Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1344

Cover Renegade Immortal 1

1344. จิตวิญญาณสลาย

หนุ่มหัวล้านเผยรอยยิ้มแต่แววตาซ่อนความจริงจังอยู่ภายในทั้งยังแฝงความหวาดกลัว เขาตามหวังหลินมาและเป็นพยานรู้เห็นทุกอย่างที่หวังหลินทำ ทั้งยังเฝ้าดูหวังหลินใช้เซียนคนนั้นเป็นเหยื่อล่อและฆ่าคนไปเกือบร้อยคนในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง!

สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงมากที่สุดคือเซียนขั้นทลายสวรรค์ทรงพลังคนนั้นไม่อาจต้านทานได้แม้เพียงกระบวนท่าเดียว!

‘เขาระดับบ่มเพาะอะไรกัน?’

ความตกตะลึงจากทั้งหมดนี้เกิดเป็นคลื่นลูกยักษ์ในใจหนุ่มหัวล้าน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว หวังหลินที่ชี้ให้เขาออกมาได้นับว่าตกตะลึงยิ่งกว่า จากคำพูดของหวังหลินเขารู้มานานแล้วว่ามีคนติดตามมา นี่มันเหนือสิ่งที่เขาคาดคิด!

แม้ระดับบ่มเพาะของเขาไม่ได้อยู่ระดับสูงสุดแต่เขามีเคล็ดการซ่อนตัวระดับสูงสุดที่สืบทอดมานานหลายปี ไม่มีเทพคนใดจะตรวจสอบเขาเจอได้ขณะที่เดินทางไปในโลกเจ็ดล้าน แม้แต่คนที่ระดับบ่มเพาะสูงกว่าก็ทำไม่ได้

แม้แต่ตอนที่เซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งที่สี่โผล่ออกมา ชายหนุ่มหัวล้ายังติดตามเขาอย่างสบายใจโดยไม่ถูกตรวจเจอเลย

ตอนนี้ลำคอแห้งผาก สายฟ้าสีแดงเบื้องหน้าทำให้เขาสัมผัสวิกฤตครั้งรุนแรงที่สุดในชีวิต ทุกครั้งที่สายฟ้ากะพริบวาบ เขารู้สึกขนลุกซู่ รู้ดีว่าไม่สามารถหลบหลีกสายฟ้าไปได้ ตราบใดที่สายฟ้าเคลื่อนไหว เขาคงตายโดยไม่ต้องสงสัย!

ความเย็นเยียบของหวังหลินและคำพูดนิ่งๆ เป็นเสมือนกระบี่ล่องหนแทงเข้าในจิตใจและทำให้เขาเกิดความเย็นถึงกระดูกสันหลัง!

รอบด้านเงียบสนิทเว้นแต่เสียงดังสนั่นจากก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ เหงื่อเม็ดโป้งไหลรินจากใบหน้า หวังหลินมองดูหนุ่มหัวล้าน หลังจากเงียบไปสักพักเขาพลันขมวดคิ้ว!

พอเห็นว่าหวังหลินขมวดคิ้ว ความคิดชายหัวล้านถึงกับสั่นเทา เขารีบคำนับฝ่ามือและเอ่ยออกไป “ท่านเทพ ได้โปรดอย่าโกรธเกรี้ยว ผู้ต้อยต่ำเช่นข้าเรียกว่าจิตวิญญาณแตกสลาย ข้าไม่ได้ทำอันตรายอันใด ได้โปรด…”

ก่อนที่จะทันได้พูดจบ หวังหลินสะบัดแขนขวา แสงสายฟ้าแดงพุ่งออกไปใส่ชายหัวล้านด้วยความเร็วเกินจินตนาการ!

ชายหัวล้านเห็นเพียงแต่แสงสีแดงพร่ามัว สายฟ้าแดงแทงใส่กลางหน้าผากทันที!

ร่างเขาสั่นเทาและกระอักโลหิตแต่ไม่ตาย! กลิ่นอายทรงพลังพุ่งออกมาจากกลางหน้าผากก่อตัวเป็นกลิ่นอายหนึ่งรอบๆ เขา ระดับบ่มเพาะแพร่กระจายออกมาและมีกลิ่นอายโบราณสั่นสะเทือนปฐพี!

ราวกับมีวิญญาณทรงพลังกำลังหลับใหลอยู่ในตัวเขา เขาแข็งแกร่งยิ่งจนแม้แต่ขอบเขตจวี่ไม่อาจสังหารได้ในครั้งเดียว!

