Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1866

Cover Renegade Immortal 1

1866. ตะเกียง!

แก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย เวรกรรม จริงเท็จ เพลิง วารีและสายฟ้า! หกแก่นแท้เริ่มการกวาดล้าง

ภูเขาไฟพังทลาย สายฟ้าเกิดการระเบิด แก่นแท้วารีเปลี่ยนกลายเป็นควัน กระบี่สามแก่นแท้นามธรรมได้พุ่งเข้าไปพร้อมกับที่เสียงคำรามของฉวี่เต๋อข่ายดังกึกก้อง

ฉวี่เต๋อข่ายกระอักโลหิตขณะที่ปกคลุมอยู่ในแสงไฟ เขาตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ถอยร่นพร้อมกับหน้าซีดเผือด

มีตะเกียงดวงหนึ่งลอยอยู่เหนือศีรษะ แสงรอบร่างของเขาออกมาจากตะเกียงนี้ มันคือสมบัติป้องกัน ดังนั้นฉวี่เต่อข่ายจึงแค่บาดเจ็บและไม่ถึงกับตาย

การสังหารเซียนขั้นวิบากแก่นแท้นับว่าเป็นเรื่องยากและหวังหลินก็เข้าใจดี พอเห็นฉวี่เต๋อข่ายหนีการโจมตีรอบแรกไปได้ หวังหลินรู้สึกเสียดายแต่ก็ไม่ท้อใจ ทั้งหมดอยู่ในการคาดการณ์ไว้แล้ว!

ฉวี่เต๋อข่ายยากกว่าหลิวจื่อหยวน ดังนั้นหวังหลินจึงไม่ยอมให้อีกฝ่ายมีเวลาพักหายใจ เมื่อฉวี่เต๋อข่ายมีโอกาสได้ร่ายวิชาด้วยความเร็วอันน่ากลัวครั้งใด หวังหลินจะไม่สามารถหยุดยั้งได้ ถึงตอนนั้นพื้นที่การสังหารแห่งนี้จะไม่ได้เตรียมเพื่อฆ่าอีกฝ่ายแต่จะกลับกลายเป็นตัวเขาเอง

หวังหลินรู้ซึ้งถึงจุดนี้อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเมื่อฉวี่เต๋อข่ายจ้องมองตะเกียงประหลาด หวังหลินจึงยกมือขึ้นโดยไม่ลังเล ใช้วิชายับยั้งโดยไม่สนถึงพลังตีกลับ

“หยุด!!”

เพียงคำเดียวได้เกิดระลอกคลื่นรุนแรงขึ้นในร่างหวังหลิน ช่องว่างระหว่างระดับบ่มเพาะนั้นถือว่าใหญ่หลวงนัก เขาจึงต้องเผชิญพลังตีกลับเพื่อหยุดยั้งฉวี่เต๋อข่าย หวังหลินในตอนนี้จึงกระอักโลหิตแต่สีหน้าท่าทางดุร้ายกว่าเดิม

ภายใต้ผลของวิชายับยั้ง ขณะที่ฉวี่เต๋อข่ายกำลังยกแขนขวาขึ้นมา ทั้งร่างพลันสั่นสะท้าน เขารู้สึกว่ามีเส้นด้ายนับไม่ถ้วนห่อหุ้มรอบตัวเขาจากทุกทิศทางและเข้าไปในร่างเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหว

แม้แต่ตะเกียงเหนือศีรษะก็ยังหมองหม่น การเชื่อมต่อกับฉวี่เต๋อข่ายถูกวิชายับยั้งหยุดเอาไว้!

ทว่าระดับบ่มเพาะของฉวี่เต๋อข่ายสูงส่งกว่าหวังหลินมาก ดังนั้นวิชานี้จึงหยุดเขาได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น อย่างไรก็ตามชั่วขณะนี้ได้ทำให้หวังหลินขัดขวางการร่ายและการต่อต้านของอีกฝ่ายได้ ทำให้หวังหลินได้มีโอกาสโจมตีรอบที่สอง!

