Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1638

Cover Renegade Immortal 1

1638. ผนึกปรากฏ

เมื่อแขนขวาของหวังหลินร่อนลงไป สัมผัสวิญญาณทรงพลังของหวังหลินพวยพุ่งเข้าไปในศีรษะชายชราดุจน้ำหลาก สัมผัสวิญญาณเข้าไปร้องคำรามใส่สัมผัสวิญญาณและร่างกายของอีกฝ่าย

ร่างกายเกิดเสียงดังปะทุ สีหน้าบิดเบี้ยวราวกับเผชิญกับความเจ็บปวดเกินบรรยาย โลหิตเริ่มไหลออกจากทวารทั้งเก้า ร่างกายสั่นกระตุกรุนแรง

หลังจากเกิดความเจ็บปวดรุนแรงไปชั่วครู่ วิชายับยั้งสลายไปเล็กน้อย ชายชราจึงกรีดร้องโหยหวน

เขาต้องการเป็นอิสระจากหวังหลิน แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไร แขนขวาหวังหลินก็มั่นคงดั่งขุนเขาและกดใส่ศีรษะของชายชรา เขาไม่มีทางหนีไปได้เลย

เสียงกรีดร้องโหยหวนทำให้ชายชราถึงกับเหงื่อท่วม แววตาผุดความสิ้นหวัง ใบหน้าซีดเซียวเจียนตาย

“เจ้าต้องได้รับโทษจากการสังหารเทพ เจ้าจะต้องตาย!! ข้าคือทหารเทพของราชันย์เทพ ข้ามีสายโลหิตแห่งเทพ วันนี้เจ้าสังหารข้า ท่านราชันย์เทพจะลง ทัณฑ์เจ้า!!”

“พล่ามอะไรนักหนา!” หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่ง แขนขวาเกร็ง สัมผัสวิญญาณเข้าไปในจิตใจของชายชรา เขาต้องการดึงความทรงจำมา

ลึกเข้าไปภายในแดนสวรรค์โบราณ ใจกลางของรูปปั้นทั้งหมด มีรูปปั้นขนาดยักษ์สี่ตนที่เป็นของสามเผ่าโบราณ

รอบด้านเงียบสงัด ราวกับมันเป็นเช่นนี้มาเสมอตั้งแต่ยุคโบราณ ตอนนี้มีเสียงแหบพร่าดังกึกก้องออกมาจากรูปปั้นตนหนึ่ง

“วิหคศักดิ์สิทธิ์ ระดับบ่มเพาะของลูกหลานเจ้าไม่ได้อ่อนแอ แต่โอหังไปหน่อยที่ต้องการค้นความทรงจำของทหารเทพ แม้พวกมันจะไม่ได้ทรงพลังเหมือนกับเรา แต่ก็ยังมีสายโลหิตเทพ เป็นแค่มดแมลงจะค้นความทรงจำได้อย่างไร?” น้ำเสียงหนึ่งเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยถากถาง

“เขาบรรลุขั้นที่สามและทำลายทัณฑ์สวรรค์จนมาถึงที่นี่ กระทั่งทำลายมาถึงอาทิตย์ดวงที่เก้าและดึงโชคชะตาของตัวเองกลับคืน ผลสำเร็จช่างน่าเหลือเชื่อและเขาก็ทำมันได้ พยัคฆ์ขาว เจ้าเยาะเย้ยเขา แต่หากเจ้าเป็นเซียนดินแดนชั้นต่ำ เจ้าทำได้หรือไม่กันเล่า…” น้ำเสียงเย็นเยียบและเก่าแก่ดังออกมาจากรูปปั้นอีกตน

“หากมันเป็นข้า ไม่ได้หมายความว่าข้าทำไม่ได้! เหล่าเทพอย่างเรามีผนึกอยู่บนความทรงจำที่ราชันย์เทพวางเอาไว้ มันเป็นโชควาสนาใหญ่หลวงของสำนักเจ็ดเต๋าของเรา ข้าไม่ประหลาดใจที่เจ้ามดน้อยนี่สามารถทำให้ทหารเทพที่กำลังฟื้นตัวกลายเป็นบาดเจ็บสาหัสไปได้ แต่ข้ามั่นใจว่ามันจะต้องพบจุดจบของตัวเองแน่หากพยายามทะลวงเปิดผนึกของราชันย์เทพ!”

