Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 186

Cover Renegade Immortal 1

186. นอกทะเลปราณ

หวังหลินรีบพุ่งเข้าหาทางออก หลังจากใช้เวลาไม่นานเขาได้มาถึงในระยะสามสิบฟุตใกล้ทางออกน้ำวน

แต่ขณะที่เขามาถึง เหนือทางออกบททดสอบที่สาม มีรอยแยกยาวหลายพันฟุตเปิดขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยแสงสีแดงโลหิต

หวังหลินตื่นตกใจแต่ใบหน้าสงบนิ่ง เขาใช้วิชาที่จักรพรรดิโบราณให้มาไปบนน้ำวนทันที ขณะที่รอยแยกปรากฎนั้นเขายังพุ่งเข้าวนไปด้วย สายฟ้าม่วงปรากฎขึ้นพร้อมกับลากเขาเข้าไปในน้ำวน

จังหวะที่เขาเข้าไปในน้ำวน หวังหลินเห็นได้ชัดเจนถึงเหล่ามารที่กำลังออกมาจากรอยแยก ทั้งหมดต่างมีสายตาปิติยินดีขณะที่มองหวังหลินในน้ำวน พวกมันทั้งหมดพุ่งเข้าหาเขา

หัวใจหวังหลินเต้นผิดจังหวะ ใครก็ตามในเหล่ามารกลุ่มนั้นสามารถทำลายหวังหลินได้เพียงแค่สะบัดแขน ด้วยความคิดนั้นหวังหลินพลันหายตัวไปในน้ำวน ขณะที่เหล่ามารทั้งหมดติดตามเขาไปโดยไม่ลังเล

หลังจากหวังหลินออกมาจากน้ำวน เขาเริ่มหนีอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุดพัก พื้นที่บริเวณนี้เป็นลานสี่เหลี่ยมพร้อมกับเสาหลายสิบต้นที่สูงถึงท้องฟ้า

ใจกลางเสาเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายรูปวงกลมที่กำลังเปล่งแสงสีแดงปิศาจ หากมองเข้าไปใกล้ๆแล้วจะเห็นได้ว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายนั้นถูกสร้างจากบางสิ่งที่ดูเหมือนเส้นโลหิต รอบๆมันมีท่อที่เชื่อมต่อกับค่ายกลเคลื่อนย้าย ซึ่งดูเหมือนเป็นค่ายกลเชื้อเพลิงที่มีของเหลวสีแดงเข้ม

แสงสีแดงราวปิศาจเปล่งประกายโดยของเหลวที่เป็นเสมือนของเสริมให้กับค่ายกล

ขณะที่หวังหลินปรากฎตัว เขาตรวจสอบพื้นที่ทั่วบริเวณด้วยสัมผัสวิญญาณโดยไม่ลังเล หวังหลินพบว่าไม่มีน้ำวนในพื้นที่แห่งนี้ มีเพียงค่ายกลเคลื่อนย้ายเท่านั้น

โดยไม่ต้องพูดอะไร เขารีบเร่งไปให้ถึงค่ายกลเคลื่อนย้าย แต่ไม่ได้พุ่งเข้าไป หลังจากมองมันหวังหลินจึงหยิบกระบี่พิษออกจากกระเป๋าและหนามสิบจุดแตกออกมาทันที

กระบี่พิษหายกลับเข้าไปในกระเป๋า หวังหลินเคลื่อนฝ่ามือเพื่อสร้างวงกลมมายา จากนั้นวางกฎเกณฑ์ลงบนหนามสิบจุดนั้น

หลังจากทำเสร็จจึงชี้นิ้วไปที่คิ้วตนเองและปล่อยพลังปราณสีทองออกมาจากปาก พลังปราณสีทองเปลี่ยนเป็นเส้นใยขณะที่มันเข้าไปในหนามพวกนั้น

หนามทั้งร่างสั่นเทาและกระจัดกระจายออกขณะที่พวกมันเริ่มหมุนด้วยวงกลมมายา ไม่นานนักหวังหลินก้าวเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายโดยไม่ลังเล ขณะที่ร่างกายเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้าย ลำแสงสีแดงเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านข้างและปกคลุมทั้งค่ายกล

[TL Note: ค่ายกลพูดไว้แบบนี้] “เวลาที่ใช้ผ่านบททดสอบที่สามเกินขีดจำกัดที่ตั้งไว้ แต่ท่านมีคุณสมบัติในการผ่านบททดสอบที่สอง ตำแหน่งที่เคลื่อนย้าย: ด้านนอกทะเลปราณ”

ภายในคลื่นแสงสีแดงโลหิตที่กำลังปั่นป่วน ร่างกายหวังหลินเริ่มเลือนหายไปจนกระทั่งหายไปโดยไม่มีร่องรอย ลำแสงสีแดงโลหิตเริ่มกระจัดกระจายจนทุกสิ่งกลับเป็นปกติ

