1806. ปัญหากับมิติเก็บของ
“มีแต่ข้าตู้ฉิง ที่สามารถขโมยของคนอื่นและทำลายถ้ำของสำนักอื่นได้…” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นช้าๆ บอกไม่ได้ว่ากำลังโกรธหรือมีความสุข แต่เกิดการบิดเบือนขึ้นเหนือร่างเขาจนดูเหมือนกลายเป็นร่างที่สร้างขึ้นจากไม้
“ไม่มีใครกล้าทำลายสำนักข้าได้!!!” ชายหนุ่มส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์!
ขณะที่เขาคำราม โลกส่งเสียงดังสนั่น ก้อนเมฆจำนวนมากฉีกขาดออกจากกันและมีควันสีดำกระจัดกระจาย
“ไม่มีใครกล้าทำเช่นนี้!!!”
“ทำลายสำนักข้า สังหารศิษย์ข้า! ไม่ว่ามันจะเป็นใคร มันต้องตาย!!!”
“หากเจ้าอยู่ในแคว้นกระทิงสวรรค์ เจ้าตาย!!! ข้าจะไปจับเจ้า แยกร่างเป็นชิ้นๆ ทำให้ทุกข์ทรมานเป็นพันปี ทำให้เจ้าเสียใจจนตาย!!!” ชายหนุ่มคำราม กลิ่นอาย น่ากลัวระเบิดออกมาจากร่างกาย เหล่าศิษย์นับพันคนไม่มีเวลาแม้แต่ส่งเสียงกรีดร้องและตายกันหมด
“ข้าจะไปฆ่าเจ้า!” ชายหนุ่มหันกลับมายื่นมือใส่ศิษย์คนหนึ่ง ศิษย์คนนั้นถูก ชายหนุ่มจับศีรษะด้วยท่าทีหวาดกลัว
สัมผัสวิญญาณทรงพลังพุ่งเข้าไปในจิตใจของศิษย์และถูกค้นวิญญาณ เขาไม่สนใจว่านี่เป็นศิษย์ของสำนักตัวเอง ศิษย์ผู้นั้นกรีดร้องโหยหวนและตายทันที ร่างกายระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิต
หลังจากได้รับความทรงจำที่ต้องการ ภาพหวังหลินปรากฏชัดขึ้นในสายตาของเด็กหนุ่ม
หนึ่งในผู้อาวุโสคนหนึ่งที่เปลี่ยนกลายเป็นมังกรกำลังสั่นเทาและเอ่ยปาก “บรร…บรรพชน…คนผู้นั้นแซ่หวัง…เขา…เขาพูดว่าไม่ได้สังหารใคร เขาเพียงแค่ทำลายสำนักเพราะมีคนพยายามหลอมเขาเป็นหุ่นเชิด…”
เพียงแค่เอ่ยปาก ชายวัยกลางคนผู้สูญเสียแขนไปสองข้างถึงกับใจเต้นสั่นไม่เป็นจังหวะและถอนหายใจ
‘ซุนเมิ่งเต๋อไม่ได้อยู่สำนักมังกรฟ้ามานานพอ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจนิสัยของบรรพชน…บรรพชนไม่สนใจเรื่องโชคชะตาของสำนักมังกรฟ้าอยู่แล้ว เขาสนใจแต่หน้าตัวเองเท่านั้น…’
เพียงแค่ชายชราเอ่ยปาก ชายหนุ่มหันกลับมาจ้องชายชราซุนด้วยสายตาดุดัน
‘ศิษย์นับพันเพิ่งถูกมันฆ่าตาย! ส่วนเจ้าผู้อาวุโส แม้แต่เจ้าก็สูญเสียร่างกาย เจ้าควรระเบิดวิญญาณดั้งเดิมไปหยุดมันด้วยซ้ำ เจ้าไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ดังนั้น ข้าจะหลอมเจ้าเป็นไม้และผนึกเจ้าไปร้อยปีเพื่อทำการลงโทษ!’ ชายหนุ่มยื่นมือออกไป ชายชราซุนตัวสั่นเทาและกำลังจะถอย แต่ถูกอีกฝ่ายจับได้โดยไร้อำนาจ การต่อต้าน
ชายหนุ่มใช้วิชาบางอย่าง จากนั้นแสงสีเทาเต็มไปทั่วร่างชายชรา แทรกซึมเข้าไปยังวิญญาณดั้งเดิม ให้ชายชรากรีดร้องโหยหวน วิญญาณดั้งเดิมเปลี่ยนกลายเป็นไม้!
