1824. เจตจำนงแห่งเปลวเพลิง
นางไม่ใช่คนโง่ แม้จะเป็นคนอื่นก็สังเกตปัญหากับเพลิงปฐพีสายหลักและเห็นคนจากห้องหินได้ พวกเขาก็คงคิดว่าคนผู้นั้นคือ ต้นตอของปัญหา
ซึ่งก็คงคิดจะไล่ตามและย่อมพลาดบางอย่างไป
แม้หวังหลินจะเจอเรื่องคล้ายๆกัน การรับรู้ว่าเป็นแค่การหลอกล่อในทันทีก็ยังยากอยู่ดี
จึงเป็นเหตุที่นางไม่สามารถตรวจจับได้อย่างรวดเร็วนัก นางละทิ้งการไล่ล่าและมุ่งหน้าเข้าหาส่วนลึกของสายเพลิงปฐพี เมื่อหวังหลินสังเกตได้จึงเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ
ตอนนี้มีสองเจตจำนงอยู่ภายในสายเพลิงปฐพี หนึ่งในนั้นคือวิญญาณมังกร เจ้าของสายเพลิงปฐพีและอีกหนึ่งคือร่างแก่นแท้ของเขา!
‘ถึงเวลาที่ข้าจะโจมตีแล้ว!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เขาไม่ยอมให้ใครได้ขัดขวางกระบวนการกลืนกินของร่างแก่นแท้ได้ นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับแก่นแท้และตัวเขาเอง ในฐานะคนที่มาจากโลกถ้ำเข้าสู่แผ่นดินเซียนดารา นี่เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาขึ้นอย่างมหาศาล!
ใต้ฝ่าเท้าเกิดระลอกคลื่นและตัวหวังหลินหายวับไปในพริบตา
นางพุ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบพร้อมกับห่อหุ้มด้วยใบหน้าผีเพื่อให้เคลื่อนร่างได้รวดเร็วขึ้น ขณะที่นางเคลื่อนไหวพลันรู้สึกอธิบายไม่ถูกและขยับไปด้านข้างโดย ไม่ลังเล พริบตาเดียวลำแสงสีแดงก็ผ่านร่างนางไปและแทงทะลุผ่านใบหน้าผี ลำแสงหันกลับมาและกระแทกเข้าไปยังสายเพลิงปฐพี มันคือ กระบี่โลหิต!
กระบี่โลหิตเปล่งจิตสังหารรุนแรงและมีกลิ่นอายของบัญชาโบราณ!
หลังจากเห็นกระบี่โลหิตเล่มนี้ นางมีสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล!
“กระบี่โลหิตสังหาร หนึ่งในเจ็ดกระบี่ของเผ่าบัญชาโบราณ! เจ้าไม่ใช่เซียน!!” หญิงสาวหันกลับมาเห็นกระบี่โลหิตกะพริบวาบอีกครั้ง เกิดระลอกคลื่นตรงทิศทางที่กระบี่โลหิตพุ่งผ่านและหวังหลินได้ก้าวออกมา
‘กระบี่โลหิตสังหาร…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เขาได้รับมรดกของเย่โม่มา แต่ขาดตาซ้าย ดังนั้นความทรงจำจึงไม่สมบูรณ์ เขารู้ว่าเย่โม่ได้รับกระบี่มาจากจักรพรรดิของเผ่าบัญชาโบราณและไม่รู้จักชื่อที่แท้จริงของมัน
หวังหลินไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่ชี้ไปที่ท้องฟ้า แสงสีรุ้งระเบิดออกมาเบื้องบน รวมตัวกันข้างหน้ากลายเป็นหอกสีรุ้ง
หอกพุ่งทะยานเข้าหานางทันที
นางพ่นลมหายใจเย็นและสะบัดแขนขวาอย่างลวกๆ ใบหน้าผีแผดเสียงและทะยานเข้าหาหอกสีรุ้ง
เพียงเสี้ยวพริบตาทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกัน แสงสีรุ้งไม่สามารถต้านทานได้เลย ใบหน้าผีกลืนกินและทะยานเข้าหาหวังหลินต่อ
หญิงสาวมีแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร นางพุ่งทะยานหาหวังหลินตามใบหน้าผีมาติดๆ
“เจ้ามาเองก็ดีแล้ว!” เสียงเย็นเยียบดังกึกก้องผ่านสายเพลิงปฐพีและเข้าสู่หูของหวังหลิน
หวังหลินล่าถอยและสะบัดแขนเสื้อ ประทับสีทองของซวนลั่วปรากฏขึ้นมาข่มใบหน้าผี
กลิ่นอายทรงพลังจากประทับสีทองซึ่งมีเศษเสี้ยวพลังของซวนลั่วได้เข้าไปใกล้ใบหน้าผีและเกิดเสียงดังปัง ใบหน้านั้นส่งเสียงร้องโหยหวนและหายไปตรงหน้า หวังหลิน
แสงสีทองส่องประกายเจิดจ้า ประทับสีทองทะยานเข้าหานาง พอนางได้เห็นจึงอ้าปากค้าง รูม่านตาหดลงและหยุดชะงักทันที
ขณะเดียวกัน หวังหลินดวงตาส่องสว่างและล่าถอยหายกลับเข้าไปในสายเพลิงปฐพี แสงสีทองหม่นหมองลง ประทับหยุดเคลื่อนไหวไปข้างหน้า มันหายไปพร้อม กระบี่โลหิต
“อย่าไล่ตามมาอีก ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อสำนักมหาวิญญาณ ข้าแค่ต้องการใช้เพลิงปฐพีสายหลักเพื่อบ่มเพาะวิชา!” หวังหลินเอ่ยเสียงดังกึกก้องในจิตใจของนาง
นางยืนอยู่ตรงนั้นและขบคิดเงียบๆ
วินาทีที่นางได้สัมผัสกลิ่นอายมหาชั้นฟ้าข้างในประทับ มันทำให้นางหวาดกลัว กลิ่นอายนั้นทำให้นางครุ่นคิดหลายอย่าง
ผ่านไปสักพัก แววตาเย็นเยียบจึงปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“มีสมบัติที่มหาชั้นฟ้ามอบให้แล้วอย่างไร? เขามีกระบี่โลหิตซึ่งเป็นของเผ่า บัญชาโบราณ แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามหาชั้นฟ้าผู้นั้นเป็นใคร!”