ในขณะนั้น วงกลมมายาที่หวังหลินทิ้งไว้เบื้องหลังได้กระจายออกทุกทิศทางและสร้างกฎเกณฑ์ขึ้นล้อมรอบทั้งค่ายกลเคลื่อนย้าย ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวของวงกลมมายา หนามได้ลอยไปที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วพร้อมกับแทงเข้าสู่เส้นโลหิตและกระจายพิษของมันเข้าไป

หลังจากนั้นในพริบตา ทั้งค่ายกลไม่เปล่งแสงสีแดงแต่เป็นแสงสีดำ ทว่าแสงสีดำไม่ได้คงอยู่นานนักก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกันที่ทางเข้าของดินแดนที่สี่ มารหลายคนจากทะเลโลหิตปรากฎกายขึ้นและมาถึงถัดจากค่ายกลเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว

หนึ่งในเหล่าเซียนมารมองไปค่ายกลหนึ่งครั้งและพูดขึ้น “ค่ายกลถูกทำลาย มันจะใช้เวลาสามชั่วโมงเพื่อฟื้นฟู”

“ไม่สำคัญ ร่างกายมีขนาดใหญ่มาก วิญญาณกลืนกินไม่สามารถเข้าไปทะเลภูมิปัญญาได้ ตราบใดที่เขาไม่เข้าไปทะเลภูมิปัญญาก็จะไม่สามารถออกไปได้”

“ในสามชั่วโมง เราจะแบ่งกันค้นหา ตอนนี้เราต้องจับเป็น”

หวังหลินรู้สึกราวกับวิญญาณและร่างของตัวเองถูกแยกออกจากัน ไม่นานนักเขาเข้าใจได้ชัดเจนว่าร่างกายเขาถูกล้อมรอบไปด้วยพลังล่องหนที่ดึงเขาเข้าสู่น้ำวนหนึ่ง ตลอดเวลานั้นเขารู้สึกราวกับร่างกายหายไปและเหลือเพียงสัมผัสวิญญาณ

เขาไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้ว ทันใดนั้นพลังรอบกายหายไปขณะที่หวังหลินฟื้นคืนการควบคุมร่างกายอย่างช้าๆ เมื่อลืมตาขึ้นเขาเห็นโลกสีฟ้าแห่งหนึ่ง

นี่เป็นสถานที่ที่แปลกประหลาดมาก ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าและกระทั่งพื้น พูดได้ว่าโลกแห่งนี้ไม่มีพื้น มีเพียงท้องฟ้าเพราะว่าพื้นก็เป็นอีกท้องฟ้าหนึ่ง

หวังหลินตกตะลึงไปชั่วขณะจากนั้นคืนความสงบของตัวเองได้ ก่อนที่เขาจะถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่พลันจดจำได้ถึงเสียงหนึ่งที่เขาได้ยินว่าจะเคลื่อนย้ายไปที่รอบนอกทะเลปราณ

ด้วยประโยคนั้นหวังหลินรู้ได้ว่าที่นั่นเป็นดินแดนที่สี่ เพียงแต่ดินแดนที่สี่ไม่มีอุปสรรคใด มันเป็นเพียงสถานที่สำหรับเคลื่อนย้าย

หวังหลินคิดว่าเข้ามาถึงร่างกายของเทพโบราณแล้วเพียงแต่เป็นข้างนอกทะเลปราณ

เขาขบคิดเล็กน้อยและถอนหายใจ หวังหลินไม่เคยคิดว่าในเหล่าเซียนทั้งหมดที่พยายามมานั้น เขาอยากเป็นคนแรกที่เข้ามาในดินแดนของเทพโบราณ

ก่อนจะเข้าบททดสอบที่สาม หวังหลินยังหวังไว้ส่วนหนึ่งถึงการเข้าสู่ดินแดนของเทพโบราณ แต่ตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้เต็มไปด้วยสมบัติและเม็ดยาอมตะอย่างที่ตวนมู่พูดถึง

โดยเฉพาะที่ทางออกของบททดสอบที่สาม เมื่อเหล่ามารทั้งหมดเช่นเมิ่งหลังค่อมปรากฎ นั่นทำให้หวังหลินรู้สึกมีก้อนหินขนาดใหญ่ทับบนหน้าอก หวังหลินรู้สึกได้ว่าเขาเข้ามาในสถานที่ที่ไม่ควรจะเข้า

โดยเฉพาะสายตาอันปลื้มปิติของเหล่ามารร้ายในขณะที่เขามองมาที่หวังหลิน หวังหลินเป็นคนฉลาดและลังจากวิเคราะห์เพียงครั้งเดียวเขาจึงเข้าใจว่ามันต้องเป็นเรื่องที่วิญญาณตัวใหญ่นั้นพูดถึงวิญญาณกลืนกินเป็นแน่

“ก่อนหน้านั้นมีเพียงเมิ่งหลังค่อมและอีกคนปรากฎตัวขึ้นเท่านั้น แต่เมื่อข้ากำลังจะออกไป มีอีกหลายคนปรากฎตัวขึ้น พวกมันต้องติดตามมาด้านหลังข้า ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่วิญญาณตัวใหญ่ได้ระบุตัวตนของข้าเป็นวิญญาณกลืนกิน”

