Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1173

Cover Renegade Immortal 1

1173. สายลมเริ่มเปลี่ยนทิศ

หวู่ฉิงยิ้มบางไม่เอ่ยอะไรออกมาและบอกไม่ได้ว่ามีสุขหรือโกรธอยู่

ของสองสิ่งที่ชายชราร่างผอมนำออกมากระตุ้นความสนใจของทุกคนที่นี่ หวังหลินถอนหายใจออกมา เขาสนใจอสูรระดับสิบสองแต่ราคาของมันไม่น่าจะต่ำต้อยและยิ่งมันเป็นอสูรครึ่งหมอก มูลค่าก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก

ซึ่งทำให้มีหลายคนเสนอราคาออกไป

อย่างไรก็ตามชายชรายังคงไม่พยักหน้าซึ่งทำให้เซียนรอบด้านขมวดคิ้ว

ปรมาจารย์คังจงซื่อจ้องมองฟองนั้นและดวงตาส่องสว่าง ผ่านไปสักพักเขาก็ถอนสายตาและส่งข้อความให้ชายชรา ชายชราสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรกแต่หลังจากขบคิดเล็กน้อยจึงส่ายศีรษะ

ปรมาจารย์คังจงซื่อถอนหายใจและไม่เสนออะไรอีก

ขณะนั้นหญิงชราที่ไม่สนใจสมบัติอะไรเลยพลันโบกแขนขวานำหินหยกก้อนหนึ่งลอยเข้าหาชายชุดดำ เขาตรวจสอบหินหยกด้วยสัมผัสวิญญาณและดวงตาส่องสว่างแบบไม่เคยเป็นมาก่อน พลางหลับตาขบคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่พยักหน้า

“ข้าจะเพิ่มแผนที่ของเขตระดับหกให้ด้วย! ข้าทำแผนที่ด้วยตัวเองและรวบรวมข้อมูลมานาน แม้จะไม่กล้าบอกว่ามันครอบคลุมทุกอย่างแต่อย่างน้อยมันก็มีเขตระดับหกข้างในอยู่สามในสิบส่วน ทั้งยังมีแผ่นดินป่าอีกหลายแห่งที่มีแต่ข้ารู้จัก” น้ำเสียงนางแหบพร่าออกมา

“ข้าไม่ต้องการแผนที่ดวงดาวของเจ้า เพิ่มหินหยกสวรรรค์ให้อีกหมื่นก้อน!” ชายชราชุดดำลืมตาขึ้นส่งน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว!

หญิงชราขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น “ข้าไม่มีหินหยกสวรรค์ ข้ามีเพียงแผนที่ดวงดาวนี้เท่านั้น!” นางมองอสูรวิญญาณข้างในฟองน้ำ นางถูกมันดึงดูดและให้ราคาดีแต่คนอื่นๆยังไม่ยอมรับ

หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ขบคิดเล็กน้อยและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ข้าจะขอแผนที่ดวงดาวนี้แลกกับหยกสวรรค์หมื่นก้อน”

หญิงชรามองไปหาหวังหลินอย่างมีนัยยะ นางพยักหน้าและโยนหินหยกให้หวังหลิน

หลังจากแลกเปลี่ยนกันหวังหลินก็เก็บหินหยกกลับไป

หญิงชราและชายชราชุดดำแลกเปลี่ยนกันสำเร็จเช่นกัน ชายชรายิ้มและพยักหน้าให้หวังหลิน

หินหยกสวรรค์หมื่นก้อนของหวังหลินทำให้เหล่าเซียนเฒ่าที่นี่สนใจเขาเล็กน้อย ทว่าแค่หมื่นก้อนไม่ใช่จำนวนที่น่าตกตะลึงนัก หลังจากมองหวังหลินสักพักแต่ละคนก็ให้ความสนใจขนนก

ชายชราใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นสัมผัสกับแหวนบนนิ้วและเอ่ยขึ้น “วิหคเพลิงจากตอนนั้นตายไปแล้ว ทั้งร่างระเบิดอยู่ในเปลวเพลิง ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าขนนกนี้ไม่ใช่ของดั้งเดิม ข้าเสนอหยกสวรรค์สามพันก้อน”

“หยกสวรรค์ห้าพันก้อน” หวู่ฉิงยิ้มบาง

“ขนนกชิ้นนี้สวยงามจริงๆ ข้าขอเสนอแปดพันก้อน” หญิงสาวคนสวยหัวเราะด้วยน้ำเสียงพอใจ

หวังหลินถอนสายตาออกมาจากขนนกด้วยท่าทีสงบนิ่งและเอ่ยขึ้น “หยกสวรรค์หมื่นก้อน” เขาต้องได้ขนนกนี้มาครอบครอง!

