Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1454

Cover Renegade Immortal 1

1454. จุดสำคัญ

เซียนเกือบร้อยคนที่อยู่รอบๆหวังหลินต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมด ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว การต่อสู้จบลงก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตั้งตัวเสียอีก!

หวังหลินเคลื่อนผ่านฝูงชนโดยไม่มีใครกล้าขัดขวาง เขาจับสาวรับใช้ของปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินและมีพลังแห่งเพลิงไร้ลักษณ์ที่สั่นสะเทือนสวรรค์!

สิ่งที่พวกเขาตกตะลึงยิ่งขึ้นก็คือการโจมตีของหนึ่งในห้าปรมาจารย์แห่งดาราจักรโบราณ ได้ถูกขัดขวางและเขายังไม่บาดเจ็บ!

เรื่องเช่นนี้มากพอทำให้พวกเขาตกตะลึงกันรอบด้าน!

“เซียนเพลิงไร้ลักษณ์!”

“ไม่เพียงแต่จะเป็นเซียนเพลิงไร้ลักษณ์ แม้แต่การโจมตีจากหนึ่งในห้าปรมาจารย์ก็ไม่สามารถสังหารเขาได้!”

“ช่างเรื่องสังหารไปได้เลย เขาไม่บาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ!”

“เห็นได้ชัดว่าวิชาที่เขาใช้คือพลังดั้งเดิม แม้เขาจะไม่ใช่เซียนขั้นที่สาม เขาก็ห่างเพียงแค่ขั้นเดียว!”

“เขาเป็นใคร!?”

อสูรยุงสีดำบินลงมา พวกมันไม่ได้ช้าเพียงแต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปต่างหาก! การกระทำของหวังหลินพร้อมกับการมาถึงของเหล่าอสูรยุงทำให้เหล่าเซียนทั้งหมดหยุดการต่อสู้

พายุในท้องฟ้าสั่นไหวรุนแรง หวังหลินจ้องมองด้วยสายตาเยือกเย็น พลันเกิดเสียงดังปัง ราวกับมีมือยักษ์หนึ่งคู่ที่มองไม่เห็นคว้าเข้าใส่พายุและฉีกกระชากมันออกมา พายุพังทลายและทั้งสองคนก็ล่าถอยออกจากกัน!

คนที่ถอยมาด้านขวาคือเฒ่าพิษเดียวดาย ในแววตากะพริบเย็นเยียบและหัวเราะ “เยี่ยมมาก คู่ควรที่จะเป็นลูกหลานของเจ้านกเฒ่านั่นจริงๆ เจ้ากล้าแม้แต่การจับสาวรับใช้ของหนึ่งในห้าปรมาจารย์ต่อหน้าต่อตาเขา ความกล้าหาญนี้ ความเด็ดเดี่ยวนี้ เจ้าเหมาะสมแล้วที่มีพรสวรรค์!”

“ข้าไม่ได้มอบพิษนั้นให้เจ้าปกป้องตัวเองโดยไร้ประโยชน์!” ชายชราเอ่ยขึ้นพลางยิ้มออกมา เขาสังเกตว่าหวังหลินไม่ใช่คนธรรมดา และหากทั้งสองคนร่วมมือกัน…

คนที่ออกมาด้านซ้ายคือชายหนุ่มผู้เป็นปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน เขามองลงมาหาหวังหลินและยิ้มขึ้นทันที

“เยี่ยมมาก!” รอยยิ้มหนาวเย็นยิ่ง หลังจากมองหวังหลินคราเดียวจึงมองขึ้นมาที่เฒ่าพิษเดียวดาย เขาสะบัดแขนปรากฏอสรพิษสีเขียวขนาดหมื่นฟุต มันดิ้นรนและ ส่งเสียงซี่ๆ

เพียงแค่บีบมือ อสรพิษสีเขียวก็ส่งเสียงร้องคร่ำครวญ ร่างมายาของมันพังทลาย จากนั้นเปลี่ยนกลายเป็นเม็ดยาขนาดเท่าศีรษะ ลอยมาเบื้องหน้าปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน

กลิ่นหอมรัญจวนเต็มไปทั่วอากาศ เพียงแค่สูดดมก็ทำให้โลหิตไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ทำให้จิตใจผ่อนคลาย

“เฒ่าพิษเดียวดาย ในสุสานนี้เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก สู้กันไปก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อข้าขโมยจิตวิญญาณเต๋าของเจ้าไป ข้าจะมอบมันคืนให้เจ้า!”

