Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1825

Cover Renegade Immortal 1

1825. แปดสัญญาณแห่งบรรพชนเทพ

เสียงคำรามดังกึกก้องในเพลิงปฐพีสายหลักและเต็มไปด้วยการต่อต้านอย่างมุ่งมั่น นางได้ยินจากระยะไกลจึงมีท่าทีเปลี่ยนไป ด้านหลังมีร่างดั้งเดิมของหวังหลินติดตามมา ทั้งสองกำลังเคลื่อนทะยานเข้าสู่ส่วนลึก

ระหว่างทางสตรีสาวได้เมินเฉยหวังหลินอย่างสิ้นเชิงและเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด ระดับบ่มเพาะของหวังหลินนั้นห่างชั้นกับนางมากจึงไม่สามารถหยุดนางได้ แต่เขายังมีวิชายับยั้ง!

ทว่าหวังหลินยังไม่ได้ใช้ วิชานี้จะต้องใช้ในจังหวะสำคัญที่สุดเพื่อผลลัพธ์สูงสุด

ขณะที่สตรีสาวเข้าไปใกล้ร่างแก่นแท้ของหวังหลินขึ้นเรื่อยๆ นางกระจายสัมผัสวิญญาณออกมาและมองเห็นทุกอย่าง พอได้เห็นร่างแก่นแท้แล้วสีหน้าท่าทางจึงเปลี่ยนไปมหาศาล!

‘นี่…นี่มัน…นี่มันร่างแก่นแท้!!! เขาหยิบยืมสายเพลิงปฐพีเพื่อสร้างร่าง แก่นแท้จริงๆ!!’

นางอ้าปากค้าง ร่างกายสั่นสะท้าน แขนขวาที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าถึงกับสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว การสั่นนี้ไม่น้อยไปกว่าตอนที่หวังหลินนำสมบัติของมหาชั้นฟ้าออกมา ความจริงแล้วมันรุนแรงยิ่งกว่านั้นอีก! อีกทั้งเพราะนางไม่เคยเจอมหาชั้นฟ้าแต่นางเคยเห็นร่างแก่นแท้อยู่หลายครั้ง!

บรรพชนของสำนักมหาวิญญาณ กระทิงเขียว ก็มีร่างแก่นแท้เช่นกัน นางจึงรู้ความแตกต่างได้อย่างชัดเจนถึงวิธีการสร้างและความทรงพลังว่ามีมากมายแค่ไหน นางคิดว่าคงได้เห็นร่างแก่นแท้ร่างเดียวในชีวิต แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้มาเป็นร่าง แก่นแท้ที่สองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนที่นี่!

‘มิน่าเล่าเขาถึงได้หลอกลวงข้าไปที่อื่น…มิน่าเล่าเขาถึงต้องการเสี่ยงเข้าไปใน ส่วนลึกของสายเพลิงปฐพี…มิน่าเล่าเขาถึงมาที่นี่ถึงแม้จะมีสมบัติจากมหาชั้นฟ้า…’

‘ทั้งหมดเป็นเพราะเขาต้องการสร้างร่างแก่นแท้ที่สร้างขึ้นยากเย็นแสนเข็ญจนแทบจะกลายเป็นตำนาน!!’ นางหน้าซีดและแววตาระเบิดความเย็นเยียบออกมา นางรู้ดีว่าร่างแก่นแท้เป็นสิ่งที่นางใฝ่ฝันว่าจะสร้างขึ้นมาสักครั้ง นางเข้าใจดีว่าเมื่อ ร่างแก่นแท้ถูกสร้างขึ้นมา สายเพลิงปฐพีจะพังทลายและหายไป

‘ข้ามิอาจปล่อยให้เขาทำสำเร็จได้!’ นางกัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นการทำลายสาย เพลิงปฐพีหรือความอิจฉาในใจ นางก็ไม่ต้องการให้ร่างแก่นแท้ถูกสร้างขึ้นมาได้ นางกระอักโลหิต ร่างกายผสานเข้ากับโลหิต พริบตาเดียวก็เพิ่มความเร็วได้มากกว่าเดิมสิบเท่า มุ่งหน้าตรงเข้าหาร่างแก่นแท้ของหวังหลินดุจร่างเงา

หลังจากร่างแก่นแท้ของหวังหลินส่งเสียงคำราม เจตจำนงของวิญญาณมังกรจึงพังทลาย เจตจำนงของหวังหลินได้เข้ามาควบคุมร่างแก่นแท้ต่อ การต่อต้าน ครั้งสุดท้ายของวิญญาณมังกรได้แตกสลาย!

