1243. กฎที่เก้า
ท้องฟ้าสีครามพร้อมกับแสงจางๆกระจายไปทั่วผืนดิน โลกเต็มไปด้วยพลังปราณสวรรค์ สัตว์สวรรค์อันสวยงามบินผ่านบนท้องฟ้า
โลกทั้งใบสงบสุขยิ่ง เหล่าเทพมากมายบินผ่านทั่วท้องฟ้า สนทนากันอย่างออกรส หลายคนหัวเราะราวกับกำลังพูดถึงเรื่องบางอย่าง
ทั่วผืนแผ่นดินเต็มไปด้วยยอดภูเขามากมายที่มีสายน้ำข้ามผ่าน พลังปราณสวรรค์แพร่กระจายบนพื้นดิน มองไกลๆจะเห็นหมอกสวรรค์ล้อมรอบพื้นที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูสวยงามยิ่งนัก
บนพื้นดินมีเหล่าเทพนับไม่ถ้วนนั่งอยู่คล้ายก่อตัวเป็นค่ายกลที่ทอดยาวออกไปหลายหมื่นลี้
“ใช้ความมุ่งมั่นของแดนสวรรค์โบราณเพื่อซ่อมประตูสวรรค์และยินดีต้อนรับทวยเทพโบราณที่แท้จริง!” น้ำเสียงสั่งการดังกระจายออกไปทั่วทั้งแดนสวรรค์
ยามที่เสียงนี้กล่าวจบลง เหล่าเทพภายในค่ายกลสร้างผนึกขึ้นมาด้วยสองมือและส่งพลังปราณสวรรค์เข้าไปในค่ายกล จากนั้นพื้นดินก็ดังกึกก้อง
ทุกอย่างเริ่มบิดเบี้ยว ระลอกคลื่นทรงพลังเริ่มกระจายอย่างช้าๆ พลังปราณสวรรค์หนาแน่นผุดออกมาจากภูเขาและแม่น้ำ เข้าไปในระลอกคลื่นและทำให้มันแพร่กระจายออกไปได้ไกลขึ้น
“ใช้ภูเขาตะวันออกมาสร้างประตูสวรรค์ฝั่งซ้าย!”
น้ำเสียงดังกึกก้องอีกครั้งพร้อมกับเหล่าเทพนับไม่ถ้วนเอ่ยบทร่ายออกมาในเวลาเดียวกัน ภูเขาสูงเสียดฟ้าทางด้านทิศตะวันตกพลันพังทลายลงทันที ภูเขาลอยขึ้นไปในอากาศและพร้อมกับเกิดการบุบสลาย
มันพังทลายอย่างต่อเนื่อง จากนั้นกลายเป็นเสาสี่เหลียมก่อนจะร่อนลงบนพื้นดิน
พื้นดินสั่นไหว เสียงดังกึกก้องอีกครั้ง
“ใช้ภูเขาตะวันตกมาสร้างประตูสวรรค์ฝั่งขวา!”
ภูเขาสูงตระหง่านทางทิศตะวันตกเกิดการขยับเขยื้อนไปด้วย มันเปลี่ยนกลายเป็นเสาสี่เหลี่ยมและร่อนลงบนพื้น
“ใช้เทือกเขาทิศใต้มาสร้างยอดประตูสวรรค์!”
ในส่วนทิศใต้ของแดนสวรรค์มีเทือกเขาคล้ายมังกร จังหวะที่เสียงนั้นดังกึกก้อง เทือกเขาแห่งนี้เกิดการสั่นสะเทือนราวกับเศียรมังกรเชิดขึ้นพร้อมกับบินขึ้นมา!
เทือกเขาที่เข้าใกล้มาค่อยๆแตกสลาย จากนั้นร่อนลงบนยอดของเสาทั้งสองข้าง!