ขณะที่หวังหลินเอ่ยปากออกมา เขาสะบัดแขน เกล็ดหิมะสีดำนับไม่ถ้วนถูกสายลมรุนแรงพัดเข้าหาฉวี่เต๋อข่าย

แม้กระทั่งหิมะสีดำบนพื้นยังถูกพัดเข้าหาฉวี่เต๋อข่าย หิมะสีดำนี้ถูกสร้างขึ้นจากแก่นแท้เขตอาคมของหวังหลิน ดังนั้นเกล็ดหิมะทุกชิ้นจึงมีเขตอาคมอยู่นับไม่ถ้วน

หิมะทั้งหมดในโลกเข้าล้อมรอบฉวี่เต๋อข่ายและเริ่มการกักขัง!!

ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ทันทีที่ฉวี่เต๋อข่ายฟื้นคืนมา เขาจึงหรี่ตาแคบและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

‘นี่…นี่มันวิชาแบบไหนกัน?! ถึงกับสามารถหยุดความคิดและการกระทำของข้าทั้งหมดได้! ข้าไม่เคยเจอวิชาแบบนี้มาก่อน!’ หลังจากเคลื่อนไหวได้เขาจึงรีบถอยและยกแขนขึ้นมา

“หยุด!!” หวังหลินคำรามและชี้ไปอีกครั้ง!

คราวนี้หวังหลินกระอักโลหิต ใบหน้าซีดเซียวแต่ดุดัน ฉวี่เต๋อข่ายเพิ่งจะได้รับอิสระแต่ก็โดนแช่แข็งอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่แววตาเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา

หิมะสีดำตกลงมาจากก้อนเมฆสีดำที่ถูกสร้างขึ้นจากใบเรือหน้าผี เหตุผลที่ใบเรือหน้าผีเป็นสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักมหาวิญญาณเพราะมันมีความสามารถในการไม่สนใจระดับบ่มเพาะและรบกวนจิตใจได้

ก้อนเมฆสีดำในท้องฟ้าตอนนี้เกิดเสียงดังสนั่นและตกลงมาจนกลายเป็นสตรีชุดขาวที่เห็นแต่เพียงด้านหลัง

นางกำลังร้องไห้ เสียงร้องบาดลึกถึงจิตใจและทำให้ขนลุกขนพอง นางไม่ใช่คนแต่เป็นผี!

พอฉวี่เต๋อข่ายได้รับอิสระกลับมาอีกครั้งเขาได้เห็นก้อนเมฆสีดำเปลี่ยนกลายเป็นสตรีชุดขาว ร่างของนางปรากฏขึ้นในใจเขาไปด้วย

สายตาของฉวี่เต๋อข่ายเกิดความสับสน หวังหลินสะบัดแขนทำให้พื้นดินส่งเสียงดังสนั่น วิญญาณเต๋าสามสิบล้านดวงที่ผสานเข้ากับพื้นได้โผล่ออกมาเป็นเส้นใยสีดำเข้าหาฉวี่เต๋อข่าย

ไม่นานนักวิญญาณเต๋าสามสิบล้านดวงได้พาร่างของฉวี่เต๋อข่ายเข้าไปบนท้องฟ้าซึ่งท้องฟ้านี้คือร่มสีฟ้าของหวังหลิน ไม่เพียงแต่มันจะมีการป้องกันที่แข็งแกร่งแต่ยังมีการโจมตีรุนแรงด้วย

มองไกลๆ ราวกับร่างของฉวี่เต๋อข่ายกำลังพุ่งเข้าไปในท้องฟ้าดุจอุกกาบาต พอเขาเข้าไปใกล้ท้องฟ้ามากแล้ว หวังหลินจึงส่งเสียงคำราม

“ฆ่า!!”

