Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 2048

Cover Renegade Immortal 1

2048. คำวิงวอนของร้อยแปดวิญญาณ!

สะพานแรกและสะพานที่สองดูใกล้มาก แต่หวังหลินใช้เวลาอยู่หลายวันกว่าจะมาถึงสะพานที่สอง

สะพานแห่งนี้กว้างกว่าสะพานแรกหลายเท่า หวังหลินก้าวไปบนสะพานที่สองโดยไม่ลังเล วินาทีนั้นร่างวิญญาณเกิดการสั่นเทาราวกับกำลังพังทลาย คล้ายกับระดับบ่มเพาะของเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะก้าวไปบนสะพานแห่งนี้

หวังหลินรู้สึกว่าเกิดการระเบิดขึ้นในจิตใจและโลกหมุน สัมผัสวิญญาณและวิญญาณคล้ายกับแยกออกมาจากกัน เขาเห็นว่าด้านล่างสายหมอกมีแผ่นดินอยู่แห่งหนึ่ง มันคุ้นเคยมาก ทางด้านซ้ายมีแคว้น 72 แห่งและทางด้านขวามี 36 แคว้น ตรงกลางมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีทะเลกำลังหมุนอย่างรวดเร็ว

ในทะเลส่วนลึก เขายังเห็นเสาขนาดใหญ่เก้าต้นเชื่อมต่อกันเป็นรูปประตู

ประตูยังคงปิดสนิท

‘ย่ำสวรรค์…ตอนนี้ข้ากำลังย่ำสวรรค์อยู่ใช่หรือไม่…’ หวังหลินไม่รู้สึกถึงตัวตนของตัวเองพลางมองแผ่นดินด้านล่าง เขามองไปทางเผ่าเทพพร้อมกับขบคิดอย่างเงียบๆ แคว้นทั้ง 72 แห่งพลันเปลี่ยนกลายเป็นวิญญาณ 72 ดวงร้องคำรามมายังท้องฟ้า

พวกมันรวมไปถึงกระทิงสวรรค์ แมงป่องมารเขียวและอสูรที่ถูกปิดผนึกอีกหลายตัวที่เขาเคยศึกษา พวกมันคล้ายกับสังเกตสายตาของหวังหลินได้และร้องคำรามออกมา หวังหลินรู้สึกถึงความหวาดกลัวของพวกมันอย่างชัดเจนแต่ก็รู้สึกอีกว่าพวกมันมีเจตนาอื่นซ่อนอยู่เบื้องหลังความหวาดกลัว

ขณะเดียวกันในตอนที่หวังหลินเข้าสู่ขอบเขตในตำนานต่อจากวิบากดับสูญ แคว้น 72 แห่งในเผ่าเทพเริ่มสั่นเทา การสั่นเทานี้รุนแรงขึ้นและเหล่าเซียนทุกคนต่างก็รู้สึก พวกเขางุนงงและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ทว่าทุกแคว้นที่มีอารามปิดผนึก อารามที่อยู่ใจกลางกำลังสั่นเทา!

การสั่นเทารุนแรงยิ่งขึ้นและทำให้คนทรงพลังในเผ่าเทพเกิดความสนใจ หลายคนทะยานขึ้นมาในอากาศด้วยความตกตะลึง สายตามองพื้นดินเบื้องล่างจนเห็นวิญญาณที่แต่ละแคว้นของตัวเองให้ความเคารพกำลังแสดงสัญญาณไม่แน่นอน พื้นดินสั่นสะเทือนรุนแรงและเกิดเหตุการณ์อันน่าสะพรึง

บนแคว้นกระทิงสวรรค์ กระทิงสวรรค์ตัวยักษ์ปรากฏขึ้นมาห่อหุ้มทั่วแคว้นและร้องคำรามเข้าสู่ท้องฟ้า ดวงตาของมันทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัว แต่มีความวิงวอน!

มันกำลังวิงวอนต่อตัวตนอันประหลาดที่อยู่ในท้องฟ้าเพื่อให้มันได้เป็นอิสระ!

