1475. การต่อสู้แห่งโชคชะตาครั้งที่สอง 1
ผ่านไปมากกว่าสองพันปี ในที่สุดหวังหลินก็ทำให้ร่างเทพโบราณบรรลุระดับเจ็ดดาว!
ร่างเทพโบราณเจ็ดดาวไม่ใช่สิ่งที่เซียนขั้นที่สองจะสร้างความเสียหายได้ง่ายๆ เว้นแต่กำลังอยู่ในบททดสอบหายนะ หรือไม่ก็ต้องใช้เหล่าเทพจำนวนมากเข้าปิดล้อมเทพโบราณหนึ่งตนเป็นเวลาหลายวันกว่าจะทำการสังหารได้สำเร็จ
ต้องกล่าวว่าร่างเทพโบราณเจ็ดดาวที่สมบูรณ์นั้นมีความแข็งแกร่งที่สามารถต่อสู้ได้แม้แต่เซียนขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้น!
สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้น เจ็ดดาวนั่นหมายถึงเทพโบราณได้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ยิ่งเวลาผ่านไปร่างเทพโบราณเจ็ดดาวก็จะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!
ดาวทั้งเก้าของเทพโบราณ แต่ละดาวหลังจากผ่านดาวที่ห้าขึ้นมาถือว่าได้มายากยิ่ง อย่างไรก็ตามแต่ละดาวที่เกิดขึ้นจะทำให้พลังเทพโบราณเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่า ตอนนี้ด้วยวิชาของเขา แก่นแท้เพลิงและสายฟ้า วิชาเต๋าและสิ่งอื่นๆ เขาสามารถเผชิญหน้ากับเซียนขั้นที่สามระดับสวรรค์ดับสูญโดยไม่เพลี่ยงพล้ำ และหากไม่มีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น เขาแข็งแกร่งมากพอที่จะเอาชนะ!
เทพโบราณเจ็ดดาวหวังหลินไม่ด้อยไปกว่าตู่ซือตอนที่เขามีเจ็ดดาว แม้ตู่ซือได้รับการสืบทอดอย่างสมบูรณ์ แต่หวังหลินเป็นตัวตนแรกที่เป็นการผสานกันของเซียนและเทพโบราณ!
หวังหลินกล้าแม้แต่ต่อสู้กับเซียนขั้นสวรรค์ดับสูญระดับกลาง แม้โอกาสแพ้จะมากกว่าแต่การสังหารเขาได้นั้นคงยากยิ่ง!
ในหมู่มวลของขั้นที่สาม ขั้นสวรรค์ดับสูญ วิญญาณดับสูญ แก่นแท้ดับสูญและ วิบากดับสูญต่างก็มีระดับต้น กลางและปลายเหมือนขั้นที่สาม ความแตกต่างในแต่ละระดับถือว่ามหาศาลเหมือนความแตกต่างระหว่างเซียนขั้นชำระสวรรค์และขั้น ทลายสวรรค์!
หวังหลินดวงตาส่องสว่างดุจเปลวเพลิงพลางนั่งลงบนบัลลังก์และยอมให้พลังย้อนคืนสั่นคลอนร่างกาย อย่างไรก็ตามพลังที่ครั้งหนึ่งเคยทำลายร่างเขากลับไม่ส่งผลกระทบมากเกินไปอีกแล้ว
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มันจึงเป็นลมหายใจที่ยี่สิบและยี่สิบเอ็ด!
สองลมหายใจผ่านไปอย่างรวดเร็ว พลังย้อนคืนเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล ขณะที่ พลังย้อนคืนกระแทกใส่หวังหลิน กลิ่นอายสืบทอดได้พรั่งพรูออกมาด้วย
กลิ่นอายสืบทอดนี้ถูกหวังหลินดูดซับเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ร่างเขาและมารโบราณจึงเสมือนเป็นหลุมดำอันน่าหวาดกลัว กลิ่นอายสืบทอดกำลังถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนและถูกทั้งสองดูดซับ
การสืบทอดมรดกมีความยากยิ่งเนื่องจากมีพลังย้อนคืนปะทะใส่เขาอย่างต่อเนื่อง แต่หวังหลินก็ไม่ยอมแพ้ เขารู้ว่าหากพลาดโอกาสนี้ไป โอกาสอื่นจะยากยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า!
