277. ผีเสื้อแดง
อาจารย์ของนางได้บอกว่าวิญญาณเบญจธาตุปรากฎตัวขึ้นตอนที่นางเกิดเพื่อพิทักษ์นางตลอดไป
วิญญาณเบญจธาตุไม่ได้มีระดับขั้นตัดวิญญาณระดับปลายตอนที่มันก่อร่างขึ้น พวกมันเติบโตคู่ขนานไปกับผีเสื้อแดง เมื่อนางทะลวงระดับได้ วิญญาณเบญจธาตุก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ความแข็งแกร่งที่ผีเสื้อแดงมี ก็คือความแข็งแกร่งที่วิญญาณเบญจธาตุมีด้วย
วิญญาณเบญจธาตุมาจากไหนไม่มีใครรู้ ในตอนสุดท้ายอาจารย์ของผีเสื้อแดงได้เสียสละระดับฝึกตนเพื่อได้รับเบาะแสหนึ่งมา ผีเสื้อแดงจึงมีร่างกายวิญญาณเบญจธาตุ ในชีวิตของนางมีเพียงบททดสอบเดียว เมื่อนางผ่านบททดสอบนั้นได้ นางจะได้รับร่างกายวิญญาณเบญจธาตุที่แท้จริงและจะไม่พบคอขวดอีกเลย
ทว่าแม้อาจารย์ของนางจะใช้ระดับเซียนของตนเองเป็นค่าใช้จ่าย นางจึงไม่สามารถคาดเดาบททดสอบได้ว่ามันจะเป็นอะไร
หลังเวลาผ่านไปจึงพักเรื่องนี้ แต่ลึกๆทุกคนก็รอคอยบททดสอบนั้น
แต่ก่อนที่จะเริ่มสงครามครั้งนี้ อาจารญ์ของผีเสื้อแดงได้มองเห็นสิ่งหนึ่ง เมื่อใช้โอกาสนี้จึงสามารถมองเห็นเค้าร่างเบาะแสของบททดสอบนางได้
นี่จึงเป็นเหตุผลก่อนจะเริ่มสงคราม นางบอกให้ผีเสื้อแดงส่งวิญญาณเบญจธาตุให้ศิษย์พี่เพื่อให้นางนำเฉว่ยี่เข้าร่วมการรบต่อสู้กับพันธมิตรสี่สำนัก
ความจริงทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่นางวางแผนไว้ ใช้ศิษย์พี่เพื่อเป็นตัวแทนผีเสื้อแดงเพื่อให้หลบเลี่ยงบททดสอบนี้
ทำให้เมื่อศิษย์พี่ของนางตายไป บททดสอบของนางจะสิ้นสุดและอนาคตของนางจะไร้ซึ่งอุปสรรค์ ด้วยเหตุผลนี้นางจึงออกมาจากรอยแยก
แต่ขณะนั้นเมื่อนางพบว่าหนึ่งในวิญญาณเบญจธาตุหายไป จิตใจของนางพลันรู้สึกว่ามีบางสิ่งสูญหายและใบหน้าหม่นหมองทันที
มีคนจำนวนแปดคนยืนอยู่เบื้องหลังนาง
ในเหล่าแปดคนนี้ มีเจ็ดคนสวมชุดเหมือนกัน มีทั้งบุรุษและสตรีในเหล่าเจ็ดคน พวกเขาต่างดูแก่ชราเพราะเป็นถึงผู้อาวุโสสูงสุดของเฉว่ยี่ แม้หลังจากที่ผีเสื้อแดงเข้าไปในแคว้นซูซาคุ ทั้งเจ็ดคนยังติดตามนางและกระทำตัวเช่นผู้คุ้มกัน
คนสุดท้ายเป็นชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีดำ ใบหน้าของเขาซีดเหลืองจนดูราวกับป่วยหนัก
