1470. สืบทอด 2
ขณะที่หวังหลินนั่งอยู่บนบัลลังก์ที่อยู่บนแท่นหิน โจวจินและหลิงตงยังคงคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า พวกเขาตระหนักได้ว่าแรงกดดันในตัวหวังหลินเพิ่มระดับจนน่าหวาดกลัว แรงกดดันนี้ทำให้พวกเขาหวาดหวั่นและตกตะลึง ดังนั้นจึงไม่กล้าเงยศีรษะ
ทั้งสองมิอาจเห็นโลหิตที่กำลังไหลออกจากตาซ้ายหวังหลินได้…
การสืบทอดเริ่มต้นขึ้นในจังหวะที่หวังหลินนั่งลงบนบัลลังก์…
ขณะที่หวังหลินนั่งอยู่บนบัลลังก์นิ่งๆพร้อมกับเวลาที่ผ่านไปอย่างช้าๆ ภาพในหัวของเขาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและมีฉากเหตุการณ์ที่แตกต่างไปด้วยกัน
หลังจากไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เหล่าเซียนรอบด้านทั้งหมดเงียบสงัด มีแต่เปลวเพลิงที่เผาไหม้บนศีรษะต่อไป ห่อหุ้มบริเวณด้วยสัมผัสแห่งมายา
ในวันนี้ คนผู้หนึ่งสวมชุดคลุมเต๋าเจ็ดสีปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าในตำหนักอันเงียบงัน เขายืนอยู่เบื้องหน้าชายวัยกลางคนผู้กางร่มและขบคิดอยู่เงียบๆเป็นเวลานาน
“ในชีวิตข้ารับผิดชอบเด็กสามคน…เจ้าเป็นคนที่มาไกลที่สุด…” เซียนเจ็ดสีถอนหายใจและเดินผ่านชายวัยกลางคน เขายืนอยู่เบื้องหน้าลี่กวง ผู้ที่ดูเหมือนยังถือคันธนู
“ข้าจะรักษาสัญญากับเจ้า…หลังจากเต๋าสวรรค์เติบโต ข้าจะส่งคันธนูนี้กลับไปที่สำนักของเจ้า…” เซียนเจ็ดสีนำคันธนูออกมาจากลี่กวง ทว่าในจังหวะนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนไปและก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ได้คิด เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเกินขีดจำกัด!
“เต๋าโบราณ ไร้เหล่าเทพ!” ขณะที่หวังหลินเฝ้าดู คำพูดนี้พลันกึกก้องขึ้นในหัว เวลานี้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มิอาจอธิบายขึ้นในตัวหวังหลิน!
แค่ประโยคนี้ แค่ประโยคง่ายๆนี้กลับทำให้สีหน้าเซียนเจ็ดสีต้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง
“เจ้าไม่ตาย!!” แสงเจ็ดสีล้อมรอบตัว เขากระอักโลหิตพร้อมกับล่าถอยไปด้วย เพียงก้าวเดียวเขาก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
ภาพในหัวหวังหลินหายไป ร่างกายสั่นเทา แววตางุนงงสับสนหายไปแล้วและค่อยๆกลายเป็นเคร่งขรึม วินาทีนั้นพลังที่หยิบยืมมาข้างในตัวเขาจึงพรั่งพรูและ ดูเหมือนต้องการพุ่งกลับเข้าไปในบัลลังก์
เสี้ยวพริบตานี้ พลังย้อนคืนอันทรงพลังได้โผล่ออกมาจากบัลลังก์ราวกับต้องการขับไล่หวังหลินให้ออกไป ราวกับบัลลังก์มีเจ้าของที่ทำให้ไม่มีใครนั่งได้ยกเว้นคนในอดีตผู้นั้นเพียงคนเดียว!
หวังหลินที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้ถึงกับจะตื่น อย่างไรก็ตามในเมื่อกลิ่นอายปีศาจโบราณและมารโบราณเข้าไปในร่างกายเขาจนเกิดเป็นฉากเหตุการณ์เหล่านั้น และเมื่อฉากเหล่านั้นพังทลายมันจึงปลุกเขาให้ตื่นขึ้น!
หลังจากตื่นขึ้น พลังย้อนคืนจึงผุดขึ้นมา ไม่เพียงแต่มันจะขับไล่หวังหลินออกไป มันยังต้องการริบกลิ่นอายที่หวังหลินดูดซับไปด้วย!
