2032. เต็มไปด้วยความโกรธแค้น 11
ภายนอกราชวัง ทางเดินโลหิตด้านนอกเหลือคนเพียงแค่พันคน ทุกคนมองเข้ามาด้วยความหวาดกลัว
ตอนที่หวังหลินก้าวเข้าไปในวัง จักรพรรดิเต๋าถึงกับหน้าซีด ก้าวถอยโดยไม่รู้ตัวและจ้องมองหวังหลิน
“หวังหลิน หากข้าตาย นางก็จะตาย! เจ้ากล้าสังหารข้า!? ข้ามีมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวปกป้อง ไม่มีใครในโลกนี้สามารถสังหารจักรพรรดิโบราณได้!!”
หวังหลินไม่สนคำพูดของจักรพรรดิเต๋าและไม่สนพ่อของจักรพรรดิเต๋าเช่นกัน เขามองไปที่ซ่งจื่อคนเดียว การมองนางที่ทำให้เกิดความรู้สึกคุ้นเคย ทำให้ความบ้าคลั่งของหวังหลินลดลง หวังหลินก้าวเข้าหากลิ่นอายที่เขาไล่ตามมาเป็นพันปี
แต่ในชั่วจังหวะนั้นมีร่างเงาปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลิน พวกมันเหมือนควันและพุ่งทะยานเข้าหา
หวังหลินเหมือนตาบอด ในสายตาเขามีเพียงแค่ซ่งจื่ออยู่เท่านั้น เพียงแค่ก้าวเดินออกไปข้างหน้า พลันเกิดเสียงปะทุ ร่างที่อยู่ในเงาจึงถูกบังคับให้ออกจากที่ซ่อน พวกมันกระอักโลหิต รอยแตกร้าวกระจายไปทั่วร่างก่อนจะสูญสลายไป
พริบตาเดียวร่างนับสิบปรากฏเบื้องหน้าหวังหลิน แต่ไม่มีใครรอดชีวิตไปได้ หวังหลินยืนอยู่เบื้องหน้าซ่งที่จื่อกำลังสับสน
นางมองขึ้นมาที่หวังหลินและอ้าปากจะพูดบางอย่าง แต่นางลืมคำพูดตัวเองไป นางมองหน้าหวังหลินที่ไม่คุ้นตาแต่ก็แฝงความคุ้นเคย สายตาเริ่มสั่นราวกับความทรงจำกำลังจะตื่น
“เขาเป็นใคร…นางเป็นใคร…ข้าเป็นใคร…หากข้าเป็นนาง แล้วใครคือป้าจางและน้องตง…” นางดูราวกับตกอยู่ในความเจ็บปวดพลางกุมศีรษะและสั่นเทา
หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาทั้งที่หัวใจเจ็บปวดและชี้ไปด้านหลัง เสียงกรีดร้องหนึ่งดังขึ้นมาเนื่องจากมีร่างเงาต้องการใช้โอกาสนี้ลอบโจมตี แต่ก่อนที่มันจะได้เผยตัวเอง หวังหลินชี้นิ้วไปที่กะโหลกของเงาและเงานั้นได้ตายทันที
หวังหลินมองผู้หญิงตรงหน้าและพูดขึ้นเบาๆ “อย่ากลัวไปเลย…ข้าไม่รู้ว่าป้าจางและน้องตงเป็นใคร แต่ข้ารู้ว่าเจ้าคือลี่มู่หวาน เจ้าคือภรรยาข้าที่ข้าได้ค้นหามาเป็นพันปี!!”
พอนางได้ยินคำว่า “ลี่มู่หวาน” นางรู้สึกถึงเสียงกระซิบอันเจ็บปวดและรู้สึกราวกับกระจกแตกอยู่ในใจ ชื่อนี้มีพลังประหลาด นางรู้สึกคุ้นเคยในวิญญาณราวกับเป็นชื่อที่แท้จริง!