ขณะที่หวังหลินกำลังคิด ร่างกายไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวไปข้างหน้า เขารู้สึกได้ว่ามารร้ายพวกนั้นไม่ล้มเลิกง่ายและอาจจะปรากฎอีกครั้งด้านหน้าเขา

สิ่งที่หวังหลินต้องทำตอนนี้ก็คืออกจากสถานที่แปลกประหลาดแห่งนี้ให้เร็วที่สุด

หวังหลินกระแทกกระเป๋าและหินหยกปรากฎออกมา เขาเพ่งสมาธิเล็กน้อยไปบนหินหยกจากนั้นจึงมีใบหน้ายุ่งยาก พลันวางหินหยกกลับและสร้างวงกลมมายาอย่างรวดเร็ว

หินหยกมีชุดสัญลักษณ์ฝ่ามือหนึ่งต้องทำเพื่อสร้างอุโมงค์ออกจากที่นี่ ตามที่จักรพรรดิโบราณระบุไว้มีสัญลักษณ์มากกว่าสี่ร้อยแบบให้สร้างก่อนที่จะก่อร่างเป็นอุโมงค์

หวังหลินรู้สึกประหลาดเล็กน้อยหลังจากสร้างชุดแรก เขาสร้างต่อเนื่องไปจนถึงชุดที่สามสิบสี่ หวังหลินหยุดทันทีและใบหน้าขาวซีด

ชุดที่สามสิบสี่นี้ดูเหมือนกับชุดอื่นแต่ในความเป็นจริงมันใช้พลังปราณโดยไม่มีคนรู้ ซึ่งทำให้พลังปราณของเขาผันผวน

หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยและเคลื่อนไปที่ชุดสามสิบห้า เขาสร้างทุกชุดในหินหยกทีละชุด

เมื่อหวังหลินเสร็จสิ้นชุดสุดท้าย เขากดฝ่ามือไปด้านหน้าและนำ้วนหนึ่งปรากฎขึ้นเปล่งสีดำมืดออกมา ทว่าในทันทีที่น้ำวนปรากฎ มันพังทะลายด้านหน้าหวังหลินและหายไปทันที

ขณะที่หวังหลินสร้างชุดสัญลักษณ์ต่อไป พลังปราณในร่างเขาเริ่มผันผวนอย่างรุนแรง มันจนกระทั่งน้ำวนหายไปจึงทำให้พลังปราณสงบลงอีกครั้ง

ดวงตาหวังหลินสั่นเทาขณะที่จ้องน้ำวนที่ปรากฎขึ้น

หวังหลินกระซิบ “วิชาร้ายกาจ!” เขาเยาะเย้ย น้ำวนที่สร้างโดยวิชานี้หมุนทวนเข็มนาฬิกา ขณะที่ทางออกน้ำวนทั้งหมดหมุนตามเข็มนาฬิกา

หากคนหนึ่งไม่มองใกล้ๆคงไม่สังเกตความแตกต่างได้ การใช้วิชานี้ก็เพื่อสร้างน้ำวนที่หมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อสร้างทางออกสถานที่แห่งนี้ หวังหลินไม่มั่นใจ แต่เขามั่นใจว่าหากพบน้ำวนทั้งสองจะเกิดผลกระทบร้ายแรง

แน่นอนว่ามีโอกาสที่ทางออกนั้นจะปะทะกับน้ำวนทั้งสองแห่งด้วยเช่นกัน ทว่าเมื่อหวังหลินกำลังใช้วิชานี้ เขาสังเกตได้จากชุดสัญลักษณ์ที่สามสิบสิบขึ้นไป พลังปราณในร่างกายเขาเริ่มผันผวน ยิ่งสร้างชุดสัญลักษณ์มากขึ้นก็ยิ่งผันผวนจมันมันมาถึงขีดจำกัดที่ชุดสุดท้าย

หากหวังหลินไม่ได้สังเกตว่าเป็นเพียงพลังปราณที่กำลังผันผวนและนับว่าไม่เป็นอันตราย เขาจะหยุดสร้างชุดสัญลักษณ์ทันที อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเห็นน้ำวนเบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นชา

หวังหลินไม่มั่นใจว่าวิชานี้จะช่วยให้เขาออกจากสถานที่แห่งนี้ได้หรือไม่ แต่เขารู้ว่าขณะที่น้ำวนสองแห่งปะทะกับ พลังปราณของเขาจะหลุดจากการควบคุม มันอาจกระทั่งระเบิดในร่างและแกนพลังกระจายออก แบ่งแกนออกเป็นสองส่วน

หวังหลินสามารถตระหนักได้ทันทีถึงเรื่องนี้เป็นเพราะทุกครั้งที่เขาเข้าไปในน้ำวนหนึ่ง เขาจะรู้สึกว่าพลังปราณตื่นเต้นและผันผวนอย่างรุนแรงันที แม้มันจะเป็นเพียงขั่วขณะ แต่หากเกิดขึ้นระหว่างที่สองน้ำวนหมุนตรงข้ามกัน ผลกระทบบนร่างกายหวังหลินเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจินตนาการได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version