Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1088

Cover Renegade Immortal 1

1088. จักรพรรดิคนใหม่ 1

หวังหลินลอยตัวท่ามกลางดวงดาวและห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิง คลื่นความร้องจากเปลวเพลิงแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ดวงดาวและครอบคลุมสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์

บนแขนขวาตอนนี้มีรอยสักอัคคีอยู่เจ็ดตำแหน่งเท่านั้น ดอกไม้เพลิงที่พึ่งเบ่งบานนั้นอยู่นอกร่างกาย และพลังอัคคีดั้งเดิมหนาแน่นเข้าสู่ร่าง

พลังอัคคีดั้งเดิมมหาศาลกวาดผ่านร่างกายดุจพายุ เสียงปะทุจากในร่างกายดังสะท้อนไปทั่วสรวงสวรรค์ ทุกคนภายในพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้สามารถได้ยินอย่างชัดเจน

ความเจ็บปวดหนาแน่นขนาดนี้กำลังฉีกกระชากร่างเขาเป็นชิ้น ร่างกายเสมือนขวดน้ำที่จำเป็นต้องจุพลังปกติให้ได้เก้าเท่า แค่นั้นก็พอจินตนาการถึงความเจ็บปวดออก

วิชาเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงเก้าลี้ลับจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อหยิบยืมพลังการบ่มเพาะเก้าเท่าและควบแน่นมันอย่างต่อเนื่องจนทะลวงผ่านการเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงขั้นแรกได้สำเร็จ

ความเจ็บปวดขนาดนี้ทำให้เส้นโลหิตบนใบหน้าปูดโปน แค่พลังดั้งเดิมสองเท่าก็แทบทำให้เขารู้สึกเส้นชีพจรกำลังระเบิดอยู่แล้ว

แต่หวังหลินไม่ยอมยกเลิกเพียงแค่นี้ เขากัดฟันแน่นปาดเหงื่อเม็ดโป้งและยกแขนซ้ายขึ้น ชี้ใส่รอยสักบนแขนขวาอีกครั้ง

รอยสักอัคคีตำแหน่งที่เจ็ดพลันเริ่มเผาไหม้และหลุดลอยออกจากร่างหวังหลินเปลี่ยนกลายเป็นดอกไม้เพลิงอีกแห่ง ขณะเดียวกันภายในร่างหวังหลินเกิดการปะทุขึ้นขีดสุด เสียงดังนั่นหวั่นไหวออกมาจากร่างกายแพร่กระจายอย่างบ้าคลั่ง

หมอกโลหิตสาดกระจายออกจากรูขุมขนและล้อมรอบเขา ทว่าขณะนั้นมันก็ถูกระเหยออกไปด้วยความร้อนและหายไปดั่งควัน

พลังดั้งเดิมจำนวนสามเท่าเข้าสู่ร่างเขา ความรู้สึกว่าร่างกายกำลังระเบิดยิ่งรุนแรงขึ้น หวังหลินสั่นเทาพลางส่งเสียงร้องคำรามใส่ท้องฟ้า

ฮ่าห์!

แสงสีแดงเข้มเรืองรองอยู่รอบตัว เกราะสีแดงปรากฏขึ้นมาด้วย

พลังดั้งเดิมมหาศาลในร่างหวังหลินดูเหมือนเจอสถานที่ระบายและเข้าสู่เกราะ ทำให้เกราะสีแดงยิ่งเรืองแสงสว่างมากขึ้น

จักรพรรดิวิหคเพลิงจ้องมองหวังหลินด้วยความหวังและเคร่งเครียด แขนขวายกขึ้นในอากาศ หากหวังหลินไม่สามารถทนได้ เขาจะลงมือทันที แม้มันจะทำให้เขาเสียใจแต่คนที่มีวิหคตื่นขึ้นสองครั้งสำคัญยิ่งกว่าการเปลี่ยนร่างขั้นแรก