หลังได้ยินหวังหลินพูดว่า “หยกสวรรค์หมื่นก้อน” อีกครั้ง แม้แต่ชายหนุ่มยังเผยอาการตกตะลึง มองหวังหลินอย่างละเอียด

หญิงสาวคนสวยหรี่ตาแคบและเอ่ยขึ้นเบาๆ “สหายน้อยมีหินหยกสวรรค์มากนัก แต่ขนนกนี้น่ารักมาก ข้าไม่อยากปล่อยมันไปจริงๆ”

ชายชราใบหน้ารอยแผลพลันมองหวังหลิน จากนั้นแกล้งยิ้มและบอกว่า “หยกสวรรค์หมื่นสามพันก้อน”

หวู่ฉิงเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางเหมือนเดิม “หยกสวรรค์หนึ่งหมื่นห้าพันก้อน” หลังกล่าวจบเขาก็มองหวังหลิน เขาไม่ได้ต้องการขนนกชิ้นนี้แต่เมื่อหวังหลินประมูลเขาก็ถูกยั่วยวนและอยากจะเห็นว่าคนผู้นี้มีหินหยกสวรรค์มากแค่ไหน ตอนนี้เขาลืมไปแล้วว่าชายชราบอกให้เขาไม่ไปล่วงเกินหวังหลิน

หญิงสาวคนสวยหัวเราะและส่งข้อความให้ชายชราชุดดำ

ชายชราชุดดำมองหญิงสาวคนสวยและเอ่ยขึ้น “การประมูลที่นี่ไม่จำเป็นต้องส่งข้อเสนอลับๆให้ข้า ใครก็ตามที่เสนอราคาสูงสุดก็จะได้มันไป”

“หยกสวรรค์สองหมื่นก้อน” นางไม่โกรธและเสนอราคาของตนเอง

หวังหลินสงบนิ่ง ขบคิดเล็กน้อยและเอ่ยออกมา “สามหมื่น”

หลังเอ่ยขึ้นมา รอบด้านพลันเงียบทันที หญิงสาวมองหวังหลินอีกครั้งด้วยสายตาเคร่งขรึม คนที่สามารถนำหินหยกสวรรค์สามหมื่นก้อนออกมาได้ต้องมีพลังอำนาจเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ ถึงแม้พวกเขาไม่ได้เป็นขั้นทลายสวรรค์ แต่คนผู้นี้ก็สามารถเข้ามางานประมูลส่วนตัวของปรมาจารย์คังจงซื่อได้ ดังนั้นไม่ใช่คนธรรมดาและไม่สามารถมองเพียงแค่ระดับบ่มเพาะได้

หลังจากขบคิดชั่วครู่ หญิงสาวส่ายศีรษะและไม่เสนออีก

ไม่เพียงแค่นางเท่านั้น แม้แต่ชายชราที่มีรอยแผลเป็นยังมองหวังหลินและส่ายศีรษะ เขาไม่เสนอราคาอีก พวกเขาคือคนที่มาเพื่อแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงไม่จงใจสร้างความยากลำบากให้คนอื่น

หนุ่มผู้ดีมองหวังหลินอย่างสนใจขึ้น เขาสังเกตได้ตั้งแต่ตอนที่หวังหลินเข้ามาทีแรกแล้ว เขาสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่งตอนที่เผชิญกับเซียนขั้นทลายสวรรค์อยู่ที่นี่ ไม่มีความไม่สบายใจเลยสักนิดเดียว

หากเป็นเซียนขั้นชำระสวรรค์คนอื่นๆ พวกเขาคงไม่ทำตัวงี่เง่าและไม่กล้างัดข้อกับเซียนขั้นทลายสวรรค์เพียงเพื่อสมบัติ

แค่นี้ก็พอจะอธิบายปัญหาได้ เขาต้องมีบางอย่างที่ทำให้สงบนิ่งได้ขนาดนี้

หญิงชราชุดเขียวผู้ได้วิญญาณอสูรพลันหรี่สายตา นางมองหวังหลินและเริ่มขบคิด

ปรมาจารย์คังจงซื่อยังคงยิ้มและเฝ้าดูทุกอย่าง เขาไม่ประหลาดใจที่หวังหลินมีหินหยกสวรรค์จำนวนมาก แค่ที่เขาฝากโอวหยางหลงเข้ามาก็หลายพันก้อนแล้ว นี่เป็นสิ่งยืนยันถึงความกล้าและความมุ่งมั่นของหวังหลิน

ชายชราชุดดำหัวเราะ เขากำลังจะพูดขึ้นมาแต่วินาทีนั้นหวู่ฉิงหัวเราะไปด้วย “สามหมื่นห้าพันก้อน สหายเซียนหลิว ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะเอาชนะเจ้า ข้าทำเพราะข้าต้องใช้ประโยชน์มันได้มากมาย”

