1288. ชื่อเสียงเมื่อสิบปีก่อน!
ในเขตระดับหกมีค่ายกลเคลื่อนย้ายบนแผ่นดินแห่งหนึ่ง มีเซียนนั่งอยู่รอบๆมากกว่าสิบคน ทั้งชายและหญิงกำลังพูดคุยกัน บางครั้งสตรีก็ยิ้มแย้มมองดูบุรุษด้วยสายตายั่วยวน
“ข้าไม่เชื่อเจ้าเลย หากหลิวจื่อฮ่าวทรงพลังอย่างที่เจ้ากล่าว ทรงพลังพอจะฆ่าจ้าวสำนักรวมถึงผู้อาวุโสและศิษย์พี่ ทางสำนักอมตะคงปกป้องเขาแน่นอน เขาจะต้องตายได้อย่างไร?”
“น้องสาว ทุกอย่างที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริง หลิวจื่อฮ่าวล่วงเกินสำนักเทพเจ้าและถูกพวกเขาไล่ล่า เขาตายในเขตระดับห้า!” ชายคนนั้นหัวเราะ
“หลิวจื่อฮ่าวถือว่าเป็นอัจฉริยะของทะเลเมฆา โชคร้ายที่เขาโอหังและล่วงเกินสำนักเทพเจ้า…” ทันใดที่ชายคนนั้นกล่าว ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่พวกเขากำลังคุ้มกันอยู่จึงเปิดใช้งานและเรืองแสงแพรวพราว
เขาหยุดพูดและมองเข้าไป
“สงสัยจริงว่าสำนักระดับต่ำที่ไหนมาเปิดค่ายกลเคลื่อนย้าย” เขาเป็นคนหยิ่งผยอง เนื่องจากเป็นศิษย์ของสำนักเพลงสวรรค์และกำลังคุ้มกันค่ายกลเคลื่อนย้าย ทุกครั้งที่มีคนมาก็มักจะมอบผลึกดั้งเดิมบางส่วนแก่ผู้คุ้มกัน นี่เป็นกฎในทะเลเมฆา
ทว่าในตอนนี้ค่ายกลเคลื่อนย้ายเรืองแสงสว่างยิ่งขึ้นจนขีดสุด ทั่วโลกดังสนั่น สายลมโหยหวน ท้องฟ้าเปลี่ยนสี เสียงดังสนั่นออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้ายและมีเสียงแตกร้าวปรากฏขึ้นบนค่ายกลเคลื่อนย้ายด้วย!
เหตุการณ์ฉับพลันนี้ทำให้สีหน้าของเซียนรอบๆค่ายกลถึงกับเปลี่ยนไป ทั้งหมดยืนขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“พวกเขากล้าบังคับให้ค่ายกลเคลื่อนย้ายเปิดขึ้นมาเร็วๆเช่นนี้ เมื่อค่ายกลเคลื่อนย้ายถูกทำลาย ไม่มีสำนักระดับต่ำที่ไหนจะรับผิดชอบเรื่องนี้ได้! ข้าอยากจะเห็นว่าสำนักไหนกล้าทำตัวโอหังเยี่ยงนี้!” ชายคนนั้นพูดขึ้นก่อนจะมีสีหน้ามืดมน เขาสะบัดแขนปรากฏกระบี่เหิน เพียงแค่ชี้นิ้ว กระบี่เหินพุ่งออกไปเข้าหาค่ายกลเคลื่อนย้าย!
ทว่าขณะที่กระบี่เหินเข้าไปใกล้ เสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้าย แสงจากค่ายกลส่องสว่างยิ่งขึ้นและเกิดการระเบิด ร่างสองคนพุ่งออกมาเข้าสู่ท้องฟ้าดวงดารา!
“เจ้า…” คนที่ใช้กระบี่เหินออกไปกำลังจะพูดขึ้นแต่ก็ระงับปากทันที ตอนที่ทั้งสองคนพุ่งออกไป เขาเหลือบไปเห็นหนึ่งในนั้น
ซึ่งทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปมหาศาล!
“หลิวจื่อฮ่าว!!” ตอนอยู่ที่สำนักอมตะและเขาเห็นการต่อสู้อันล้ำเลิศของหวังหลินกับตาตัวเอง เขาเป็นพยานรู้เห็นการตายของจ้าวสำนัก หัวหน้าผู้อาวุโสและศิษย์พี่!