ท้องฟ้าสีครามพังทลายพร้อมกับเสียงดังสนั่นกึกก้อง วิญญาณเต๋าสามสิบล้านดวงได้โจมตีพร้อมกันทั้งหมด พลังทำลายล้างพุ่งทะยานเข้าหาฉวี่เต๋อข่ายที่อยู่ตรงใจกลาง

ขณะเดียวกัน เสียงร้องไห้ของสตรีชุดขาวได้พาฉวี่เต๋อข่ายเข้าสู่ความฝัน

หวังหลินไม่มีเวลากลับไปดูผลลัพธ์ เซียนขั้นวิบากดับสูญระดับต้นนับว่าสังหารได้ยากเกินไป ทุกคนล้วนมีชื่อเสียง การต่อสู้ด้วยนั่นหมายความว่าเขาไม่สามารถผ่อนคลายได้แม้แต่เสี้ยววินาที

ร่างแก่นแท้เพลิงของหวังหลินปรากฏขึ้นด้านหลังและชี้ไปยังท้องฟ้า

“วิชาสีรุ้ง!” สิ้นเสียงเอ่ย โลกจึงปกคลุมอยู่ในแสงสีรุ้ง แสงควบแน่นกลายเป็นหอกสองเล่ม เล่มที่สองปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง ทั้งสองเล่มพุ่งตามกันเข้าหาฉวี่เต๋อข่ายในท้องฟ้า

“ประทับวิญญาณสงคราม!” หวังหลินเอ่ยเสียงแหบพร่าพลันผลักฝ่ามือเข้าหาท้องฟ้า ประทับฝ่ามือยักษ์ปรากฏขึ้นมาและมีประทับเพลิงอีกอันปรากฏด้วย ทั้งสองพุ่งทะยานเข้าหาฉวี่เต่อข่าย!

“ร่มบรรพกาลเผาดินแดน!!” หวังหลินร้องคำราม สองมือเคลื่อนไหวสร้างเขตอาคมนับไม่ถ้วนจนปรากฏร่มเพลิงบรรพกาลขึ้นมา ด้านหลังมีร่มอีกคันปรากฏขึ้นมาด้วย ร่มทั้งสองพับลงพร้อมกันปลดปล่อยเพลิงทำลายล้างเป็นสองเท่า

“เรียกขานสายลม อัญเชิญสายฝน!”

“ไสยเวท!!”

“ป่นขุนเขา แผ่นดินทลาย!”

“จันทรามืด ฟ้ากระจ่าง!!!” หวังหลินใช้แทบทุกวิชาที่รู้ในตอนนี้!

ดวงจันทร์สีดำปรากฏขึ้นในท้องฟ้า ทั้งยังอาจเห็นดวงจันทร์สีดำอีกดวงซ่อนอยู่ด้านหลังดวงจันทร์ดวงแรก!

นี่คือดวงจันทราคู่!

เสียงร้องโหยหวนดังสนั่นไปพร้อมกับเหล่าวิชาที่โจมตีต่อเนื่องมีทั้ง หิมะสีดำ หอกสีรุ้งสองเล่มพุ่งทะยานผ่านท้องฟ้า ประทับวิญญาณสงคราม และท้ายที่สุดคือดวงจันทราสองดวง

ฉวี่เต๋อข่ายกระอักโลหิต แขนขวาระเบิดจนแตกสลย เขาเหมือนตะเกียงไร้น้ำมันและบาดเจ็บสาหัส ถ้าไม่มีตะเกียงที่อยู่เหนือศีรษะ เขาคงตายตั้งแต่ที่หวังหลินโจมตีรอบสองแล้ว!

วินาทีนี้เปลวเพลิงในตะเกียงเหนือศีรษะกำลังสั่นไหวราวกับใกล้มอดดับ ฉวี่เต๋อข่ายเต็มไปด้วยสายตาหวาดกลัวจนรู้สึกถึงความตายรอบด้านซึ่งเขาไม่ได้สัมผัสมันมานานแล้ว

‘ตราบใดที่ข้ามีโอกาส!! ตราบใดที่ข้ามีโอกาส!!’ เสื้อผ้าของฉวี่เต๋อข่ายถูกย้อมไปด้วยโลหิต ความกลัวและความบ้าคลั่งทำให้เขาต้องถอยร่น หนึ่งก้าว สองก้าวและกำลังจะก้าวครั้งที่สาม!