อำนาจนี้ไม่ยอมให้หวังหลินครอบครองกลิ่นอาย!
หวังหลินสีหน้ามืดมน เขาไม่มีเวลาคิดอะไรมากนักแต่ต้องการเก็บกลิ่นอายนี้ไว้ในร่างโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างเขากับบัลลังก์
หวังหลินร้องคำราม เส้นเลือดบนใบหน้าปูดพองยามที่เผชิญกับพลังย้อนคืน เขาไม่ยอมให้ตัวเองโดนขับไล่ออกไปได้! เขามีความรู้สึกว่าเมื่อออกไปจากบัลลังก์ กลิ่นอายในตัวเขาจะสลายไป หากต้องการเก็บมันเอาไว้ เขาต้องพักอยู่บนบัลลังก์
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หนึ่งลมหายใจ สองลมหายใจ สามลมหายใจ!
เพียงแค่สามลมหายใจ หวังหลินรู้สึกว่าร่างกายถึงขีดจำกัด พลังดั้งเดิมกระตุ้นอย่างบ้าคลั่งเพื่อสลายพลังย้อนคืนนี้ไปพลางดูดซับกลิ่นอายนั้นไปด้วย
เพราะเขาตื่นแล้ว ดาวเทพโบราณกลางหน้าผากจึงกลายเป็นหกดวง ทว่าขณะที่ดูดซับกลิ่นอาย ดาวดวงที่เจ็ดค่อยๆปรากฏขึ้นอย่างเลือนลาง!
พลังมารโบราณรวมกันในตาขวาและเผยทีท่าว่ากำลังสร้างดาวมารโบราณ!
กลิ่นอายที่สี่!
หลังจากหวังหลินต่อต้านได้สี่ลมหายใจ ความคิดสั่นเทา ภาพแผนที่ทั้งเก้าในใจเขาพังทลายไป ก่อนที่แผนที่จะพังทลาย เขาได้เห็นพื้นที่ไร้ขอบเขตที่ถูกสร้างเป็นแผนที่ย่อยทั้งหก!
มีอีกโลกหนึ่งข้างใต้แผนที่ทั้งหกนี้!
โลกนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยแผนที่สามแห่ง!
สุสานโบราณแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ชั้นเดียว แต่มีสามชั้น! ทุกคนที่เข้ามาในสุสานอยู่แค่บนชั้นแรก ทางเข้าสู่ชั้นที่สองคือแสงรูปทรงวงรีที่อยู่เหนือบัลลังก์ด้านหลังหวังหลิน!
หากพิจารณาว่าชั้นแรกของสุสานโบราณเป็นค่ายกล เมื่อนั้นตำแหน่งของบัลลังก์แห่งนี้คือหัวใจและจุดศูนย์กลางของค่ายกล
ในตอนนี้เองหวังหลินยังเห็นว่ามีเหล่าวิญญาณร้องคร่ำครวญนับไม่ถ้วนอยู่ใน ชั้นที่สอง สิ่งที่เขาหวาดกลัวก็คือเขาเห็นเหล่าวิญญาณที่กำลังปลดปล่อยแรงกดดันทรงพลังเทียบได้กับปรมาจารย์เต๋าความฝัน!
มีพื้นที่พร่าเลือนแห่งหนึ่งอยู่ส่วนลึกภายในชั้นที่สองด้วย ข้างในส่วนลึกดูเหมือนจะมีกลิ่นอายน่าตกตะลึงและมิอาจบรรยายออกมาได้ เมื่อเข้าไปชั้นที่สองแล้ว ตัวตนทรงพลังนั้นคงจะตื่นขึ้น แม้แต่คนที่มีพลังอำนาจเช่นปรมาจารย์เต๋าความฝันก็คงยากจะรอดชีวิต!
นี่แค่ชั้นที่สอง ยังมีชั้นที่สาม!
หวังหลินนั่งอยู่บนบัลลังก์ราวกับกำลังนั่งอยู่ใจกลางค่ายกล สัมผัสวิญญาณผสานกับค่ายกลพร้อมกับผ่านชั้นที่สองไปสู่ชั้นที่สาม อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้มีเสียงคำรามที่ถูกยับยั้งไว้มานานพลันร้องกึกก้อง
สัมผัสวิญญาณของหวังหลินพังทลายในทันทีเบื้องหน้าเสียงคำราม!