หวังหลินไม่ได้ให้ความสนใจกับเหล่าเด็กน้อยพวกนี้ หลังจากพุ่งออกไปเขาก็มุ่งหน้าเหาะเหินพร้อมกับส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“ที่ที่ใกล้ที่สุดจากตรงนี้คือสำนักเพลงสวรรค์ จากตรงนั้นเจ้าสามารถเคลื่อนย้ายไปที่สำนักอมตะได้!” หญิงชราหน้าซีดพลางมองหวังหลินด้วยความหวาดกลัว
‘เขามันบ้า! บ้าไปแล้ว! เพียงเพื่อเพิ่มความเร็วของการเคลื่อนย้าย เขาไม่รอครึ่งชั่วโมง แต่เลือกใช้วิธีอันตรายที่สุดโดยการแทรกแซงพลังดั้งเดิมเข้ากับค่ายกลเพื่อให้มันเคลื่อนย้ายทันที มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ ความผิดพลาดนิดเดียวนั่นหมายถึงความตายภายในหลุมอวกาศ!’
นางรู้สึกหวาดกลัวอย่างหาที่สุดไม่ได้ พร้อมนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเคลื่อนย้าย
หวังหลินพุ่งเข้าไปในท้องฟ้าดวงดาราด้วยสีหน้ามืดมนยิ่ง เขาตามทิศทางของหญิงชราไปเพื่อหาสำนักเพลงสวรรค์!
เขาใช้ความเร็วเกือบเต็มที่และเคลื่อนร่างดุจสายฟ้าผ่านเขตระดับหก ใช้เวลาไม่นานสำนักเพลงสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าสายตา!
สำนักเพลงสวรรค์คือสำนักระดับหกที่มีสามแผ่นดิน พวกเขามีค่ายกลป้องกันทรงพลังที่คนธรรมดายากจะทลายลงไป ถึงแม้จะเป็นเซียนขั้นทลายสวรรค์ก็ไม่อาจเปิดขึ้นได้ด้วยระยะเวลาอันสั้นและจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามหากเซียนขั้นทลายสวรรค์ของสำนักเพลงสวรรค์ออกมาเติมพลังงาน ค่ายกลก็จะยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม!
หวังหลินเดินทะลุผ่านดวงดาว เขาเร็วมากจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กลิ่นอายบ้าคลั่งพุ่งผ่านไปข้างหน้า ย้ำเตือนสำนักเพลงสวรรค์ทุกคน จ้าวสำนักที่ถูกตั้งขึ้นมาใหม่และเหล่าผู้อาวุโสทั้งหมดต่างก็ออกมาจากการปิดด่านบ่มเพาะ พวกเขาลอยในอากาศมองเข้ามาด้วยความมืดมน
สิ่งที่เห็นทำให้สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไปมหาศาล!
“หลิวจื่อฮ่าว!!!”
“หลิวจื่อฮ่าว!!! หลิวจื่อฮ่าวที่ฆ่าจ้าวสำนักคนก่อนและหัวหน้าผู้อาวุโส!!”
“เขาไม่ได้ถูกสำนักเทพเจ้าฆ่าหรอกหรือ? เขาไม่ตายได้อย่างไร?!”
“ลือกันว่าเมื่อสิบปีก่อน สำนักเทพเจ้าฆ่าเขาไปในเขตระดับห้า อย่างไรไม่เพียงแต่เขาจะไม่ตาย แต่ยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม หรือว่าแม้แต่สำนักเทพเจ้าก็ฆ่าเขาไม่ได้?!”
วินาทีที่เห็นหวังหลิน ผู้คนจากสำนักเพลงสวรรค์ที่เห็นหวังหลินในสำนักอมตะต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล แต่ละคนตกตะลึงและหวาดกลัวที่สุด!
รูปร่างหวังหลินสลักไว้ในจิตใจส่วนลึกของทุกคน!
หวังหลินไม่หยุดชะงักเลยและมาถึงข้างๆค่ายกลเคลื่อนย้ายด้านนอกสามแผ่นดิน สายตาเย็นเยียบและไม่แม้แต่จะมองเหล่าเซียนที่กำลังตกตะลึงจากการมาถึงของเขา หวังหลินยกแขนและกะลงบนค่ายกลอย่างรุนแรง!
