Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1371

Cover Renegade Immortal 1

1371. ข้าทนไม่ได้

“นายท่านข้ากลับมาแล้ว เม็ดยาที่นี่ราคาสูงที่สุด สูงยิ่งกว่าพวกสมบัติอีก ที่นี่มีขายหุ่นเชิดด้วย แม้จะไม่แข็งแกร่งแต่มันเป็นที่นิยมมาก เพียงแค่ประทับสัมผัสวิญญาณใส่ลงไปก็สามารถควบคุมมันได้ตามต้องการ!”

จงต้าหงพูดอย่างตื่นเต้น

ตอนที่หวังหลินมาถึงที่นี่ เขาปล่อยให้จงต้าหงออกมาและส่งเขาให้ไปรวบรวมข้อมูล จงต้าหงมาจากดาราจักรโบราณ ดังนั้นการส่งเขาออกมาจึงไม่มีพิรุธ

“อีกทั้ง ข้าไม่พบอะไรเกี่ยวกับคำสั่งดาราจักรโบราณเลย นายท่านสบายใจได้”

หลังจากปลดปล่อยจงต้าหง หวังหลินใช้วิชาเพื่อตรวจสอบจิตใจเขา ซึ่งหลังจากหวังหลินทำลายเผ่าสายฟ้ากระจายไป เขาไม่มั่นใจว่าจงต้าหงอาจจะมีความคิดเป็นอย่างอื่น

อย่างไรก็ตามสิ่งที่หวังหลินเจอช่างประหลาดยิ่งเพราะจงต้าหงแทบไม่มีความรู้สึกต่อเผ่าสายฟ้ากระจาย จากมุมมองเขา ทางเผ่าไม่เคยช่วยเหลือและเพราะเรื่องผลึกสายฟ้า เขาต้องจ่ายค่าคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง ในช่วงอายุต้นๆ เขาพึ่งพาตัวเองจนเพิ่มระดับบ่มเพาะถึงปัจจุบันได้ และพบเห็นว่าคนในเผ่าโหดเหี้ยมกันขนาดไหน ดังนั้นจึงไม่มีความรู้สึกภักดี

ดังนั้น หลังจากเรียนรู้ว่าตนเองสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้จากการติดตามหวังหลิน จึงเลือกออกไปจากเผ่าสายฟ้ากระจายโดยไม่ลังเล

แม้เผ่าสายฟ้ากระจายถูกทำลาย มีคนจำนวนมากที่ออกไปนอกเผ่าและอาศัยอยู่ที่อื่น การที่มีคนของเผ่าสายฟ้ากระจายปรากฏตัวขึ้นมาในดินแดนตกสวรรค์จึงไม่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ

หวังหลินถามขึ้นเบาๆ “หุ่นเชิด?”

จงต้าหงตื่นเต้นและรีบพูดขึ้นมา “นายท่าน หุ่นเชิดที่นี่ราคาแพงมาก มันถูกสร้างขึ้นจากวัตถุดิบอะไรไม่ทราบ มันสามารถแสดงพลังอำนาจของเซียนธรรมดาและยังดีสัมผัสวิญญาณอีก น่าอัศจรรย์”

หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่งไร้การเปลี่ยนแปลง เขาสนใจในหุ่นเชิด หลังจากขบคิดเล็กน้อยจึงเอ่ยถาม “มีข่าวอะไรเกี่ยวกับเผ่านกกระจอกเพลิงไหม?”

“ที่นี่ไม่มีคนของเผ่านกกระจอกเพลิงมากนักและข้าไม่เจออะไรบนดาวนี้เลย แต่ว่าหลังจากรวบรวมข้อมูลบางส่วนมา พวกเขารวมตัวกันบนดาวเคราะห์ธาตุเพลิงใกล้ๆ ส่วนรายละเอียด ข้าไม่คุ้นเคยนักแต่น่าจะได้รับความกระจ่างเร็วๆ นี้” จงต้าหงตบหน้าอกตัวเอง

ดวงตาหวังหลินเป็นประกายแทบมองไม่เห็น แม้แก่นแท้สายฟ้าของเขาจะสมบูรณ์ แต่สายฟ้าเสริมยังคงมีข้อเสียเล็กน้อย แต่เขามั่นใจว่าจะแก้ไขได้ เหตุผลที่เขายังอยู่ในดาราจักรโบราณก็คือแก่นแท้เพลิง!