‘ข้าใจร้อนเกินไป พรสวรรค์เขาธรรมดา การบังคับแบบนี้อาจจะเป็นการทำร้ายเขา…’ เขาคิดขึ้นมาแล้วในใจ เมื่อหวังหลินเผยออกมาว่าไม่สามารถรับมือได้ เขาจะช่วยเหลือทันที

การปรากฏตัวของเกราะวิหคเพลิงได้ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดในร่างหวังหลิน พลางถอนหายใจยาวพร้อมกับยกแขนซ้ายชี้ใส่รอยสักตำแหน่งที่หก หลังจากนั้นพลังอัคคีดั้งเดิมพรั่งพรูออกมาอีกหน

‘ในเมื่อข้าต้องทนกับความเจ็บปวดนี้ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น งั้น…’ แววตาหวังหลินเผยท่าที่เหี้ยมโหด แขนซ้ายชี้ใส่รอยสักอีกสามครั้ง

รอยสักตำแหน่งที่ห้า ตำแหน่งที่สี่ ตำแหน่งที่สาม!

หวังหลินเปิดสี่รอยสักในเวลาเดียวกัน วินาทีนั้นพลังดั้งเดิมสามเท่าพุ่งทะลวงออกมาและเกิดเสียงดังคะนองสั่นสะเทือนสวรรค์กึกก้องไปทั่วพื้นที่ดวงดาว!

การกระทำอันบ้าคลั่งของหวังหลินทำให้จักรพรรดิวิหคเพลิงต้องหรี่ม่านตา เขามองเห็นว่าหวังหลินมีนิสัยต่อต้านอย่างสุดขั้วถึงกระดูกดำ

‘เขาพึ่งจะฝึกเซียนพันกว่าปีเท่านั้นและยังสามารถบรรลุถึงระดับนี้ได้ วิหคตื่นขึ้นสองครั้งไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความไม่ย่อท้อและเหี้ยมโหดเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องทั้งหมด!’

พลังดั้งเดิมความจุสี่เท่าพุ่งเข้าไปในร่างหวังหลินและเกราะวิหคเพลิง นั่นหมายความว่าตอนนี้มีพลังดั้งเดิมเจ็ดเท่าพรั่งพรูในร่างกายเขา เสียงดังปัง หวังหลินกระอักโลหิต ยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่ตรงกลางหน้าผากทันที

วิหคเพลิงสีขาวปรากฏตัวออกมา พลังดั้งเดิมมหาศาลนั่นพรั่งพรูเข้าไปในวิหคและทำให้มันขยายขนาดจนเต็มไปทั่วฟ้า

วิหคเพลิงตัวนี้ทำให้เทียนหยุนสนใจแต่ตอนที่จักรพรรดิวิหคเพลิงมาถึง เขาจะปล่อยให้เทียนหยุนเอาจิตวิญญาณวิหคเพลิงไปได้อย่างไรเล่า?

เมื่อวิหคเพลิงปรากฏตัว หวังหลินอดทนกับความเจ็บปวดเข้มข้นในร่างกายและร้องคำรามพลางยกแขนซ้ายชี้ใส่อีกหนึ่งรอยสักที่เหลือยู่สองตำแหน่งสุดท้าย!

ในเสี้ยววินาทีนั้นรอยสักเพลิงเปลี่ยนกลายเป็นพลังดั้งเดิมและเข้าไปในร่างหวังหลินทันที หวังหลินรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกเผาไหม้ ราวกับเขากำลังถูกหล่อหลมอยู่ในเตาหลอมที่สวรรค์สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ

หวังหลินไม่รู้ว่าผู้คนทั้งหมดของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์กำลังเฝ้าดูการจุติของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ด้วยสัมผัสวิญญาณผ่านกรรมวิธีพิเศษ! ทั้งยังมีคนที่คุ้นเคยอีกด้วย