เมื่อเจตจำนงของวิญญาณมังกรพังทลายไป หวังหลินเริ่มกลืนกินวิญญาณมังกรที่เหลืออยู่ ความคิดจิตใจเกิดเสียงดังลั่น

หวังหลินแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปทุกทิศทุกทาง เขาได้ยินเสียงคำรามโหยหวนดังออกมาจากส่วนลึกใต้ผืนดินซึ่งอยู่ด้านล่างสายเพลิงปฐพี

ตอนที่เสียงคำรามเข้ามาในใจ หวังหลินเพิ่งดูดซับเศษวิญญาณมังกรที่เหลืออยู่ เสียงคำรามดังกึกก้องดุจสายฟ้าและเกิดเป็นภาพมายา!

ทัศนวิสัยของเขาพร่าเลือนและเมื่อมันชัดเจนอีกครั้งหวังหลินตกอยู่ในอวกาศแห่งหนึ่ง อวกาศแห่งนี้ใหญ่โตมโหฬารจนคล้ายไม่มีจุดสิ้นสุด หวังหลินยืนอยู่ตรงนั้นไร้ร่างกายและมองไปรอบๆ

เขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ขณะที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองมึนงง กลับมีเสียงดังสนั่นอยู่ห่างไกล พอหันกลับไปหวังหลินจึงหรี่ตาแคบ

เขาเห็นกระทิง!

กระทิงยักษ์ล้อมรอบด้วยน้ำแข็งที่สามารถแช่แข็งได้ทั้งดวงดาว มันใหญ่มากและดูเหมือนมีขนาดไร้ที่สิ้นสุด มันปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและร้องคำราม

ร่างกายของมันแผ่กระจายความรู้สึกหวาดกลัวเกินคำอธิบายและกระจายไปทั่วทุกสารทิศ

ร่างหวังหลินดุจดั่งกำลังแข็งค้าง กระทั่งความคิดยังเชื่องช้า หวังหลินไม่เคยเจออสูรน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนในชีวิต กลิ่นอายของมันไม่ด้อยไปกว่ามหาชั้นฟ้าซวนลั่ว!!

‘กระทิงสวรรค์!!’ สองคำปรากฏขึ้นในใจหวังหลินพร้อมกับคำเล่าลือและตำนานเกี่ยวกับแคว้นกระทิงสวรรค์

บรรพชนเทพสังหารกระทิงต่างถิ่นและเปลี่ยนร่างมันกลายเป็นควัน วิญญาณของมันถูกผนึกไว้ที่นี่และได้เปลี่ยนชื่อแคว้นเป็นแคว้นกระทิงสวรรค์ เหล่าคนทั่วไปและเหล่าเซียนเคลื่อนย้ายมาตั้งถิ่นฐานจนก่อเกิดเป็นสำนัก ผ่านไปหลายปีมันจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของ 72 แคว้นในฝั่งเทพ!

จิตใจของหวังหลินสั่นเทา วินาทีที่ข่าวลือปรากฏขึ้นในใจ แสงสีทองเปล่งประกายเหนือกระทิงสวรรค์ ขณะที่แสงสีทองห่อหุ้มท้องฟ้า ร่างสวมชุดคลุมจักรพรรดิและสวมมงกุฎได้ปรากฏขึ้นมา

เมื่อร่างนั้นปรากฏ อวกาศสั่นสะท้าน พลังปราณสวรรค์อันเกินจินตนาการปรากฏขึ้นมาปะทะกับกลิ่นอายเย็นเยือก โลกแห่งนี้เกิดการสั่นเทา

‘บรรพชนเทพ!’ หวังหลินคงไม่ต้องเดา อ้างอิงจากตำนาน เขาบอกได้ว่าคนที่ไม่สามารถมองเห็นรูปร่างได้ชัดเจนนี้คือ บรรพชนเทพในตำนาน!