เพื่อทำให้แก่นแท้เพลิงสมบูรณ์และปลุกวิหคเพลิงอีกครั้ง เขาจำเป็นต้องดูดซับเพลิงจำนวนมาก เผ่านกกระจอกเพลิงคือตัวเลือกแรกของหวังหลินและเขาคงไม่ปล่อยไปง่ายๆ

อย่างไรก็ตามหวังหลินคงไม่โชคดีกับเผ่านกกระจอกเพลิงเหมือนที่ทำกับเผ่าสายฟ้ากระจายและได้รับการช่วยทะลวงผ่านอุปสรรคทั้งหมด การปะปนเข้าไปในเผ่านกกระจอกเพลิงเพื่อเข้าถึงแก่นแท้ของเผ่ายังนับว่าไม่จริงขนาดนั้น

เดิมทีหวังหลินวางแผนแบบนี้แต่ตอนนี้เขาถูกทั้งดาราจักรโบราณหมายหัว เป็นไปได้ว่าก่อนที่เขาจะเข้าไปถึงใจกลางเผ่านกกระจอกเพลิง คนที่ไล่ล่าเขาคงมาถึงก่อน

แม้จะเป็นแบบนั้นหวังหลินกลับคิดวิธีประหลาดขึ้นมาได้ หากสำเร็จเขาจะสามารถกลืนกินเพลิงจากเผ่านกกระจอกเพลิงได้อย่างสมบูรณ์!

“จงต้าหง เอาเม็ดยาข้าไปซื้อหุ่นเชิดสักตัว” หวังหลินขบคิดเล็กน้อยก่อนจะสะบัดแขนขวาทำให้เม็ดปรากฏขึ้นสามเม็ด กลิ่นหอมของมันเต็มไปทั่วถ้ำ จงต้าหงจ้องมองเม็ดยาและกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่รับเอาไว้อย่างเคารพ

จงเผยเจินถือเม็ดยาเผยรอยยิ้มประจบและเอ่ยกระซิบ “นายท่าน มีเตาหลอมเซียนขายด้วยนะ ข้าควรจะ…”

หวังหลินขมวดคิ้วทำให้จงต้าหงต้องหุบปากและรีบจากไปให้ไว

หลังจากออกถ้ำมา เสื้อผ้าจงต้าหงมีแต่เม็ดเหงื่อ แม้การติดตามหวังหลินคือโอกาสใหญ่หลวง การขมวดคิ้วนั่นทำให้จงต้าหงหวาดกลัว

‘ตอนที่ข้าอยู่ในมิติเก็บของของนายท่าน เจ้าฉวี่ลี่กั๋วนั่นโหดเหี้ยมเกินไป มันแกล้งข้าต่อเนื่องเพราะระดับบ่มเพาะสูงกว่า ข้าจะจำเรื่องนี้เอาไว้ เมื่อระดับบ่มเพาะข้าเพิ่มขึ้น ข้าจะแก้แค้นคืนแน่นอน!’

‘ฮึ่ม ฮึ่ม ตราบใดที่ข้าเอาอกเอาใจนายท่านได้ดี วันนั้นคงอีกไม่ไกล’ จงต้าหงถือเม็ดยาและเหาะเหินออกไปไกล

เขาอยู่ที่นี่มาหลายวัน พึ่งพาวาทศิลป์และความฉลาดของตัวเองจึงมีสหายที่มีระดับบ่มเพาะต่ำกว่าไม่กี่คน ไม่นานนักเขาก็มาถึงด้านนอกหุบเขาแห่งหนึ่งและคำนับฝ่ามือ “พี่ใหญ่จาง น้องเล็กจงขอเข้าเยี่ยม”

