Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1219

Cover Renegade Immortal 1

1219. ปรากฏจิตวิญญาณลำดับแปด

ต้าเสินดวงตาส่องสว่าง แขนขวาสะบัดใส่ท้องฟ้าพร้อมกับสายฟ้ากำลังพัวพันกับเขา เกิดเสียงตู้มดังสนั่น ขณะเดียวกันปรากฏรอยแตกร้าวและมีหอกสังหารเทพเจ้าผุดออกมา!

เขาคว้าหอกเอาไว้ สะบัดด้วยเสียงคำรามลั่น กลิ่นอายสั่นสะเทือนโลกปรากฏขึ้นและปะทะกระบี่สั้นสีฟ้า

เสียงปะทุดังก้องอย่างบ้าคลั่ง กระบี่สั้นสีฟ้าแตกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยในทันที แต่ส่วนที่ไม่ได้สลายไปกลับพุ่งตรงเข้าหาต้าเสิน

ในเวลาเดียวกันปรากฏแสงขึ้นในค่ายกลมากกว่าเดิม คราวนี้มีสามแสงที่แตกต่างกันเปล่งประกายเจิดจ้ารุนแรง หนึ่งในนั้นเป็นสีทองและควบแน่นเป็นมีดสีทองขนาดยักษ์ ยาวมากกว่าพันฟุตพุ่งใส่ต้าเสินทันที

ลำแสงที่สองเป็นสีม่วง ปรากฏขึ้นตามหลังแสงสีทอง มันเปลี่ยนกลายเป็นแส้สีม่วงยาวหมื่นฟุตพร้อมกับอักขระเวทย์สลักเอาไว้มากมาย วินาทีนั้นค่ายกลก็เริ่มบิดเบี้ยว

ปลายแส้เคลื่อนไหวดุจอสรพิษ กวัดแกว่งเข้าหาต้าเสินพร้อมกับเสียงปะทุดังรุนแรง

ลำแสงที่สามเป็นสีแดงและแพร่กระจายออกไปดุจโลหิตสีสด มันทำให้ทั้งค่ายกลดูเหมือนเป็นสีแดงเลือด เสียงคร่ำครวญเจ็บปวดและเสียงร้องไห้ดังออกมาจากแสงสีแดง

เมื่อแสงสีแดงควบแน่น กระบองเก้าหัวปรากฏขึ้นมา ทั้งเก้ามีโลหิตไหลรินเจิ่งนอง ดูเหมือนสมบัติจิตวิญญาณชิ้นนี้จะโหดเหี้ยมและเปื้อนโลหิตผู้คนมามากมาย วินาทีที่มันปรากฏขึ้นมาจึงพุ่งเข้าหาต้าเสิน

ในค่ายกลนี้มีจิตวิญญาณทั้งหมดเก้าตน เวลานี้มีห้าตนที่ปรากฏขึ้นมาโจมตีต้าเสิน!

ต้าเสินมีท่าทีเคร่งเครียดยิ่ง พลางกวาดหอกสังหารเทพเจ้าไปด้วย แขนซ้ายโบกสะบัดเข้าใส่มิติว่างและปรากฏแสงจันทราขึ้นมารวมกันก่อนจะก่อตัวเป็นดาบครึ่งจันทรา มันวนรอบตัวเขาและเริ่มโจมตีจิตวิญญาณของค่ายกล

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวทำให้รู้สึกเหมือนมิติว่างกำลังล่มสลาย แต่ค่ายกลไม่ได้เผยท่าทีแตกหัก ต้าเสินร้องคำรามพลางเริ่มต่อสู้กับห้าจิตวิญญาณค่ายกลไปด้วย

ขณะนั้นมีคลื่นความร้อนปรากฏขึ้นมาจากค่ายกล จากนั้นปรากฏของขนาดยักษ์หลายแสนฟุตขึ้นภายใน!

มันปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณและผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน มันดุร้ายยิ่งและคงทำให้ทุกคนที่มองต้องจิตใจสั่นไหว!

มันคือเครื่องยิงขนาดยักษ์! มีก้อนเปลวเพลิงมหึมาอยู่ในเครื่องยิง เพลิงนี้ไม่มีสีและไม่อาจมองเห็นได้ แต่กลับสัมผัสถึงความร้อนเหนือจินตนาการได้อย่างชัดเจน

ปัง!

