Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1114

Cover Renegade Immortal 1

1114. เต๋าแห่งสวรรค์…โลหิต?

การทำลายตัวเองของสามร่างอวตารทำให้เกิดผลกระทบเหนือจินตนาการ พื้นดินสั่นไหวรุนแรง ชิ้นส่วนที่ทุกคนอยู่เริ่มแตกสลายในระดับมหึมา! การพังทลายนี้ทำให้เกิดรอยร้าวจำนวนมากบนพื้น!

“หวังหลิน ข้าจะช่วยเจ้าเอง!” เทียนหยุนหัวเราะพลางใช้พบังทำลายล้างของสามร่างอวตารผลักหวังเว่ยและฮู่จวนออกไป ทำให้หวังหลินไม่สามารถเข้าใกล้ได้ เขาพุ่งตรงเข้าสู่ผู้อาวุโสทั้งสามสิบห้าคนและใช้จังหวะที่อีกฝ่ายสับสนอยู่พุ่งเข้าหาภูเขาโดยไม่คาดคิด!

ขณะเดียวกันเสียงดังคะนองผุดออกมาจากภูเขา แม้กระทั่งแม่กุญแจทองที่ปลดปล่อยแรงกดดันออกมายังถูกผลักขึ้นไปอีกสามสิบฟุต!

ซึ่งทำให้ภูเขายกขึ้นไปสูงมากกว่า 70 ฟุตกลายเป็นร้อยฟุต!

จักรพรรดิมังกรฟ้าดิ้นรนออกมาจากแสงสีเขียวมองดูเทียนหยุนด้วยแววตาประหลาดใจแต่ไม่ได้เอ่ยอันใด เขาพุ่งตัวออกมาจากก้นภูเขาพลางร้องตะโกน “สมาชิกสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์ทุกคน จงใช้วิชาทั้งหมดทำลายภูเขาลูกนี้!!”

สิ้นคำพูด เขาพลันยกแขนขวาขึ้นมาและเหวี่ยงลงไปอย่างรุนแรง ปรากฏมังกรฟ้าขนาดแสนฟุตพร้อมกับกลิ่นอายโบราณ มังกรอ้าปากและคายควันสีเขียวเข้าใส่ภูเขา

ผู้อาวุโสสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์ใช้วิชาของตนเองโดยไม่ลังเลและกระหน่ำใส่ภูเขาไม่มียั้ง!

นาทีนี้บนชิ้นส่วนปรากฏรอยแตกร้าวมากขึ้นและเริ่มพังทลายอย่างหนักหน่วง รอยแยกอวกาศปรากฏขึ้นมามากขึ้นราวกับต้องการกลืนกินโลกใบนี้

ภายใต้การกระหน่ำโจมตีของจักรพรรดิมังกรฟ้าและเหล่าผู้อาวุโส ก้อนหินจำนวนมากหลุดร่วงลงมา แม้แต่แม่กุญแจทองก็ไม่มั่นคง

ขณะที่เรื่องราวดำเนินต่อไป สีหน้าของจักรพรรดิมังกรฟ้ายิ่งน่าเกลียดขึ้นไปใหญ่

เสียงหัวเราะดังออกมาจากภูเขา ปรากฏรอยร้าวขึ้นจากใจกลาง เทียนหยุนพุ่งออกมาและเผยสีหน้าตื่นเต้นอันหาได้ยาก เขากุมก้อนโลหิตสีดำขนาดเท่ากำปั้นพร้อมกับพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

แม่กุญแจทองเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงและติดตามเทียนหยุนไปทันที มันร่อนลงบนโลหิตสีดำในมือเขาราวกับกำลังผนึก

อย่างไรก็ตามเทียนหยุนไม่สนใจมันเลย ขณะที่พุ่งออกไปพลางกระแทกลงบนพื้นดินด้านล่างตัวเอง! เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ชิ้นส่วนแตกสลายเร็วมากขึ้น ปรากฏวังวนยักษ์ด้านล่างและทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกดูดเข้าไป

ต้องบอกว่าไม่ใช่เพียงแค่ชิ้นส่วนนี้เท่านั้นที่กำลังพังทลาย แต่ทั้งแดนสวรรค์พิรุณในที่สุดก็เริ่มแตกสลาย!