หุบเขาแห่งนี้เงียบมากและเต็มไปด้วยต้นไม้หนาม แค่ชำเลืองสายตามองดูมันอ้างว้างและเต็มไปด้วยพลังงานหยิน มีกระดูกสัตว์กระจายอยู่บนพื้นก่อตัวเป็นค่ายกล

ข้างในส่วนลึกของหุบเขามีถ้ำแห่งหนึ่ง ทางเข้าไม่มีประตูแต่มีสายหมอกสีดำปกคลุมจนไม่อาจมองเห็นข้างใน

หลังจากจงต้าหงเอ่ยขึ้น เสียงหัวเราะประหลาดดังออกมาจากถ้ำ หมอกสีดำพุ่งเข้าไปในท้องฟ้า ขณะเดียวกันชายร่างผอมสวมเสื้อคลุมสีดำก้าวเดินออกมาจากถ้ำ

ชายชราผมเผ้ายุ่งเหยิง ร่างกายเหมือนกระดูกผุ ดวงตาแดงฉานและดูน่ากลัวยิ่ง

ชายชราร่างผอมลอยตัวไปใกล้จงต้าหงและเอ่ยขึ้น “เป็นน้องจงนี่เอง ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าต้องกลับไปหาเจ้านาย ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะกลับมาเร็วเยี่ยงนี้”

จงต้าหงมีท่าทีเป็นธรรมชาติและยิ้มออกมา เขาสะบัดแขนขวานำเม็ดยาหนึ่งในสามที่หวังหลินมอบให้ออกมา เขาดีดหนึ่งเม็ดตรงเข้าหาชายชราร่างผอม

ดวงตาของชายชราพลันหรี่แคบและมองดูใกล้ๆ สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปทันที แววตาเต็มไปด้วยความยินดี

“นี่มันเม็ดยาคุณภาพสูง!! มันเหมาะสมต่อการบ่มเพาะของข้ายิ่งและหาได้ยากมาก! น้องจง สิ่งนี้…”

จงต้าหงหัวเราะและคำนับฝ่ามือ “ไม่มีอันตรายอันใด เม็ดยานี้ไร้ประโยชน์ต่อนายท่าน น้องชายเห็นพี่ใหญ่อยู่ในขั้นตัดวิญญาณระดับกลางมานาน และข้าคิดว่าท่านคงจำเป็นต้องใช้เม็ดยา รับเอาไว้เถอะ”

ชายชราร่างผอมสูดหายใจลึกและรีบเก็บเม็ดยาไป เขามองจงต้าหงและกระซิบ “น้องจง ระดับบ่มเพาะของเจ้านายเจ้า หรือว่ามัน…” ชายชราลังเลก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกที “หรือจะเป็นขั้นหยินหยาง?”

จงต้าหงคาดไว้แล้วว่าคนผู้นี้จะพูดเรื่องนายของตัวเอง ดังนั้นสีหน้าท่าทางจึงเปลี่ยนเป็นเคารพทันทีและเอ่ยกระซิบ “ระดับบ่มเพาะของเจ้านายข้าสูงส่งทะลุสวรรค์ แม้ข้าจะไม่รู้ระดับบ่มเพาะจริงๆ แต่ข้าเห็นนายท่านสังหารเซียนขั้นส่องสวรรค์เพียงแค่กระบวนท่าเดียว!”

ชายชราร่างผอมสูดหายใจหนาวเหน็บเข้าไป ไม่กล้าค้นหาว่าเป็นจริงหรือโกหก ไม่สำคัญว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ คนที่สามารถเอาเม็ดยานี้ออกมาได้ง่ายๆ ไม่ใช่คนที่เขาจะไปล่วงเกินได้

“น้องจงโชคดีที่ได้ติดตามนายท่านคนนี้ ระดับบ่มเพาะของเจ้าจะทะยานในอนาคตแน่นอน ถึงตอนนั้นอย่าลืมพี่ใหญ่ด้วยเล่า” ชายชราร่างผอมเต็มไปด้วยความอิจฉาและคำนับฝ่ามือ

จงต้าหงคำนับฝ่ามือและหัวเราะ “ความจริงแล้วข้ามาที่นี่ก็เพื่อขอให้พี่จางช่วยเหลือ”