ชายหนุ่มลดมือลง ชายชราที่ได้เปลี่ยนเป็นไม้จึงตกลงบนพื้น ปรากฏวังวนขึ้นมาให้ชายชราหายไป
เรื่องนี้ทำให้ศิษย์ทั้งหมดของสำนักมังกรฟ้าเกิดความหวาดกลัวถึงขีดสุดและไม่มีใครกล้าพูดอะไร
“ทุ่มกำลังทั้งหมดของสำนักเพื่อค้นหาตัวมัน! ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าสามเดือนเท่านั้น หากไม่เจอในสามเดือน พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย!!”
“ส่งสารออกไปทั่วทั้งแคว้นกระทิงสวรรค์ ใครที่กล้าปกป้องมันจะต้องชดใช้!!”
หวังหลินรีบเคลื่อนทะยานผ่านท้องฟ้าในแผ่นดินเซียนดารา สัมผัสวิญญาณกระจายออกไปพลางปรับเปลี่ยนไปกับโลกใหม่แห่งนี้
‘ด้วยระดับบ่มเพาะของข้า ข้าสามารถใช้สัมผัสวิญญาณปกคลุมโลกถ้ำได้เกือบทั้งหมด แต่ที่นี่สัมผัสวิญญาณดูเหมือนถูกกดทับด้วยกฎที่มองไม่เห็นจนเหลือขนาดเพียงครึ่งเดียวที่อยู่ในโลกถ้ำเท่านั้น…’
‘เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นเฉพาะข้า ทุกคนเป็นเหมือนกัน!’ หวังหลินพิจารณาเรื่องนี้ได้เพราะไม่มีสัมผัสวิญญาณจากสำนักมังกรฟ้าที่กระจายออกมาจับเขาในช่วงเวลาหนี
‘วิชาบิดมิติก็สูญเสียความสามารถของมันบนแผ่นดินเซียนดาราด้วย…’ หวังหลินขมวดคิ้วและพยายามอยู่หลายครั้ง แต่ไม่สามารถผสานกับโลกนี้ได้เลย
‘นี่ก็น่าจะไม่เฉพาะกับข้าเหมือนกัน แม้แต่บรรพชนของสำนักมังกรฟ้าที่อยู่ใน ขั้นวิบากแก่นแท้ระดับต้นเหมือนสีรุ้งและผีเฒ่าจางก็ยังไม่สามารถเร่งรีบกลับมาทันเวลาได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถใช้บิดมิติได้!’
ขณะที่หวังหลินขบคิด พลันเคลื่อนร่างผ่านท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว พอจะเข้าใจ โลกแห่งนี้ได้มากขึ้นและถึงแม้โลกถ้ำจะเหมือนกันแต่มันก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
โลกถ้ำคือมายา แต่ที่นี่คือของจริง!