“เอาแบบนี้ ตอนนี้เจ้าจากไปได้และให้เรื่องระหว่างเราจบสิ้นลง ดีหรือไม่?” หลังเอ่ยจบ เฒ่าพิษเดียวดายจึงมีแววตาส่องสว่าง

แววตาหวังหลินกะพริบเย็นวาบ คำพูดนี้ได้เปลี่ยนสถานการณ์รอบด้าน!

ทั้งห้าปรมาจารย์ต่างก็เจ้าเล่ห์เจ้าวางแผนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดต่างก็บ่มเพาะฝึกฝนมานานหลายหมื่นปีจึงไม่มีใครโง่เขลา! แค่ชำเลืองมองก็สังเกตได้แล้วว่ามีโอกาสที่หวังหลินและเฒ่าเดียวดายจะร่วมมือกัน เช่นนั้นเขายอมยกจิตวิญญาณเต๋าให้ ดีกว่าที่คนทั้งสองนี้จะมาร่วมมือกัน!

‘เจ้าไม่ได้ต้องการจิตวิญญาณเต๋าหรอกหรือ? ข้าจะมอบมันให้เจ้า! เทียบกับลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าที่หวังหลินครอบครอง ของแค่นี้มันไร้ค่านัก!’

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินสงบนิ่ง รอคอยให้เฒ่าพิษเดียวดายเป็นคนเลือก

หวังหลินเยาะเย้ย หากเขาอยู่ข้างนอกคงจะจากไปทันทีถ้าเผชิญหน้ากับปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินเนื่องจากช่องว่างระหว่างทั้งสองถือว่ากว้างใหญ่เกินไป อย่างไรก็ตามตอนนี้หวังหลินมั่นใจว่าเขาสามารถรับมือด้วยตัวเองได้ แม้ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินจะเป็นหนึ่งในห้าปรมาจารย์ เขาทำได้เพียงแค่แสดงระดับบ่มเพาะขั้นสวรรค์ดับสูญชั้นต้นเท่านั้น

แม้จะไม่มีโอกาสเอาชนะ ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินก็ฆ่าเขาได้ยากยิ่งแน่

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือหวังหลินยังมีไพ่ตาย!

เฒ่าพิษเดียวดายเหล่ตามองและขบคิดชั่วขณะ เอ่ยขึ้นมาพลางยิ้มโดยไม่ได้มองดูหวังหลิน “นำจิตวิญญาณเต๋ามาและข้าจะไป!”

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินไม่ได้เอ่ยอะไรและทำแค่มองเฒ่าพิษเดียวดาย

“ข้าเฒ่าพิษเดียวดายขอสาบานด้วยเพลิงนรกานต์ของข้าว่าเมื่อได้รับจิตวิญญาณเต๋า ข้าจะจากไปและไม่กลับมาอีก!” เฒ่าพิษเดียวดายดูเหมือนจะรู้ว่าอีกฝ่ายรอคอยอะไร เขาสร้างผนึกด้วยมือขวาอย่างไม่ลังเล จากนั้นส่งอักขระประหลาดออกไป

การสาบานด้วยเพลิงนรกานต์เป็นวิธีที่น่าเชื่อถือระหว่างเซียนขั้นที่สามด้วยกันเอง เพียงแค่สะบัดฝ่ามือ อักขระเวทย์ก็ลอยเข้าหาปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน

หลังจากได้รับอักขระเวทย์ไป ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินก็ผ่อนคลายและโยนเม็ดยา ในมือให้

เฒ่าพิษเดียวดายสะบัดแขนและรับเม็ดยาไป เขายิ้มออกมาและชำเลืองมอง หวังหลินก่อนจะเหาะเหินออกไปไกล ขณะที่เขาก้าวเข้าไปในรอยแยกอวกาศ หวังหลินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที

อักขระสายฟ้าปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขาและพุ่งหาปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน อีกฝ่ายพ่นลมหายใจเย็น ดวงตาเผยความโหดเหี้ยม สิ่งแรกที่เขาต้องทำเมื่อต่อสู้กับเซียนเพลิงไร้ลักษณ์ก็คือผนึกอารมณ์ของตนเอง

แขนขวาสร้างผนึกและสะบัดไปทันที เพลิงไร้ลักษณ์ปรากฏพร้อมกับภาพมายาของหญิงสาวงดงาม นางถือกระบี่หยกและฟาดฟันใส่หวังหลินไปด้วย

ปราณกระบี่มหาศาลและให้ความรู้สึกราวกับฟันดินแดนผนึกแห่งนี้ให้ขาดเป็นสองท่อน มันพุ่งตรงเข้าหาอักขระสายฟ้า!

ปราณกระบี่ปะทะกับอักขระสายฟ้าในพริบตาและเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง ปราณกระบี่ไม่ได้กระแทกใส่อักขระสายฟ้าแต่กลับแบ่งออกเป็นหลายพันเส้น

อักขระสายฟ้าพังทลายในพริบตา หวังหลินกระอักโลหิตและถอยไปด้านหลังด้วยความร้อนรน เขาดูอ่อนแอลงและกำลังจะถอยหนี

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินกำลังจะไล่ตาม แต่วินาทีนั้นสายลมทมิฬร้องโหยหวนด้านหลัง โลกด้านหลังเขาพลันบิดเบี้ยวและปรากฏเงายักษ์ขึ้นเป็นฝ่ามือส่งกลิ่นเหม็นคาวและพุ่งใส่เมียวหยิน!

ฝ่ามือทมิฬปรากฏขึ้นฉับพลันเกินไปและประชิดเขาในพริบตา สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปและเขาตัดสินใจยกเลิกการไล่ตามหวังหลิน จากนั้นสร้างผนึกขึ้นมาเกิดเป็นเมฆหมอกสีม่วง โล่เก่าแก่พุ่งออกมาจากสายหมอก

ฝ่ามือทมิฬร่อนลงใส่โล่จนเกิดเสียงดังปัง บนโล่เกิดเสียงดังปะทุและเกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนแต่มันกลับไม่พังทลาย อย่างไรก็ตามมันกระเด็นกลับไปชนเข้าใส่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินกระอักโลหิตและถอยร่นอย่างรวดเร็ว

ทว่าขณะที่กำลังถอย ท่าทีอ่อนแรงของหวังหลินก็หายไป สะบัดฝ่ามือขวาด้วย จิตสังหารและเกิดแสงโลหิตมหึมาขึ้น กระบี่โลหิตพุ่งเข้าใส่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน

“ข้าต้องการเพลิงนรกานต์ของเขาทั้งหมด!!” หวังหลินพุ่งออกไปพลางกล่าวอย่างสงบนิ่ง

“ข้าต้องการร่างมันไว้ให้วิญญาณข้าสิงสู่!!” น้ำเสียงเก่าแก่ดังกึกก้องอยู่ในโลก

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินไม่ให้ความสนใจหวังหลิน โล่เบื้องหน้าเขาลอยออกไปปะทะกับฝ่ามือยักษ์ ในแววตาเกิดความโกรธเกรี้ยวและพูดสวนออกไป “เฒ่าพิษเดียวดาย เจ้าผิดคำสัญญา!!”

“ไร้สาระ ข้ารักษาสัญญาเสมอ! ในเมื่อเจ้าขโมยสมบัติข้าไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะมีครั้งที่สองครั้งที่สามตามมา ข้าจะปล่อยให้เจ้าขโมยอีกได้อย่างไร?” ขณะที่ส่งเสียงหัวเราะ ร่างเฒ่าเดียวดายกะพริบวูบวาบอยู่ในประทับฝ่ามือทมิฬ

“เซียนน้อยนี่เป็นผู้น้อยของนกเฒ่านั่น นกเฒ่านั่นเป็นสหายสนิทคนเดียวที่ข้ามี ข้าจะทิ้งเขาได้อย่างไร? ร่างของเจ้าจะเป็นของข้า!” ขณะที่เฒ่าพิษเดียวดายเอ่ยขึ้น เขาสะบัดแขนขวา เล็บทั้งห้าบนฝ่ามือหลุดออกไปและเปลี่ยนเป็นคมมีดห้าเล่ม พวกมันแหลมคมยิ่งและพุ่งใส่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินรีบถอยพร้อมกับมีกระบี่โลหิตผุดขึ้นด้านหลัง เขาไม่สนใจกระบี่โลหิตหรือหวังหลินมากนัก เขาคิดแค่ว่าอย่างมากหวังหลินก็ทำให้ เขาวอกแวก ศัตรูจริงๆคือเฒ่าพิษเดียวดายข้างหน้า!