“สี่หมื่น” หวังหลินขมวดคิ้ว

“สี่หมื่นห้าพัน” หวู่ฉิงยังคงยิ้ม เขาอยากจะเห็นว่าคนตรงหน้าจะเดิมพันได้สูงกว่าหรือไม่

“ห้าหมื่น” หวังหลินค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าเป็นเยือกเย็น

“ห้าหมื่นห้าพัน!” หวู่ฉิงยังคงยิ้ม ทุกคนที่นี่คือเซียนเฒ่าที่ดำรงชีวิตมาหลายหมื่นปี ดังนั้นเขาจึงมองเจตนาออกว่ากำลังเล่นกับหวังหลิน

หญิงสาวคนสวยขมวดคิ้ว ไม่เพียงแค่นางเท่านั้นแต่เซียนเฒ่าคนอื่นๆทั้งหมดก็ขมวดคิ้วเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างมาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนและพบว่าการกระทำน่าเกลียดแบบนี้ช่างไร้ยางอาย

แม้แต่ปรมาจารย์คังจงซื่อยังเผยท่าทางทุกข์ใจ

“ในเมื่อสหายเซียนหวู่จะเอาชนะข้าให้ถึงที่สุด” หวังหลินโกรธแต่ก็ยิ้มออกมามองหวู่ฉิงอย่างล้ำลึก

“ข้าไม่ต้องการมันอีก” หลังหวังหลินเอ่ยจบ เขาหลับตาเพื่อคลุมจิตสังหารไว้ภายใน

หวู่ฉิงดวงตาส่องสว่างและหัวเราะ “ขอบคุณที่ให้ข้าชนะ” เช่นนั้นเขานำหินหยกออกมาทำการค้ากับชายชราชุดดำ

เนื่องด้วยการสอดแทรกของหวู่ฉิง การประมูลจึงค่อยๆสงบลง ทุกคนต่างก็นำของหลายอย่างที่ต้องการออกมาขาย แม้แต่หวังหลินก็นำออกมาสองสามอย่าง

ใช้เวลาไม่นานการประมูลนี้ก็จบลง ทุกคนจากไปทีละคน ส่วนของการประมูลนั้นต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะได้ จึงไม่ต้องเร่งรีบ

‘เขามีหินหยกสวรรค์เยอะมาก…’ แม้แต่ตอนที่หวู่ฉิงจากไปเขายังคงยิ้ม มองหวังหลินก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

ตอนนี้เหลือเพียงแค่หวังหลินและปรมาจารย์คังจงซื่ออยู่ในห้องเท่านั้น ส่วนโอวหยางหลงออกไปพร้อมกับเซียนเฒ่าคนอื่นๆแล้ว

“นี่เป็นครั้งแรกที่หวู่ฉิงถูกข้าเชิญชวนเข้ามา ข้าไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ เป็นความผิดของข้าที่ไม่รู้นิสัยเขาซึ่งทำให้สหายเซียนมีปัญหา” ปรมาจารย์คังจงซินส่ายศีรษะราวกับไม่พอใจท่าทีของหวู่ฉิง

“ไม่มีปัญหา” หวังหลินยังสงบนิ่ง

ปรมาจารย์คังจงซื่อขบคิดเล็กน้อยและเอ่ยออกมา “เอาอย่างนี้จะว่าอย่างไร สหายเซียนอยู่ในเมืองหลักสักพัก หลังจากประมูลจบลง ข้าและสหายเซียนจะเป็นคนนำหน้า เราสามารถไปส่งเจ้าได้เพื่อที่หวู่ฉิงไม่กล้าคิดร้ายกับเจ้า”

ปรมาจารย์คังจงซื่อสีหน้าเคร่งเครียดและเอ่ยต่อโดยไม่รอให้หวังหลินตอบ “สหายเซียนต้องการแลกเปลี่ยนกับผลึกดั้งเดิมห้าพันก้อน นี่ใช่เรื่องจริงไหม?”

หวังหลินพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดออกมา

ปรมาจารย์คังจงซื่อยื่นแขนออกไปเปิดมิติเก็บของ เขานำกระเป๋าเก็บของออกมาโยนให้หวังหลิน จากนั้นจ้องหวังหลินด้วยดวงตาเปล่งประกาย ไม่มีใครมองเขาออก

หวังหลินรับกระเป๋าไว้และตรวจสอบด้วยสัมผัสวิญญาณ ข้างในมีผลึกดั้งเดิมห้าพันชิ้น ผลึกดั้งเดิมเป็นของหายากมากในทะเลเมฆาและห้าพันชิ้นถือว่ามากมายมหาศาล ไม่รู้ว่าปรมาจารย์คังจงซื่อมีอีกมายมายเท่าไหร่กันแน่

หลังจากเก็บใส่กระเป๋า หวังหลินเปิดมิติเก็บของและนำกระเป๋าที่มีหินหยกสวรรค์เตรียมไว้ออกมา เขาโยนให้ปรมาจารย์คังจงซื่อ อีกฝ่ายรับไว้ ตรวจสอบด้วยสัมผัสวิญญาณและจึงเผยรอยยิ้ม

“ท่านยังมีเม็ดยาต้นกำเนิดความโกลาหลอีกไหม?”