‘เป็นไปได้ว่าหลังจากข้ากลืนกินเจตจำนงของวิญญาณมังกร เสียงคำรามเบาบางจากใต้ดินได้พาข้ากลับไปในช่วงที่บรรพชนเทพผนึกกระทิงสวรรค์!’

‘แต่ลือกันว่ากระทิงสวรรค์เป็นธาตุไฟ แต่ทำไมกลับเป็นน้ำแข็ง?’ หวังหลินจิตใจสั่นเทาที่ได้เห็นสิ่งนี้

หลังจากคนในชุดคลุมจักรพรรดิปรากฏขึ้นมา กระทิงสวรรค์ร้องคำรามอีกครั้ง เสียงแตกร้าวดังกึกก้องพร้อมกับน้ำแข็งได้แผ่กระจายไปทั่วกระทิงสวรรค์

พลังน่ากลัวนี้แม้แต่ราชันย์เทพสีรุ้งก็ไม่สามารถต่อต้านได้ บางทีคงมีแต่ซวนลั่วเท่านั้นที่สามารถต่อสู้ได้ด้วยพลังเต็มที่!

ขณะที่น้ำแข็งผนึกท้องฟ้า คนในชุดคลุมจักรพรรดิจึงยกแขนขึ้นมา นิ้วทั้งห้ายื่นไปหาท้องฟ้าและกดลง ขณะเดียวกันได้เอ่ยเสียงดังทรงอำนาจ

“เต๋าเทพระดับแปด เต๋าเพลิงสูงสุด!”

ควันสีเขียวโผล่ออกมาจากนิ้วและหมุนวนก่อตัวเป็นวงแหวนเก้าวง จากนั้นทะยานเข้าหากระทิงสวรรค์ในท้องฟ้า

วงแหวนควันทั้งเก้าได้เติบโตพลางทะยานออกไป ไม่นานมันก็มีขนาดกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต พวกมันเข้าปะทะกับกระทิงสวรรค์อย่างรวดเร็ว

วงแหวนแรกเข้าปะทะกับกลิ่นอายน้ำแข็งของกระทิงสวรรค์ทำให้กลิ่นอายน้ำแข็งสูญสลายในพริบตา วงแหวนที่สองแทงทะลุน้ำแข็งและร่อนลงใส่กระทิงสวรรค์ จากนั้นอีกเจ็ดวงที่เหลือได้จู่โจมเข้าหาที่ละวง

กระทิงสวรรค์สั่นเทาและร้องคำราม แต่ไม่สามารถออกจากวงแหวนได้ เมื่อวงแหวนทั้งเก้าร่อนลงไป กลิ่นอายน้ำแข็งจากกระทิงสวรรค์จึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย เปลวเพลิงมหึมาปรากฏขึ้นมาแทนและทำให้กระทิงสวรรค์ดูเหมือนกระทิงเพลิง!

“กล้ามารุกรานเผ่าเทพของข้า บทลงโทษของเจ้าคือ ถูกทำให้ร่างกายเป็น ผืนแผ่นดิน วิญญาณดั้งเดิมหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ กระดูกเป็นสายแร่ วิญญาณจะถูกกดทับอยู่ใต้แผ่นดินเซียนดารา!”

กระทิงสวรรค์ส่งเสียงคำรามโหยหวน ร่างกายจมดิ่งลงไปก่อตัวเป็นแผ่นดิน ไร้ขอบเขต ภูเขานับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาจากพื้นดิน เปลวเพลิงมากมายปรากฏขึ้นมาเปลี่ยนกระดูกของมันให้กลายเป็นสายเพลิงปฐพี!