วินาทีที่ฝ่ามือสัมผัสกับค่ายกล หวังหลินปลดปล่อยกลิ่นอายสั่นสะเทือนออกมา!
“ทำลายไปซะ!!!”
เสียงดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหวทำให้สามแผ่นดินสั่นสะเทือน ค่ายกลสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเริ่มส่องสว่าง เสียงแตกร้าวดังออกมาพร้อมกับรอยแตกห้ารอยปรากฏจากนิ้วมือหวังหลินห้านิ้ว!
ห้ารอยนี้เหมือนมังกรดุร้ายห้าตัวที่แพร่กระจายออกไป และพริบตาเดียวมันก็ปกคลุมไปทั่วค่ายกล!
ค่ายกลที่แม้แต่เซียนขั้นทลายสวรรค์ยังต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะทำลายลงได้ กลับพังทลายในทันทีและแยกจากกันเบื้องหน้าสายตาของเซียนสำนักเพลงสวรรค์!
เมื่อค่ายกลแตกสลายจึงเกิดผลกระทบที่ไม่อาจจินตนาการได้! ค่ายกลแตกเหมือนกระจกและเศษนับไม่ถ้วนกระจัดกระจาย เศษพวกนี้แฝงพลังอันแข็งแกร่งด้วย ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้เหล่าเซียนสำนักเพลงสวรรค์ตกตะลึงและรีบถอยด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกเศษเหล่านี้ทำร้ายจนบาดเจ็บ!
หนึ่งคน หนึ่งฝ่ามือ มีพลังที่ทำให้โลกสั่นสะเทือน!
“เปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายสู่สำนักอมตะและเอาผลึกดั้งเดิมพวกเจ้ามาให้หมด!” หวังหลินส่งสายตาเยือกเย็นไปยังเหล่าเซียนเบื้องหน้า
ไม่มีโอกาสปฏิเสธ คำพูดเหล่านี้ตกลงมาเหมือนอำนาจแห่งสวรรค์และแพร่กระจายไปทั่วสำนักเพลงสวรรค์ ความคิดเซียนทั้งหมดสั่นเทาและไม่มีใครกล้าปฏิเสธ!
หน้าผากจ้าวสำนักใหม่ถึงกับเต็มไปด้วยเหงื่อ เขามองหวังหลินด้วยความหวาดกลัว เขาเองก็เป็นพยานความยอดเยี่ยมของหวังหลินที่สำนักอมตะและเห็นจ้าวสำนักคนก่อนตายไปกับตา
‘เขาสามารถฆ่าจ้าวสำนักและหัวหน้าผู้อาวุโสได้ทันทีเมื่อสิบปีก่อน กระทั่งสำนักเทพเจ้าก็ไม่อาจฆ่าเขาได้ ตอนนี้สิบปีต่อมา เขากลับมาและทรงพลังยิ่งกว่าเดิม คนเช่นนี้ไม่ควรไปล่วงเกิน!’ จ้าวสำนักไม่ลังเลที่จะส่งคำสั่งจำนวนมากออกไป ทั้งสำนักเริ่มกระตุ้นค่ายกลเคลื่อนย้ายเข้าสู่สำนักอมตะ!
หวังหลินเลือกสองค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ด้วยเหตุผลประการหนึ่ง ค่ายกลสำนักวิญญาณทะเลเป็นแบบสองทาง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้อีกฝั่งเปิดใช้งานก่อนเพื่อที่จะใช้มัน
สำนักเพลงสวรรค์เป็นสำนักระดับหกที่มีสิทธิ์เปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายโดยไม่ต้องขอคำสั่งจากสำนักอมตะในกรณีที่มีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้น
แน่นอนว่าค่ายกลนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ ค่ายกลหนึ่งไม่สามารถพาไปได้มากกว่าสามคน และพวกเขาสอบถามอย่างเข้มงวดมาก หากไม่มีเรื่องสำคัญคงโดนลงโทษแน่นอน!