“แม้เหล่ามหาชั้นฟ้าของแคว้นโบราณจะทรงพลัง แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเทพอย่างเราได้! แม้ข้าอาจจะตัดสินใจผิดและมหาชั้นฟ้าที่สนับสนุนเขาเป็นฝ่ายเทพ แต่เขาก็ได้ทำให้เพลิงปฐพีสายหลักของสำนักมหาวิญญาณเกิดการเคลื่อนไหว ดังนั้นหากข้าสังหารเขาก็คงเป็นเรื่องถูกต้อง ถ้าข้าไม่สังหารก็แค่พยายามหยุดเขา…แม้แต่เหล่ามหาชั้นฟ้าก็คงไม่คิดว่าเป็นเรื่องไร้เหตุผล!” นางพึมพำพลางเงยศีรษะขึ้นมามุ่งหน้าไปที่เพลิงปฐพีสายหลักอีกครั้ง
นิสัยของนางรุนแรงมาก ระดับบ่มเพาะปัจจุบันก็สัมพันธ์กับนิสัยส่วนตัวอย่างมากซึ่งทำให้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้นางจะตกตะลึงกับประทับสีทองแต่นางตัดสินใจได้แล้ว
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ตู้ฉิงจะเทียบได้
อีกด้านหนึ่งของเพลิงปฐพีสายหลัก ร่างแก่นแท้ของหวังหลินได้ตรวจจับการเคลื่อนไหวของนางได้และเขาจึงถอนหายใจ
‘เหล่าเซียนที่ได้บรรลุขั้นวิบากแก่นแท้จริงๆ ล้วนเป็นคนที่มุ่งมั่นแน่วแน่ สมบัติที่มหาชั้นฟ้าสร้างขึ้นมาไม่สามารถบังคับให้พวกเขาล่าถอยง่ายๆ…ในเมื่อนางไม่ถอยก็มาดูกันว่าใครที่เร็วกว่า!’ หวังหลินมีสายตามุ่งมั่นและหายตัวไป
ขณะที่ร่างแก่นแท้ของหวังหลินดูดซับเพลิงปฐพีสายหลัก เจ้าวิญญาณมังกร ดิ้นรนน้อยลง ร่างแก่นแท้เหลือเพียงเรือนผมที่ยังเป็นขนนก แต่ตอนนี้ตรงรากผมเป็นสีดำขึ้นมาบ้างแล้ว
เรือนผมสีดำถูกห่อหุ้มด้วยแสงพร่าเลือนที่กำลังกระจายออกไป เมื่อมันกระจายกันเสร็จสิ้น ร่างแก่นแท้ก็จะสมบูรณ์แบบ!
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ร่างแก่นแท้ของหวังหลินไม่สนใจอันตรายภายนอกทั้งหมดและเพ่งสมาธิไปที่การดูดซับเพลิงปฐพีสายหลักอย่างสมบูรณ์ เขากำลังแข่งกับเวลาเพื่อให้มีชีวิตรอด หากนางมาถึงก่อนที่เขาจะสร้างร่างแก่นแท้ได้สำเร็จ ความพยายามทั้งหมดของหวังหลินคงสูญเปล่า
และการจะเจอโอกาสเช่นนี้คงเป็นเรื่องยากมาก!