“ข้าได้เม็ดยานั่นมาจากในซากปรักหักพังด้วยความบังเอิญ มันมีเพียงเก้าเม็ดเท่านั้นและข้ายังใช้ประโยชน์อีกแปดเม็ดได้มหาศาล” ปรมาจารย์คังจงซื่อปฏิเสธ

หวังหลินไม่ถามต่ออีกและลุกขึ้นจากไป

หลังจากออกมา รอยยิ้มปรมาจารย์คังจงซื่อหายไปและพึมพำ “ผลึกดั้งเดิมของข้าไม่ใช่สิ่งที่จะเอาไปได้ง่ายๆ…”

หลังเดินออกมาจากห้อง หวังหลินมีสีหน้าเป็นปกติและพ่นลมหายใจเย็น เมื่อเขากล้าเข้ามาที่นี่ก็อย่ากังวลว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องเขามีหินหยกสวรรค์จำนวนมาก เหมือนกับปรมาจารย์คังจงซื่อซึ่งเป็นสมาชิกของสำนักหยกสมบัติแต่ก็มีผลึกดั้งเดิมมากมาย

พอคิดถึงผลึกดั้งเดิม หวังหลินหัวใจพองโตและออกมาผ่านทางเดิน

‘ปรมาจารย์คังจงซื่อนั่นมีเจตนาเลวร้ายแน่นอน แต่เขาไม่รู้ว่าเจตนาร้ายของข้ามีมากกว่าเขา! ผลึกดั้งเดิมห้าพันชิ้นไม่พอให้ข้าใช้หล่อเลี้ยงอสูรกลายพันธุ์หรอก ถ้าข้าต้องการให้อสูรยุงเพิ่มระดับขึ้นด้วยอสูรกลายพันธุ์ด้วยนั้นและสามารถให้ปกป้องข้าได้ในแดนสวรรค์วายุ ข้าต้องการผลึกดั้งเดิมให้มีมากพอ!’

หลังออกมาจากทางเดิน หวังหลินพบโอวหยางหลงระหว่างทาง โอวหยางหลงนำทางหวังหลินกลับไปที่ตำหนักและหวังหลินก็จากไป ท้องฟ้าไม่สว่างอีกแล้วและเสียงดังลดลง

หวังหลินหยุดลงหลังจากเดินไปหลายก้าวในถนนอันเงียบๆแห่งนี้ ด้านหลังปรากฏระลอกคลื่นและมีหญิงชราที่ได้วิญญาณอสูรเดินออกมา นางมองหวังหลินก่อนจะโบกแขนขวานำหินหยกออกมา

“บนแผ่นที่ดวงดาวนั่นมีข้อผิดพลาด นี่คือชิ้นที่เป็นของจริง! โปรดระมัดระวังหวู่ฉิงด้วย!” เช่นนั้นนางก็ไม่ให้ความสนใจหวังหลินอีกและหายตัวไป

หวังหลินถือหินหยกและกวาดสัมผัสวิญญาณออกไปก่อนจะเก็บ เขาหันตัวไปรอบๆพลางสีหน้าเย็นเยียบ

‘โลกการฝึกเซียนเคารพความแข็งแกร่ง การพยายามซ่อนไว้ตลอดเวลาไม่ใช่สิ่งที่ดี ข้าควรจะทำตรงข้ามกับที่ข้าทำเป็นปกติและทำตัวโอหังสักครั้ง แบบนี้น่าจะขจัดพวกคนขี้สงสัยไปได้บ้าง หวู่ฉิง…หากเจ้ารนหาที่ตาย ข้าก็จะสนองเจ้าเอง!’ หวังหลินลอยออกไปจากเมืองด้วยความเหยียดหยัน เขาเหาะออกมาจากก้อนหินลอยฟ้าและพุ่งไปทางพื้นที่ราบทิศตะวันตก

หลังออกไปได้ไม่นาน ลำแสงอีกสายหนึ่งลอยออกไป เป็นหวู่ฉิงที่ไล่ล่าตามหลังหวังหลิน!

พายุเริ่มพัดขึ้นมาแล้ว การเดินทางของหวู่ฉิงทำให้เซียนทรงพลังหลายคนให้ความสนใจเพราะรู้ได้ว่าทำไมเขาถึงออกไป…

“ช่างน่าสงสาร…” ในเมืองหลัก หญิงชราชุดเขียวถอนหายใจอย่างเสียดายและส่ายศีรษะ

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version