิท ดวงตาดุจสายฟ้า มันกวาดผ่านลมหมุนครั้งเดียวและหายไปพร้อมกัน
‘นี่คือรอยสักร่วงโรยรูปแบบหลบหนีที่ได้รับกระตุ้นจากเผ่ารอยสักแล้ว!’ หวังหลินหรี่ตาแคบและตบกระเป๋า กระบี่ยักษ์ลอยออกมา มันคือหนึ่งใน 99 กระบี่ที่เขาได้มาจากดินแดนสังหาร
แม้ระเบิดไปมากกว่าสิบเล่ม เขาก็ยังมีอีกจำนวนมาก
หวังหลินถือรอยสักร่วงโรย ประทับมันลงไปบนกระบี่ยักษ์โดยไม่ลังเล จากนั้นฝ่ามือขวาสร้างผนึกประหลาดชี้เข้าใส่ วังวนปรากฏขึ้นรอบกระบี่และจากนั้นหายวับไปทันที
มันหายไปเร็วมากจนแม้แต่หวังหลินก็ยังเห็นแต่เพียงภาพเบลอ เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ กระบี่ยักษ์หายตัวไปและปรากฏตัวห่างออกไปร้อยฟุต
แม้จะเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นความเร็วเต็มที่ด้วยระยะร้อยฟุต หวังหลินก็พอจะคาดเดาได้
‘เร็วอะไรขนาดนี้!!!’ หวังหลินอ้าปากค้างจ้องมองกระบี่ที่ห่างออกไป ลมหมุนหายไป อักระรูนบนยันต์เซียนจางลงเล็กน้อย
‘แม้ข้าจะใช้พลังเต็มที่ก็บรรลุความเร็วระดับนี้ได้ยากมาก บางทีมันสามารถตามทันความเร็วของเซียนขั้นทลายสวรรค์ได้! หากมันใช้ร่วมกับบิดมิติ…’ ดวงตาหวังหลินส่องประกาย