ท่ามกลางกระทิงสวรรค์ยังมีวิญญาณที่เหลือทุกดวงที่ถูกผนึกไว้ในเผ่าเทพ แม้บางส่วนถูกลือกันว่าเป็นวิญญาณที่ตายไปแล้วก็ยังปรากฏขึ้นมา ถึงแม้ร่างพวกมันจะเบาบางแต่พวกมันกลับส่งคำวิงวอนต่อท้องฟ้าด้วยความตกตะลึง

เหล่าเซียนเกือบทุกคนในเผ่าเทพได้เห็นฉากเหตุการณ์สั่นสะเทือนสวรรค์ครั้งนี้ พวกเขาตกอยู่ในความตื่นตระหนก พื้นดินสั่นไหวรุนแรงขึ้นพร้อมกันเหล่าวิญญาณปรากฏขึ้นมาร้องคำรามอย่างต่อเนื่อง ดูราวกับกำลังจะเกิดหายนะ!

“เกิดอะไรขึ้น!?” ภายในสำนักต้าวยี่ มหาชั้นฟ้าต้าวยี่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยใบหน้ามืดมน บนใบหน้ามีร่องรอยความตื่นตระหนก ด้วยระดับบ่มเพาะเช่นเขาจึงรู้สึกได้ชัดเจนว่าเหตุการณ์อันน่าตกตะลึงนี้กำลังเกิดขึ้นไปทั่วทุกแคว้นในเผ่าเทพ

เขาจ้องมองไปยังต้นไม้สูงตระหง่านที่ออกมาจากแคว้นทะเลขุนเขา ต้นไม้เคลื่อนไหวและส่งเสียงคำรามแสบแก้วหู

ต้าวยี่มองต้นไม้ยักษ์และอ้าปากค้าง ‘บัดซบ ไม่ใช่ว่าเจ้าต้นไม้ต่างแดนนั่นตายไปแล้วหรือ!? ทำไมวิญญาณของมันยังอยู่ตรงนี้อีก?! เกิดอะไรขึ้น? หรือจะมีปัญหากับเหลียนต้าวเฟยที่กำลังสะกดพวกมันอยู่ในวังหลวง!?’

ขณะเดียวกันทางทิศเหนือ หวู่เฟิงมองธารน้ำแข็งยักษ์ด้วยสีหน้ามืดมนและเผยอาการหวาดหวั่น

ณ สำนักตะวันม่วง มหาชั้นฟ้าชวงจื่อทะยานออกมามองบนพื้นดินและขมวดคิ้ว

ด้านเมืองหลวง มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้ยืนอยู่บนยอดเขาจักรพรรดิ เขามองบนพื้นดินและมีสีหน้าท่าทางแบบเดียวกัน แต่หรี่ตาแคบเผยอาการตกใจ

ไฮ่จื่อลืมตาขึ้นมาด้านหลังจิ่วตี้ “วังใต้ดินไม่มีปัญหาและเหลียนต้าวเฟยยังคงหลับไหลอยู่ เขาสะกดวิญญาณ 72 ดวงต่อไป”

“เจ้าทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? แม้แต่เจ้าพวกที่แกล้งตายยังส่งเสียงร้องราวกับสัมผัสอะไรบางอย่างได้!” จิ่วตี้เอ่ยเสียงเย็นเยียบแต่ในใจมีร่องรอยความหวาดกลัว เขามองไปบนท้องฟ้าแต่ไม่สามารถสัมผัสอะไรได้

ทว่าวิญญาณ 72 ดวงยังคงวิงวอนไปยังท้องฟ้าอย่างชัดเจน…

ไฮ่จื่อขบคิดอย่างเงียบๆ สองมือสร้างผนึกขึ้นมาปรากฏคนร่างเล็กขึ้นในฝ่ามือขวาและเริ่มโขกคำนับเข้าหานาง ทว่าไฮ่จื่อขมวดคิ้วและไม่พบสิ่งใด

นางกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกไปใส่คนร่างเล็กทำให้ชุ่มไปด้วยโลหิตทันที มันส่งเสียงกรีดร้องและโขกคำนับไฮ่จื่ออย่างต่อเนื่อง

คราวนี้ไฮ่จื่อร่างสั่นเทาและก้าวถอยกลับหลังด้วยใบหน้าซีดเผือด แววตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“พวกมันรู้สึกถึงสายตาที่กำลังย่ำสวรรค์ได้มองลงมาจากเบื้องบนแผ่นดินเซียนดารา!!”