“พอแล้ว พวกเจ้าทะเลาะกันเองทำไม? วิหคศักดิ์สิทธิ์ ลูกหลานเจ้าโอหังเกินไปหน่อย หากเขาตายเพราะผนึกของราชันย์เทพจะว่าอย่างไร? นั่นจะกระทบกับแผนการของเจ้าหรือไม่?” อีกเสียงดังออกมาจากรูปปั้นที่สาม

หลังจากขบคิดเล็กน้อย เสียงของวิหคศักดิ์สิทธิ์จึงดังออกมา “เดิมทีเขาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผนข้า ข้าประหลาดใจนิดหน่อยที่เขาเป็นคนแรกที่มาถึงที่นี่…”

“เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา เขาเป็นเซียนฝืนลิขิตฟ้าคนแรกที่บรรลุขั้นที่สาม น่าเสียดายที่เขาเป็นเซียนชั้นต่ำ หากมาจากแผ่นดินเซียนดารา เขาคงมีชื่อเสียงแน่! อย่างไรเสียเขาก็ไม่ควรไปลองค้นวิญญาณทหารเทพตนนั้น ผนึกของราชันย์เทพ แม้เราร่วมมือกันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำลายได้ ข้ากลัวว่าเขาจะตายในไม่ถึงสิบห้านาที… น่าเสียดาย ช่างน่าเสียดาย…” เสียงที่สี่ดังออกมาจากรูปปั้นตนสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเสียใจ

เสียงของทั้งสี่ค่อยๆ หายไปและกลับคืนสู่ความเงียบ แม้กระทั่งวิหคศักดิ์สิทธิ์ก็ยัง ถอนหายใจ เขารู้จักหวังหลิน แต่ไม่คิดว่าหวังหลินจะสามารถทำลายผนึกของ ราชันย์เทพได้

สัมผัสวิญญาณของชายชราได้สร้างอาณาเขตของตัวเองขึ้นมาและยังมีชั้นหมอกหนาอยู่รอบๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สัมผัสวิญญาณของหวังหลินเข้าไป

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หวังหลินเจอสถานการณ์แบบนี้ ตอนที่เขาค้นความทรงจำของสตรีชุดเงิน เขาก็เจอแบบนี้เหมือนกัน ในความทรงจำที่ถูกผนึกของนางก็มีร่างสีรุ้ง อยู่ด้วย

วันนี้หวังหลินพบหมอกหนาในสัมผัสวิญญาณของชายชราอีกครา เขาหยุดชั่วขณะ สัมผัสวิญญาณเริ่มรวมกันด้านนอกสายหมอก ไม่นานร่างหวังหลินจึงปรากฏตัวด้านนอกหมอกแห่งนั้น

นี่คือฉากที่น่าอัศจรรย์ ณ แดนสวรรค์โบราณรอบนอก หวังหลินหลับตา ยื่นแขนขวากดลงใส่หน้าผากชายชราที่กำลังสั่นเทา

ทว่าข้างในสัมผัสวิญญาณของหวังหลินนั้น วิญญาณดั้งเดิมของเขาอยู่ในจิตใจของชายชรา เขาทำเหมือนที่ทำกับด้านนอก วิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินสวมชุดคลุมสีขาวและมีเรือนผมสีขาว

เขายืนมองหมอกที่กำลังหมุนเบื้องหน้า หมอกนี้มีแรงกดดันทรงพลังเหมือนเป็นผนึก ผนึกที่สามารถหยุดวิชาค้นวิญญาณได้ทุกอย่าง

‘สตรีชุดเงินก็มีผนึกแบบนี้ ชายชราคนนี้ก็มีผนึกเช่นกัน น่าสนใจ ดูเหมือนเทพทุกคนภายใต้ราชันย์เทพจะมีผนึกนี้’

หวังหลินดวงตาส่องสว่างและค่อยๆ เรืองแสงเจิดจ้า ตอนนั้นระดับบ่มเพาะของเขาไม่มากพอและต้องยอมแพ้ไป นอกจากระดับบ่มเพาะแล้วยังมีอีกเหตุผล ไม่สำคัญว่าเขาจะทะลวงสายหมอกได้สำเร็จหรือไม่ แต่เพราะสตรีชุดเงินอาจเกิดอันตรายใหญ่หลวง

แต่หวังหลินไม่ได้รู้สึกผิดต่อชายชรา เขาไม่มีความเกลียดชังและไม่รับประกันว่าชายชราจะตายหรือไม่ หากหวังหลินไม่ค้นพบว่าดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นในเป็นเพียงแค่ถ้ำ หวังหลินคงไม่สังหารอีกฝ่าย!

แต่ตอนนี้หวังหลินเข้าใจทุกอย่าง จึงยากยิ่งที่จะอธิบายความแตกต่างที่หวังหลินรู้สึกต่อราชันย์เทพและเหล่าเทพทั้งหมดใต้อำนาจเขา!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โชคชะตาที่หายไปของลี่มู่หวานได้ทำให้ความเกลียดชังนี้ พุ่งขึ้นถึงขีดสุด

หวังหลินพ่นลมหายใจเย็น ก้าวเท้าเข้าหาสายหมอกข้างในจิตใจของชายชรา ร่างกายพุ่งทะยานเข้าใกล้ดุจอุกกาบาต สะบัดแขนขวาส่งพายุเข้าหาสายหมอก

พายุผลักดันสายหมอกไป พริบตาเดียวก็ได้เปิดช่องเบื้องหน้าหวังหลิน นาทีนั้นหวังหลินก้าวเข้าหาและหายวับไปในสายหมอก

ด้านในสายหมอกหวังหลินรีบทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว สายหมอกข้างหน้าเคลื่อนออกด้วยตัวเองจนกลายเป็นทางเดิน หวังหลินค่อยๆ เข้าสู่ส่วนลึก