แม้สัมผัสวิญญาณของเขาจะพังทลาย เขายังเห็นใจกลางของสามแผนที่ได้ มีหัวใจขนาดยักษ์อยู่ในชั้นที่สาม!
หัวใจนั้นกำลังเต้นและเปล่งกลิ่นอายแห่งการสืบทอด หวังหลินรู้สึกว่าตราบใดที่เขาสามารถสัมผัสหัวใจนั้นได้ เขาสามารถได้รับการสืบทอดจากบัญชาโบราณได้อย่างสมบูรณ์!
กลิ่นอายจากหัวใจพุ่งเข้าไปในร่างของเขาผ่านกรรมวิธีอันลึกลับบางอย่าง กลิ่นอายจากหัวใจผ่านบัลลังก์เข้ามาและเข้าสู่ร่างกาย
วินาทีนี้กลิ่นอายของหวังหลินได้ออกไปจากร่างเขาราวกับถูกมันช่วงชิงไป หวังหลินคงต้องทะลวงผ่านชั้นที่สองและชั้นที่สามเพื่อให้ได้รับการสืบทอดมรดก!
ลืมเขาไปได้เลย ไม่มีใครในสุสานโบราณจะทำมันได้!
ความคิดหลายอย่างแล่นผ่านจิตใจหวังหลิน ความบ้าคลั่งผุดขึ้นมาและทำให้ เขาคิดได้ เขาไม่ยอมปล่อยให้กลิ่นอายสลายออกไป!
ลมหายใจที่ห้า!
ดวงตาหวังหลินกลายเป็นแดงฉานและมีสีหน้าดุดันโหดเหี้ยม ดาวดวงที่เจ็ด ดูดซับกลิ่นอายที่หยิบยืมมาอย่างบ้าคลั่ง!
‘มันเข้าไปในร่างข้าแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นของข้า ข้าจะปล่อยให้มันเข้ามาและออกไปตามใจชอบได้อย่างไร?!’
เมื่อหวังหลินตื่นขึ้น แรงกดดันบนโจวจินและหลิงตงดูเหมือนจะหายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขากล้าลุกขึ้นยืน โจวจินกำลังจะเงยศีรษะขึ้น
วินาทีนั้นหวังหลินยกแขนขวาขึ้นโดยไม่ลังเลและหยิบยืมกลิ่นอายที่ยังไม่สลายไปให้กลายเป็นประกายสายฟ้าร่อนลงกลางหน้าผากโจวจิน
โจวจินกระอักโลหิตและกระเด็นถอยไป จากนั้นปรากฏอักขระขึ้นกลางหน้าผาก!
อักขระของทาสโบราณ!
“เจ้าสองคน ใช้เพลิงนรกานต์ทั้งหมดเพื่อผนึกบัลลังก์นี้และช่วยข้าทำการ สืบทอดมรดกให้สมบูรณ์! เร็ว!” หวังหลินรีบพูด จากนั้นเขาผนึกร่างกายเพื่อป้องกันกลิ่นอายเล็ดลอดออกไป ทั้งยังขังตัวเองไว้บนบัลลังก์ด้วย
ลมหายใจที่หก!
หลิงตงพุ่งมาถึงด้านซ้ายของหวังหลินโดยไม่ลังเล สองฝ่ามือสร้างผนึกและประทับแขนขวาลงบนบัลลังก์ เขาเริ่มอัญเชิญเพลิงนรกานต์ในร่างกาย ส่วนมือซ้ายยกขึ้นจับหวังหลินเพื่อช่วยหวังหลินต้านพลังย้อนคืน
เสื้อผ้าหลิงตงเริ่มพลิ้วสะบัดโดยไร้แรงลม พลังแข็งแกร่งโผล่ออกมาจากร่างหวังหลิน สีหน้าท่าทางเขาเปลี่ยนไปทันทีและอดทนพร้อมกับกัดฟันไปด้วย
โจวจินแห่งเผ่าหมาป่าสวรรค์ถูกกระเด็นด้วยนิ้วหวังหลิน ใบหน้าซีดเผือดและมีสายตาดิ้นรน ทว่ายิ่งเขาดิ้นรน อักขระทาสโบราณจึงกะพริบกลางหน้าผากเร็วยิ่งขึ้น
ลมหายใจที่เจ็ด!