น้ำเสียงดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง “ใช้แผ่นดินทิศเหนือมาสร้างประตูสวรรค์!” แดนสวรรค์ทางทิศเหนือสั่นสะท้านรุนแรงและเกิดรอยแตกร้าว พื้นดินสั่นไหว เศษพื้นดินสี่เหลี่ยมมุมฉากถูกแยกออกมา!
เศษพื้นดินสี่เหลี่ยมค่อยๆลอยขึ้นมาและหดตัวลงก่อนจะกลายเป็นประตูขนาดใหญ่ข้างในทั้งสามเสา!
“สังเวยต่อเหล่าเทพ!”
เมื่อประตูเสร็จสมบูรณ์ เหล่าเทพแทบทั้งหมดส่งเสียงร้องคำรามสะเทือนผืนดิน นาทีเดียวกันระลอกคลื่นได้รวมพลังปราณสวรรค์จำนวนมากเข้าสู่ประตู
เสียงดังสนั่นกึกก้อง ระลอกคลื่นหดตัวลง พลังปราณสวรรค์จำนวนมากเข้าไปในประตูทำให้มันเหมือนประตูสวรรค์!
“แดนสวรรค์โบราณสั่งการว่าเมื่อประตูสวรรค์เปิดขึ้น เขตแดนแห่งเทพจะจุติลงมา!”
ฉากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ดูเหมือนเวลาผ่านไปอย่างยาวนาน แดนสวรรค์ยังเป็นแดนสวรรค์แต่ไม่มีเสน่ห์เหมือนก่อนอีกแล้ว กลิ่นคาวโลหิตฟุ้งกระจายทั่วแดนสวรรค์พร้อมกับเสียงกรีดร้องดังระงม พื้นดินสั่นไหวและเกิดรอยแตกอย่างต่อเนื่อง
ท้องฟ้าขุ่นมัวราวกับมีน้ำหมึกราดลงในบ่อและทำให้มันมืดมัว มองไกลๆมีเทพนับสินคนกำลังบินเข้ามา แต่มีสามคนด้านหลังสั่นเทา ร่างกายระเบิดกลายเป็นฝนโลหิตตกลงพื้นดิน
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังอย่างต่อเนื่อง
เหล่าเทพนับสิบเหล่านั้นดิ้นรนมาที่ประตูและคุกเข่าบนพื้น หนึ่งในนั้นร้องคำรามใส่ประตู เอ่ยน้ำเสียงเศร้าโศกและเต็มไปด้วยความเสียใจ
“ประตูสวรรค์เปิดมาสี่หมื่นปีแล้ว ทำไมไม่มีเทพที่แท้จริงมาจากแดนสวรรค์โบราณ?”
ประตูหินยักษ์ยังเหมือนเดิมเช่นเดียวกับตอนที่สร้างขึ้นมาใหม่ มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ประตูที่สร้างขึ้นจากพื้นดินยังปิดสนิท ไม่มีช่องว่างหรือการเปิดออกเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่เสียงคำรามดังลั่น เทพบางส่วนคุกเข่าลงบนพื้นเกิดการสั่นเทา ดวงตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว วินาทีต่อมาร่างกายระเบิด โลหิตสาดกระจายใส่คนที่เหลืออยู่ เป็นฉากเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงยิ่ง
“ตอนนั้นแดนสวรรค์โบราณทิ้งข้อความไว้ว่าแดนสวรรค์วายุอาจเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ เพื่อต่อต้านหายนะนั้น เราจึงสร้างประตูสวรรค์นี้ขึ้นมา ตอนนี้หายนะได้มาถึงแล้ว ทำไมเทพโบราณถึงไม่ช่วยเรา?”