“น้องชายเอ่ยมาได้เลย ตราบใดที่ข้าสามารถช่วยได้ ข้าก็จะช่วย” เขาเจอจงต้าหงเมื่อหลายวันก่อน คนผู้นี้ร่ำรวยอย่างเห็นได้ชัด เม็ดยาที่จงต้าหงมีทำให้ดวงตาเขาแดงฉาน เขาต้องการขโมยมาแต่เขาระมัดระวังตัวมาก หลังจากรวบรวมข้อมูลบางส่วนจึงรู้มาว่าจงต้าหงมีเจ้านายอยู่ด้วย

คนที่สามารถทำให้เซียนขั้นตัดวิญญาณเป็นคนรับใช้ได้ไม่ใช่คนที่เขาจะสู้ได้ ดังนั้นจึงระงับความโลภเอาไว้ จงต้าหงมีนิสัยประจบดีเยี่ยมและนำเม็ดยาออกมาเยอะมาก ดังนั้นทั้งสองจึงค่อยๆ ใกล้ชิดกันโดยมีเจตนาของตัวเองในใจ

ปกติแล้วเขายังคงสงสัยอยู่ แต่พอเห็นเจ้านายของจงต้าหงสามารถเอาเม็ดยาออกมาได้ง่ายๆ แบบนี้จึงรู้สึกว่าเจ้านายของจงต้าหงลึกลับยิ่งกว่าเดิม

“ก่อนหน้านี้พี่จางพูดถึงหุ่นเชิด น้องชายกลับไปเล่าให้เจ้านายฟัง เจ้านายข้าสนใจที่จะซื้อหุ่นเชิด…พี่ใหญ่รู้ว่าน้องชายพึ่งมาใหม่และไม่คุ้นเคยกับที่นี่ ข้าหวังว่าพี่ใหญ่จางจะสามารถช่วยข้าได้ เมื่อเรื่องนี้เสร็จสิ้นจะมีของรางวัลขอบคุณท่านแน่นอน” จงต้าหงดวงตาส่องสว่างและยิ้มขึ้นมา

หลังได้ยินเช่นนี้ เขาลังเลและกระซิบไป “น้องจง การซื้อหุ่นเชิดไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ …หากเราอยู่บนดาวหลักมันก็ง่าย แต่ที่นี่มีเผ่าแมงป่องทมิฬควบคุมการแลกเปลี่ยนหุ่นเชิดอยู่ ราคาสูงกว่าหลายเท่า เจ้าแน่ใจหรือว่าจะซื้อ?”

พอเห็นว่าจงต้าหงพยักหน้า ชายชราร่างผอมขบคิดเล็กน้อยก่อนจะกัดฟันแน่น “ก็ได้ ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นสักครั้ง!”

สิ้นเสียงเขาก็นำทาง มุ่งหน้าออกไปไกล

ในทิศตะวันตกของดวงดาวมีเมืองทรุดโทรมอยู่แห่งหนึ่ง กำแพงแตกหักอยู่หลายแห่งแต่มีชีวิตชีวายิ่ง เซียนจำนวนมากเดินทางอยู่รอบๆ

เห็นได้ชัดว่าชายชราร่างผอมคุ้นเคยกับที่นี่ เขานำจงต้าหงมายังตึกที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และเดินเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง

ใจกลางเมืองมีห้องโถงแต่มีเซียนอยู่ที่นี่ไม่กี่คนราวกับพวกเขาหวาดกลัวและไม่กล้าเข้ามาตรงๆ มักจะอ้อมไปแทน

จงต้าหงและร่างชายชราถูกหลายคนพบเห็น คนจำนวนมากลอบส่ายศีรษะ

เมื่อพวกเขาเข้าห้องโถงไป ร่างจงต้าหงสั่นเทาพร้อมกับสัมผัสพลังงานเย็นออกมาจากทุกทิศทาง เขาไม่สามารถยืนต้านได้เลยด้วย ดังนั้นมันจึงเข้าไปสู่ร่างกาย ราวกับมีค้อนยักษ์กระแทกใส่จิตใจและกระอักโลหิตออกมาทันที

