1032. ข้าผิดใช่ไหม?
ตอนที่สระฝังเทพภายในถ้ำจักรพรรดิเทพแตกสลาย ส่งผลกระทบให้ทุกคนกระจัดกระจายเหมือนนกแตกรัง ทั้งหมดเข้ากระตุ้นกฏเกณฑ์ที่แตกต่างกันและหายตัวไป
ณ ขณะนี้ภายในกฏเกณฑ์ซึ่งได้รับการกระตุ้นไปแล้ว สถานที่ป่าทึบ เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใส่และหนาหลายคนโอบ ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยใบไม้ เหลือแต่เพียงช่องว่างเล็กๆให้แสงลอดผ่านคล้ายเสาแสงตกลงมาจากฟากฟ้า
พื้นดินเต็มไปด้วยใบไม้แห้ง แค่หนึ่งก้าวก็สามารถจมลงไปลึกถึงเอวได้แล้ว กลิ่นกระดูกอสูรที่เน่าเปื่อยผสมกับใบไม้ แค่พัดกระพือคงอยากอาเจียนไปบ้าง
ยิ่งเข้าไปในป่าก็ยิ่งมีใบไม้หนาแน่นและมีแสงอาทิตย์เข้ามาถึงน้อยลง ซึ่งยิ่งลึกก็ยิ่งชื้น
มีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่บนใบไม้เน่าเปื่อยภายในส่วนลึกของป่า
ร่างท่อนบนเปลือยเปล่า รอยสักสีแดงโลหิตกระพริบบนหน้าผากและมีศีรษะอสูรอยู่รอบตัว และเพราะศีรษะพวกนี้จึงทำให้ที่นี่มีกลิ่นคาวเลือด
เรื่องน่าประหลาดก็คือผิวหนังตรงระหว่างคิ้วอสูรทั้งหมดโดนถลกออกไปเผยให้เห็นเนื้อสดๆอยู่ข้างใต้
เศษเนื้อหนังที่ถูกถลกออกไปกองรวมกันอยู่ข้างๆและเรืองแสงชั่วร้าย
ผ่านไปไม่รู้เวลาเท่าไหร่ ชายคนนี้ค่อยๆลืมตาขึ้นเผยสายตาหวาดหวั่น เขามองออกไปไกลอย่างสงบนิ่ง ผ่านไปสักพักก็พึมพำขึ้นมา
“แม้ข้าไม่ได้ดูดซับรอยสักศักดิ์สิทธิ์ของบรรพชน ข้าก็ได้รับความเข้าใจเรื่องวิชารอยสักร่วงโรยมากมาย…ทว่าความทรงจำของนายท่านคนก่อนกลับไม่ได้หายไป…” เขาขบคิดเงียบๆก่อนจะถอนหายใจและหลับตาลงอีกครั้ง
หวังหลินซึ่งอยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทร ถอนสายตาออกมาจากกระบี่ยักษ์ เรียกมันกลับคืน ดึงรอยสักร่วงโรยออกมาและเก็บใส่กระเป๋า
‘ด้วยรอยสักร่วงโรยนี่ ข้าจะมีวิธีช่วยชีวิตยามอันตรายเพิ่มอีกหนึ่ง แต่มันก็ลึกลับมากจริงๆ หลังออกไปจากดินแดนวิญญาณปิศาจ ข้าต้องหาโอกาสสร้างเพิ่มขึ้น แต่จากในควันเขียว วัตถุดิบที่ดีที่สุดในการสร้างพวกมันคือแผ่นหนังระหว่างคิ้วของอสูรดุร้าย’
‘ยิ่งอสูรดุร้ายเท่าไหร่ก็ยิ่งเหมาะสมเท่านั้น ทั้งยังส่งผลกระทบต่อพลังอำนาจรอยสักร่วงโรยอีก วิชานี้ต้องรวบรวมวิญญาณอสูรและแก่นโลหิตตรงระหว่างคิ้วก่อนที่จะถลกหนัง…’
หวังหลินสูดหายใจลึกและตบกระเป๋า แสงสีเหลืองกระพริบวาบปรากฏผลึกสีเหลืองในฝ่ามือ
แค่จ้องมองผลึก ดวงตาหวังหลินก็เริ่มเคร่งเครียด สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดคือผลึกสีเหลืองอันนี้
หวังหลินรู้สึกหวาดหวั่นกับพลังผันผวนที่ออกมาจากผลึก ดังนั้นจึงไม่กล้าตรวจสอบมันด้วยสัมผัสวิญญาณ