ลมหายใจที่ยี่สิบสอง ยี่สิบสาม ยี่สิบสี่!
พลังย้อนคืนจากบัลลังก์ได้บรรลุระดับอันน่าหวาดกลัว เสียงดังสนั่นกึกก้อง แม้กระทั่งร่างเทพโบราณเจ็ดดาวของหวังหลินก็เริ่มจะทนไม่ไหวเล็กน้อย
ร่างเขาสั่นเทาและเผยอาการพังทลาย อย่างไรก็ตามการฟื้นฟูของเทพโบราณเจ็ดดาวนั้นทรงพลังยิ่งกว่าของเทพโบราณหกดาว ขณะที่เกิดการพังทลายขึ้น ร่างเขาจึงฟื้นฟูได้รวดเร็ว
ขณะที่หวังหลินดูดซับกลิ่นอายสืบทอดอย่างต่อเนื่อง ลมหมุนอ่อนๆปรากฏขึ้นใกล้กับดาวเจ็ดดวง!
ลมหมุนนี้คือสัญญาณของดาวที่แปด เมื่อมันปรากฏขึ้นสมบูรณ์ หวังหลินจะกลายเป็นเทพโบราณแปดดาว!
เทพโบราณแปดดาวคือตัวตนที่ทรงพลังยิ่งยวดในโลกนี้!!
อย่างไรก็ตามการกลายเป็นเทพโบราณแปดดาวถือว่ายากเกินไป มันจำเป็นต้องใช้พลังมากยิ่งกว่าบรรลุเจ็ดดาวอีกหลายเท่า แม้ลมหมุนได้เกิดขึ้นแล้ว มันก็ยังบางเบาจนแทบสังเกตไม่ออก!
เมื่อหวังหลินผ่อนคลายได้เล็กน้อย ลมหมุนอ่อนๆนี้ก็คงหายไปจนแทบไม่เหลือร่องรอย!
ขณะเดียวกันร่างมารโบราณกำลังเต็มไปด้วยพลังมารโบราณที่หวังหลินใส่เข้าไปอย่างบ้าคลั่ง หวังหลินกระทั่งส่งดาวมารโบราณที่ไม่ได้เกิดรูปร่างอย่างเต็มดวงที่อยู่ในตาขวาเข้าไปในมารโบราณ มารโบราณร่างหินเริ่มเผยสัญญาณฟื้นฟู อวัยวะบางส่วนไม่แข็งเหมือนหินแล้วและอ่อนนุ่มแทน
ตาขวาที่เดิมทีซีดเซียวกำลังเปล่งประกายและมีดาวมารโบราณกำลังก่อตัว! มันค่อยๆควบแน่นและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ!
ตอนนี้ต้าเสินที่กำลังฟื้นฟูอยู่ด้านนอกตาข่ายพลันขยับร่างกาย กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวและฟื้นคืนมาได้แปดในสิบส่วนแล้ว!
ร่างของต้าเสินคือร่างของตู่ซือ ตอนนั้นตู่ซือเข้าใกล้จะเป็นเทพโบราณเก้าดาวอย่างมาก เขานิ่งอยู่ในขั้นแปดดาวมานานเกินไป ร่างกายจึงบรรลุขีดจำกัดของ เทพโบราณเก้าดาว!