ทางด้านชายชราดีกว่าเล็กน้อยแต่ใบหน้าซีดเผือด เขารีบคุกเข่าลงบนพื้น “ผู้น้อยไม่มีเจตนาร้าย เราแค่ต้องการซื้อหุ่นเชิด”

ห้องโถงขนาดใหญ่มากและมีรูปปั้นอยู่ใจกลาง รูปปั้นนี้เป็นรูปแมงป่องสีดำ มันยกหางขึ้นปลดปล่อยกลิ่นอายหนาวเย็น พลังงานเย็นทำให้จงต้าหงกระอักโลหิตออกมา

“ต้องการซื้อหุ่นเชิด? เซียนน้อยขั้นตัดวิญญาณสองคนอยากซื้อหุ่นเชิดไปทำอะไร?” น้ำเสียงเย็นดังกึกก้องพร้อมกับมีคนผู้หนึ่งก้าวเดินออกมาจากหลังห้องโถง

เขาสวมชุดสีดำ รูปร่างหน้าตาอายุประมาณสี่สิบปี เขามีท่าทีมืดมนและสายตาดูถูก กลางหน้าผากมีอักขระแมงป่องดุร้าย

แมงป่องนี้เหมือนจริงและดูมีชีวิต มันส่ายหางไปมาและปลดปล่อยความน่ากลัว

จงต้าหงสูดหายใจลึกและรีบโค้งตัว เขานำเม็ดยาที่หวังหลินให้ออกมาและเอ่ยอย่างเคารพ “ผู้น้อยหวังว่าจะใช้เม็ดยานี้แลกเปลี่ยนหุ่นเชิดได้”

ชายวัยกลางมีสีหน้าเหมือนเดิมและยื่นมืออกไป เม็ดยาลอยเข้าสู่มือ ทว่าสายตาเปลี่ยนไปทันที เขาไม่สนจงต้าหงและชายชราอย่างสิ้นเชิง สูดดมเม็ดยาอย่างรวดเร็ว จากนั้นส่งสัมผัสวิญญาณกระจายออกไปจนต้องหรี่ตา

“มันเป็นเม็ดยาวิญญาณของจริง!” ชายวัยกลางคนส่งสายตาไปบนจงต้าหง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “เจ้ามีอีกกี่เม็ด?”

จงต้าหงยิ้มอย่างขมขื่น “มีอีกหนึ่งเม็ดเท่านั้น” เขาไม่รอให้อีกฝ่ายถามต่อและนำมันออกมา

ชายวัยกลางคนถือเม็ดยาเอาไว้และคาดหวังจงต้าหงไว้มากขึ้น หลังจากผ่านไปสักพักจงถอนสายตา เชื่อว่าอีกฝ่ายต้องได้มาด้วยความโชคดีมาก เม็ดยาพวกนี้หายากและแค่สองเม็ดก็เยอะแล้ว

หลังจากพยักหน้า ชายวัยกลางคนสะบัดแขน อักขระเผ่าส่องสว่าง หุ่นเชิดที่ดูเหมือนคนจริงๆ ปรากฏออกมาเบื้องหน้า

กลางหน้าผากของหุ่นเชิดไม่มีอักขระเผ่าและมันมีท่าทีซื่อๆ ไม่มีสติปัญญาและไม่มีพลังชีวิต มีเพียงกลิ่นอายมืดมน ระดับบ่มเพาะอยู่ราวๆ ขั้นตัดวิญญาณระดับต้น

“สองเม็ดนี้แลกได้แค่หุ่นเชิดนี้เท่านั้น พวกเจ้าสองคนไปได้แล้ว” ชายวัยกลางคนหันตัวกลับและรีบเดินเข้าไปในส่วนลึกของห้องโถง

จนกระทั่งจากไปแล้ว จงต้าหงและชายชรามองหน้ากันเอง ทั้งสองเห็นแววตาหวาดกลัวของอีกฝ่าย จงต้าหงรู้สึกสลด ไม่คิดว่าแค่การแลกเปลี่ยนหุ่นเชิดจะทำให้พวกเขาเผชิญหน้ากับวิกฤตความเป็นความตาย