เครื่องยิงส่งก้อนเปลวเพลิงตรงเข้าใส่ต้าเสิน หากเป็นแค่ก้อนเปลวเพลิงคงไม่เป็นปัญหาอะไรนัก ทว่าหลังจากก้อนแรกโยนออกมา พลันมีอีกก้อนก่อตัวขึ้นจากค่ายกลและเครื่องยิงส่งออกไปอย่างต่อเนื่อง!

ตลอดชั่วระยะเวลาอันยาวนาน มีคนที่พยายามทะลวงผ่านค่ายกลผนึก แต่มีคนจำนวนมากที่ตายตกกันไป!

ยามที่จิตวิญญาณตัวที่หกปรากฏ แม้กระทั่งต้าเสินเองยังเสียเปรียบ เมื่อจิตวิญญาณนั้นโจมตีพลันเกิดเสียงดังก้องสั่นสะเทือนสวรรค์ และต้าเสินต้องถอยเป็นครั้งแรก!

เขาจำเป็นต้องถอย ใบหน้าเคร่งเครียดด้วยความไม่เชื่อ ทว่าความโหดเหี้ยมของเขารุนแรงยิ่งกว่าเดิม

‘ค่ายกลทรงพลังอะไรกัน! ข้าเพียงแค่ต้องการกลืนกินหวังหลินเท่านั้น การกลายเป็นเทพโบราณแปดดาวที่แท้จริงกลับต้องมาทำลายค่ายกลนี้ ไม่เพียงแต่ค่ายกลจะออกแบบมาเพื่อผนึกเซียนข้างใน เห็นได้ชัดว่ามันออกแบบมาใช้กับเผ่าเทพโบราณแบบข้าด้วย! อย่างไรก็ตามข้าสัมผัสถึงกลิ่นอายของหวังหลินอยู่ตรงนั้นได้เจือจาง นั่นหมายความว่าหวังหลินต้องอยู่ข้างนอกค่ายกลผนึกที่อยู่ในดาราจักรโบราณ! ข้าต้องทะลวงเปิดค่ายกลนี้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!!’

ต้าเสินเผยแววตาเรืองแสงสีแดง ขณะที่ล่าถอย แขนขวาชี้ใส่กลางหน้าผาก ดาวดวงที่สามส่องประกายเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยสว่างมาก่อน กลิ่นอายต้นกำเนิดดั้งเดิมของเซียนขั้นที่สามพรั่งพรูออกมา

‘ข้าจะใช้พลังเต็มที่ของข้าพุ่งออกไป แต่นั่นหมายความว่าข้าจะไม่มีพลังกลับมา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา หวังหลินอยู่ในดาราจักรดวงดาวโบราณข้างนอกค่ายกลผนึก การพักอยู่ในดินแดนผนึกถือว่าไร้ประโยชน์สำหรับข้า ตราบใดที่ข้าสามารถออกไปและกลืนกินเขาได้ ไม่ว่าข้าจะเสียสละอะไรไป ทุกอย่างถือว่าคุ้มค่า!!’

ต้าเสินคิดขึ้นในใจ พลังต้นกำเนิดดั้งเดิมจากดาวดวงที่สามของเขารุนแรงหนาแน่นยิ่งขึ้นและดูเหมือนจะห่อหุ้มทั้งค่ายกลไว้อย่างไม่คาดคิด ทั้งยังได้ยินเสียงกรีดร้องจากดาวดวงที่สามได้อย่างเบาบาง ทว่านาทีนี้เองพลังได้พรั่งพรูรุนแรง ดาวดวงที่สามลอยออกมากระแทกใส่ค่ายกลผนึกดุจอุกกาบาต!

ต้าเสินก้าวไปข้างหน้า เริ่มหดเล็กลงจนมีขนาดเท่าอุกกาบาตก่อนจะพุ่งตามไปด้านหลัง!

เขาพุ่งเข้าใส่ค่ายกล!

ด้วยดวงดาวที่แฝงพลังต้นกำเนิดของเซียนขั้นที่สามเอาไว้ จึงได้แหวกเส้นทางได้ หอกสังหารเทพเจ้าและดาบครึ่งจันทราอยู่รอบตัว พลังแข็งแกร่งรวมกันรอบต้าเสิน เคลื่อนร่างเข้าหาค่ายกลเร็วขึ้นและเร็วขึ้น!