พอเข้ามาถึงส่วนลึกของสายหมอก แสงสีรุ้งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า แสงสีรุ้งนี้ แพรวพราวยิ่งในสายหมอกอันมืดทะมึนจนหวังหลินอดปรายตามองไม่ได้

ขณะที่มองไป เขาเห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังคุกเข่าในส่วนลึกของสายหมอกที่ถูกแสงสีรุ้งแทงทะลุผ่านไป

ชายวัยกลางคนผู้นั้นหลับตา ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีรุ้ง เขาเปล่งแรงกดดันมหึมาจนทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดสั่นเทาอยู่เบื้องหน้าและมิอาจก้าวเข้ามาได้แม้แต่ครึ่งก้าว

ชายสีรุ้งคนนี้ไม่ใช่เซียนสีรุ้งที่เขาพบเจอในดินแดนเจ็ดสีที่อยู่ในดาราจักรฟ้ากระจ่าง แต่เป็นร่างที่แท้จริงของรูปปั้นสีรุ้งในมิติเก็บของ!

นี่เป็นครั้งที่สองที่หวังหลินพบเจอคนผู้นี้ เขาขบคิดเล็กน้อยและมีแววตาเย็นเยียบ พลางก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล แขนขวาสร้างผนึก ความคิดข้างในชายชราเกิดเสียงดังลั่น ปรากฏประทับฝ่ามือขนาดยักษ์เบื้องหน้าหวังหลิน มันทะลุสายหมอก พุ่งทะยานเข้าหาชายวัยกลางคน

ชายคนนี้คือผนึก ผนึกที่ป้องกันไม่ให้ทุกคนค้นความทรงจำของเหล่าเทพ ใต้อำนาจ!

ประทับฝ่ามือขนาดใหญ่เข้าประชิดชายวัยกลางคนที่กำลังคุกเข่าและแทงทะลุไป ทว่าวินาทีที่ฝ่ามือแทงทะลุ มันกลับแตกสลายอย่างเงียบงัน ฉากเหตุการณ์นี้ช่างน่าอัศจรรย์ หากมองใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าประทับฝ่ามือไม่ได้กระทบใส่ชายชราเลย แต่มันแตกสลายห่างจากเขาเพียงแค่สามนิ้ว

หวังหลินหรี่ตาแคบลง นาทีที่ประทับฝ่ามือแตกสลาย หวังหลินจึงชี้ไปข้างหน้า สายลมรุนแรงพุ่งออกมาจากนิ้วมือหวังหลินเข้าหาชายวัยกลางคน คราวนี้หวังหลินจับจ้องอย่างละเอียดและเห็นสายลมหายวับไปก่อนจะถึงชายวัยกลางคนในระยะสามนิ้ว

หวังหลินจ้องมองชายวัยกลางคนและก้าวเข้าไป เขามาถึงด้วยตัวเอง ใช้สองดัชนีเป็นท่ากระบี่ ดาวเทพโบราณหมุนติ้ว พลังเทพโบราณจำนวนมากเข้าไปในสองดัชนี ยามนี้สองดัชนีของเขามีพลังมากพอทำลายผืนปฐพีหรือทำลายได้แม้แต่ ดาวเคราะห์เซียน

สองดัชนีส่งเสียงดังลั่น พริบตาเดียวนิ้วเขาก็อยู่ห่างเพียงแค่ระยะสามนิ้ว

พอหวังหลินเข้าสู่ม่านสามนิ้ว ดวงตาเปล่งประกายและเห็นนิ้วของตัวเองแตกสลายอย่างรวดเร็ว มันไม่มีความเจ็บปวดแต่เขากลับเห็นได้ชัดเจนว่านิ้วกำลังแตกสลาย

เพียงชั่วพริบตาเดียว สองดัชนีได้แตกสลายไปส่วนหนึ่ง ขอบเขตสามนิ้วแห่งนั้นดูเหมือนจะไร้ขอบเขต สิ่งใดที่ผ่านไปจะแตกสลาย

หากเขาพยายามเข้าไปด้วยกำลัง แขนขวาคงจะเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอยก่อนที่จะสัมผัสชายวัยกลางคนได้เสียอีก หวังหลินหรี่ตาแคบและดึงแขนขวากลับมา

เขาถอยไปหลายก้าว จ้องมองชายวัยกลางคนอย่างสงบนิ่ง จากนั้นมองสองนิ้วมือที่ไม่มีรอยแผลแต่หายไปส่วนหนึ่ง

“พลังประหลาดอะไรกัน…” หวังหลินพึมพำ ใช้พลังเทพโบราณโคจรในร่างกายและเข้าสู่นิ้วมือ เลือดเนื้อรอบนิ้วค่อยๆ ขยับและฟื้นคืนส่วนหนึ่ง

หลังจากขบคิดเล็กน้อย หวังหลินจึงลังเล ด้วยผนึกจากชายวัยกลางคนตรงนั้น การได้รับความทรงจำของชายชรามาคงเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version