การทะลวงผ่านไปเก้าดาว ตู่ซือต้องใช้วิชาต้องห้ามของเหล่าเทพโบราณ ทว่ามันกลับล้มเหลว และนั่นจึงเป็นเหตุให้เกิดต้าเสิน ซึ่งเป็นปีศาจใต้จิตสำนึกขึ้นมา
ความสามารถการฟื้นตัวของต้าเสินนั้นทรงพลังยิ่งกว่าของหวังหลิน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาบาดเจ็บสาหัสจากเสียงคำราม เขาคงไม่ฟื้นฟูร่างกายมาถึงตอนนี้
การฟื้นคืนมาถึงแปดในสิบส่วนแล้ว ที่เหลือสองส่วนคือความเสียหายที่ไม่ได้เกิดบนร่างกายแต่เป็นความเสียหายต่อวิญญาณ เขาจำเป็นต้องปิดด่านบ่มเพาะเพื่อฟื้นฟูให้เต็มที่
ต้าเสินเงยศีรษะขึ้นมาพร้อมกับดาวแปดดวงกำลังหมุนติ้ว เขาจ้องหวังหลินที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์และเผยสีหน้าท่าทางซับซ้อน
ต้องกล่าวว่าเขาคือคนที่เข้าใจหวังหลินมากที่สุดในโลก จากจุดที่เป็นเซียนตัวเล็กๆ ขั้นแกนลมปราณไปถึงจุดที่เป็นปรมาจารย์แห่งรุ่นที่กล้าให้เวลาเขาฟื้นฟูร่างกาย
แม้จะฟังดูง่าย จะมีสักกี่คนในโลกทำได้?
“หากเจ้าต้องการต่อสู้กับข้า ข้าจะเติมเต็มคำขอของเจ้า! การต่อสู้ด้านนอกค่ายกลดินแดนปิดผนึกนั้นไม่ค่อยน่าพอใจ วันนี้เราจะสู้กันอีกครั้งในดินแดนโบราณแห่งนี้!” ขณะที่ต้าเสินเอ่ยขึ้น เขาก้าวมาข้างหน้าและผ่านช่องว่างในใบไม้โบราณเข้ามาและเข้าสู่ตำหนัก!
นี่เป็นครั้งแรกที่ต้าเสินไม่เรียกตัวเองว่า “เทพ” เพียงแค่เปลี่ยนคำพูดง่ายๆ แต่เป็นการเผยออกมาว่าเขาถือหวังหลินเป็นเทพโบราณเช่นกัน!
ต้าเสินไม่เคยเชื่อว่าหวังหลินจะเป็นเทพโบราณ แม้จะหนีออกมาได้เขาก็ยังเชื่อว่าหวังหลินเป็นแค่คนที่ขโมยมรดกแห่งปัญญามาจากเขาเท่านั้น แม้หวังหลินจะบรรลุหกดาวขึ้นมาได้และต่อสู้กับเขา ต้าเสินก็ยังไม่เห็นหวังหลินเป็นเทพโบราณ ในใจเขามักรู้สึกมาตลอดว่าหวังหลินไม่คู่ควรจะเป็นเทพโบราณ
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเห็นหวังหลินกลายเป็นเทพโบราณเจ็ดดาว รู้สึกถึงพลังเทพโบราณอันแข็งแกร่งออกมาจากร่างหวังหลิน เป็นพยานรู้เห็นว่าหวังหลินเผชิญกันอันตรายจากการสืบทอดเมื่อครู่และหวังหลินก็ยังมีเวลาให้เขาฟื้นฟู ในจิตใจเขาจึงยอมรับหวังหลินเป็นเทพโบราณ!
เทพโบราณที่เหมือนเขา!
“ระหว่างเราไม่มีความบาดหมางอะไรกัน นี่คือการต่อสู้แห่งโชคชะตาของเรา การต่อสู้เพื่อการสืบทอดมรดก!” เสียงของต้าเสินราวกับคลื่นเสียง เมื่อเขาก้าวไปข้างหน้า ตำหนักสั่นไหว พริบตาเดียวร่างกายขยายออกไปสูงหมื่นฟุต แขนขวา กำหมัดและส่งกำปั้นออกไป
ร่างเทพโบราณสามารถเปลี่ยนแปลงความสูงได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้หวังหลินไม่รู้ แต่หลังจากบรรลุเจ็ดดาวมาได้จึงเกิดสัมผัสอันเลือนลาง ราวกับรู้ว่าร่างหมื่นฟุตไม่ใช่ขีดจำกัดของเทพโบราณเจ็ดดาว!
แววตาหวังหลินเป็นประกาย วินาทีที่ต้าเสินเข้ามาในตำหนัก ดวงตาเขาส่องประกายเจิดจ้า ดวงตาเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้ ดาวเทพโบราณหมุนติ้วอย่างรวดเร็ว ขณะที่ต้าเสินส่งกำปั้นออกมา หวังหลินส่งกำปั้นด้วยแขนซ้ายออกไปโดยไม่ลังเล!