ณ ใต้ดิน วิญญาณของกระทิงสวรรค์ถูกกดทับไว้ที่นี่ มีเพียงเสียงคำรามไม่ยอมแพ้ซึ่งดังออกมาจากส่วนลึกเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีใครได้ยิน!

หลังจากหวังหลินเห็นเช่นนี้ ทัศนวิสัยที่พร่าเลือน ได้กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เขากลับมาอยู่ในสายแร่เพลิงปฐพี ชั่วจังหวะนั้นดูเหมือนเขายังได้ยินเสียงคำรามของกระทิงสวรรค์จากส่วนลึกใต้ดิน

แววตางุนงงยังไม่หายไป เรือนผมของร่างแก่นแท้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขนนกเปลี่ยนกลายเป็นเส้นผมสีดำ ร่างแก่นแท้ของหวังหลินกำลังก่อกำเนิด

จังหวะนั้นมีแสงโลหิตมหึมากะพริบเบื้องหน้าร่างแก่นแท้ ข้างในแสงโลหิตเป็นสตรีสาวผู้งดงาม ตอนที่นางเห็นเรือนผมของหวังหลินกำลังก่อตัวอย่างรวดเร็ว นางร้อนใจยิ่งนัก แววตาผุดจิตสังหาร ใช้วิชาโจมตีออกไปเพื่อทำลายร่างแก่นแท้ที่กำลังสมบูรณ์!

ระลอกคลื่นดังกึกก้องด้านหลังนาง ร่างดั้งเดิมหวังหลินได้ก้าวเดินออกมา ขณะที่นางกำลังจะโจมตี แววตาของหวังหลินกระพริบแสงเย็นเยียบ ระเบิดวิชายับยั้งที่เตรียมการเอาไว้ระหว่างทาง

“หยุด!” หยุดยั้งฟ้าดิน หยุดยั้งทุกวิชา หยุดความคิด หยุดทุกอย่าง นี่คือ วิชายับยั้งของหวังหลินที่ไม่ใช่แค่หยุดร่างกาย!

เมื่อวิชายับยั้งถูกใช้ออกไป ร่างหญิงสาวจึงหยุดชะงักไปชั่วขณะ วิชาถูกขัดขวาง วินาทีนั้นหวังหลินกระอักโลหิต ร่างกายเกิดเสียงปะทุพร้อมกับหมอกโลหิตจำนวนมากระเบิดจากภายใน เขามุ่งหน้าไปโดยไม่ลังเลแต่ไม่ได้โจมตีหญิงสาว หวังหลินสรุปได้ว่านางต้องมีสมบัติป้องกันอยู่เป็นแน่

หวังหลินเคลื่อนที่พริบตาตรงเข้าไปเบื้องหน้าหญิงสาวตรงจุดที่ร่างแก่นแท้อยู่ วิญญาณดั้งเดิมสมบูรณ์ขึ้นไปอีกขั้น ขณะเดียวกันเรือนผมของร่างแก่นแท้หวังหลินได้เปลี่ยนกลายเป็นเรือนผมสีดำเป็นที่เรียบร้อย!

กลิ่นอายทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างแก่นแท้ วินาทีนี้ร่างแก่นแท้เพลิงของ หวังหลินได้สร้างขึ้นมาสำเร็จ!!

สตรีสาวหรี่ตาแคบ ร่างกายฟื้นคืนกลับมาแล้ว

“แม้ร่างอวตารของเจ้าและร่างดั้งเดิมได้ผสานกัน แต่มันก็ยังไม่พอ!” จิตใจของนางสั่นเทา นางไม่เคยเจอวิชาที่หยุดยั้งแบบนั้นได้มาก่อน วิชานี้มีเบื้องหลังที่ลึกล้ำ ไม่ใช่สิ่งที่นางจะรู้ได้

ขณะที่นางพุ่งไปหาหวังหลิน หวังหลินพลันมองขึ้นไปและยกแขนขวา

“เต๋าเทพระดับแปด เต๋าเพลิงสูงสุด!”

หวังหลินไม่มีสายโลหิตของบรรพชนเทพ แต่มีวิธีอื่น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version