1380. สี่ลมหายใจ!
ห้าลมหายใจ!
เวลาตั้งแต่หนึ่งถึงห้าลมหายใจ เรียกสั้นๆ อาจจะเร็วเกินไปแต่มันช้ากว่าแสงเดินทางข้ามท้องฟ้าเพียงแค่เล็กน้อย!
ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าเผ่ามังกรหุ้มเกราะ ชายชราจากนกกระจอกเพลิง หรือปรมาจารย์ซือโม่ ไม่มีใครเชื่อว่าจะจบการต่อสู้นี้ได้ในเวลาห้าลมหายใจ!
อีกทั้งคู่ต่อสู้ที่หวังหลินเผชิญหน้าคือปรมาจารย์ซือโม่ด้วย!
อย่างไรก็ตามหลังจากหวังหลินได้ยินเช่นนี้ ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า ก่อนที่เสียงคำว่า “หนึ่ง” จะหายไป หวังหลินสะบัดแขนระเบิดระดับบ่มเพาะทั้งหมดขึ้นมา!
วิชาเวลาสิ้นสุดเป็นวิชาที่ปรมาจารยซือโม่รู้แจ้งด้วยตัวเองจากเขตอาคมกาลเวลา เช่นเดียวกับวิชาห้วงเวลาของหวังหลิน! พอเขาใช้วิชานี้ พายุระเบิดออกมาจากเขตอาคมกาลเวลา
โลกพลิกตาลปัตรถึงกับสั่นเทาอย่างรุนแรงอยู่ใต้พายุ ท้องฟ้ากลายเป็นสีเหลืองอ่อนและมีฟองผุดขึ้นมา! ฟองเริ่มรวมกัน เกิดการระเบิดปลดปล่อยของเหลวสีเหลืองเข้มจำนวนมาก!
บนพื้นเกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนและแพร่กระจายออกไปราวกับพื้นดินมีริ้วรอยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา ท้องฟ้าและผืนดินหุบเข้ามาใกล้ๆ จนพังทลาย!
วินาทีที่โลกพังทลาย วังวนที่สร้างขึ้นจากเขตอาคมแห่งเวลาได้กวาดโลกไปและพุ่งหาหวังหลินด้วยกลิ่นอายทำลายล้างเกินจินตนาการ!
ตอนนี้คำว่า “หนึ่ง” ยังคงดังอยู่ ระดับบ่มเพาะทั้งหมดของหวังหลินระเบิดออกมา แสงทรงพลังปะทุออกมาจากร่างกาย ในสายตาเขาทุกอย่างในโลกเปล่งแสงและรวมกันรอบตัวก่อเกิดเป็นเงาแสงขนาดใหญ่
โล่ห์เงาแสง!
เมื่อพายุเวลาเข้ามาถึง โล่ห์เงาแสงก่อเกิดขึ้นมาและปะทะใส่!
เงาแสงกระพริบรุนแรงวูบวาบรอบตัวหวังหลิน มันทำให้ห้วงเวลาของหวังหลินเพิ่มขึ้นหลายเท่า!
หากเป็นคนอื่นคงต่อต้านวิชาที่มีพื้นฐานจากกาลเวลาได้ยากมาก แต่หวังหลินเข้าใจวิชานี้ด้วยตัวเองและเป็นวิชาที่สองที่เขาสร้างขึ้นมาในชีวิต ห้วงเวลา!
เมื่อวังวนแห่งเวลาปะทะใส่ หวังหลินสะบัดแขนขวา โลกส่งเสียงดังสนั่นปรากฏประตูหินขึ้นมา ประตูหินปลดปล่อยกลิ่นอายอ้างว้างโดดเดี่ยวซึ่งผสานไปกับหวังหลิน
มองไกลๆ ดูเหมือนหวังหลินกำลังยืนอยู่บนประตูหินและห่อหุ้มด้วยพลังแห่งเวลา ไม่ว่าโลกจะโหมกระหน่ำใส่เขามากแค่ไหนเขาก็ไม่เคลื่อนไหวเลย! มีเพียงเส้นผมที่เคลื่อนอยู่ในสายลม ทำให้เขาเปล่งความรู้สึกคงอยู่ชั่วกาลนาน
อีกทั้งตอนนี้โล่ห์เงาแสงเปล่งประกายเจิดจ้าและเริ่มเกิดพลังสะท้อนขึ้น ปรมาจารย์ซือโม่เปลี่ยนท่าทีพลางก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเลและกดมือลง!
ปรากฏประทับฝ่ามือสั่นสะเทือนสวรรค์ บรรจุพลังอำนาจทั้งหมดที่เขาสามารถใช้ได้ในขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งที่ห้าและเต็มไปด้วยจิตสังหาร มันทะลวงผ่านเขตอาคมแห่งกาลเวลาที่ล้อมรอบโล่ห์เงาแสงและชนเข้าไป
คลื่นเสียงดังสนั่นกึกก้องในทุกทิศทาง โล่ห์เงาแสงแตกกระจาย ทว่าวินาทีนั้นหวังหลินร้องคำรามและสร้างอันที่สอง!