เสียงดังอื้ออึงออกมาจากฟ้าดิน แดนสวรรค์พิรุณกำลังเริ่มพังทลายเหมือนกับแดนสวรรค์อัสนี

“หวังหลิน ข้าต้องขอบคุณที่เจ้าทำทุกอย่างลงไป! สักวันหากเราต้องชะตากัน จะได้มาเจอกันอีก! ครานี้ข้าจะได้มีเต๋าสวรรค์แล้ว!!” เทียนหยุนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและกำลังจะหลบหนี ทว่าจักรพรรดิมังกรฟ้าซึ่งหลบหนีออกมาได้ก่อนพลันเผยสายตาเย็นเยียบ แขนขวาสร้างผนึกและชี้ออกไป มังกรฟ้าด้านหลังอ้าปากและร้องคำราม จักรพรรดิมังกรฟ้าลดแขนลง ส่วนมังกรพุ่งออกไปพยายามกลืนกินเทียนหยุน

วินาทีที่มังกรฟ้าพุ่งออกไป จักรพรรดิมังกรฟ้าตีเข้าใส่หน้าอกตัวเองและกระอักโลหิต เปลี่ยนกลายเป็นกระบี่เข้าสู่มังกรฟ้า เจ้ามังกรฟ้าถูกห่อหุ้มด้วยแสงโลหิต ไล่ทันเทียนหยุนในเสี้ยววินาทีและกลืนกินเข้าไป

เสียงดังคะนองกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน มังกรสูญสลาย ร่างเทียนหยุนถูกโยนออกมา สองผนึกเปิดขึ้น โลหิตไหลออกมาจากมุมปากพลางจ้องจักรพรรดิมังกรฟ้าด้วยรอยยิ้ม ทั้งยังเอ่ยเสียงแหบพร่า “เจ้าคู่ควรที่จะเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์แล้ว! ข้ายินดีที่ได้พบ!” จากนั้นร่างเทียนหยุนกระพริบวูบวาบและเหาะเหินไปอย่างรวดเร็ว

ผู้อาวุโสขั้นทลายสวรรค์รอบด้านกำลังจะไล่ตามแต่จักรพรรดิมังกรฟ้าส่ายศีรษะ “ปล่อยเขาไป! เขาซ่อนระดับบ่มเพาะไว้ได้ดีเกินไป หากเราบังคับเขาให้จนมุมจะเกิดการตายมากเกินจะนับได้ มันไม่คุ้มค่า! นอกจากนี้ข้าก็ถูกขังไว้นานมากและใช้พลังหมดแล้ว”

สิ้นเสียงกล่าว ผู้อาวุโสทั้งหมดพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย

จักรพรรดิมังกรฟ้าหันสายตาไปบนหวังหลินและเอ่ยถามขึ้นมา “เจ้าคือวิหคเพลิงตนใหม่?”

หวังหลินพยักหน้าและคำนับฝ่ามือ “ขอคำนับท่านจักรพรรดิมังกรฟ้า!”

จักรพรรดิมังกรฟ้ามองหวังหลินอย่างละเอียดและพยักหน้าอยู่พักใหญ่ “สำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์เชื่อมต่อกันด้วยโลหิต เช่นนั้นข้าคงไม่ต้องกล่าวคำขอบคุณ”

หวังหลินขมวดคิ้วและเอ่ยสงบนิ่ง “เทียนหยุนเอาอะไรมาจากใต้ภูเขา?”

จักรพรรดิมังกรฟ้าหันสายตาไปที่หวังเว่ยและฮู่จวน รูม่านหดเล็กลงและเอ่ยขึ้นมา “โลหิตเต๋าแห่งสวรรค์!”