เขาสามารถผสานกับโลกถ้ำได้แต่ไม่สามารถผสานกับแผ่นดินเซียนดาราได้ ส่งผลให้ไม่สามารถใช้บิดมิติได้เหมือนกัน
‘มันน่าจะมีวิธีอยู่ แต่ระดับบ่มเพาะต้องสูงกว่านี้’ หวังหลินขบคิดเงียบๆ
เขาเพิ่งมาถึงที่นี่ ดังนั้นทุกอย่างจึงแปลกใหม่สำหรับเขา โชคดีที่เขาค้นความ ทรงจำของคางเหริน แม้จะไม่รู้มากนักแต่ก็รู้เรื่องแคว้นกระทิงสวรรค์ไปเยอะ
‘ที่นี่คือแคว้นกระทิงสวรรค์ในทิศตะวันออกของแผ่นดินซึ่งอยู่ใต้อำนาจของเหล่าเทพ…สำนักกุ้ยยี่และสำนักมหาวิญญาณเป็นสองสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้น กระทิงสวรรค์ ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของเก้าสำนักสิบสามกองกำลัง…’ หวังหลินรู้สึกซับซ้อน เขาไม่รู้สึกแปลกใหม่กับสองสำนักที่ว่ามา
‘สำนักมหาวิญญาณมีฟ่านชานเมิ่งและฟ่านชานลิ่ว! สำนักที่มีภาพมายาอันน่ากลัว…ทั้งยังมีหยุนยี่เฟิงจากความทรงจำของคางเหริน เขากลายเป็นอัจฉริยะของสำนักกุ้ยยี่…’
‘ข้ามาถึงช้าไป…อาจารย์อาจจะคิดว่าข้าตายไปแล้ว จึงไม่รอ…’ หวังหลินถอนหายใจ แต่สิ่งที่ทำให้เขาหวั่นไหวคือแคว้นกระทิงสวรรค์เป็นที่ที่สำนักเจ็ดเต๋าตั้งอยู่
‘แคว้นกระทิงสวรรค์กว้างใหญ่เกินไป มีขนาดใหญ่กว่าโลกถ้ำหลายสิบเท่า การเดินทางโดยไม่ใช้บิดมิติจะช้าเกินไป…เดินทางจากที่นี่ไปสู่ 36 อาณาเขตของฝั่งบัญชาโบราณคงใช้เวลาหลายร้อยปีแม้จะใช้ความเร็วเต็มที่’
หวังหลินขมวดคิ้ว แผ่นดินเซียนดารากว้างใหญ่เกินไปมาก…
‘ช่างมันเถอะ ไม่ว่าอย่างไรข้าต้องมุ่งหน้าไปดูสำนักเจ็ดเต๋าก่อน หากอาจารย์ไม่อยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน ข้าต้องมุ่งไปยังเผ่าบัญชาโบราณตามที่สัญญาเอาไว้!’
‘นี่เป็นเป้าหมายระยะยาว ก่อนทำเรื่องนั้นข้าต้องไปสำนักตงหลิน ข้าต้องใช้ ทุกวิธีทางเพื่อเข้าไปยังบ่อน้ำตงหลิน!’ พอหวังหลินคิดถึงความลึกลับของบ่อน้ำ ตงหลิน จิตใจจึงเต้นกระดอน
‘แต่ก่อนหน้านั้น ข้าต้องแก้ปัญหาเรื่องมิติเก็บของเสียก่อน ข้าสงสัยว่า เหลียนต้าวเฟยและสตรีชุดเงินจะเป็นอย่างไร…’ หวังหลินรู้ว่าทั้งสองมีสายโลหิตของแผ่นดินเซียนดาราอยู่แล้ว แม้มิติเก็บของจะแตกสลายไป ทั้งคู่ก็ยังอยู่ดี
หวังหลินทะยานผ่านท้องฟ้าเป็นลำแสง การเหาะเหินที่ใช้ระดับบ่มเพาะอย่างเดียวเช่นนี้หลังจากผ่านไปนานแม้แต่หวังหลินก็ยังพบว่ามันเริ่มจะทนไม่ไหว
ราชายุงโดดเด่นเกินไปและการอัญเชิญมาที่นี่ไม่ค่อยดีนัก
ครึ่งเดือนต่อมาเทือกเขาแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลิน มีภูเขาหลายลูกเชื่อมต่อกันจนสุดสายตา มองด้วยตาเปล่าคงเห็นว่ามีภูเขามากกว่าหมื่นลูก