‘เป็นไปตามคาด!’ หวังหลินเผยดวงตาแสงประหลาดพลางก้าวไปข้างหน้ายื่นมือเข้าหาช่ายหนุ่ม

ดวงตาของชายหนุ่มหัวล้านพลันกระจ่างชัดและแก่ขึ้น วินาทีที่หวังหลินเข้าใกล้ เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ

“หากสหายเซียนยังต้องการจิตวิญญาณสายฟ้า…โปรดฟังข้า!”

หวังหลินดวงตาส่องสว่างและหยุดลงกลางอากาศ จ้องมองหนุ่มด้านหน้า ดวงตาอีกฝ่ายเผยท่าทียังไม่เติบโตเต็มที่แต่ตอนนี้ราวกับดวงตาเขาฉายแววแห่งการผ่านประสบการณ์มานานยิ่ง

หนุ่มหัวล้านค่อยๆ เอ่ยออกมา “ข้ามีนามว่าจิตวิญญาณแตกสลาย ข้ามีชีวิตอยู่มาหลายหมื่นปีจนบรรลุทะลวงสวรรค์ครั้งที่สี่…”

“ข้ามีร่างอวตารทั้งสิ้นเก้าร้อยเจ็ดสิบเอ็ดร่างเหมือนเช่นร่างที่อยู่เบื้องหน้าสหายเซียน แต่ละร่างบรรจุความต้องการของข้า ด้วยร่างอวตารพวกนี้ข้าจึงสามารถเดินทางไปทั่วอวกาศเหมือนพวกเซียนเผ่าสายฟ้ากระจายและไม่ถูกใครสังเกต”

“ข้าลอบติดตามสหายเซียนโดยไม่มีความคิดมุ่งร้าย ข้าเพียงอยากขอให้ท่านช่วยและทำข้อตกลง! หากสหายเซียนสนใจ มันจะเป็นประโยชน์ต่อเราทั้งคู่!” หนุ่มหัวล้านค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาพลางมองหวังหลิน

หวังหลินท่าทีสงบนิ่งและเอ่ยตอบ “เจ้ารู้จักเผ่าสายฟ้ากระจายด้วยหรือ?”

ชายหนุ่มหัวล้านเผยสีหน้าอันซับซ้อนเกินกว่าอธิบายและพยักหน้า

“สหายเซียนตามข้าไปที่หนึ่งได้ไหม? ข้าจะบอกท่านทุกอย่างระหว่างทาง”

หวังหลินเผยท่าทีไร้อารมณ์ความรู้สึกและถามกลับ “ที่ไหน?”

“ปลายสุดของโลก…” หนุ่มหัวล้านถอนหายใจ สะบัดแขนขวาให้ก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์หายไป ขณะเดียวกันอักขระเวทย์กะพริบในฝ่ามือ มันลอยเข้าหาชายวัยกลางคนที่งุนงงด้านล่างและร่อนลงกลางหน้าผาก ซึ่งทำให้ระดับบ่มเพาะเขาถูกซ่อนไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ไปกระตุ้นทัณฑ์สวรรค์อีก

หลังจากทำเช่นนี้ กลิ่นอายรอบตัวหนุ่มหัวล้านจึงถอนกลับเข้าร่างและคำนับฝ่ามือให้กับหวังหลิน จากนั้นหันตัวกลับและก้าวเท้าออกไป ทะลวงผ่านอวกาศและออกไปจากโลกใบหน้าอย่างไม่คาดคิด

หวังหลินดวงตาส่องสว่างและก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน ทะลวงผ่านอวกาศไปพร้อมกับหนุ่มหัวล้าน

“ข้าบรรลุขั้นตัดวิญญาณและเข้าใจสวรรค์เมื่ออายุร้อยปี หลังจากมองเห็นทัณฑ์สวรรค์หลายครั้ง ข้าจึงตระหนักได้ว่าพวกทวยเทพไม่เหมือนที่บรรพชนเล่าให้เราฟัง…ด้วยความสงสัยนี้ข้าได้ผนึกระดับบ่มเพาะของตัวเองไว้ไม่ให้บรรลุขั้นตัดวิญญาณระดับสูงสุด ข้าแอบเฝ้าหาคำตอบ…” หนุ่มหัวล้านเดินไปข้างหน้า ทุกก้าวทะลุผ่านโลกพร้อมกับเดินออกไปไกล

หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่งพลางเดินทางไปพร้อมกับเขา

วินาทีนี้ เมืองหนึ่ง พื้นที่หลายแห่งในอวกาศ จะเป็นสายลมฤดูใบไม้ผลิ สายลมฤดูฝนหรือสายลมฤดูหนาวมันก็ผ่านรอบพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว

“น่าเสียดาย ถึงแม้พรสวรรค์ของข้าค่อนข้างดี ข้าก็ไม่สามารถระงับระดับบ่มเพาะได้นานนัก ตอนที่ข้าอายุสองร้อยปี ข้าไม่สามารถผนึกไว้ได้อีกต่อไปจนไปกระตุ้นทัณฑ์สวรรค์…เทพที่เข้ามาคือหัวหน้าผู้อาวุโสคนปัจจุบันของเผ่าสายฟ้ากระจาย…”

“ระดับบ่มเพาะของเขาตอนนั้นเป็นแค่ขั้นส่องสวรรค์ ข้าบาดเจ็บสาหัสและอยู่ขอบเหวแห่งความตาย ดังนั้นจึงไม่สามารถต้านทานได้แน่…อย่างไรก็ตามแทนที่จะสังหารข้า เขากลับทำลายระดับบ่มเพาะและจากไป…”

“เดิมทีข้าคิดว่าสวรรค์ช่างโหดเหี้ยมอำมหิต จนกระทั่งหลายปีต่อมาข้าจึงตระหนักว่าเขาอนุญาตให้ข้ามีชีวิตรอดต่อไปเพื่อให้โอกาสข้าบ่มเพาะต่อไป ดังนั้นโอกาสที่สองนี้จึงเป็นการให้กำเนิดจิตวิญญาณสายฟ้า” น้ำเสียงขมขื่นเล็กน้อย

“อย่างไรก็ตามเขาไม่คาดคิดว่าไม่เพียงแต่ข้าจะฟื้นฟูระดับบ่มเพาะกลับมาใหม่ได้ แต่ระหว่างที่เกิดทัณฑ์สวรรค์ ข้าเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก หยิบยืมตัวตนของโลกเจ็ดล้านเพื่อผนึกระดับบ่มเพาะและคิดหาวิธีทำให้ระดับบ่มเพาะแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่ทำให้เกิดทัณฑ์สวรรค์!” หนุ่มหัวล้านเอ่ยขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความคิด

หวังหลินมองเขาและเอ่ยขึ้น “สลายตัวเองเป็นร่างอวตาร”

หนุ่มหัวล้านพยักหน้า

“ข้าใช้เคล็ดจิตวิญญาณสลายเพื่อส่งผ่านให้ร่างอื่น ระบ่มเพาะของข้าเหนือล้ำเกินกว่าขั้นตัดวิญญาณ หลังจากผ่านไปพันปีข้าก็บรรลุขั้นเทวะ มีร่างอวตารทั้งสิ้นเก้าร้อยเจ็ดสิบเอ็ดร่าง!”

“เก้าร้อยเจ็ดสิบเอ็ดคือขีดจำกัดของเคล็ดวิชาจิตวิญญาณสลายและมันไม่สามารถเหนือกว่านี้ได้แล้ว ดังนั้นข้าจึงค้นหาวิธีอ้อมทางอื่น อวตารแต่ละร่างทำตัวเหมือนร่างหลักและใช้เคล็ดจิตวิญญาณสลาย ร่างอวตารแต่ละร่างมีร่างอวตารของตัวเองอีกเก้าร้อยเจ็ดสิบเอ็ดร่าง!”

“ด้วยวัฏจักรต่อเนื่องเช่นนี้ ระดับบ่มเพาะของข้าจึงค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนข้าบรรลุขั้นส่องสวรรค์…” ตอนที่หนุ่มหัวล้านมาถึงตรงนี้ เขาพลันถอนหายใจ

เขาและหวังหลินต่างก็เป็นเซียนทรงพลัง พวกเขาทะลุทะลวงผ่านดาวเคราะห์หลายใบ เดินทางมาได้ไกลยิ่งขึ้น

“หลังจากข้าบรรลุขั้นชำระสวรรค์ ข้าเริ่มแสวงหาสิ่งที่ข้าสงสัยมาตลอด ข้าอยากรู้ว่าสวรรค์ที่ข้าเห็นคือสวรรค์จริงๆ หรือไม่ พื้นดินแห่งนี้เป็นพื้นดินจริงๆ หรือไม่ แดนสวรรค์คือแดนสวรรค์จริงหรือไม่!”