จิตวิญญาณทั้งหกของค่ายกลพยายามโจมตีเพื่อหยุดยั้งเขาไว้อย่างบ้าคลั่ง เครื่องยิงส่งเปลวเพลิงออกไปนับไม่ถ้วน ส่งเสียงดังสนั่นสะเทือนสวรรค์ ต้าเสินเร่งความเร็วให้มากไปอีก!

ขณะนั้นเองลำแสงอีกสายโผล่ออกมาจากค่ายกล มันเป็นสีดำราวกับอวกาศ ขณะที่มันกระจายตัว ดูเหมือนค่ายกลจะหายวับไป แสงสีดำควบแน่นกลายเป็นกระบองยักษ์ปกคลุมด้วยควันสีดำ ปลดปล่อยกลิ่นอายดูดซับความคิดได้

พอกระบองปรากฏขึ้นมา มันกวาดเข้าหาต้าเสิน

จิตวิญญาณทั้งเจ็ดตนดูเหมือนผสานกันเป็นหนึ่งและหยุดต้าเสิน เป็นครั้งแรกที่ต้าเสินหน้าซีด โลหิตผุดออกมาจากมุมปาก

‘ค่ายกลแบบนี้มันอะไรกัน?! คนบ้าแบบไหนถึงได้วางค่ายกลนี้?! มีคนที่แข็งแกร่งนอกจากข้าอีกหรือ? ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางที่จะวางค่ายกลนี้ได้!!’

การพุ่งเข้าไปของเขาถูกขัดขวาง แม้แววตาจะบ้าบิ่นแต่ความคิดสงบนิ่ง ในชีวิตเขา นอกจากตู่ซือแล้วก็ไม่หวาดกลัวใครอีก ขณะที่จ้องค่ายกล แววตาบ้าคลั่งยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

‘แทนที่จะล่าถอยหาเซียนขั้นที่สามเพื่อขโมยมาเพิ่มพลังข้า ข้าจะพุ่งออกไปตอนนี้และหาเซียนขั้นที่สามในดาราจักรโบราณ เพื่อเป็นการลงโทษที่วางค่ายกลบัดซบไว้ที่นี่!’ เขายกแขนขวาขึ้นมา พ่นลมหายใจเย็นและชี้ไปที่ดาวดวงที่สอง

ดาวดวงที่สองปลดปล่อยพลังต้นกำเนิดรุนแรงยิ่งกว่าเดิมและพุ่งออกไปเป็นอุกกาบาตก้อนที่สอง มันลอยเข้าใส่ค่ายกลตรงหน้าด้วยพลังที่รุนแรงยิ่งกว่าอุกกาบาตแรก

“ทำลายให้ข้าซะ!” ต้าเสินร้องคำรามพุ่งออกไปตามหลังสองอุกกาบาต ทั้งสองอุกกาบาตก่อตัวเป็นแรงกระแทกที่ค่ายกลไม่เจอมานานมากตั้งแต่อยู่ที่นี่มา!

ค่ายกลไม่เคยถูกทำลายตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น การโจมตีของต้าเสินบรรจุกลิ่นอายทำลายล้างที่สามารถทำลายโลกได้และมันก็เข้าประชิดในทันที

เจ็ดจิตวิญญาณพยายามจะหยุดเขาอย่างต่อเนื่อง เสียงดังสนั่นกึกก้องเป็นเพียงเสียงเดียวที่อยู่ในมิติว่างแห่งนี้ ทว่าต้าเสินได้หยิบยืมพลังอำนาจของดาวดวงที่สอง หอกสังหารเทพและดาบครึ่งจันทราเพื่อเข้าใกล้ค่ายกล ตอนนี้มีแสงอีกแห่งปรากฏขึ้นมาจากค่ายกล

หลังจากเห็นแสงนี้ แม้กระทั่งคนที่แข็งแกร่งเช่นต้าเสินยังตกตะลึง เขาพุ่งตัวออกไปเร็วมากขึ้น

วินาทีนั้นแสงก็ควบแน่นกลายเป็นขวานยักษ์!