เหล่าเทพหลายร้อยคนปรากฏตัวขึ้นเหนือเส้นขอบฟ้า หลายคนตายก่อนจะมาถึงและคุกเข่าลงบนพื้น เหล่าเทพเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดมองดูที่ประตูและปลดปล่อยเสียงร้องไม่ยินยอม
“หากเทพโบราณไม่ช่วยเรา เช่นนั้นเราก็จะช่วยตัวเอง แม้ข้าจะตาย ก็ขอตายในแดนสวรรค์!” เทพคนหนึ่งยืนขึ้นและพุ่งเข้าไปในท้องฟ้าด้วยความบ้าคลั่ง ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่คือการระเบิดสะเทือนไปทั่วหล้า
ก้อนเนื้อและโลหิตของเขาสาดกระจายไปบนพื้น บางส่วนตกลงบนประตู ทว่าเมื่อเทียบกับประตูแล้ว โลหิตนั้นเล็กน้อยเกินจนแทบมองไม่เห็น
มีโลหิตสาดกระจายอยู่บนพื้นมากขึ้น ทั้งหมดเงยศีรษะและมีแววตาบ้าคลั่ง พวกเขาพุ่งเข้าหาท้องฟ้า!
“แม้ข้าจะตาย ก็ขอตายในแดนสวรรค์!”
ขณะที่เหล่าเทพบินเข้าไปในอากาศอย่างต่อเนื่อง เสียงดังสนั่นกึกก้อง เทพตายไปทีละคน พวกเขาไม่มีโอกาสต่อต้านพลังอันลึกลับนี้ได้เลย!
โลหิตสาดกระเซ็นบนประตูหินยิ่งขึ้น จุดด่างโลหิตได้ทำให้เกิดบรรยากาศอันเศร้าสลด
ขณะนั้นความมืดในท้องฟ้าก็เริ่มเคลื่อนไหว มันรวมตัวกันในพริบตากลายเป็นนิ้วยักษ์สีดำร่อนลงใส่ประตูหินด้วยอำนาจสั่นสะเทือนสวรรค์!
นิ้วมือนี้ขนาดใหญ่มาก เซียนทุกคนที่โดนสัมผัสจะตายทันที ไม่นานนักนิ้วมือได้รวบรวมความมืดในท้องฟ้าทั้งหมดเอาไว้ ปลายนิ้วปะทะเข้ากับประตูที่ปั้นขึ้นมาจากแผ่นดิน!
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!
เสียงดังจนทับทุกเสียงในโลก ภายใต้อำนาจแห่งนิ้วมือนี้ บนประตูเกิดรอยแตกร้าวจำนวนมากและจากนั้นมันก็พังทลายทันที!
แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
นาทีนั้นพื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนประตู พื้นดินเริ่มแตกร้าว ปลายขอบของแดนสวรรค์มีชิ้นส่วนมากกว่าสิบชิ้นถูกแยกออกจากกัน
พื้นดินพังทลายอย่างต่อเนื่อง แดนสวรรค์ล่มสลาย!
พื้นดินสั่นสะเทือนและถูกแบ่งเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน แดนสวรรค์กลายเป็นซากปรักหักพังแต่การพังทลายไม่สิ้นสุดลงแค่นี้ มันยิ่งรุนแรงมากชึ้น
กลิ่นอายทำลายล้างแพร่กระจายออกไป บดขยี้สิ่งมีชีวิตทั้งหมด!
หลังผ่านไปสักพัก พื้นดินหยุดการสั่นไหว แดนสวรรค์เงียบสงัดไม่มีแม้แต่เสียงใดเล็ดลอดออกมา ความมืดในท้องฟ้าค่อยๆหายไปจนกระทั่งไม่มีร่องรอยใดเหลืออยู่ ประตูยักษ์เหลือเพียงกรอบประตู ตั้งตระหง่านไร้การเคลื่อนไหว
ฉากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ภายในแดนสวรรค์ส่วนลึกปรากฏรอยแยกขนาดใหญ่ขึ้น รอยแยกนี้กว้างราวๆแสนฟุตและปลดปล่อยแสงชั่วร้ายออกมา มองออกไปจะเห็นได้ว่ามีดาราจักรดวงดาวอยู่อีกด้านหนึ่ง ตรงนั้นมีดาวเคราะห์สีม่วงซึ่งเต็มไปด้วยอสูรดุร้ายนับไม่ถ้วน สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดของพวกมันคือปากขนาดใหญ่!