‘หากคนลึกลับที่อยู่ในโถงคือฉิงหลินจริงๆ เช่นนั้นการที่เขาส่งสิ่งนี้มาให้ข้ามีเป้าหมายอะไร?’ หวังหลินจ้องมองผลึกสีเหลืองและขบคิด
เขาจำได้ว่าแสงผลึกที่มีอวตารของฉิงหลินเข้าไปในผลึกชิ้นนี้ แต่ไม่ว่าจะสังเกตอย่างไรก็ไม่พบเบาะแส
มันราวกับอวตารของฉิงหลินได้หายไปและสิ่งที่หวังหลินเห็นเป็นแค่ภาพลวงตา
หลังจากจ้องมันอยู่นาน หวังหลินก็ถอนสายตา ไม่เสี่ยงตรวจสอบมันเสียดีกว่าและล้มเลิกความคิดไป เขาวางผลึกกลับเข้าไปในกระเป๋า
หวังหลินมีความรู้สึกอยู่ลึกๆว่าถ้าหากส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไปอาจจะเกิดบางอย่างที่ไม่อาจคาดคิดได้และมันคงทำให้เขาไม่ได้ประโยชน์
ความรู้สึกแบบนี้คลุมเครือมาก มันเป็นลางสังหรณ์ที่เขาได้รับมาหลังจากบ่มเพาะเกินพันปี
‘ถึงเวลาออกไปจากที่นี่แล้ว’ หวังหลินยืนขึ้นและเริ่มเคลื่อนไหวดุจมังกร ฟองสบู่เคลื่อนไปด้วย
มองจากเบื้องบน ทะเลเป็นสีฟ้าคราม แต่ในน้ำกลับเป็นสีดำสนิท อย่างไรก็ตามเรื่องพวกนี้ไม่ได้สร้างความกวนใจให้หวังหลิน ขณะที่ฟองสบู่ลอยขึ้นไป น้ำทั้งหมดจึงถูกผลักไปด้านข้าง
ดวงตาหวังหลินกระพริบวูบวาบ แต่ขณะที่เขากำลังจะขึ้นสู่ผิวน้ำ สีหน้าพลันเปลี่ยนไป ผลักสองแขนไปด้านข้าง
ฟองสบู่ที่เขาอยู่ข้างในพลันแตกสลายและเกิดคลื่นกระแทกกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว มันพุ่งขึ้นไปด้านบนจากการควบคุมของหวังหลิน เสียงคึกคะนองดังกึกก้องราวกับปะทะกับอะไรบางอย่าง
แม้กระทั่งน้ำทะเลก็ได้รับผลกระทบ หวังหลินรู้สึกว่าน้ำทะเลใกล้เขาถูกกดทับลงมาอย่างโหดเหี้ยมจากพลังรุนแรงสายหนึ่ง
สีหน้าพลันเย็นเยียบและคงอยู่ในทะเลแต่ไม่ได้ลอยขึ้นไป หวังหลินออกมาจากพื้นที่ใต้แรงกดดันและมองขึ้นไป ท้องฟ้าเต็มไปด้วยพลังปิศาจที่เคลื่อนไหวดุจมังกร
มีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ใจกลางพลังปิศาจ ล้อมรอบจนมองไม่เห็นภาพลักษณ์ชัดเจนแต่ก็ยังพอจะมองออกได้ว่าเป็นผู้หญิง
ตอนที่หวังหลินพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ เขาสัมผัสได้ว่ามีวิชาหนึ่งพุ่งลงมาหา ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมหวังหลินถึงทำลายฟองสบู่
“หวังหลิน ออกมาเจอข้าเดี๋ยวนี้!!!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกลียดชังยิ่งยวดดังสะท้อนไปทั่วโลก ถึงกับทำให้น้ำทะเลกระจายตัว
หวังหลินซึ่งอยู่ในทะเลพลันได้ยินเสียงนี้ ดวงตาหรี่แคบ
‘เหยาซีเชว่!!’ เขาไม่เห็นรูปร่างนางแต่รู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงจึงทำให้หวังหลินรู้ว่านางเป็นใคร!