เขารีบเก็บหุ่นเชิดและจากไปพร้อมกับชายชราร่างผอม

ส่วนชายวัยกลางคน หลังจากเข้าไปในอาราม จึงก้าวเท้าและจมลงไปในพื้นดิน ข้างใต้มีอีกโลกหนึ่งซ่อนอยู่

ใต้ดินซ่อนหอคอยเอาไว้ ส่วนห้องโถงเป็นแค่ปลายยอด ที่นี่คือชั้นที่สองและมีรูปปั้นแมงป่องอยู่เช่นกัน แต่มีชายหนุ่มผู้หนึ่งนั่งอยู่ด้านบนแมงป่อง

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังบ่มเพาะ ดูเหมือนกำลังดูดซับพลังอำนาจจากแมงป่อง เมื่อชายวัยกลางคนมาถึงเขาจึงลืมตา

“ปรมาจารย์น้อย ก่อนหน้านี้มีเซียนขั้นตัดวิญญาณสองคนมาซื้อด้วยเม็ดยาสองเม็ดนี้!” ชายวัยกลางคนรีบส่งเม็ดยาออกไป ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาห่างๆ หลังจากมองดูจึงเอ่ยขึ้น

“เม็ดยาวิญญาณ…ระดับธรรมดา แต่วิญญาณไม่เลว ไม่จำเป็นต้องเอะอะขนาดนี้ ส่วนเซียนสองคนนั้น หนึ่งจับเอาไว้และอีกหนึ่งทำให้บาดเจ็บ ทิ้งสัมผัสวิญญาณไว้และดูว่ามันไปไหน! อย่ารบกวนข้าด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นี้อีก” ชายหนุ่มหลับตา ไม่สนใจอีก

ชายวัยกลางคนโค้งตัวและหายวับไป

จงต้าหงและชายชราร่างผอมรีบออกมาจากเมือง ในท้องฟ้านั้นชายชรายิ้มแห้งและเอ่ยขึ้น “น้องจง เผ่าแมงป่องทมิฬเป็นผู้ปกครองและไม่มีใครบนดาวนี้กล้าไปล่วงเกิน เราโชคดีที่สามารถแลกเปลี่ยนหุ่นเชิดได้ หาก…” ชายชรายังไม่ทันพูดจบ รูม่านตาหดลงและมองไปข้างหน้า

จงต้าหงสั่นเทา ศีรษะด้านชา พุ่งตัวหนีไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล

หลังจากนั้นไม่นานมีลำแสงสีดำสองสายพุ่งออกไป หนึ่งในนั้นพุ่งหาชายชรา เขาไม่สามารถต่อต้านได้เลยและถูกจับทันที

ลำแสงสีดำอีกสายไล่ทันจงต้าหงและร่อนลงใส่หลังเขา ใบหน้าพลันมืดดำและกระอักโลหิตพร้อมกับหนีอย่างบ้าคลั่ง

ชายวัยกลางคนจากเผ่าแมงป่องทมิฬปรากฏขึ้นและมองดูตำแหน่งที่จงต้าหงหายตัวไป เขาหันตัวกลับมาคว้าชายชราที่หมดสติก่อนจะกลับไปที่ห้องโถงหลักของเผ่าแมงป่องทมิฬ

จงต้าหงหน้าซีด สถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่เขาพึ่งเจอมาได้สอนว่าที่นี่อันตรายยิ่งกว่าเผ่าสายฟ้ากระจาย

“เม็ดยาทำให้เกิดความสนใจมากเกินไป…ข้ารับมือเรื่องนี้ผิดพลาด ไม่เพียงข้าทำให้สหายจางบาดเจ็บ ข้าเกือบทำให้เกิดหายนะ” จงต้าหงเหาะด้วยความเร็วสูงสุดเข้าหาถ้ำของหวังหลิน