“หยุด!” หวังหลินเสี่ยงอีกครั้ง เขากระอักโหลิตและใช้วิชายับยั้งเป็นครั้งที่สาม ร่างฉวี่เต๋อข่ายสั่นเทา ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หวังหลินเริ่มการโจมตีครั้งที่สามและเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว!

หวังหลินพุ่งทะยานเข้าหาฉวี่เต๋อข่ายที่บาดเจ็บสาหัส ขณะเดียวกันเสียงคำรามเต็มไปด้วยความดุร้ายพุ่งออกมาจากใต้พื้นดิน หุ่นเชิดเย่ซื่อที่สูญเสียแขนไปหนึ่งข้างกำลังพุ่งเข้าหาฉวี่เต๋อข่าย!

ต่อจากนั้นเป็นเจ้าอสูรยุงที่พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูงสุด

มันคือการโจมตีรอบที่สามของหวังหลินและเขาต้องสังหารฉวี่เต๋อข่ายให้ได้!

สามทิศทาง สามการโจมตีรวมกันมาโดยมีฉวี่เต๋อข่ายอยู่ตรงกลาง หุ่นเชิดเย่ซื่อเข้ามาใกล้ได้เป็นคนแรก มันเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมออกมาพลางยกแขนที่เหลืออยู่ข่วนใส่ฉวี่เต๋อข่าย ด้วยระดับบ่มเพาะขั้นวิบากดับสูญระดับต้นของมันจึงสร้างความเสียหายรุนแรงแก่ฉวี่เต๋อข่ายที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว

ฉวี่เต๋อข่ายกรีดร้องโหยหวน ร่างกายเคลื่อนไหวได้ชั่วขณะแต่จากนั้นก็ระเบิดคล้ายกับร่างกายไม่สามารถทนรับการโจมตีจากเย่ซื่อได้

วิญญาณดั้งเดิมของฉวี่เต๋อข่ายรีบทะยานออกมาพร้อมตะเกียง ทว่าราชายุงเตรียมการมานานแล้ว ตอนนี้มันจึงเข้าประชิดและแทงวิญญาณดั้งเดิมของฉวี่เต๋อข่ายด้วยจงอยปากและสูดเข้าไป เสียงกรีดร้องของฉวี่เต๋อข่ายยิ่งรุนแรงขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะตะเกียงได้ปัดราชายุงให้กระเด็นออกไป เขาคงถูกกลืนกินไปเรียบร้อย

ขณะที่แสงของตะเกียงแผ่กระจายออกมา เย่ซื่อถูกแสงห่อหุ้มเอาไว้ ร่างกายปลดปล่อยควันสีดำแต่ความเจ็บปวดไม่ได้ทำให้มันล่าถอย มันกลับดุร้ายยิ่งขึ้น แขนส่งออกไปข่วนโดยไม่สนอาการเจ็บปวด

วิญญาณดั้งเดิมของฉวี่เต๋อข่ายส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน เขาอ่อนแอลงยิ่งกว่าเดิม

แต่ในจังหวะนี้เองหวังหลินได้เข้ามาประชิด!

ฉวี่เต๋อข่ายบาดเจ็บสาหัส ร่างกายแตกสลาย วิญญาณดั้งเดิมใกล้จะมอดดับ ถ้าไม่ใช่เพราะมีตะเกียงวิเศษนี้ เขาคงตายไปแล้ว

แต่ตะเกียงกลับแปลกประหลาดเกินไป การสังหารฉวี่เต๋อข่ายนั้นหวังหลินต้องตัดการเชื่อมต่อกับตะเกียง พอเข้าประชิดได้จึงคว้ากระบี่โลหิตในพริบตา วาดกระบี่ฟันลงใส่ศีรษะของฉวี่เต๋อข่าย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version