หลังได้ยินคำพูดของหญิงสาว เขาพยักหน้าอย่างขี้เกียจ จากนั้นก้าวไปข้างหน้าและปรากฎตัวระหว่างมังกรดำและสิ่งมีชีวิตอสรพิษ เขามองมังกรดำและยิ้มขึ้น “ข้าไม่มีสิทธิ์สังหารมังกรตัวนี้ แต่ข้าสามารถลบสายโลหิตได้”
เช่นนั้นเขาโบกแขนขวาทำให้ร่างโจวหวู่ไท่สั่นเทาและไอออกมาเป็นโลหิต เขาสัมผัสถึงพลังอันแข็งแกร่งได้ พลังสายนี้ทำให้ร่างเขาพุ่งไปไกลราวกับอุกกาบาต
โลหิตที่โจวหวู่ไท่ไอออกมาได้ควบแน่นไปเป็นโลหิตสีม่วงในฝ่ามือชายวัยกลางคน เขาสะบัดโลหิตเข้าไปในคิ้วมังกรดำ
มังกรดำร้องคำรามเต็มด้วยความโศกเศร้า แต่ในความเศร้าโศกนั้นมีความรู้ถึงการปลดปล่อยรวมอยู่ด้วย มังกรดำมองไปที่พื้นจากนั้นทั้งร่างหยุดเคลื่อนไหวขณะที่วิญญาณมังกรลอยออกไปและหายลับสายตา
มังกรดำเปลี่ยนกลับเป็นภูเขาลูกหนึ่งอย่างรวดเร้วหลังจากสูญเสียวิญญาณมังกรและตกลงบนพื้น
มังกรดำไม่สามารถปกป้องพันธมิตรสี่สำนักได้อีกต่อไป เมื่อภูเขาตกหล่นลงพลันเกิดเสียงราวกับเป็นสัญญาณที่บอกให้พันธมิตรสี่สำนักถึงวาระแล้ว
ชายวัยกลางคนถอนหายใจ เขากลับไปไปด้านข้างสตรีสาวและมองอย่างคนป่วยต่อไป
ในที่สุดสิ่งมีชีวิตอสรพิษครึ่งบนที่เป็นมนุษย์ก็ออกมาจากรอยแยกได้ครบถ้วน สตรีในชุดคลุมสีขาวร่อนลงบนศีรษะสิ่งมีชีวิตอสรพิษ นางชี้ไปที่พื้นและอสูรอสรพิษพ่นรัศมีน้ำเงินเข้มออกมา มันกระจายออกอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าใครที่สัมผัสกลิ่นอายนี้จะร่างกายสั่นเทาก่อนจะกลายเป็นหุ่นน้ำแข็ง แม้แต่เซียนขั้นตัดวิญญาณก็ไม่มีข้อยกเว้น
หวังหลินจ้องฉากเหตุการณ์เบื้องหน้า ศีรษะมึนงง แม้ว่าหวังหลินจะอยู่ห่างไกลจากหญิงสาวมากนัก ความเร็วของรัศมีน้ำเงินเข้มนับว่ารวดเร็วมาก เขาใส่หมวกฟางและหลบหนีทันที หวังหลินใช้ความเร็วเต็มที่เพื่อหลบหนีรัศมีน้ำเงินเข้มนี้ จุดหมายของเขาคือตำแหน่งที่โจวหวู่ไท่ถูกโยนออกไป
เมื่อรัศมีน้ำเงินเข้มกระจายออก ทั่วทั้งพื้นที่พันธมิตรสี่สำนักเปลี่ยนไปเป็นยุคน้ำแข็ง
เหล่าเซียนของพันธมิตรสี่สำนักเหาะเหินออกจากสำนักตัวเองด้วยใบหน้าไม่พอใจ หลังชำเลืองมองบ้านตนเองพวกเขาทั้งหมดจึงเลือกจะจากไป
แต่เหล่าเซียนของเฉว่ยี่จะปล่อยให้พวกเขาจากไปเช่นนี้ได้อย่างไร?
หวังหลินรวดเร็วมาก เขารู้ผลลัพธ์ที่ชายวัยกลางคนที่ดูป่วยคนนี้ลงมือ เฉว่ยี่กำลังจะตัดรากถอนโคน ดังนั้นจึงยากมากที่จะให้พันธมิตรสี่สำนักหลบหนีไปได้
หวังหลินสูดหายใจลึก เขาไม่คิดเรื่องนี้อีกแต่เปลี่ยนเป็นภาพมายาขณะเหาะเหินเร็วมากขึ้นแทน หวังหลินไ่กล้าหยุดเมื่อรัศมีน้ำเงินเข้มนี้น่ากลัวเกินไป ทุกสิ่งที่รัศมีสัมผัสจะกลายเป็นน้ำแข็ง หวังหลินไม่เชื่อว่าเขาจะรอดชีวิตด้วยเพียงแค่โชคได้
ไม่นานนักสัมผัสวิญญาณของเขารับรู้ถึงหลุมที่อยู่ในภูเขาน้ำแข็งห่างไปหนึ่งพันลี้ได้ นั่นเป็นตำแหน่งที่โจวหวู่ไท่ร่อนลงไป
ร่างหวังหลินหายไป เมื่อปรากฎตัวอีกครั้งก็มาถึงภูเขาหิมะเรียบร้อย หวังหลินไม่ลังเลที่เข้าไปในหลุมเลย
ขณะที่เข้าไปเขาเห็นโจวหวู่ไท่ยังไม่ตาย เพียงแต่สลบไร้สติเท่านั้น หวังหลินเก็บกระเป๋าของโจวหวู่ไท่ออกมาอย่างรวดเร็วและจากไปโดยไม่กล้าเอ้อระเหย
แทบในทันทีที่เขาออกมาจากภูเขาหิมะ รัศมีน้ำเงินเข้มก็มาถึง ทั้งภูเขาหิมะกลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง
ขณะที่หวังหลินกำลังเหาะเหินในท้องฟ้า เขาใช้สัมผัสวิญญาณอันทรงพลังเพื่อกวาดสัมผัสวิญญาณของโจวหวู่ไท่ออกไปจากกระเป๋า หวังหลินยิ้มเมื่อพบว่าหม้อพิรุณอยู่ข้างใน
ขณะที่เก็บกระเป๋าไป ใบหน้าหวังหลินเปลี่ยนทันที เขาเห็นหอคอยน้ำแข็งมากกว่าแปดสิบชั้นปรากฎเบื้องหน้า หญิงชราคนหนึ่งเดินออกมา นางชำเลืองมองหวังหลินด้วยสายตาเยือกเย้นและยกฝ่ามือขวาขึ้น
หวังหลินถอยกลับอย่างรวดเร็วและชี้ไปที่คิ้วตนเอง สมาชิกหลักตระกูลเถิงที่กลายเป็นปิศาจลอยออกมา
ในไม่ช้าที่เหล่าปิศาจปรากฎตัว พวกมันกระโดดเข้าหาหญิงชรา นางเผยแววตาดูถูกและสะบัดนิ้วมือ ปิศาจรอบๆเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งสีฟ้าอย่างรวดเร็ว
หวังหลินกัดฟันแน่นและคิดขึ้น “ระเบิด! ระเบิด! ระเบิด!”
ทันใดนั้นปิศาจระเบิดในน้ำแข็งฟ้าและกลายเป็นหมอกควันสีดำ
ร่างหวังหลินไม่เคยหยุดลง เขาใช้ควันสีดำเพื่อหายไปจากสายตา เมื่อปรากฎตัวอีกครั้งจึงห่างไปมากกว่าพันลี้แล้ว หวังหลินเริ่มวิ่งหนีอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันฝ่ามือขวาก็ชี้ไปที่ระหว่างคิ้วตนเองอีก ครั้งนี้เขาสั่นให้ปิศาจทุกตัวนอกจากฉวี่ลี่กั๋วระเบิด
เพียงหลังจากหนีออกมาได้ไม่กี่วินาที หวังหลินรู้สึกได้ว่าปิศาจบางส่วนระเบิดไปแล้ว แม้ว่าควันในตอนนี้จะหนามากแต่ความรู้สึกเหมือนเข็มจี้ที่หลังยังคงอยู่
“เจ้าไม่อาจหนีไปได้!” น้ำเสียงมืดมนของหญิงชราดังออกมาเบื้องหลัง หอคอยน้ำแข็งมากกว่าแปดสิบชั้นพุ่งออกมาจากควันสีดำโดยมีหญิงชรานั่งอยู่ข้างบน ใบหน้าของนางมืดคล้ำ
หวังหลินไม่ได้หันกลับไป เขาตบกระเป๋าและควันเมฆสีดำปรากฎขึ้น มันควบแน่นกลายเป็นหุ่นเชิดวิญญาณเซียนตัวหนึ่ง หวังหลินหันกลับขณะสร้างผนึกขึ้นในฝ่ามืและสายฟ้าแดงพุ่งออกจากสายตา สายฟ้าแดงเข้าไปในหุ่นเชิดขณะที่หวังหลินตะโกน “ไป!”
ทันใดนั้นหุ่นเชิดพุ่งเข้าหาหญิงชราราวกับมันกำลังบ้าคลั่ง หญิงชรายังคงอยู่ที่หอคอยน้ำแข็ง สายตาดูถูกรุนแรงขึ้น นางยื่นมือออกมาคว้าไว้ ทันใดนั้นน้ำแข็งและหิมะบนพื้นลอยขึ้นมาป้องกันหุ่นเชิด
ขณะที่หวังหลินวิ่งหนีห่างไป สายตาเขาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นพลันคิดว่า “ระเบิด!”
แสงสีแดงกระพริบวาบในสายตาหุ่นเชิด เมื่อน้ำแข็งและหิมะเข้าใกล้มันจึงระเบิดตัวเองขึ้น การระเบิดของหุ่นเชิดวิญญาณเซียนที่พลังเต็มพิกัดได้น่ากลัวอย่างมาก ด้วยการควบคุมของหุ่นเชิด พลังงานระเบิดไม่ได้กระจายออกทุกทิศทางแต่ตรงเข้าหาหญิงชราแทน
ในเวลาเดียวกันนั้นใจกลางแรงระเบิด สายฟ้าแดงพุ่งเข้าหาหญิงชราทันที
สายฟ้าแดงนี้คือขอบเขตจวี่ของหวังหลิน แม้ว่าผลลัพธ์ต่อเซียนขั้นตัดวิญญาณไม่มากนักแต่มันยังคงทำให้สติหลุดลอยได้
หญิงชราไม่ใส่ใจเรื่องสายฟ้าแดง แต่นางขมวดคิ้วไปที่การระเบิดของหุ่นเชิดวิญญาณเซียน นางวางแขนลงบนหอคอยน้ำแข็งทำให้ลำแสงสีขาวพุ่งออกมาจากประตูทุกบาน ลำแสงสีขาวควบแน่นล้อมรอบหญิงชราสร้างเป็นโล่ห์หนาสิบฟุต
ทว่าหญิงชราไม่เคยคิดว่าสายฟ้าแดงจะสามารถผ่านโล่ห์น้ำแข็งไปได้ราวกับไม่เคยมีอยู่ ใบหน้านางเปลี่ยนไปขณะเคลื่อนฝ่ามือเพื่อป้องกัน แต่สายฟ้าแดงเข้าสู่ร่างกายนางทันทีผ่านแขน
สายฟ้าแดงพุ่งผ่านร่างกายเข้าไปตรงๆและเข้าสู่จิตใต้สำนึกของนาง ทำให้วิสัยทัศน์ของนางฝ้าฟาง เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจก่อนที่นางจะกลับมาเป็นปกติ แต่ตอนนี้เกิดเสี้ยวความหวาดหวั่นในสายตานางไปแล้ว
ความสับสนเล็กน้อยนี้ทำให้โล่ห์น้ำแข็งรอบนางอ่อนแอ เมื่อไม่มีหญิงชราควบคุบ โล่ห์น้ำแข็งดูดซับความเสียหายจนทำให้มันพังทลาย แรงระเบิดที่เหลือปะทะเข้ากับหญิงชราตรงๆ
เมื่อตอนที่หญิงชราฟื้นคืนสัมผัสได้ นางเปล่งลมหายใจเย็นและชุดคลุมสีขาวพองขึ้น เสียงป๊อป! การระเบิดของหุ่นเชิดถูกหยุดไว้ด้วยค่ายกลลึกลับในชุดคลุมสีขาวของนาง
เมื่อควันหายไป หญิงชราสูดอากาศอันหนาวเย้นเข้าไป นางกลับไปที่หอคอยน้ำแข็งของตนเองโดยไร้ซึ่งคำพูดและกำลังจะจากไป