หวังหลินเผยรอยยิ้มขมขื่นและถอนหายใจ ความบาดหมางระหว่างเขาและเหยาซีเชว่นั้นซับซ้อน ตอนนั้นนางต้องการใช้หวังหลินและเดินผิดพลาดก่อน หวังหลินไม่เคยปล่อยใครไปง่ายๆแต่เนื่องจากระดับบ่มเพาะและความกลัวเม็ดยาโลหิตและพ่อของนาง เขาจึงผนึกนางไว้แทนที่จะสังหาร
แม้หวังหลินจะเป็นศัตรูกับบรรพชนโลหิต เขาก็ชื่นชมบรรพชนโลหิตไปด้วย ทุกอย่างที่บรรพชนโลหิตทำลงไปก็เพื่อลูกสาว หากมีคนทำแบบเดียวกันกับหวังหลิน เขาคงทำแบบที่บรรพชนโลหิตทำ แต่สิ่งแรกเขาต้องรู้ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น
เห็นได้ชัดว่าบรรพชนโลหิตไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยและไม่คิดว่าหวังหลินจะเป็นภัยคุกคาม เขากระทั่งปล่อยจิตสังหาร ไม่สนใจอันใดและต้องการรู้เพียงว่าใครเอาตัวลูกสาวไป นั่นก็พอแล้วสำหรับเขา
หากหวังหลินมีระดับบ่มเพาะแบบนี้เมื่อตอนนั้น บรรพชนโลหิตคงไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่โต เขาคงพบวิธีอื่นที่จะจัดการเรื่องนี้
ท้ายที่สุดหวังหลินก็ไม่แข็งแกร่งพอให้บรรพชนโลหิตรับรู้ กระนั้นแม้จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นและรู้ว่าลูกสาวเป็นคนผิด เขาก็ยังใช้พลังแข็งแกร่งของตัวเองแก้ปัญหาอยู่ดี เขาคงสังหารหวังหลินเพื่อระบายความโกรธในใจ
ไม่ใช่ว่าหวังหลินไม่อยากคืนเหยาซีเชว่ ยังคิดว่าต้องรับผิดชอบผนึกนางไปหลายร้อยปี ตราบใดที่คำขอของบรรพชนโลหิตไม่มากเกินไป เขาก็ยินดีตกลง อีกทั้งตอนนั้นเขาก็อ่อนแอมาก
อย่างไรก็ตามบรรพชนโลหิตไม่ยอมให้หวังหลินอธิบาย ท้ายที่สุดก็จบลงเหมือนตอนนี้ ทุกครั้งที่หวังหลินคิดขึ้นมาเขาก็ได้แต่ถอนหายใจ
เขาแยกแยะระหว่างความบาดหมางและความกตัญญูได้อย่างชัดเจน หวังหลินชื่นชมบรรพชนโลหิตซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสัญญากับบรรพชนโลหิตให้มีโอกาสพบเหยาวีเชว่
หลังจากเข้ามาดินแดนวิญญาณปิศาจ หวังหลินจึงรู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาจะเจอเหยาซีเชว่ กระนั้นเหยาซีเชว่ที่เขาจำได้กลับแตกต่างเกินไปจากคนที่ปกคลุมตัวเองในพลังปิศาจนี้จนไม่สังเกตนางได้ในทีแรก
พอหวังหลินมองเหยาซีเชว่ที่กำลังลอยในท้องฟ้า จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ความคิดหลายอย่างแล่นผ่านหัวสมองพร้อมมกับเสียงเหยาซีเชว่ดังเข้าไปในหูเขาอย่างต่อเนื่อง
“หวังหลิน โผล่หัวออกมา! วันนี้เจ้าและข้าจะจบเรื่องในวันนั้นกัน!” สองฝ่ามือของเหยาซีเชว่สร้างผนึก เคลื่อนไหวพลังปิศาจ มังกรปิศสาจในท้องฟ้าขยับเขยื้อนและพุ่งเข้าใส่ผิวทะเล ก่อเกิดพายุขึ้นเหนือทะเลพร้อมกับคลื่นมหึมา
คลื่นขนาดใหญ่ไร้ที่สิ้นสดเคลื่อนไหวและมังกรปิศาจก็พุ่งเข้ามา แพร่กระจายออกไปทุกทิศทางทำให้ดูเหมือนหลุมยักษ์ปรากฏอยู่ในทะเล หวังหลินถอนหายใจพลางพุ่งออกมาจากทะเลดุจลำแสง
เมื่อหวังหลินปรากฏตัว แววตาเหยาซีเชว่ผุดความเกลียดชังพร้อมกับพลังปิศาจ นางเดินออกมาจากพลังปิศาจและเผยตัวเองต่อหน้าหวังหลิน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น นางไม่เหลือความงดงามดั่งเช่นอดีตอีกแล้วแต่กลับเป็นหญิงสาวน่าเกลียดแทน
ผิวกายเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นน่าตกใจ หวังหลินมองอย่างละเอียดและเผยสีหน้าขืนข่มอีกครั้ง
หวังหลินคล้ายจะเห็นร่างตะลึงงันและเย็นชาที่ปรากฏเบื้องหน้าเมื่อตอนนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจเทียบกับร่างตรงหน้านี้ได้เลย
‘ตอนนั้นใครกันที่บอกว่าเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดได้ชัดเจน…วิญญาณพ่อนางถูกผนึกไว้กับตราประทับผนึกเทพและเพื่อการแก้แค้นนางจึงเป็นแบบนี้ ข้าผิดใช่ไหม…’ ในชีวิตหวังหลินมีเรื่องเดียวที่สำคัญก็คือจะไม่ทำสิ่งที่รู้สึกผิด แต่ตอนนี้กลับเกิดความรู้สึกซับซ้อนขึ้นในใจ
“หวังหลิน เจ้าผนึกข้าไว้หลายร้อยปี แม้ข้าเกลียดเจ้า ข้าก็มองผ่านไปได้ นอกจากนั้นเพราะข้าหลอกเจ้าก่อนเอง เรื่องนี้ข้าอดทนไหว แต่พ่อข้าตายเพราะเจ้า ความแค้นของพ่อข้าไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะปล่อยมันไปได้ ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้แต่มีคนที่สามารถทำแทนได้!!” เหยาซีเชว่จ้องหวังหลินและขบฟันแน่น!