‘การบ่มเพาะ!! หากข้ามีระดับบ่มเพาะสูงขึ้น ระดับบ่มเพาะเหมือนของฉวี่ลี่กั๋ว ข้าคงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้! ข้าจงต้าหงต้องแข็งแกร่ง!!’ จงต้าหงกัดฟันแน่นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ชั่วโมงต่อมาถ้ำของหวังหลินปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

หลังจากร่อนลงบนภูเขา จงต้าหงเผยท่าทีขมขื่นและก้าวเดินเข้ามาทางเข้า เขากระอักโลหิตอีกครั้งยามร่อนลงไป

หวังหลินกำลังบ่มเพาะอยู่และลืมตาขึ้นมาเห็นจงต้าหงก้าวเดินเข้ามาข้างใน ดวงตาส่องประกายเจิดจ้า

หวังหลินเอ่ยถาม “หุ่นเชิดอยู่ไหน?”

จงต้าหงหน้าซีดและสะบัดแขนเงียบๆ ให้หุ่นเชิดปรากฏ หวังหลินยื่นแขนขวาออกไปให้มันลอยเข้าหาเขาก่อนจะหยุดลงเบื้องหน้า

หวังหลินมองมันอย่างละเอียด ดวงตาเผยแสงประหลาด

“สิ่งนี้…” วินาทีต่อมาจึงถอนสายตาและเก็บหุ่นเชิดกลับไป จากนั้นเอ่ยถาม “เจ้าบาดเจ็บได้อย่างไร?”

จงต้าหงขบคิดอยู่นานและเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไป ท้ายที่สุดเขาเห็นสีหน้าหวังหลินมืดมนขึ้นและเอ่ยอย่างขมขื่น “นายท่าน ข้าชะล่าใจไปหน่อย หากข้าควบคุมข้อมูลให้ดีคงไม่เกิดเรื่องขึ้น อย่างน้อยข้าก็ได้หุ่นเชิดและทำตามคำสั่งของนายท่านได้สำเร็จ…”

“เรื่องอาการบาดเจ็บของข้า แค่ปิดด่านบ่มเพาะไม่นานก็ฟื้นคืนได้”

เขาเห็นว่าหวังหลินไม่เอ่ยอะไร และเมื่อสีหน้าหวังหลินมืดมนขึ้น จิตใจสั่นเทา เอ่ยเสียงสั่น “นายท่านหนีมาที่ดินแดนตกสวรรค์เพื่อหาที่หลบหนี ข้าอดทนได้…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาได้ยินหวังหลินพ่นลมหายใจเย็น ใบหน้าพลันซีดขึ้น

“ช่างเป็นวิธีร้ายกาจอะไรกัน ไม่ว่าเจ้าจะใช้เวลาปิดด่านบ่มเพาะแค่ไหนก็ไม่สามารถฟื้นคืนได้ง่ายๆ คนผู้นั้นทำลายเส้นการบ่มเพาะในร่างเจ้า และยังทิ้งประทับสัมผัสวิญญาณไว้ด้วย…”

ร่างจงต้าหงสั่นเทาและกำหมัดแน่น อย่างไรก็ตามลดมือลงอย่างรวดเร็ว ขบคิดอยู่เงียบๆ

“เจ้าคือคนของข้า เจ้าทนได้ แต่ข้าทนไม่ได้!” หวังหลินลุกขึ้นและก้าวเดินไปทางออก

จงต้าหงมองขึ้นไปจ้องหวังหลินทันที อดไม่ได้ที่แววตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเอ่ยกระซิบ “นายท่าน…”

หวังหลินไม่หันกลับมาแต่เอ่ยเสียงเย็นเยียบ “นำทางไป!”

จงต้าหงสูดหายใจลึก แววตาเผยจิตสังหาร นำทางหวังหลินไปที่เมืองโดยไม่ลังเล! หวังหลินคิดว่าตัวเขาช้าเกินไปและคว้าตัวเอาไว้ ทั้งสองเดินทางดุจประกายแสงมุ่งหน้าเข้าหาเมืองและทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

เหล่าเซียนทั้งหมดบนดาวเคราะห์ต่างรู้สึกสั่นเทาในดวงวิญญาณ ท้องฟ้าเปลี่ยนสี พื้นดินสั่นสะท้าน ก้อนเมฆกระจาย!