สองเทพโบราณที่ต่างก็มีมรดกของตู่ซือกันทั้งคู่ ได้เริ่มการต่อสู้แห่งโชคชะตาครั้งที่สอง!
เมื่อต้าเสินส่งกำปั้นออกมา เกิดพายุพัดผ่านในตำหนักทำให้หลิงตงและโจวจินต้องกระเด็นกลับไป ทั้งคู่บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วและไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป พวกเขาทำได้แค่นั่งอยู่ห่างๆและฟื้นฟูพลังอย่างรวดเร็ว
หลิงตงสงบนิ่งและไม่กล้าคิดถึงผลการต่อสู้ครั้งนี้ เขาเพ่งสมาธิไปที่การฟื้นฟู อย่างเดียว
โจวจินเต็มไปด้วยสายตาซับซ้อน เขาเป็นพยานรู้เห็นความแข็งแกร่งของหวังหลินตั้งแต่ก่อนเข้าและหลังเข้ามาสุสาน เศษความหวังชิ้นสุดท้ายของเขาได้หายไปแล้วและเขาหลับตาฟื้นฟูอย่างเงียบๆ
ขณะที่ต้าเสินชกกำปั้นในอากาศ เงาขนาดยักษ์ผุดขึ้นด้านหลัง เงาร่างนี้สูงเท่าโลกและมีท่าทีกดดัน มันปลดปล่อยสัมผัสแห่งความโอหังและดูถูกออกมา
เมื่อมันปรากฏขึ้น ตำหนักสั่นไหวรุนแรงราวกับกำลังพังทลาย!
นี่คือภาพเงาของตู่ซือ!
เทพโบราณแปดดาวระดับสูงสุด เงาของตู่ซือ! ต้าเสินคือมารในใจตู่ซือและแม้จะโจมตีออกมา วิญญาณและเจตจำนงยังเป็นตู่ซือ!
ด้วยกำปั้นที่มีพลังเต็มเปี่ยมจึงปรากฏเงาของตู่ซือขึ้นมา เงานั้นยังส่งกำปั้นเข้าหาหวังหลินด้วย!
ในเสี้ยววินาที ด้านหลังหวังหลินพลันปรากฏเงายักษ์ขึ้นเช่นกัน เงานี้ก็เป็นตู่ซือด้วย!! อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเงาของต้าเสิน เงานี้กลับไม่มีแรงกดดันกดขี่แต่เต็มไป ด้วยปัญญา!
ขณะที่หวังหลินชกกำปั้นใส่อากาศ เงาตู่ซือด้านหลังเขาก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาและโยนกำปั้นออกไปด้วย!
หากมีท้องฟ้าอยู่ที่นี่มันคงเปลี่ยนสีสัน! หากมีก้อนเมฆอยู่ที่นี่ ก้อนเมฆคงแตกกระจาย!
นี่คือโชคชะตา!
เงาเทพโบราณสองตนที่ดูเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน แม้แต่ร่องรอยบนผิวหนังยังเหมือนกัน สองกำปั้นชกเข้าใส่กัน!
ความแตกต่างเดียวก็คือฝ่ายที่มีแรงกดดันกดขี่ราวกับเป็นมาร และอีกฝ่ายมีสติปัญญาและความสงบนิ่ง!
ภายใต้เทพโบราณยักษ์ทั้งสองตนนี้คือหวังหลินและต้าเสิน!
ทั้งสองคนเข้าใกล้กันเรื่อยๆ พริบตาเดียวต้าเสินก็เข้าใกล้บนแท่นหิน กำปั้นขวาร่อนลงใส่ปะทะกับกำปั้นซ้ายของหวังหลิน!
ขณะเดียวกันที่ทั้งสองคนเริ่มการต่อสู้แห่งโชคชะตา ร่างทรงเสน่ห์ผู้หนึ่งปรากฏขึ้นนอกตาข่ายมายา สตรีเย้ายวนผู้นี้คือหนึ่งในแปดนางสนมจักรพรรดิสวรรค์!