ตอนที่เขาเห็นเล็บทั้งห้าลอยออกมา เขาเพ่งสมาธิส่วนใหญ่ไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นข้างหน้า พลังจำนวนมากไหลเข้าไปในโล่ควันสีม่วงมหาศาลผุดขึ้นมาจนเหมือนมหาสมุทรสีม่วง

“ไอ้หนูหวังหลินจงไปซะ เมื่อข้าได้เวลา ข้าจะไปฆ่าเจ้า!” ขณะที่เขาล่าถอย พลันสะบัดแขนซ้าย ร่างมายาโผล่ออกมาจากมหาสมุทรสีม่วง ร่างนี้สูงพันฟุตและร่างกายปกคลุมไปด้วยเกราะสีม่วง เขาถือตรีศูลในมือ ดวงตาส่องสว่างและพุ่งใส่ หวังหลินและกระบี่โลหิต

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินไม่ได้เห็นหวังหลินต่อสู้กับปรมาจารย์ซือโม่ เขารีบออกมาเข้าสุสานบัญชาโบราณและไม่ได้รู้ข่าวว่าบนดาวมหาจักรพรรดิเกิดอะไรขึ้น

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้อะไรเลย เขาคงไม่ดูแคลนหวังหลินแบบนี้และให้ความสนใจกับศัตรูตรงหน้า เพราะด้านหลังเขาคือเทพแห่งการสังหาร! เป็นเทพโบราณที่หลอมหลิงตงและเพิ่มพูนพลังอำนาจขึ้นมหาศาล!

กระบี่โลหิตร่ำร้องและปะทะกับตรีศูลเสียงดังปัง ในโลกนี้แทบไม่มีอะไรที่สามารถหยุดกระบี่โลหิตได้ มันแทงทะลุผ่านตรีศูลและร่างมายานั้นไป จากนั้นพุ่งตรงเข้าหาปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้สีหน้าปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินถึงกับเปลี่ยนไปมหาศาล เขาเองก็หลบช้าเกินไป คมมีดจากเล็บนิ้วของเฒ่าพิษเดียวดายกำลังเข้าประชิด

ในวินาทีวิกฤต ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินสะบัดแขนและร้องคำราม เกล็ดสีม่วงมากมายปรากฏขึ้นบนร่างและเรืองแสงสีม่วง พริบตานั้นมันก็ปกคลุมทั่วร่างกาย

เล็บทั้งห้าเข้าปะทะกับโล่จนเกิดเสียงดังสนั่น โล่ฉีกกระชากออกไปทำให้เล็บร่อนลงใส่ร่างเมียวหยิน

ขณะเดียวกันกระบี่โลหิตได้พุ่งเข้าสู่ร่างเขาด้วย!

เสียงสั่นสะเทือนสวรรค์ดังกึกก้องไปทั่วดินแดน ขณะที่คลื่นกระแทกกระจายออกไป รอยแยกขนาดยักษ์เปิดขึ้นมาและมีหมอกด้านนอกพุ่งเข้ามาข้างใน

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินกระอักโลหิต หน้าอกเจิ่งนองด้วยโลหิตและเต็มไปด้วยแก๊สพิษ กระบี่โลหิตแทงใส่หน้าอกเขาและกลับมาหาหวังหลิน

“แก่นแท้เสียง แก่นแท้สายฟ้า เต๋าคลื่นเสียงทำลายล้าง!!”

ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินรีบถอยด้วยท่าทีน่ารังเกียจ เขาต้องยอมรับว่าดูแคลนหวังหลินต่ำไป ตอนนี้จึงได้แต่ร้องเสียงโหยหวน!

อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าหวังหลินได้เตรียมการโจมตีที่รุนแรงที่สุดไว้แล้ว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version