เล่ยจีและหัวโตอยู่บนยอดภูเขา ทั้งสองหยุดการฝึกฝนและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า สัมผัสเลือนลางได้ว่าหวังหลินเป็นเหมือนฟินิกซ์ที่กำลังจะตื่นขึ้นและถูกทัณฑ์สวรรค์ทารุณอย่างทรมาน

“นายท่าน…”

ณ ทะเลทรายสีแดง พายุเลือนหายไป จ้าวสายลมหวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพึมพำ “พลังดั้งเดิมทรงพลังอะไรันนี่ เป็นไปได้ว่า…เขากำลังเก็บเกี่ยวผลแห่งการฝึกฝนตลอดสามปี?”

ณ ดาวเคราะห์เซียนอีกดวง ซือถูหนานหยุดฝึกฝน มองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยดวงตาส่องประกายเคร่งเครียด ผู้อาวุโสวิหคเพลิงด้านข้างเขาไม่เร่งรีบให้ซือถูหนานฝึกฝน เขาเองก็มองไปบนท้องฟ้าด้วยความหวังและตื่นเต้น

วินาทีนี้แม้กระทั่งคนที่มีจิตใจเย็นเยียบยังอดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกหลากหลายอารมณ์

มีอีกสองคนที่หวังหลินคุ้นเคยบนดาวที่ซือถูหนานอยู่ หนึ่งในนั้นอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของดาวเคราะห์ มีทะเลดอกไม้อยู่ที่นั่น

ดอกไม้ที่สามารถรอดชีวิตในความร้อนสุดขั้วแห่งนี้ได้ถือว่าหายาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาไม่เจอ ตอนนี้มีสตรีคนหนึ่งกำลังอยู่ข้างในทะเลดอกไม้

นางไม่ใช่นางสนมดอกไม้สวรรค์แต่เป็นหญิงสาวร่างศพเงิน นางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยแววตาประหลาดเล็กน้อย ในเวลาสามปีที่ผ่านมานางดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้…

อีกคนหนึ่งอยู่ในหนองบึง ร่างท่อนบนเต็มไปด้วยรอยสัก รอบตัวคืออสูรดุร้ายที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมร้อนระอุ

แต่อสูรดุร้ายเหล่านี้ตายไปหมดแล้ว ผิวหนังตรงกลางหน้าผากพวกมันถูกถอนออกไป

เขาคือต้าซาน! เขากัดปลายนิ้วเล็กน้อยและเริ่มวาดใส่หนังอสูร แต่วินาทีนั้นพลันเงยศีรษะขึ้นมา นิ้วมือหยุดชะงัก

‘นายท่าน…ท่านกำลังจะเสร็จสิ้นปิดด่านฝึกตนใช่ไหม…’

บนดาวเคราะห์หนึ่งใกล้ชายแดนของพื้นที่ดวงดาวเผาไหม้ บนยอดเขาสูงที่สุดมีรูปปั้นหินสีดำตั้งอยู่ รูปปั้นนี้คือรูปปั้นหวังหลิน เบื้องหน้ามีชายหนุ่มนั่งอยู่

ช่วงระยะเวลาสามปี ชายหนุ่มนั่งอยู่ที่นี่ปกป้องรูปปั้นมากกว่าหนึ่งพันวัน วินาทีนี้เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและฟังเสียงดังสนั่นกึกก้อง ใบหน้าแฝงความตื่นเต้น

‘อาจารย์…’ เขาคือฉือซาน!