พวกมันพุ่งเข้ามาในรอยแยกและปรากฏตัวในแดนสวรรค์วายุ
หวังหลินตื่นขึ้นจากอาการตกใจและมองไปที่ประตูหินยักษ์ วินาทีนั้นเข้าได้ผสานเข้ากับประตูหินและเห็นความทรงจำของมัน ดวงตาหวังหลินส่องสว่างพลางเหาะเหินเข้าไปในท้องฟ้า ขับเคลื่อนสายลมจนกระทั่งมาถึงยอดประตูหินและนั่งลงไป
จากจุดนี้เขาสามารถมองเห็นแดนสวรรค์ได้ในมุมสูงและสายลมที่นี่รุนแรงยิ่งขึ้น! สายลมกะเทาะร่างเขาราวกับใบมีดทำให้เส้นผมปลิวไสวรุนแรง เสื้อผ้าพัดกระพือและเกิดเสียงดังพึ่บพั่บ
หวังหลินสูดหายใจลึก หลับตาและจมความคิดตัวเองในสภาวะประหลาดนั้นพร้อมกับสัมผัสถึงพลังอำนาจของประตู คราวนี้เขาผสานเข้ากับประตูและค่อยๆมีประตูเลือนลางปรากฏในความคิด
เขากำลังจะเข้าไปจับประตูในใจเพื่อที่จะเอามันมาด้วย
ทว่าประตูที่ปรากฏในใจเขาไม่ชัดเจน มันเลือนลางและไม่เป็นรูปร่างสมบูรณ์ หวังหลินค่อยๆสัมผัสถึงพลังประหลาดแปดสายรอบๆประตู ราวกับพลังทั้งแปดสายนี้ได้ทำให้เขาไม่สามารถประทับตราใส่ประตูได้ชัดเจน
ประตูหินนี้แตกต่างจากตอนที่หวังหลินกำลังทำความเข้าใจบนหน้าผาริมทะเล ตอนนั้นมีเพียงกฎเดียว เขาจึงไม่ต้องเลือกและเพียงแค่เอามันมาด้วยเท่านั้น
แต่ตอนนี้มันกลับต่างกัน หวังหลินรู้สึกว่าพลังประหลาดแปดสายนี้คือกฎที่แตกต่างกันแปดแบบ หากเขาต้องการเอาพวกมันทั้งหมดมา ประตูหินคงไม่เป็นรูปร่างเว้นแต่เขาจะอยู่ที่นี่อีกนานหลายปี หากเขาไม่ตายเสียก่อนและบรรลุขั้นทลายสวรรค์ระดับสูงสุดได้ เขาอาจจะมีโอกาส
ย่อมแน่ชัดว่าหวังหลินคงไม่เลือกเส้นทางนี้ ความคิดเขาเริ่มจะสังเกตกฎทั้งแปด พอสังเกตอะไรบางอย่างได้ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย
‘นอกจากกฎทั้งแปดนี้ ยังมีอีกหนึ่ง!’ ดวงตาหวังหลินพลันเปิดขึ้นมาและจ้องไปที่ประตูหินยักษ์ด้านล่าง
บนประตูหินนี้ผ่านร่องรอยแห่งกาลเวลา มันเป็นกลิ่นอายตามธรรมชาติหากใครสักคนอยู่มานานพอ มันไม่มีสิ่งใดพิเศษ บนดาวเคราะห์เซียนโบราณบางดวงก็มีกลิ่นอายแข็งแกร่งขึ้น
ทว่าด้วยเหตุผลบางประการ ร่องรอยแห่งเวลาบนประตูหินนี้ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลง มันเหมือนการวิวัฒนาการของเขตแดนเซียน มันวิวัฒน์จาก “กาลเวลา” ไปเป็น “นิรันดร์”!
กาลเวลาและนิรันดร์มีต้นกำเนิดเดียวกันแต่ทั้งสองมีระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!