กลิ่นอายเทพโบราณอันเก่าแก่พลันแพร่กระจายออกมา เมื่อขวานปรากฏ เขาถึงกับตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง! เขาเผชิญหลายสิ่งหลายอย่างมาเยอะมากแต่ไม่เคยตกตะลึงเช่นตอนนี้เลย

‘นี่…นี่มันเป็นไปไม่ได้!! จิตวิญญาณของค่ายกลกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร!?’

หลังจากขวานที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเทพโบราณทรงพลังปรากฏขึ้นมา มันพุ่งเข้าไปในท้องฟ้าและสับลงใส่ต้าเสิน!

การสับลงมาให้ความรู้สึกว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดในโลกจะสามารถหลบหนีหรือหลบเลี่ยงไปได้!

“อาวุธราชวงศ์บรรพชนแล้วยังไงเล่า? ไม่มีอะไรจะหยุดข้าให้ทะลวงค่ายกลนี้ได้!” ดวงตาแดงฉานและชี้ใส่ดาวดวงแรกกลางหน้าผาก จากนั้นระเบิดต้นตอพลังดั้งเดิมออกมา ดาวดวงที่สามพุ่งออกไปดุจอุกกาบาต ผสานเข้ากับอีกสองดาวก่อนหน้านี้กลายเป็นหนึ่งดาว!

ต้าเสินพุ่งออกไปผสานเข้ากับอุกกาบาต การระเบิดของพลังต้นกำเนิดของเซียนขั้นที่สามพร้อมกับพลังดวงดาวเทพโบราณจำนวนสามดาว หอกสังหารเทพเจ้าและดาบครึ่งจันทรากำลังพุ่งเข้าหาค่ายกล ไม่สนการโจมตีของเหล่าจิตวิญญาณค่ายกลและขวานนั้นอย่างสิ้นเชิง

วินาทีนั้นการโจมตีของเจ็ดจิตวิญญาณได้ร่อนลงใส่อุกกาบาต ขวานยักษ์สับตรงลงใส่อุกกาบาตด้วย

อุกกาบาตพังทลายในทันที ต้าเสินกระอักโลหิตอยู่ข้างในแต่เขาก็เคลื่อนตัวให้เร็วขึ้น

เมื่อขวานสับลงมาเป็นครั้งที่สอง ต้าเสินจึงกระแทกเข้าไปในค่ายกล

การปะทะกันสนั่นสะเทือนสี่แดนสวรรค์ ผู้ป้องกันค่ายกลทั้งหมดตกตะลึงพลางพุ่งเข้ามาจากดินแดนชั้นนอก!

ค่ายกลที่ไม่เคยถูกทำลายมาก่อนกลับสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับกำลังพังทลาย! แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่แตกสลาย! ต้าเสินกระแทกเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งและต่อเนื่องจนทำให้มั่นสั่นสะเทือนรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

“เคล็ดเปลี่ยนร่างธารหมึก!” ขวานสับลงมาอีกครั้งและอีกครั้ง แต่ละการโจมตีทำให้ต้าเสินกระอักโลหิต เขายังบ้าบิ่นและใช้เคล็ดเปลี่ยนร่างที่ตู่ซือก็ไม่สามารถใช้ได้สมบูรณ์แบบ!

ในเสี้ยววินาทีนั้น หมอกสีดำล้อมรอบต้าเสิน ขวานพลันหยุดลงราวกับมันกำลังลังเล

หมอกสีดำใช้โอกาสนี้รุกรานเข้าไปในค่ายกล!

“ระเบิด ระเบิด ระเบิด!” น้ำเสียงของต้าเสินสั่นสะเทือนทั้งโลก อุกกาบาตรอบตัวเขาระเบิดทันที พลังทำลายล้างเหนือจินตนาการตีเข้าใส่ค่ายกล และเป็นครั้งแรกที่ปรากฏรอยร้าวขึ้นมาบนค่ายกล!

เมื่อปรากฏรอยร้าว ต้าเสินก็พุ่งออกไป!

ต้าเสินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพลางกระอักโลหิตไปด้วย ดาวทั้งหมอกหม่นทั้งสามดวงกลับมาหาเขา แต่หนึ่งในนั้นแตกสลายทันที

“หวังหลิน ข้ามาแล้ว! ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version