ร่างดั้งเดิมปรากฏขึ้นเบื้องหน้านางอย่างต่อเนื่อง ใช้วิชาหลายอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้นางเดินทางต่อไป แต่หลังจากทำเช่นนี้หลายครั้ง นางก็เมินเฉยต่อเขาและ มุ่งหน้าไปสู่ส่วนลึกของเพลิงปฐพี
พริบตาเดียวผ่านไปอีกหลายชั่วโมง นางเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ…
วิญญาณของเพลิงปฐพีสายหลักได้อ่อนแอมาจนถึงจุดหนึ่ง เสียงคำรามของมันอ่อนเบา ร่างกายดูเหมือนสงบนิ่งช้าๆ
ทว่านี่เป็นแค่ภาพที่เห็นภายนอก ดวงตาของมันเปล่งแสงแพรวพราว ทันใดนั้นมันได้ส่งเสียงคำรามทรงพลัง ร่างกายที่สงบนิ่งเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
สิ้นเสียงคำราม วิญญาณมังกรตัวยักษ์ได้ถูกทะเลเพลิงห่อหุ้มและเริ่มหดลงอย่างรวดเร็ว
จากขนาดไร้ขอบเขตลดลงจนเหลือแสนฟุต…หมื่นฟุต…พันฟุต…ร้อยฟุต!
แรงกดดันจากการหดร่างลงเช่นนี้ได้ทำให้วิญญาณมังกรระเบิดการต่อต้านที่แข็งแกร่งที่สุด มันหดร่างลงจากร้อยฟุตไปห้าสิบฟุต สามสิบฟุต สิบฟุต!
การบีบอัดเช่นนี้ได้ทำให้พลังอำนาจมากขึ้นเช่นกัน ท้ายที่สุดมันได้หดก้อนเปลวเพลิงลงไปจนเหลือเพียงขนาดเท่ากำปั้น!
วินาทีที่ร่างแก่นแท้ของหวังหลินปะทะกับวิญญาณมังกร ก้อนเปลวเพลิงขนาดเท่ากำปั้นนั้นได้มุ่งตรงเข้าหาหน้าผากของร่างแก่นแท้หวังหลิน
ปัง! ก้อนเปลวเพลิงสัมผัสกับหน้าผากและเข้าไปข้างใน!
เมื่อมันเข้าไป สัมผัสวิญญาณเริ่มสั่นเทาราวกับเขากลับกลายเป็นคนธรรมดาและพยายามดิ้นรนอยู่ในเรือพายบนทะเลคลั่ง
เจตจำนงอันทรงพลังยิ่งได้ตกลงมา พยายามกวาดล้างสัมผัสวิญญาณของ หวังหลินเพื่อครอบครองร่างแก่นแท้ นี่คือเจตจำนงของมังกรเพลิง มันยอมละทิ้งร่างกายและดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเข้าไปในร่างแก่นแท้ของหวังหลิน พยายามเข้าครอบงำร่างแก่นแท้นี้เอาไว้!
ซึ่งจะทำให้ร่างแก่นแท้นี้กลายเป็นภาชนะของเจตจำนงของมัน!
เจตจำนงนี้ทรงพลังยิ่ง มันได้เปลี่ยนกลายเป็นมือยักษ์เข้าบดขยี้สัมผัสวิญญาณของหวังหลิน มันเต็มไปด้วยความดิ้นรนและนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ เสียงคำรามดังออกมาราวกับกำลังท้าทายสวรรค์
หวังหินมองเห็นแสงและรู้สึกได้ถึงความร้อนระอุ ซึ่งการผสานของทั้งสองสิ่งได้ก่อเกิดเป็นโลกแห่งเปลวเพลิง!
เจตจำนงแห่งเปลวเพลิงต้องการเผาไหม้ทุกสิ่งรวมถึงตัวมันเองด้วย มันมีความบ้าคลั่งที่ไม่ยอมพ่ายแพ้อยู่ในนั้น เจตจำนงฝืนลิขิตสวรรค์ต้องการเผาไหม้โลกทั้งใบ!
มันต้องการเผาไหม้สัมผัสวิญญาณของหวังหลินและทุกอย่างให้กลายเป็นเถ้าถ่าน!
“เปลวเพลิง! ต้นกำเนิดของความเข้าใจด้านเปลวเพลิงไม่ใช่วิหคศักดิ์สิทธิ์แต่เป็นหัวใจของเทียนที่สั่นไหวในสายลมแต่ยังมีเชื้อไฟ!”
“สายลมต้องการพัดเทียนให้มอดดับเป็นควัน แต่ทุกครั้งที่สายลมพัดผ่าน เทียนจะต่อต้านและสั่นไหวอย่างรุนแรง มันไม่ยอมตาย ไม่ยอมกลายเป็นควัน!”
“แก่นแท้เปลวเพลิงที่ข้า หวังหลิน ได้รู้แจ้งคือเจตจำนงนั้น! เจตจำนงแห่งเปลวเทียน! เจตจำนงแห่งเต๋าของข้า! เป็นเจตจำนงแห่งการดิ้นรนต่อต้านสวรรค์อันยาวนาน!”
“เจ้ากล้าลบล้างเจตจำนงของข้าหรือไม่? เจ้าลบล้างได้หรือไม่?” ร่างแก่นแท้ของหวังหลินลืมตาที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง เขาส่งเสียงคำรามพร้อมกับที่สัมผัสวิญญาณข้างในร่างได้ดิ้นรนต่อต้านเจตจำนงของมังกรเพลิงไปด้วย ด้วยจิตใจไม่ยอมพ่ายแพ้!
ดุจเทียน ดุจเปลวเทียน!