“อะไรนะ!?!” จิ่วตี้มีสีหน้าเปลี่ยนไปและไม่สามารถซ่อนความรู้สึกของตนเองได้อีก เขามองไปยังท้องฟ้าด้วยสายตาแหลมคมและรู้สึกเส้นผมตั้งขึ้น นอกจากท้องฟ้าแล้วเขาก็มองไม่เห็นสิ่งใด แต่ก็สามารถจินตนาการได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังมองลงมาบนแผ่นดินเซียนดารา บางทีอาจกำลังมองมาที่เขา

“ย่ำสวรรค์…นี่…นี่…” จิ่วตี้ร่างสั่นเทา ระดับบ่มเพาะคล้ายกับหลุดจากการควบคุม เขาเปลี่ยนจากชายชราไปเป็นวัยกลางคน จากนั้นกลับเป็นชายชราตาเดิม ซึ่งนี่มากพอที่จะแสดงถึงความตกตะลึงในใจได้แล้ว

หวังหลินมองไปที่เผ่าเทพ วิญญาณ 72 ดวงเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแต่ก็ร่ำร้องอย่างอ้อนวอน เขายังเห็นต้าวยี่ตกตะลึง หวู่เฟิงหวาดหวั่น ชวงจื่อสับสนและสายตาจากจิ่วตี้

เขาเห็นทั้งหมดแต่อีกฝ่ายไม่สามารถสัมผัสตัวตนของเขาได้ พอหวังหลินมองลงมาที่เมืองหลวง สายตาผ่านจิ่วตี้ไปและนี่เป็นตอนที่จิ่วตี้มองขึ้นมาและรู้สึกเส้นผมตั้งขึ้น

เขาเห็นไฮ่จื่อ…เห็นเหลียนต้าวเฟยที่กลายเป็นภูเขาอยู่ใต้วังหลวง

บนยอดเขาจักรพรรดิ จิ่วตี้มีสีหน้าซีดเผือด จากนั้นทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและโค้งคำนับ “ผู้น้อยโจวลั่วจิ่ว ขอคารวะผู้อาวุโส หากผู้อาวุโสมีคำร้องขออันใด ผู้น้อยยินยอมทำตามคำสั่ง!”

นับตั้งแต่ที่เขาได้กลายเป็นมหาชั้นฟ้า เขาไม่เคยโค้งคำนับให้ใครเช่นนี้ ทว่าเวลานี้เขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและโค้งคำนับต่อท้องฟ้าด้วยความเคารพ

ทว่าเขาไม่ได้รับการตอบรับอันใดจนกระทั่งเสียงร้องของเหล่าวิญญาณ 72 ดวงเริ่มจะสิ้นหวัง คำวิงวอนของพวกมันรุนแรงยิ่งขึ้นจนท้ายที่สุดพวกมันก็แตกสลาย พื้นดินไม่สั่นไหวอีกแล้วและไฮ่จื่อก็พูดขึ้นเบาๆ

“คนผู้นั้น…จากไปแล้ว…”

พอจิ่วตี้ได้ยิน เขายังคงโค้งคำนับไปอีกสักพักก่อนจะลุกขึ้นและลงมาด้วยใบหน้าซีดขาว

หวังหลินถอนสายตาออกมาจากเผ่าเทพ ตอนที่เขาเห็นกระทิงสวรรค์และเหลียนต้าวเฟย เขาต้องการช่วยแต่ก็ไม่สามารถทำได้