แคว้นกระทิงสวรรค์เต็มไปด้วยภูเขา หวังหลินรู้เรื่องนี้มาจากความทรงจำของคางเหรินและเห็นกับตามาตลอดครึ่งเดือน
‘ที่นี่ค่อนข้างดี…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างและพุ่งเข้าไปในเทือกเขาด้านล่าง พุ่งเข้าหาภูเขาที่ดูธรรมดาและเข้าไปข้างใน
หวังหลินสะบัดแขน ภายในภูเขาหายไปจากนั้นก่อตัวเป็นถ้ำหินขนาดยักษ์ มันกลายเป็นถ้ำชั่วคราวให้หวังหลิน
เขานั่งลงในภูเขา สองมือสร้างผนึกปรากฏเขตอาคมขึ้นมาจำนวนมากและร่อนลงใส่ภูเขา หวังหลินไม่สามารถนำสมบัติออกมาได้ ดังนั้นจึงใช้เขตอาคมเพื่อซ่อน กลิ่นอายตัวเองเท่านั้น
หลังจากผนึกภูเขาและวางการป้องกันบางส่วนเอาไว้ หวังหลินไม่ได้วางโลงศพเลี่ยงสวรรค์ลงไปและยังแบกไว้บนหลัง แผ่นดินเซียนดาราไม่เหมือนโลกถ้ำ มีเซียนทรงพลังหลายคนที่นี่และเขาต้องป้องกันเหตุฉุกเฉินไว้อย่างดี
มีเพียงการที่เขาแบกโลงศพไว้บนหลังเท่านั้นถึงจะรู้สึกปลอดภัย
“คางเหรินคนนั้นก็มีมิติเก็บของเช่นกัน แต่แตกต่างจากในโลกถ้ำ เขาเปิดมันในร่างกายตัวเองทำให้ไม่มีเขตอาคมและเขาสามารถหยิบใช้ได้ตลอดเวลา”
‘วิธีการแบบนี้ลึกลับมาก แต่ไม่ใช่สิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เหล่าเทพในโลกถ้ำก็ทำแบบนี้’
‘คนจากสำนักเจ็ดเต๋าก็ใช้วิธีเดียวกัน…ข้าควรเตรียมการไว้ในตอนนั้น…’ หวังหลินส่ายศีรษะ แม้เขาจะมีไหวพริบดีแต่ก็ไม่ครอบคลุมทั้งหมด
หวังหลินนั่งลงและยกแขนขวาขึ้นมาเริ่มขบคิด เดาไม่ออกว่าจะเกิดอะไรตามมาถ้าเปิดมิติเก็บของ
‘มิติเก็บของของข้าเปิดในโลกถ้ำ ข้าสามารถเปิดได้ในมิติว่างแต่น่าจะโดนรบกวน นอกจากนี้มิติว่างก็ยังเชื่อมต่อกับโลกถ้ำ…แต่ตอนนี้ข้าอยู่บนแผ่นดินเซียนดารา ข้าต้องทำอย่างไรดี…’ หวังหลินรู้สึกปวดหัว มองแขนขวาและสะบัดแขน
เขาเห็นรอยแยกปรากฏขึ้นเบื้องหน้า มันพังทลายกลายเป็นละอองแสงก่อนจะที่เขาจะทันได้หยิบอะไรออกมา
หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่งแต่สายตาเปล่งประกายตามที่คาดเดา มิติเก็บของที่เขาเพิ่งเปิดออกมาเป็นมิติที่เขาสร้างขึ้นมาเก็บขยะ แม้จะพังทลายไปเขาก็คงไม่เสียอะไรที่มีค่า
หวังหลินใช้มันเป็นการทดสอบเพื่อยืนยันสิ่งที่คาดเดา!
‘ไม่ได้พังทลายทั้งหมด บางส่วนได้รับความเสียหายแต่กระจายกันไปไหนไม่รู้’ หวังหลินขบคิด
‘ต้องนำกระบี่โลหิตออกมา…และประทับสีทองที่อาจารย์สร้างมาให้ มันมีพลังของเซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับต้นและเป็นประโยชน์สำหรับข้า…’
‘ส่วนแส้ฟาดวิญญาณ ใช้ต่อกรกับวิญญาณดั้งเดิมโดยเฉพาะ น่าเสียดายที่มันหายไปในมิติเก็บของ…’
‘ยังมีหุ่นเชิดเย่ซื่อที่แข็งแกร่งเท่าเซียนขั้นวิบากดับสูญ…และใบเรือหน้าผีอีก…’