“ลี่มู่หวาน…ลี่มู่หวาน…ซ่งจื่อ…ข้า….ข้าเป็นใครกันแน่…” เพราะเกิดความเจ็บปวดจากภายใน หยาดน้ำตาจึงเริ่มไหลลงบนแก้ม
จักรพรรดิเต๋าเผยสายตาดุดัน ขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหว กลับได้ยินเสียงหายใจเย็นเยียบของหวังหลิน
เสียงลมหายใจเย็นเยียบคล้ายประกายสายฟ้าจนจักรพรรดิเต๋าส่งเสียงร้องโหยหวน โลหิตไหลออกจากรูขุมขนและถอยไปหลายก้าว หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่กลางหน้าผากของนาง จากนั้นโลหิตวิญญาณหนึ่งหยดในร่างหวังหลินเข้าไปในตัวนางผ่านนิ้วของหวังหลิน นาทีนั้นนางก็เริ่มสั่นเทา
เส้นด้ายสายหนึ่งที่ไม่ได้เป็นของโลกนี้พลันปรากฏอยู่บนหน้าผากของนาง มันเชื่อมต่อกับจักรพรรดิเต๋าที่อยู่ด้านหลังนางด้วยเช่นกัน
หวังหลินยกแขนซ้ายและฟันฉับใส่เส้นด้ายโดยไม่ลังเล
เส้นด้ายขาดครึ่งในทันที
นาทีนั้นจักรพรรดิเต๋ากระอักโลหิตคำโต ดูน่าเวทนาและมีแววตาหวาดกลัว
“เป็นไปไม่ได้!! ตราประทับขังวิญญาณบรรพชนไม่สามารถตัดขาดแบบนี้ได้ นี่เป็นวิชาลับของราชวงศ์ มีเพียงมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวที่สามารถลบมัน…” จักรพรรดิเต๋าร้องเสียงแหลมแต่ไม่กล้าเข้าใกล้หวังหลินและถอยร่นต่อไป
หวังหลินไม่ให้ความสนใจต่อจักรพรรดิเต๋า เขามองซ่งจื่อที่เจ็บปวด ลูบเรือนผมนางอย่างแผ่วเบา
“ไม่ต้องกลัว…ข้าจะพาเจ้าไปสังหาร…” หวังหลินพูดประโยคที่เคยพูดเมื่อหลายพันปีก่อน
พอนางได้ยินเช่นนี้ อาการสั่นเทาจึงหยุดลงและมีแววตาดิ้นรนยิ่งกว่าก่อนหลายเท่า ซึ่งรุนแรงยิ่งกว่าตอนที่นางได้ยินคำว่า “ลี่มู่หวาน” ไปเสียอีก
ราวกับประโยคนี้สำคัญยิ่งกว่าชื่อของตัวเอง ราวกับเป็นจุดเริ่มต้นของความรักนับพันปี…
เสียงดังสนั่นกึกก้องอยู่ในใจ ประโยคนี้ดังต่อเนื่องและหมุนวนอยู่ในความทรงจำอันเลือนลาง
นางเคยฝันอยู่ครั้งหนึ่งและได้ยินประโยคนั้น เสียงนั้นคงอยู่ในใจนางตลอดเวลาและนางก็พยายามค้นหาน้ำเสียงนั้น แต่ไม่ว่าพยายามแค่ไหนก็นึกไม่ออกหรือจำไม่ได้
จนกระทั่งนางได้ยินหวังหลินพึมพำว่า “หวานเอ๋อร์” ในงานเลี้ยง ซึ่งทำให้จิตใจนางสั่นไหวและรู้สึกถึงความคุ้นเคยอย่างรุนแรง แต่นางก็ยังจำไม่ได้จนกระทั่งตอนคำว่า “ลี่มู่หวาน” ดังออกมา นางเพียงแค่สั่นเทาแต่นึกไม่ได้ กระนั้นหลังจากได้ยินว่า “ข้าจะพาเจ้าไปสังหาร” ประโยคนี้ทับซ้อนกับคำพูดจากความทรงจำ!