โจวจินหน้าซีดพร้อมกับมาถึงด้านขวาหวังหลินอย่างเงียบๆ เขาทำตามคำสั่งและอัญเชิญเพลิงนรกานต์ทั้งหมดเข้าไปในบัลลังก์เหมือนหลิงตง แขนขวากดลงบนตัว หวังหลินเพื่อช่วยแบกรับพลังย้อนคืนอันแข็งแกร่งไปด้วย!
ความคิดและร่างกายของเขาสั่นเทา รู้สึกว่าพลังรุนแรงปะทะเข้าใส่ จากนั้นจึงร้องคำรามและยกเท้าขวาไปด้านหลัง ราวกับกำลังค้ำยันและต้านทานพลังนี้
หวังหลินหลับตา ทำการผนึกร่างกายเพื่อป้องกันกลิ่นอายออกจากร่างไปด้วย อย่างไรก็ตามดวงตาข้างซ้ายรู้สึกเจ็บปวด ตั้งแต่ที่ดาวปีศาจโบราณเก้าดวงพังทลายก็ไม่มีกลิ่นอายปีศาจโบราณเหลืออยู่แล้ว ตอนนี้เขากักขังกลิ่นอายมารโบราณในตาขวาและกลิ่นอายเทพโบราณกลางหน้าผาก!
ลมหายใจที่แปด!
พลังย้อนคืนจากบัลลังก์ได้บรรลุระดับสั่นสะเทือนสวรรค์ เสียงปะทุดังออกมาจากร่างหวังหลิน โลหิตไหลย้อนจากมุมปากแต่สีหน้าท่าทางของเขากลับดุดันโหดเหี้ยม
“ข้าไม่ยอม!!” หวังหลินคำราม พลังเทพโบราณเต็มไปทั่วร่างกายและปะทะเข้ากับพลังย้อนคืนจากบัลลังก์
โลหิตไหลย้อนจากมุมปากหลิงตง ร่างกายสั่นเทาและใบหน้าซีดดุจคนตาย
โจวจินกัดฟันแน่นไปด้วยพร้อมกับโลหิตไหลย้อนจากมุมปาก อย่างไรก็ตามเขายังอยู่และช่วยหลิงตงแบ่งพลังรุนแรงจากบัลลังก์
ลมหายใจที่เก้า! ร่างหวังหลินสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง เม็ดเหงื่อเต็มไปทั่วหน้าผาก แม้จะมีเซียนขั้นที่สามสองคนมาช่วยเขา พลังย้อนคืนจากบัลลังก์ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นราวกับกำลังฉีกเขาให้เป็นชิ้นๆ
กลิ่นอายเทพโบราณและมารโบราณในร่างเขาโหมกระหน่ำดุจคลื่น ราวกับพวกมันต้องการพุ่งออกไปจากร่างและกลับสู่บัลลังก์
เมื่อพวกมันกลับไปได้ หวังหลินคงต้องสืบทอดมรดกผ่านกรรมวิธีปกติ! เขาคงต้องไปชั้นที่สองและชั้นที่สามเพื่อเข้าสู่หัวใจของสุสาน เขาต้องผ่านอันตรายอีกมากมายเพื่อได้มันมา
ลมหายใจที่สิบ! หวังหลินกระอักโลหิต ยิ่งเขายืนต้านได้นานขึ้นก็ยิ่งดูดซับได้มากและเป็นประโยชน์ต่อเขามากขึ้น! ดาวดวงที่เจ็ดเพิ่งปรากฏขึ้นมากำลังหมุนติ้ว มันชัดเจนยิ่งขึ้นและกำลังจะเป็นรูปเป็นร่าง!
ทว่าในจังหวะนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ขึ้น!
“ในที่สุดเทพผู้นี้ก็ค้นพบที่นี่ด้วยสัญชาตญาณ!! ไอ้บัดซบตู่ซือนั่นทำได้แค่ฝัน!!” เสียงหัวเราะดังกึกก้องในตำหนัก ปรากฏการบิดเบือนขึ้นในอากาศและร่างของต้าเสินกำลังพุ่งออกมา!
ขณะที่เขาพุ่งเข้ามา อากาศบิดเบือนถูกดึงเข้าไปเป็นรูปร่างเว้านูน เขาชกอากาศบิดเบือนนั้นจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง!