Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 2063

Cover Renegade Immortal 1

2063. กำจัดสายหมอก!

มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว ผู้แข็งแกร่งที่สุดบนแผ่นดินเซียนดารา!

ระดับบ่มเพาะลี้ลับและไม่เคลื่อนไหวมานานหลายปี เพียงแค่นิ้วเดียวก็ทำให้โลกเปลี่ยนสีสัน ท้องฟ้าแสดงสัญญาณพังทลาย แม้แต่กำแพงพายุยังถูกผลักเข้าไปข้างในเหมือนไม่สามารถต้านทานพลังอำนาจได้

เรือนผมสีขาวของหวังหลินกำลังพริ้วไปตามแรงลม ดัชนีของกุ้ยต้าวมีพลังแห่งสายลม สายฝนและสายฟ้า สายฟ้าคำรามเป็นประกายวงโค้งทะลุผ่านดัชนีจนปะทะกับก้อนเมฆ กลายเป็นเสียงดังสนั่นและเกิดหยาดฝนนับไม่ถ้วน

ภายในสายลม สายฟ้าและสายฝน พลังแห่งธาตุทั้งห้าอุบัติขึ้นไม่ด้อยไปกว่าแก่นแท้ห้าธาตุของหวังหลินเลย!

ส่งผลให้ดัชนีนี้ราวกับช่วงชิงโชคชะตาแห่งสวรรค์และมีอำนาจมากพอจะสังหารมหาชั้นฟ้าได้ในบัดดล!

หวังหลินหรี่ตาแคบ เขาเตรียมพร้อมเรื่องพลังของกุ้ยต้าวไว้แล้ว ทำให้ดัชนีที่ทรงพลังมากพอสังหารมหาชั้นฟ้ากลับไม่ทำให้เขาประหลาดใจ

“กุ้ยต้าว…” หวังหลินมีแววตาเป็นประกายและยังเอาสองมือไพล่หลัง เรือนผมปลิวไสว เปล่งบรรยากาศที่มิอาจพูดออกมาได้ ขณะที่ดัชนีพุ่งเข้ามา หวังหลินเพียงยกแขนขึ้นและชี้ใส่ดัชนีมายานั้น

การเคลื่อนไหวดูเหมือนสบายๆ หากมองไกลๆ ราวกับมีบางอย่างผิดปกติ ดัชนีของกุ้ยต้าวมีขนาดใหญ่มากและดูเหมือนสามารถทำลายร่างหวังหลินให้หายวับในพริบตา!

และดัชนีของหวังหลินดูเล็กน้อยเหลือเกิน!

ทว่าในขณะที่หวังหลินชี้ออกไป เส้นแห่งกฎนับไม่ถ้วนจึงเกิดการสั่นเทา คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นได้แต่กุ้ยต้าวสัมผัสได้ชัดเจน

เส้นสายแห่งกฎมากมายสั่นเทาและแตกสลาย ทั้งหมดปะทะกันและพริบตาเดียวก็ไม่มีกฎเหลืออยู่เลยในบริเวณนี้

ตอนที่ดัชนีของหวังหลินปะทะกับดัชนีมายาของกุ้ยต้าว เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่ว ดังไกลมากจนปกคลุมผืนทะเลและแผ่กระจายออกไปทั่วทิศทาง

หวังหลินปล่อยเสียงร้องอยู่ในลำคอและล่าถอยไปสามก้าว ด้านดัชนีมายาของกุ้ยต้าวหยุดชะงักชั่วจังหวะ ควันสีดำสายหนึ่งไหลออกมา ดัชนีแตกสลายและวิชาทั้งหมดข้างในสูญสิ้น

อสูรหมอกเก้าหัวล่าถอยไปสามก้าว!

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายจบลงที่การเสมอกัน!

ขณะที่กุ้ยต้าวล่าถอย หวังหลินมองขึ้นไปและเคลื่อนไปข้างหน้า ยกแขนขวาขึ้นมาให้วิญญาณดั้งเดิมเปิดใช้งาน ควันสีเขียวจำนวนมากปรากฏขึ้นรอบมือขวา เปลี่ยนกลายเป็นวงแหวนรอบนิ้วทั้งห้าอย่างรวดเร็ว!

ความร้อนอันรุนแรงแผ่กระจายออกมาจากมือหวังหลิน

“เต๋าแปดสุดขั้ว!” กุ้ยต้าวมองดูอยู่ในร่างอสูรหมอกเก้าหัว

“เต๋าวารีสุดขั้ว!”

“เต๋าโลหะสุดขั้ว!”

“เต๋าไม้สุดขั้ว!”

“เต๋าปฐพีสุดขั้ว!” พลังแห่งธาตุโลหะ ไม้ วารี เพลิงและปฐพีปรากฏขึ้นรอบมือขวาของหวังหลินและเปลี่ยนกลายเป็นเต๋าแปดสุดขั้วของบรรพชนเทพ!

แม้หวังหลินจะไม่ได้เรียนรู้เต๋าแปดสุดขั้วทั้งหมด แต่ระดับครึ่งขั้นย่ำสวรรค์ได้ทำให้หวังหลินอยู่ห่างจากบรรพชนเทพไม่ไกล ทำให้เมื่อเขาใช้เต๋าแปดสุดขั้วจึงสามารถทำให้มีระดับพลังใกล้เคียงบรรพชนเทพได้!

ควันรูปร่างวงแหวนปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลินอย่างมหาศาล เพียงเขาสะบัดแขนขวา วงแหวนทั้งหมดจึงทะยานเข้าสู่อสูรหมอกเก้าหัว

ด้วยเต๋าสุดขั้วทั้งห้า มันจึงไม่ถือว่าเป็นวิชาสั่นสะเทือนสวรรค์ ตอนที่หวังหลินเข้าไปยังสะพานย่ำสวรรค์ครั้งที่สอง แม้ดูเหมือนเขาได้ก้าวข้ามผ่านสะพานแห่งที่ห้าได้อย่างรวดเร็ว ความจริงเขารู้สึกเหมือนผ่านไปนานหลายปี เขาจึงทำความเข้าใจเต๋าสุดขั้วที่เหลืออีกสามสามรูปแบบด้วยวิธีของตัวเอง

“เต๋าดินสุดขั้ว!” เพียงหวังหลินก้าวเข้าหาอสูรหมอก เขาจึงเหมือนยอดปรมาจารย์ แขนขวากำหมัดโยนลงสู่พื้นด้านล่าง แอ่งน้ำใต้ทะลพลันเกิดการสั่นเทา จากนั้นกลิ่นอายแห่งดินแดนจึงพุ่งออกมา มันสกปรกและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายจำนวนมาก ซึ่งเกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตทุกตัวที่ตายไปในทะเลอันกว้างใหญ่

กลิ่นอายแห่งดินแดนทำให้เกิดเป็นวงแหวนสีเทาขนาดยักษ์พุ่งทะยานออกไป ทั้งยังหดลงและเปล่งพลังอำนาจมหาศาล!

กุ้ยต้าวหรี่ตาแคบอยู่ในอสูรหมอก เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของหวังหลินตอนนี้และวิชาที่เขาแสดงออกมาทำให้แม้แต่กุ้ยต้าวยังเคร่งเครียด

‘เขาได้ผ่านสะพานย่ำสวรรค์ไปแล้วกี่แห่ง…’ กุ้ยต้าวมีแววตาเป็นประกายและสร้างผนึกขึ้นโดยไม่ลังเล อสูรหมอกเก้าหัวพลันร้องคำรามใส่ท้องฟ้า ระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนแผ่กระจายออกมา หัวทั้งเก้ามีแสงที่แตกต่างกันปรากฏออกมาเก้าสาย

“เต๋าฟ้าสุดขั้ว!” หวังหลินก้าวเดินต่อไปอย่างสงบนิ่ง แขนขวาชี้ไปยังท้องฟ้า

ท้องฟ้ามืดมิดดูเหมือนกำลังพังทลายแต่จากนั้นมีแสงประกายกะพริบวาบ จุดที่หวังหลินชี้เปลี่ยนกลายเป็นฝ่ามือ จากนั้นเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าคล้ายกับคว้าแสงทั้งหมดเข้ามา ท้องฟ้าที่มืดมิดจึงหมองหม่น แสงทั้งหมดถูกกลั่นกลายเป็นวงแหวนคล้ายดวงอาทิตย์ จากนั้นตกลงใส่อสูรหมอกเก้าหัว

เต๋าแปดสุดขั้วที่เป็นของหวังหลินนั้นสมบูรณ์แบบ เต๋าโลหะ ไม้ วารี เพลิง ปฐพี รวมถึงเต๋าฟ้าและดิน พวกมันพุ่งเข้าไปใกล้อสูรหมอกยกเว้นเต๋าสุดขั้วอย่างสุดท้าย

อสูรหมอกเก้าหัวร้องคำราม แสงเก้าสีกะพริบวาบกลายเป็นรุ้งเก้าสีรอบตัวมันเพื่อกระจายกันเข้าต่อต้านวิชาเต๋าแปดสุดขั้วของหวังหลิน

หลังจากนั้นไม่นานนักกุ้ยต้าวก็อ้าแขนออก ทรงกลมสายหมอกหลายร้อยก้อนทะยานออกมาจากอสูรเก้าหัว แต่ละก้อนมีพลังมากพอจะสังหารผู้สูงส่งชั้นเทวะ แม้แต่มหาชั้นฟ้ายังต้องระมัดระวังเมื่อต้องเผชิญหน้าพร้อมกันหลายก้อน

ก้อนสายหมอกแบ่งตัวออกเป็นหลายแสนก้อน พวกมันทะยานออกมาด้านข้างอสูรหมอกและต่อต้านวิชาของหวังหลินไปพร้อมกับสายรุ้งเก้าสี!

ส่งผลให้เกิดเสียงดังสนั่นสั่นสะเทือนสวรรค์ เต๋าสุดขั้วห้าธาตุแตกสลายทีละหนึ่งธาตุ แต่เต๋าสุดขั้วฟ้าและดินกลับแยกตัวออกมาและร่อนลงใส่ร่างอสูรหมอก

เจ้าอสูรหมอกส่งเสียงคำรามดุร้ายและร่างกายของมันสั่นเทา หวังหลินปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง หลังจากใช้เต๋าแปดสุดขั้วไปแล้วจึงใช้เคล็ดเร่งความเร็วโดยไม่ลังเล ความเร็วจึงเพิ่มพูนขึ้นถึงขีดสุดและหายวับไปเพียงแค่ก้าวเดียว

หวังหลินปรากฏตัวขึ้นโดยไร้เสียงและโยนกำปั้นขวาออกไปกระแทกใส่ร่างอสูรหมอก จากนั้นหวังหลินหายวับไปโดยไม่มองดูผลลัพธ์ คราวนี้กลับปรากฏขึ้นในหมอกด้านหลังกุ้ยต้าวและโยนกำปั้นออกไป

ชั่วจังหวะที่กำปั้นร่อนลงใส่ กุ้ยต้าวหันกลับมาสะบัดแขนเสียงดังปัง หวังหลินกระเด็นออกมาจากอสูรหมอก แต่กุ้ยต้าวเองก็ส่งเสียงคร่ำครวญออกมาเนื่องจากแขนเสื้อกลายเป็นผุยผง

กำปั้นของหวังหลินไม่สามารถลดทอนพลังได้ง่ายๆ ตอนที่เขาเห็นกุ้ยต้าวโจมตีจึงวางแผนเอาไว้แล้วและการโจมตีครั้งนี้ก็มีเป้าหมาย

กำปั้นนี้ดูเหมือนรวมพลังกับกำปั้นที่โยนใส่อสูรหมอกจากด้านนอก พลังทั้งสองกำปั้นเข้าปะทะใจกลางสายหมอก ก่อเกิดเป็นพายุน่าหวาดกลัวฉีกกระชากร่างอสูรหมอกให้ฉีกขาด!

ทว่ากุ้ยต้าวยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนแผ่นดินเซียนดารา เพียงแค่เขาสะบัดแขน ก้อนสายหมอกนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าหาหวังหลิน หวังหลินไม่สามารถหลบได้หมด ดังนั้นก้อนสายหมอกจึงกระแทกเข้าไปในร่าง

แค่ก้อนสายหมอกก้อนเดียวก็สามารถสังหารผู้สูงส่งชั้นเทวะได้แล้ว ก้อนสายหมอกหลายแสนก้อนจึงมากพอที่จะทำลายล้างโลกได้ในคราเดียว นาทีนั้นหวังงหลินหลับตาและชี้ไปที่กลางหน้าผาก

“เต๋าชีวิตสุดขั้ว!” หวังหลินพลันลืมตาและเผยลำแสงสองสาย แผ่กระจายออกมารอบตัวราวกับกลิ่นอายสีดำและก่อเกิดเป็นม่านพลังป้องกัน

เสียงดังสนั่นกึกก้องราวกับสายฟ้านับล้านสายระเบิดในคราเดียว คลื่นกระแทกครั้งนี้ทำให้ทั่วทะเลเกิดการสั่นเทาและส่งผลกระทบต่อกฎแห่งโลกไปด้วย แผ่นดินเซียนดาราจึงรู้สึกได้ถึงการปะทะกัน

ภายในสำนักต้าวยี่ ภูเขาจักรพรรดิ สำนักตะวันม่วงและธารน้ำแข็งในทิศเหนือ มหาชั้นฟ้าทั้งสี่คนสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้และจิตใจสั่นเทา ทุกคนต่างรู้สึกถึงการปะทะของกลิ่นอายสองแห่งจากแอ่งน้ำกว้างใหญ่

“กุ้ยต้าวลงมือแล้ว!”

“หนึ่งในนั้นเป็นของกุ้ยต้าว!! อีกคน…ช่างคุ้นนัก…”

“ใครกันที่กำลังต่อสู้กับกุ้ยต้าวจนเกิดเรื่องน่าตกตะลึงเช่นนี้!?”

“กลิ่นอายที่กำลังต่อสู้กับกุ้ยต้าวคือ…หวังหลิน!”

ลำแสงสี่สายทะยานออกมาจากเผ่าเทพเข้าสู่ทะเลกว้างใหญ่

ขณะเดียวกันในเผ่าโบราณ ซวนลั่ว ซ่งเทียนและมหาชั้นฟ้าผู้ลึกลับในอาณาเขตจวี่ต่างก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงและพื้นดินที่กำลังสั่นสะเทือน ทั้งสามคนพุ่งทะยานเข้าหาทะเลกว้างใหญ่โดยไม่ลังเล

………………………………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version