นางจำขึ้นได้เลือนลาง จำได้ว่าเสียงจากในความฝันดังออกมาจากคนตรงหน้านางผู้นี้ นางจำได้ถึงทะเลปิศาจ นางยืนอยู่ตรงหน้าถ้ำด้วยใบหน้าซีดขาวแต่คุ้มกันถ้ำอย่างหนักแน่น
นางจำได้ว่ามีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่ด้านหลังกำลังหลอมพลังของเม็ดยาเพื่อสร้างแกนลมปราณ!!
นางจำได้ว่าตอนที่นางเหน็ดเหนื่อยและไม่สามารถหยุดยั้งเซียนปิศาจจากการถล่มถ้ำได้แล้ว ขณะที่เสียงหัวเราะแต่ละคนดังกึกก้อง นางรู้สึกตกอยู่ในหน้าอกอันอบอุ่น จากนั้นนางได้ยินเสียงเย็นเยียบแต่ทำให้หัวใจนางรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดเป็นครั้งแรก
“ไม่ต้องกลัว…ข้าจะพาเจ้าไปสังหารพวกมัน!”
ร่างของนางสั่นเทาและมีหยาดน้ำตาไหลลงจากดวงตา แววตาสับสนส่วนใหญ่ได้หายไป นางมองหวังหลิน มองตรงใบหน้าที่คุ้นเคยยิ่งขึ้น
“หวัง…หลิน…” น้ำเสียงของนางแหบพร่า ราวกับไม่ได้พูดมานาน แต่สิ่งที่นางพูดกลับทำให้จิตใจหวังหลินสั่นสะท้านราวกับสายฟ้านับล้านระเบิดอยู่ข้างใน
หวังหลินตื่นเต้นและหัวเราะใส่ท้องฟ้าพร้อมกับเข้าไปกอดนาง เขาหันกลับมามองจักรพรรดิเต๋าและผู้เป็นพ่อที่กำลังตื่นตระหนก ทว่าจักรพรรดิเต๋าไม่เหมือนผู้เป็นพ่อ ทั้งยังสงบนิ่ง
พอหวังหลินมองเข้ามา จักรพรรดิเต๋าเห็นจิตสังหารของหวังหลินอย่างชัดเจน จิตใจจึงตกลงไปถึงตาตุ่ม
“ข้าคือจักรพรรดิเต๋า มีการปกป้องจากมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว เขาไม่สามารถสังหารข้าได้!!” จักรพรรดิเต๋าล่าถอยอีกครั้ง แววตาหวังหลินเป็นประกาย เขาต้องการสังหารคนผู้นี้เพราะเกลียดชังฝังลึกถึงกระดูก หวังหลินกอดลี่มู่หวานพลางพุ่งเข้าหาจักรพรรดิเต๋าไปด้วย
เขาเข้าประชิดในทันที สายตาเต็มไปด้วยจิตสังหารดุดัน ยกแขนขวาขึ้นมากระแทกใส่จักรพรรดิเต๋า!
“มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว ช่วยข้าด้วย!!” จักรพรรดิเต๋ากรีดร้อง
แต่ขณะที่ฝ่ามือหวังหลินตกลงมา เสียงดังสนั่นกึกก้อง มีแสงสีม่วงกะพริบรอบจักรพรรดิเต๋าและทำให้ฝ่ามือของหวังหลินกระเด็นออกไป
พอจักรพรรดิเต๋าเห็นแสงสีม่วง เขาเริ่มหัวเราะทันที แววตาตื่นตระหนกหายไปและเปลี่ยนกลายเป็นความสงบนิ่ง จ้องมองหวังหลินอย่างดุดัน
“ข้าเป็นจักรพรรดิเต๋า ข้าเป็นลูกหลานของบรรพชนโบราณ เจ้าจะสังหารข้าได้อย่างไร? ในโลกนี้ไม่มีใครสังหารข้าได้!” จักรพรรดิเต๋าสะบัดแขนเสื้อและคำรามใส่คนด้านนอกวัง
“เหล่าผู้คนอาณาเขตเต๋าทั้งหมด สังหารคนผู้นี้ ใครที่กล้าขัดคำสั่งจะถือว่าเป็นคนทรยศ!” เพียงคำพูดเขาดังออกมา เหล่าคนนับหมื่นรอบลานกว้างแม้แต่คนที่มาถึงล้วนได้ยินทั้งหมด ทุกคนมองมาที่วังหลวงและพุ่งเข้ามาดุจก้อนเมฆสีดำมหึมา
หวังหลินมีแววตาเป็นประกายจิตสังหารและยกมือขึ้นอีกครั้งเข้ากระแทกใส่จักรพรรดิเต๋า แสงสีม่วงกะพริบวาบอีกรอบเข้าต่อต้านการโจมตีของหวังหลิน
เป็นผลให้จักรพรรดิเต๋าหัวเราะโอหังยิ่งกว่าเดิม กระทั่งไม่หลบเลี่ยง
“เจ้ามีสิทธิอะไรมาสังหารข้า? หวังหลิน เจ้ามันก็แค่มดปลวดในโลกถ้ำ ตอนนี้คนของอาณาเขตเต๋าของข้านับแสนคนกำลังเข้ามา ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะหนีรอดไปได้อย่างไร!! เจ้ากำลังจะตาย และเมื่อเจ้าตาย ข้าจะเล่นกับนางและปล่อยนางตายไปกับเจ้าด้วย!!” จักรพรรดิเต๋าหัวเราะเยาะ
“ข้าไม่สามารถสังหารเจ้าได้…” เรือนผมหวังหลินพริ้วไหวโดยไร้แรงลม ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าปรากฏขึ้นด้านหลัง เปล่งแสงสีขาวและดำในเวลาเดียวกัน โลหิตวิญญาณข้างในร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นาทีนี้เองบทเพลงแห่งสายลมปรากฏขึ้นออกมาจากร่างกาย!
เสียงสายฟ้าดังสนั่นกึกก้อง มันคือบทเพลงสายฟ้า!
ก้อนเมฆปั่นป่วนไปกับสายลมและสายฟ้า ก่อเกิดเป็นเสียงขลุ่ยสายลม!
สายฝนตกลงมาเช่นกัน กลายเป็นเสียงสายฝน! จากนั้นเสียงฟ้าและเสียงดินปรากฏขึ้นมา ต่อด้วยเสียงจากร่างกายหวังหลิน เป็นเสียงที่เจ็ด
เสียงที่แปดเป็นเสียงจากอวัยวะภายใน ส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่ววังหลวงอย่างมิอาจอธิบายเป็นคำพูดได้!
“ในโลกนี้ นอกจากมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวแล้วมีอีกคนที่สามารถสังหารเจ้าได้…นั่นคือบรรพชนโบราณ!” หวังหลินเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงดังกึกก้อง โลหิตวิญญาณปลดปล่อยเสียงเพลงบทที่เก้า!!
บทเพลงที่เก้าคือบทเพลงสายโลหิต เมื่อเสียงนี้ดังออกมา ดวงตาหวังหลินกลายเป็นสีเงินเปล่งสัมผัสแห่งตัวตนอันสูงสุด!
เบื้องหลังหวังหลิน เหนือวังขึ้นไปปรากฏร่างเงาขนาดยักษ์ ร่างเงานี้เอามือไว้ด้านหลัง มองดูท้องฟ้าด้วยความดูถูก รูปลักษณ์ของมันเหมือนกันกับรูปปั้นบรรพชนโบราณที่อยู่ในเมือง!!
“บรรพชน…บรรพชนโบราณ!!” ทุกคนในลานกว้าง ในวังหลวงและทุกคนในเมืองต่างสั่นไหวเมื่อเห็นร่างเงานี้ พวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัวจากเสียงดังก้องกังวาน
“เราเหล่าลูกหลานขอคารวะบรรพชนโบราณ!” ไม่รู้ว่าใครคุกเข่าเป็นคนแรก แต่พริบตาเดียวมีคนนับแสนในลานกว้างและในวังคุกเข่าลงทันที
…………………………………………………..