“ข้าต้องการแสวงหาตำนานที่ถูกส่งต่อมาตั้งแต่ยุคโบราณจากเหล่าบรรพชน พวกเขาบรรยายและแกะสลักเป็นแดนสวรรค์! อย่างไรก็ตามถึงแม้ข้าจะบรรลุขั้นชำระสวรรค์และมีระดับบ่มเพาะทรงพลัง ข้าไม่สามารถออกไปจากโลกเจ็ดสีแห่งนี้ได้ ข้าทำได้เพียงแค่ท่องเที่ยวอยู่ภายในและมีม่านที่มองไม่เห็นไม่ให้ข้าทะลวงผ่านไปได้!”

“ดังนั้นข้าจึงคิดหาวิธีควบคุมร่างอวตารที่มีอยู่มากมายเพื่อทะลวงผ่านขั้นตัดวิญญาณกันทั้งหมดและกระตุ้นทัณฑ์สวรรค์! ในตอนนั้นทัณฑ์สวรรค์เล็กๆ ส่วนหนึ่งถูกข้ากระตุ้นเข้ามา!”

“ทุกครั้งที่ทัณฑ์สวรรค์ปรากฏ ข้าจะสังเกตการณ์มันอยู่ข้างๆ ขณะที่เวลาผ่านไปข้าก็ค่อยๆ เข้าใจอะไรบางอย่าง ในเวลาเดียวกันข้าก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เข้าใจด้วย!”

“ข้าแทบไม่เชื่อว่าโลกที่ข้าอยู่แห่งนี้ถูกคนอื่นสร้างขึ้นมา ข้าแทบไม่เชื่อว่าข้าถูกมองเป็นมดตัวหนึ่งและเป็นเพียงแค่ให้อีกฝ่ายเอาไว้เก็บรวบรวมจิตวิญญาณสายฟ้า!”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ พลางฟังชายหนุ่มหัวล้านเล่ามา ในแววตาเกิดความซับซ้อนเกินบรรยาย

“ข้าหลงทางและไร้ที่พึ่ง เที่ยวบอกคนอื่นแต่ไม่มีใครเชื่อข้า…แม้แต่ข้าก็ไม่อยากเชื่อ ข้าไม่อยากเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง…ข้าไม่พบอะไรคงดีเสียกว่าและทั้งหมดเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ของข้า…”

“ข้าใช้เวลาหลายพันปีตกอยู่ในอาการมึนงงสับสน…จนกระทั่งวันหนึ่งข้าได้เห็นเทพสองคนต่อสู้กัน หนึ่งในนั้นตาย ร่างกายตกลงมาจากท้องฟ้า…ข้ายืนอยู่เบื้องหน้าร่างนั้นเป็นเวลานานจนร่างศพเหี่ยวแห้งและหายไปหมด หลังจากผ่านไปสักพักข้าก็หัวเราะทั้งน้ำตา ร่างศพนั้นไม่ใช่เทพเลย มันเหมือนกับข้า…เป็นเซียนธรรมดา!”

“จากวันนั้น ข้าไม่สับสนอีกแล้ว ข้าบอกตัวเองว่าข้าอยากจะทะลวงผ่านโลกใบนี้ ข้าอยากออกไปข้างนอกและเห็นว่ามันมีอะไร เพื่อยืนยันสิ่งที่ข้าคิดว่ามันเป็นจริง!” หนุ่มหัวล้านเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ราวกับนี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกให้กับคนอื่น

“ข้าเริ่มบ่มเพาะ ร่างอวตารทุกร่างของข้าบ่มเพาะเคล็ดจิตวิญญาณสลายไปเช่นเดียวกัน วันเวลาดำเนินผ่านไปแต่ความไม่พอใจของข้ารุนแรงขึ้น…จนกระทั่งข้าได้บรรลุขั้นทลายสวรรค์! แม้กระทั่งร่างอวตารของข้าก็บรรลุขั้นส่องสวรรค์และชำระสวรรค์! ในที่สุดข้าก็ทะลุกรงออกมาได้และก้าวเข้าสู่ท้องฟ้าดวงดารา!”

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version