“เต๋าแห่งสวรรค์…โลหิต?” หวังหลินอ้าปากค้าง

“ข้ามากับปรมาจารย์ซวนจงพร้อมกับคนอื่นๆในรุ่นแรกที่มีสิทธิ์เข้าแดนสวรรค์พิรุณ เดิมทีข้ามาเพื่อหาสมบัติและมรดกวิชา แต่ข้าพบเรื่องประหลาดหลายอย่าง แดนสวรรค์ถูกทำลายก็เพราะสิ่งลึกลับเหล่านี้!” ขณะที่จักรพรรดิมังกรฟ้าเอ่ยขึ้นมา ดินแดนเริ่มพังทลายรุนแรง ทุกคนจึงรีบลอยขึ้นไป

“ภูเขาคุมขังแห่งนี้ถูกจักรพรรดิเทพฉิงหลินวางเอาไว้ ตอนที่แดนสวรรค์พิรุณล่มสลายมันจึงปรากฏรอยร้าวขึ้นมา ข้าถูกปรมาจารย์ซวนจงพามาที่นี่และเข้าไปด้วยกัน แต่เกิดอุบัติเหตุและข้าถูกขังไว้ข้างใน ไม่สามารถหนีออกไปได้”

“ด้วยตัวตนของผนึก จึงมีเพียงคนพิเศษที่สามารถได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของข้าได้!” ตอนที่จักรพรรดิมังกรฟ้าพูดเช่นนี้ เขาจึงหันไปมองหวังหลิน

“แม้ข้าจะถูกกักขัง ข้าพบกับก้อนโลหิตที่ใต้ภูเขา มันคือสิ่งที่ฉิงหลินผนึกเอาไว้ หลังจากข้าศึกษามาเป็นเวลานานข้าก็ยังไม่รู้จักต้นตอของมัน แต่ด้วยทลายสวรรค์ครั้งที่สี่ของข้าตกลงมา ในช่วงวินาทีวิกฤติข้าจึงได้กลืนกินโลหิตเข้าไป…” ในสายตาจักรพรรดิมังกรฟ้าเผยร่องรอยแห่งความหวาดกลัว

“แค่คำเดียวก็ทำให้ข้าไม่ได้สติและเมื่อตื่นขึ้นมา ทลายสวรรค์ครั้งที่ก็ผ่านไปแล้ว ทว่าใต้ผนึกนั้นไม่มีพลังต้นกำเนิด ทลายสวรรค์รอบที่สี่ของข้าจึงว่างเปล่าและข้าก็ยังไม่สามารถหนีรอดไปได้! ข้าจึงได้เพียงชะลอเวลาอยู่ใต้ผนึก”

หวังหลินเหาะเหินขึ้นไปพลางเอ่ยถาม “แล้วโลหิตเต๋าแห่งสวรรค์คืออะไร?” เขารู้สึกว่ากลิ่นอายของมันเป็นสิ่งที่คุ้นเคย มันเหมือนคราบโลหิตบนกระบี่เหล็ก ทั้งยังแฝงกลิ่นอายเหมือนในผลึกที่เขาพบบนกะโหลกเทพโบราณแปดดาวด้วย

“เรื่องนี้เจ้าต้องถามคนของจักรพรรดิเทพ!” จักรพรรดิมังกรฟ้าส่งสายตาไปที่หวังเว่ยและฮู่จวน

“เป็นเช่นนี้เอง…” หวังเว่ยพึมพำ เผยใบหน้าขมขื่น เขามักจะคาดเดาเหตุผลมาตลอดว่าทำไมแดนสวรรค์ถึงได้ล่มสลาย ตอนนี้พอมาได้ยินจากคำพูดของจักรพรรดิมังกรฟ้า จึงยิ่งมั่นใจในการคาดเดาของตนเอง

อีกด้านหนึ่ง ฮู่จวนเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ราวๆร้อยปีก่อนเกิดหายนะ ฝนสีแดงดุจโลหิตแฝงพลังประหลาดตกลงมาจากฟากฟ้าเข้าใส่แดนสวรรค์พิรุณ อาจารย์เรียกมันว่า ‘โลหิตเต๋าแห่งสวรรค์’!”

หวังเว่ยเสริม “ไม่มีใครรู้ว่าเต๋าแห่งสวรรค์คืออะไร แต่อาจารย์เดาว่ามันคือสิ่งมีชีวิตรูปแบบหนึ่ง! ตั้งแต่ยุคแดนสวรรค์โบราณมีข่าวลือว่าเต๋าแห่งสวรรค์ได้ตายไปแล้ว!”

“หากมันไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส สิ่งที่ตกลงไปในแดนสวรรค์พิรุณคือโลหิตของเต๋าแห่งสวรรค์! อาจารย์เก็บรวบรวมโลหิตทั้งหมดเข้ามาและหลอมรวมมันจนกระทั่งมีขนาดเท่ากำปั้น! ระหว่างนั้นอาจารย์ก็พบคนที่กลืนกินมันเข้าไป แต่ทั้งหมดจะเปลี่ยนกลายเป็นกองโลหิตและตายทันที หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้ากลืนกินมันอีกเลย!” หวังเว่ยมองดูจักรพรรดิมังกรฟ้าด้วยสายตาประหลาด

หวังหลินตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนจนต้องกลืนน้ำลาย

“อาจารย์เชื่อว่าหากโลหิตเต๋าสวรรค์ตกลงเข้ามาในแดนสวรรค์พิรุณ ยามนั้นในแดนสวรรค์แห่งอื่นๆก็จะมีชิ้นส่วนอื่นของเต๋าสวรรค์ด้วย…” หวังเว่ยมองหวังหลินและอธิบาย “นี่ช่างน่าตกตะลึงเกินไป ลองคิดว่าเต๋าสวรรค์เป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและร่างกายฉีกกระชากเป็นเศษส่วนแม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็ยังกระจัดกระจายเป็นชิ้นๆ เช่นนั้นเจ้าก็คงเข้าใจ…แม้ข้าจะไม่ยอมรับในมุมมองนี้ แต่มันก็แค่การคาดเดาจากการศึกษาโลหิตของอาจารย์”

ขณะที่กำลังพูดคุยกัน ทุกคนเหาะเหินขึ้นไปบนท้องฟ้าจนกระทั่งมาถึงแท่นประตูแดนสวรรค์พิรุณ หลังจากร่อนลงมา จักรพรรดิมังกรฟ้าได้เอ่ยขึ้น “เซียนที่ขโมยโลหิตเต๋าสวรรค์ไปดูเหมือนจะเข้าใจเป็นอย่างดี ทว่าเขาไม่รู้ว่าข้าได้กลืนกินมันไปครึ่งนึงแล้ว เหตุผลที่มันยังมีขนาดเดิมเพราะครึ่งนึงนั้นเป็นโลหิตข้า! ข้าอยากจะเห็นว่าเขาจะบ่มเพาะไปด้วยได้อย่างไร!”

จักรพรรดิมังกรฟ้าเผยสีหน้ามืดมิดและรอยยิ้มประหลาด ทุกคนที่ได้ยินเห็นรอยยิ้มนี้จิตใจเย็นเยียบ

“วิหคเพลิงตนใหม่ ติดตามข้ากลับไปที่สำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์และบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในสำนักมา! เมื่อวันนี้มีเจ้ามาที่นี่เพียงคนเดียว นั่นแปลว่าจักรพรรดิคนอื่นๆตายไปแล้ว! น้ำเสียงจักรพรรดิมังกรฟ้าเอ่ยขึ้นสงบนิ่งและไร้อารมณ์ฉุนเฉียว”

หวังหลินก้าวถอยเข้าไปใกล้หวังเว่ยและฮู่จนวน พลางเอ่ยขึ้นอย่างเคารพ “ผู้อาวุโสจักรพรรดิมังกรฟ้า ผู้น้อยยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำและไม่สามารถกลับไปสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์ได้ในเวลาเร็วนัก”

“งั้นรึ?” จักรพรรดิมังกรฟ้ามองหวังหลิน หวังหลินมองกลับไปด้านหลัง ครู่นั้นจักรพรรดิมังกรฟ้าพยักหน้า “ไม่เป็นไร!”

จากนั้นเขาหันตัวกลับและมุ่งตรงไปยังประตูแดนสวรรค์พิรุณ ผู้อาวุโสของสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดติดตามไป มีเพียงไม่กี่คนที่มองกลับมาแต่ก็จากไปโดยไม่ลังเล! แม้กระทั่งผู้อาวุโสสำนักวิหคเพลิงก็เช่นเดียวกัน!

“วิหคเพลิงตนใหม่ จำไว้ว่าตอนที่เจ้ากลับมาให้คืนสมบัติศักดิ์สิทธิ์ด้วย!” เสียงจักรพรรดิมังกรฟ้าดังออกมาไกลไร้อารมณ์ความรู้สึก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version