ขณะที่ขบคิดอยู่นั้นหวังหลินมองไปทางเผ่าโบราณ จังหวะนั้นความโกลาหลคล้ายกับที่เกิดในเผ่าเทพได้เกิดขึ้นบนเผ่าโบราณด้วย

พื้นดินสั่นเทือนพร้อมกับวิญญาณ 36 ดวงใน 36 แคว้นต่างก็ปรากฏขึ้นทั้งหมด ซึ่งรวมถึงหลัวจู้ที่เป็นส่วนหนึ่งในวิญญาณที่โดนหวังหลินกลืนกิน

หลัวจู้ปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์ ศีรษะของมันเป็นรูปร่างทรงกลมขนาดยักษ์คล้ายดาวเคราะห์เซียน ส่วนหางของมันเหมือนหางมังกรและไม่ได้มีเพียงหนึ่งแต่มีถึงเก้าหาง มันร้องโหยหวนกับท้องฟ้าราวกับอ้อนวอนให้ช่วยเหลือ

ซวนลั่วตื่นจากการปิดด่านบ่มเพาะ มองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและอ้าปากค้าง

มหาชั้นฟ้าซ่งเทียนแห่งอาณาเขตฉีได้เห็นการเปลี่ยนแปลงใน 36 แคว้นและเกิดความตกตะลึง

‘นี่…หรือจะเกี่ยวข้องกับหวังหลิน?! เป็นไปไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงอันน่าตกตะลึงเช่นนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเขา!’

ในอาณาเขตจวี่ มหาชั้นฟ้าผู้ลึกลับที่ปิดด่านบ่มเพาะอยู่พลันรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง

หวังหลินเห็นทุกอย่าง ท้ายที่สุดสายตาก็มองลงไปที่ภูเขากุ้ยต้าว มองไปบนยอดหอคอยและร่างที่ปกคลุมด้วยสายหมอก

เสียงถอนหายใจดังออกมาจากร่างนั้น เขาลืมตาเผยความสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมองขึ้นมาบนท้องฟ้าคล้ายกับเห็นสายตาของหวังหลิน

วินาทีที่สองสายตาประสานกัน หวังหลินสัมผัสได้ว่าชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินเซียนดารานั้นมองเห็นเขาอยู่จริงๆ

ร่างในสายหมอกเอ่ยขึ้น “ในที่สุดเจ้าก็บรรลุถึงระดับนี้…ตอนนี้เจ้าอยู่สะพานไหน?”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ และส่งสัมผัสวิญญาณออกไป “สะพานที่สอง ท่านล่ะ? ” ด้วยระดับบ่มเพาะของหวังหลินในตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถมองเห็นรูปร่างของมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวเลย

“หลายปีก่อนข้าผ่านสะพานที่ห้าไปแล้วและหยุดอยู่สะพานที่หก…”

หวังหลินเอ่ยถาม “ขั้นที่สี่อยู่เหนือสะพานที่เก้าไปใช่หรือไม่?”

ร่างในสายหมอกกระซิบตอบ “ข้าไม่รู้…ตลอดหลายชั่วอายุคน ไม่มีใครผ่านสะพานที่เก้าไปได้…”

“ไม่มีใคร? บรรพชนเทพและบรรพชนโบราณล่ะ?”

“ทั้งหมดนั่นผ่านสะพานที่แปดและหยุดอยู่…สะพานที่เก้า”

“สะพานย่ำสวรรค์แห่งนี้มันเป็นสถานที่แบบไหนกัน?” หวังหลินถามด้วยความสงสัย

“แผ่นดินเซียนดารานั้นใหญ่มาก…แต่ด้านนอกแผ่นดินเซียนดารา มีแผ่นดินอีกหลายแห่ง จากที่ข้าเข้าใจ สะพานย่ำสวรรค์คือเส้นทางปกติสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด” มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวถอนหายใจ ในคำพูดแฝงความสับสน บางทีแม้แต่เขาเองก็ไม่มั่นใจ

หวังหลินขบคิดและค่อยๆ ถอนสายตาออกมา

…………………………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version