บนดาวเคราะห์ที่ซึ่งสำนักหลอมวิญญาณตั้งอยู่ ชายชราคนหนึ่งกำลังอยู่บนกำแพงเมืองของเมืองวิหคเพลิง เขาถือไหเหล้าในมือและดื่มมันอย่างขมขื่น ดูเหมือนเป็นแบบนี้มาตลอดสามปี

แสงสีแดงเข้มแพร่กระจายไปทั่วท้องฟ้าจนเขาต้องเงยศีรษะขึ้น หลังจากมองเพียงครั้งเดียวจึงก้มศีรษะลงดื่มต่อไป

“น้องสอง น้องสาม พี่ใหญ่ทำผิดต่อเจ้าทั้งสอง…” หยาดน้ำตาไหลลงมา จากนั้นดื่มเหล้าจนหมด

“หลิงเอ๋อ นำเหล้ามาอีก!” ชายชราโยนไหเหล้าลงกำแพงเมือง

ด้านหลังเขาเป็นหญิงสาวงดงามสะดุดตา นางกัดริมฝีปาก ตอนที่นางมาที่นี่ ปรมาจารย์ยี่เฉินก็เป็นแบบนี้แล้ว หัวใจนางรู้สึกไม่พอใจพร้อมกับหันตัวอย่างเงียบๆ

‘ข้าขอโทษ…น้องสอง น้องสาม…’ น้ำเสียงชายชราดังเข้าหูนางอย่างต่อเนื่อง

อีกสถานที่หนึ่งในพื้นที่ดวงดาวเผาไหม แม้มันจะเต็มไปด้วยความร้อนแต่ดูเหมือนมีพายุหมุนที่มองไม่เห็นได้ทำให้เปลวเพลิงหมุนเคว้งคว้าง

“มารร้ายหวังหลิน ไอ้ฆาตกรไร้หัวใจ ข้าไม่มีความแค้นอะไรกับเจ้า ทำไมถึงขังข้าให้ทรมานกับเพลิงพิษนี่ด้วย?!”

“ท่านหวัง โปรดเมตตาฉวี่น้อยผู้นี้ด้วยเถิด ที่นี่มันเจ็บปวดเกินไป!”

“อสูรร้ายหวัง หากเจ้าบังคับให้ปู่ฉวี่จนมุม ข้าจะขอต่อสู้ด้วยชีวิต!”

เสียงสาปแช่งและอ้อนวอนไม่เคยหยุดเลยตลอดสามปี บางครั้งก็เป็นเสียงกรีดร้องโหยหวน ซึ่งเมื่อไหร่ที่ศิษย์สำนักวิหคเพลิงผ่านเข้ามา พวกเขาก็จะอ้อมไปเพราะเจอแต่เสียงน่ารำคาญ

ณ ใจกลางพายุหมุนมีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่ เขาถูกล้อมรอบด้วยเปลวเพลิงและต้องใช้วิชาหลายอย่างเข้าต่อต้าน หากประมาทไปเล็กน้อยคงถูกเปลวเพลิงเผาไหม้

คนผู้นี้คือฉวี่ลี่กั๋ว ตอนนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่ แต่ดวงตาส่องสว่างมากกว่าเดิมหลายเท่า เขาถูกล้อมด้วยเปลวเพลิงมาตลอดสามปีจนบังคับให้ต้องดูดซับมรดกกระบี่โบราณเพื่อเอาตัวรอด

ฉวี่ลี่กั๋วมักจะกวาดล้างครั้งนึง เปลวเพลิงเบื้องหน้าจะเลือนหายไปเล็กน้อย หลังจากนั้นจึงเกิดเสียงสาปแช่งตามมา ตลอดสามปีมักจะเป็นแบบนี้จนเป็นนิสัย

“เจ้าหนูหวังหลิน หากปู่ฉวี่ออกไปได้ ข้าจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแน่!” ขณะที่พูดขึ้นมานั้น ร่างกายสั่นเทามองออกไปไกลด้วยสายตาหวาดกลัว

“บัดซบเอ้ย ไอ้ฆาตกรหวังหลินนั่นกำลังจะออกจากการปิดด่านฝึกตนแล้วเรอะ? สวรรค์โปรดเมตตา อย่าให้มันออกมาเลย อย่าให้มันออกมาเลย! ไม่สิ…หากเขาออกมาไม่ได้ แล้วข้าจะออกไปได้อย่างไร? ให้เขาออกมาดีกว่า ออกมาเถอะ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version