เหตุการณ์วนซ้ำอีกครั้ง ในชั่วครู่เดียวปรากฏโล่ห์เงาแสงขึ้นสามครั้ง!
หลังจากครั้งที่สาม โล่ห์พังทลาย! มันสะท้อนพลังส่วนใหญ่ของเขตอาคมแห่งกาลเวลาและประทับฝ่ามือกลับไปใส่ปรมาจารยซือโม่ที่กำลังเข้ามา!
“สอง…” เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วอวกาศอีกครั้ง!
ยังเหลือเวลาอีกสามลมหายใจ!! ไม่มีคนที่แข็งแกร่งคนใดที่กำลังสังเกตการต่อสู้นี้ด้วยสัมผัสวิญญาณจะเชื่อว่าหวังหลินสามารถเอาชนะได้ในเวลาสามลมหายใจ!
เมื่อคำว่า “สอง” ดังกึกก้อง แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบ ยามที่โล่ห์เงาแสงพังทลายไป เขาได้รับผลกระทบจากพลังกระแทกไปด้วยและกระอักโลหิต ทว่าส่งเสียงหัวเราะดังลั่นและพุ่งตัวออกไป!
หวังหลินใช้กระบวนท่าสังหาร! เคลื่อนร่างรวดเร็วเกินจินตนาการ ดวงตาขวาปรากฏอักขระสายฟ้าซึ่งมีสายฟ้าเสริมอยู่เก้ารูปแบบและก่อเกิดอักขระสายฟ้าขนาดยักษ์เบื้องหน้าหวังหลินทันที!
อักขระสายฟ้าสั่นสะเทือนสวรรค์ แก่นแท้สายฟ้าทรงพลังยิ่ง เสริมด้วยสายฟ้าทั้งเก้ารูปแบบส่งเสียงดังสนั่น โดยเฉพาะสายฟ้าเสริมสามรูปแบบสุดท้ายคือ สายฟ้าขอบเขตจวี่ สายเลือดสายฟ้าและสายฟ้าฝืนลิขิต!
ทั้งสามสายฟ้าปะทุด้วยพลังอันแข็งแกร่งทำให้อักขระสายฟ้าเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า
เพียงกระพริบตาจึงปรากฏอสรพิษสีเงินนับไม่ถ้วนขึ้นในท้องฟ้า พวกมันเต็มไปด้วยวิชาและเริ่มรวมตัวเข้าหาอักขระสายฟ้า
อักขระสายฟ้าสั่นสะเทือนสวรรค์ หวังหลินผลักมันไปข้างหน้า เริ่มโจมตีปรมาจารย์ซือโม่เหมือนที่โจมตีใส่ประตูดับสูญ!
อักขระสายฟ้าเต็มไปทั่วฟ้าและพุ่งหาปรจารย์ซือโม่!
ปรมาจารย์ซือโม่มีสีหน้าเคร่งเครียด ตลอดทางที่ไล่ตามเขาหวาดกลัววิชาสายฟ้าของหวังหลินมากที่สุด แม้จะไม่เคยเจอด้วยตัวเองแต่การย้อนเวลาการที่หวังหลินโจมตีประตูดับสูญก็มากพอให้ขนลุกซู่แล้ว
เมื่อเขาเห็นอักขระสายฟ้านี้จึงนึกย้อนไปถึงตอนที่หวังหลินพยายามทะลวงประตูดับสูญ แขนสะบัดขึ้นมาห่อหุ้มเขตอาคมแห่งกาลเวลาเอาไว้รอบตัว
“มาดูว่าสายฟ้าของเจ้าจะแข็งแกร่งกว่าเขตอาคมของข้าไหม!”
หวังหลินเคลื่อนร่างดุจสายฟ้าและผลักอักขระสายฟ้าไปข้างหน้า มันดูดซับสายฟ้านับไม่ถ้วนที่ปรากฏขึ้นมาจากอวกาศ เป็นเหมือนประกายสายฟ้านิรันดร์แห่งสวรรค์และจุติลงมาใส่ปรมาจารย์ซือโม่ราวกับทัณฑ์สวรรค์!
ทั้งสองฝ่ายเข้ามาใกล้ขึ้นและใกล้ขึ้น เสียงลึกลับดังกึกก้องออกมาอีกครั้ง
“สาม…”
ขณะที่คำว่า “สาม” ดังก้อง ร่างหวังหลินผสานเข้ากับอักขระสายฟ้าจนไม่สามารถบอกความแตกต่างได้ อักขระสายฟ้าปะทะเข้ากับเขตอาคมแห่งเวลาของปรมาจารย์ซือโม่
เสียงที่ตามมาสั่นสะเทือนสวรรค์และแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง ภายใต้แรงกระแทกรุนแรงนี้ เขตอาคมกาลเวลารอบปรมาจารย์ซือโม่สั่นเทาและพังทลายกระแทกกลับไปใส่ปรมาจารย์ซือโม่
อักขระสายฟ้าเข้าไปใกล้ทันที
ทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป พริบตาเดียวอักขระสายฟ้าประทับลงบนหน้าอก ปรมาจารย์ซือโม่ถึงกับหน้าซีดและกระอักโลหิตคำโตอย่างห้ามไม่ได้และต้องล่าถอย
สายฟ้าปกคลุมหน้าอก ส่งเสียงแตกร้าวดังลั่น ปรมาจารย์ซือโม่ล่าถอยไปพร้อมอาการบาดเจ็บที่ย่ำแย่!
เขาดูหวาดกลัว แม้จะประเมินหวังหลินไว้สูงแต่ก็ยังไม่เชื่อว่าพลังอำนาจแห่งสายฟ้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้!
แม้กระทั่งกาลเวลายังต้องพังทลายเบื้องหน้าสายฟ้า!
หวังหลินถูกเขตอาคมแห่งเวลากระแทกใส่เช่นกันตอนที่สายฟ้าปะทะเขตอาคม เสี้ยวพริบตานั้นใบหน้าแก่ลง เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและกลายเป็นชายชรา
แต่วินาทีถัดมา พลังชีวิตไร้ก้นบึ้งปะทุออกมาจากร่างหวังหลิน หวนคืนอายุกลับมาเป็นปกติ ใบหน้าซีดเผือดเห็นได้ชัดว่าการเผชิญกับร่างอวตารของเซียนขั้นที่สามถือว่าเป็นการต่อสู้ที่ยากยิ่งสำหรับเขา
เมื่อเห็นว่าปรมาจารย์ซือโม่ล่าถอย แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบ จิตสังหารมหึมาปะทุขึ้นพร้อมกับไล่ล่า! ทว่าในวินาทีนั้นเสียงลึกลับดังออกมาอีกครั้ง
“สี่…” ก่อนที่เสียงจะกล่าวจบ เสียงหัวเราะหวังหลินดังขัดขึ้นมา เขาทะลุผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วเต็มที่ ไล่ตามทันปรมาจารย์ซือโม่ที่กำลังถอย จากนั้นสะบัดแขน!
เม็ดยาสีทองขนาดเท่าเล็บก้อยปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าและพุ่งใส่ปรมาจารย์ซือโม่ด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ มันรวดเร็วเกินไปจนมาถึงห่างปรมาจารย์ซือโม่เพียงระยะร้อยฟุต!
หวังหลินร้องคำรามอย่างไม่ลังเลโดยไม่รอให้เม็ดยาเข้าใกล้มากกว่านี้ “ระเบิด!”
สิ้นเสียงคำราม เกิดเสียงสั่นสะเทือนดังลั่นราวกับดาวเคราะห์เซียนกำลังระเบิด คลื่นกระแทกเดินทางออกไปไกลพร้อมกับพลังทำลายล้าง! ปรมาจารย์ซือโม่อยู่ใกล้เกินไปจนกระอักโลหิตอีกครั้ง แววตาหวาดกลัว!
เขาไม่คาดคิดว่าหวังหลินจะมีสมบัติเช่นนี้ ตอนที่ถูกแรงระเบิดของเม็ดยาเข้าโจมตี รู้สึกเหมือนร่างเนื้อกำลังฉีกขาด กระทั่งกระดูกกำลังแตกละเอียด
ถ้าไม่ใช่เพราะร่างดั้งเดิมอยู่ในขั้นที่สามและสามารถรวบรวมทรัพยากรจำนวนมากเพื่อหล่อหลอมร่างกายที่แทบจะไร้เทียมทานได้ หากเป็นเซียนธรรมดาคงตายไปนานแล้ว
ปรมาจารย์ซือโม่หลอมร่างอวตารนี้ขึ้นมาหลังจากพบว่าอยู่ในขั้นสวรรค์ดับสูญมานานเกินไปและไม่ได้จิตวิญญาณเต๋ามากนัก เขาหลอมร่างอวตารนี้เพื่อหวังว่าจะบรรลุขั้นที่สามและช่วยเพิ่มระดับบ่มเพาะขึ้น
ขณะที่ร่างอวตารของปรมาจารย์ซือโม่ถูกกระเด็นกลับไปด้วยแรงระเบิด หวังหลินก้าวเท้าและสะบัดแขนขวา ผลึกเพลิงอัคคีที่เขาหลอมมาถูกโยนออกไป
“ระเบิด!” เมื่อผลึกเพลิงอัคคีเข้าไปใกล้ปรมาจารย์ซือโม่จึงร้องคำรามออกมา ผลึกจึงเริ่มการทำลายล้างรอบที่สอง!
ทั้งหมดนี้ฟังดูนานมากแต่ความจริงมันเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที!
‘ไม่เลว!’ หัวหน้าเผ่ามังกรหุ้มเกราะกำลังให้ความสนใจการต่อสู้นี้อย่างใกล้ชิด เมื่อเห็นแบบนี้สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปมหาศาล!
……………………………………………….