เพียงชั่วพริบตา หวังหลินพาจงต้าหงมาที่เมืองทรุดโทรม เขาปล่อยมือออกทำให้จงต้าหงลอยตัวอยู่ข้างๆ จงต้าหงตื่นเต้นพลางชี้ไปที่เมืองและเอ่ยกระซิบ “นายท่าน เผ่าแมงป่องทมิฬอยู่นั่น!”

ดวงตาหวังหลินเรืองแสงดุจคบเพลิงพลางมองดูเมืองด้านล่าง!

“เมืองนี้จะถูกทำลายในสามลมหายใจ คนที่ไม่เกี่ยวข้อง รีบออกไป!”

น้ำเสียงเขาดุจสายฟ้าตกลงใส่เมือง น้ำเสียงเกิดเป็นระเบิดทำให้เมืองด้านล่างสั่นเทาและเตะฝุ่นผงจำนวนมากขึ้น

สีหน้าท่าทางเหล่าเซียนในเมืองทั้งหมดถึงกับเปลี่ยนไปมหาศาล บางส่วนกระอักโลหิตและจากนั้นรีบหนีไปตาเหลือก

ข้างในห้องโถงหลัก ชายวัยกลางคนกำลังนั่งอยู่โดยมีชายชราชื่อจางกำลังหวาดกลัว อ้อนวอนขอความเมตา ขณะที่เรื่องราวดำเนินต่อไป น้ำเสียงหวังหลินจึงดังกึกก้อง

ชายวัยกลางคนลืมตาขึ้นอย่างตกตะลึงและกระอักโลหิต เขายืนขึ้นทันที

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นแต่เซียนเผ่าแมงป่องทมิฬทั้งหมดที่กำลังบ่มเพาะอยู่ในหอคอยพลันลืมตาขึ้นมาและยืนขึ้นด้วยความตกใจ

แม้กระทั่งชายหนุ่มบนชั้นที่สองยังสั่นเทา ใบหน้าซีดเผือด น้ำเสียงแทงทะลุผ่านผิวดินและตรงลงมาที่นี่จนสั่นสะเทือนทั้งหอคอย

สามลมหายใจผ่านไปในเสี้ยววินาที หวังหลินยื่นแขนขวากดลงไป สายฟ้าดังสนั่นกึกก้องพร้อมกับสายฟ้ามากมายรวมกันมาจากทุกทิศทางก่อตัวเป็นตาข่ายสายฟ้าขนาดยักษ์ตกลงใส่เมือง

สายฟ้ามากมายทำให้ฉากเหตุการณ์นั้นสั่นสะเทือนจิตใจเซียนทุกคนที่กำลังหนีออกจากเมือง เพียงแค่เสียงดังปัง พื้นดินสั่นไหวรุนแรงและตาข่ายสายฟ้าตกลงไป ทั้งเมืองพังทลาย แม้กระทั่งหอคอยยังแตกสลาย ทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักหักพัง

เกิดรอยแตกร้าวลึกลงไปมากกว่าพันฟุต!

ทำให้หอคอยที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินเผยตัวตนออกมามากกว่าครึ่ง! ยอดหอคอยพังทลายไปแล้ว ชายชรานามว่าจางมองดูท้องฟ้า การเห็นจงต้าหงทำให้ความคิดสั่นสะท้าน

‘เขา…เขาคือเจ้านายของจงต้าหงหรือนี่!?’

ชายวัยกลางคนข้างชายชราจางถึงกับตกตะลึง เหตุการณ์เกิดขึ้นทันทีจนเขาไม่มีเวลาตั้งตัว

หวังหลินลอยลงมาอย่างช้าๆ ถึงตำแหน่งที่หลังคาแห่งหนึ่งพังทลาย จงต้าหงติดตามหวังหลินด้วยสายตาตื่นเต้น

หวังหลินชี้ใส่ชายวัยกลางคนและมองไปที่จงต้าหง “มันเป็นคนทำร้ายเจ้าใช่ไหม?”

………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version