สิบปีก่อน ชื่อเสียงของหวังหลินได้กำเนิดขึ้นภายในผู้คนจำนวนมากที่เป็นพยานรู้เห็นสิ่งที่เขาทำลงไปในสำนักอมตะ แน่นอนว่าสิบปีเป็นเวลาสั้นมากสำหรับเซียน ยามที่เขาปรากฏตัวขึ้นมาครั้งนี้เขาก่อเกิดคลื่นขึ้นมาในสำนักเพลงสวรรค์ อีกทั้งทางสำนักก็คุ้นเคยกับหวังหลินเพราะจ้าวสำนักของตัวเอง หัวหน้าผู้อาวุโสและหัวหน้าศิษย์ต่างก็ถูกหวังหลินสังหารทั้งหมด
ตอนนี้ทั้งสำนักเพลงสวรรค์เร่งรีบเปิดค่ายกลเคลื่อนย้าย จ้าวสำนักคนใหม่ร่ำร้องในใจอย่างขมขื่น เขาเพียงต้องการส่งอสูรร้ายตัวนี้ออกไปให้เร็วที่สุด เขากลัวว่าจะไปตอแยหวังหลินเข้า ตอนนั้นหวังหลินตั้งใจฆ่าจ้าวสำนักคนก่อน วันนี้เขาเหมือนจะโดนฆ่าอีกครั้ง
หลังจากรับกระเป๋าที่มีผลึกดั้งเดิมทั้งหมดมา หวังหลินก้าวไปบนค่ายกลพร้อมกับหญิงชรา นางตกตะลึงกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น นางใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในสนามรบที่สำนักมารและไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ตอนที่นางเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ นางแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
นางเห็นว่าผู้อาวุโสและจ้าวสำนักของสำนักเพลงสวรรค์ต่างก็มองหวังหลินด้วยแววตาหวาดกลัวที่สุด ราวกับพวกเขากำลังพยายามส่งเทพออกไปให้พ้นทาง
นางกังวลเกี่ยวกับเรื่องผลึกดั้งเดิม แต่เมื่อนางเห็นจ้าวสำนักเพลงสวรรค์มอบกระเป๋าให้หวังหลิน จึงยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น วิธีที่ทางสำนักเพลงสวรรค์มอบผลึกดั้งเดิมของตัวเองให้เหมือนกับหวังหลินเป็นจ้าวสำนักเสียเอง เพียงแค่คำพูดจากเขา พวกเขาก็รวบรวมผลึกดั้งเดิมทั้งหมดมาได้แล้ว
‘ข้ากลัวว่าแม้แต่สำนักอมตะจะมาขอผลึกดั้งเดิมเอง สำนักเพลงสวรรค์คงไม่ลงมือรวดเร็วเพียงนี้ อาจจะซ่อนไว้บางส่วนและไม่ให้ออกไปหมด…’
หวังหลินก้าวเข้าไปใสค่ายกลเคลื่อนย้ายพร้อมกับหญิงชราและหายตัวไป ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ตรงเข้าไปในเขตระดับแปดและไม่จำเป็นต้องรออันใด พวกเขาเคลื่อนย้ายไปที่สำนักอมตะในเวลาชั่วพริบตา
จนเมื่อหวังหลินจากไปแล้ว ทุกคนจึงผ่อนคลายได้เล็กน้อย จ้าวสำนักผ่อนคลายลงด้วย พอเห็นค่ายกลเคลื่อนย้ายว่างเปล่าและค่ายกลป้องกันที่แตกหัก สัมผัสความหวาดกลัวยังค้างอยู่ในใจ
‘ในที่สุดเราก็ส่งเขาออกไปได้ ช่างเรื่องผลึกดั้งเดิมทั้งหมดเถอะ ถึงแม้เขาต้องการทั้งสำนักเพลงสวรรค์ ข้าก็คงมอบให้เขาได้เพื่อหวังว่าจะไปให้เร็วขึ้น…’
ณ สำนักระดับแปด บนดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่เป็นของสำนักอมตะ ค่ายกลเคลื่อนย้ายพลันส่องสว่างขึ้นและมีแสงเข้มข้นรุนแรง
‘ข้าต้องไปเอาสมบัติจากในสำนักอมตะ!’ หวังหลินก้าวออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้าย มาถึงสำนักอมตะที่เขาเคยมาเมื่อสิบปีก่อน!
……………………………………