310. ชิ้นส่วนทับซ้อน
ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องคำรามกึกก้องเต็มพื้นที่โดยรอบ หวังหลินสูดหายใจลึกและเคลื่อนไหวฝ่ามือจนเกิดกฎเกณฑ์หนึ่งขึ้น เขาเพียงต้องโยนมันขึ้นไปบนอากาศเพื่อทำให้ธงกฎเกณฑ์เสร็จสิ้น เช่นนั้นจะเกิดสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ลดลงมา
ใบหน้าผีเสื้อแดงเปลี่ยนไป นางมองไปที่กฎเกณฑ์ในฝ่ามือหวังหลินและจากนั้นก็ของสีดำในท้องฟ้า นางสัมผัสอันตรายแข็งแกร่งได้ซึ่งมันเป็นสิ่งที่นางไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน
นางรู้สึกว่าหากปล่อยให้เขาวางกฎเกณฑ์นั้นลงไป วันนี้จะเกิดภัยพิบัติ
ขณะนั้นใบหน้าฉีหูเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขณะมองขึ้นไปบนของสีดำที่กำลังลอยคว้างในท้องฟ้า เขาลอบถอนหายใจและคิดขึ้น ‘เซิ่งหนิวยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ ดูเหมือนว่าของสีดำชิ้นนั้นคือสมบัติช่วยชีวิตของเขาจริงๆ’
ฉีหูร้องตะโกน “สหายเซียนผีเสื้อแดง พวกเจ้าทั้งสองต่างเป็นแขกของข้า หากเจ้ายืนยันจะโจมตีต่อไปนั่นหมายความว่าเจ้ามุ่งร้ายต่อข้าด้วย! เป็นธรรมดาที่ข้าจะยืนข้างน้องเซิ่งและต่อสู้คืน อีกทั้งหากข้ามีชีวิตรอดกลับไป ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อท่านฉีซื่อแน่นอน!”
สิ้นคำภาพมายาร่างหนึ่งปรากฎเบื้องหลังฉีหู ภาพมายาเป็นยักษ์สูงหนึ่งร้อยฟุตจ้องไปที่ผีเสื้อแดงด้วยดวงตาสีเขียวเยือกเย็น
ช่วยไม่ได้ที่ผีเสื้อแดงจะรวนเร นางลอลคิดว่าวิชาของเซิ่งหนิวไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น ภาพมายาเบื้องหลังฉีหูรวมกันเป็นรูปร่างแล้ว หากนางต่อสู้ต่อไปเช่นนั้นพื้นที่ชิ้นส่วนนี้คงล่มสลายแน่นอน นางลังเลเล็กน้อยก่อนจะชี้ไปที่อาการสั่งการให้กลีบดอกไม้หยุดลง
“ก็ได้ฉีหู เพื่อเจ้าแล้วข้าจะไม่สังหารเขาในวันนี้ แต่โลงศพหยกต้องเป็นของข้า!”
ฉีหูขมวดคิ้วขณะที่เขากำลังจะเอ่ย ทว่าหวังหลินเริ่มหัวเราะเสียงดัง
“ผีเสื้อแดง เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าไม่สามารถสังหารเจ้าได้?”
หวังหลินยิ้มเบาบางขณะยื่นกฎเกณฑ์ในฝ่ามือขึ้นสู่อากาศเบื้องบันและเอ่ยขึ้น “ข้าเพียงแค่ใช้วิชานี้ในมือข้าออกไปและชิ้นส่วนแห่งนี้จะล่มสลาย ผีเสื้อแดง เจ้าเชื่อข้าไหม?”
ใบหน้าผีเสื้อแดงเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียวในทันที
ฉีหูคำนับสองฝ่ามือและเอ่ยขึ้น “น้องเซิ่ง ข้าจะตัดสินใจเอง ทุกสิ่งที่เราได้รับในครั้งจะแบ่งเท่าๆกัน ตกลงไหม?”
“ดีมาก เช่นนั้นข้าจะปล่อยวางเพื่อพี่ฉีหูละกัน” หวังหลินยิ้มบาง ความจริงแล้วเขาไม่อยากใช้สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์เป็นดีที่สุด หวังหลินมีเพียงสิ่งเดียวและเมื่อนับโครงสร้างของพื้นที่ส่วนนี้มันคงยากที่เขาจะหลบหนี โดยสรุปแล้วมันก็แย่ต่อเขาเช่นกัน
นอกจากนี้หวังหลินเชื่อว่าโอกาสที่ดีที่สุดในการสังหารผู้หญิงคนนี้คือตอนที่กลับไปบนซูซาคุโดยไม่มีข้อจำกัดทั้งหมด
ฉีหูหันกลับมาและเอ่ยกับผีเสื้อแดง “ผีเสื้อแดง โปรดเก็บสมบัติของเจ้าด้วย”
ผีเสื้อแดงพ่นลมหายใจก่อนจะสะบัดแขนทำให้ดอกไม้หายไปพร้อมกับกลีบดอก
ผีเสื้อแดงจ้องหวังหลิน “เซิ่งหนิว เจ้ากล้าประลองกับข้าเมื่อเรากลับไปที่ซูซาคุไหม?”
หวังหลินหัวเราะ “ข้าจะเล่นกับเจ้าแล้วกัน!”
หวังหลินบีบสลายกฎเกณฑ์ในฝ่ามือและหมอกสีดำคืนกลับเป็นธงลอยเข้าสู่กระเป๋า ส่วนคางคกสายฟ้ามันก็ถูกเก็บเช่นกันทว่ามันได้รับบาดเจ็บสาหัสและดูอ่อนแอมากทำให้เจตนาสังหารใจใจหวังหลินเพิ่มพูนขึ้น
ผีเสื้อแดงมองหวังหลินอย่างลึกซึ้ง ช่วยไม่ได้ที่นางจะยอมรับคนผู้นี้ว่ามีความสามารถในการต่อสู้กับนาง
ฉีหูผ่อนคลายเล็กน้อยและยิ้มอย่างขมขื่นในใจ หากเขารู้ว่าทั้งสองคนนี้มีประวัติด้วยกันมาก่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่เรียกทั้งสองคนนี้มาแน่นอน ผีเสื้อแดงนับว่าธรรมดา แต่เซิ่งหนิวสามารถต่อสู้กับเซียนขั้นตัดวิญญาณระดับปลายได้โดยที่ตัวเองเป็นเพียงระดับต้น เขานับว่าไม่ธรรมดา คนแบบนี้จะเปล่งปลั่งในซูซาคุแน่นอนและอาจกระทั่งได้กลายเป็นศิษย์ของซูซาคุด้วย
ฉีหูสูดหายใจลึกและคำนับ “เอาหละผีเสื้อแดงและน้องเซิ่งหนิว โปรดตามมา ตำแหน่งในหินหยกยังอยู่ไกลจากที่นี่” หลังเอ่ยจบเขาหันตัวและเหาะเหินออกไป
ผีเสื้อแดงกระทั่งไม่ได้มองหวังหลินขณะที่นางเปลี่ยนไปเป็นก้อนเมฆสีแดงและไล่ทันฉีหู ชัดเจนว่านางไม่ยอมติดตามไปและถูกทิ้งอยู่เบื้องหลัง
หวังหลินเผยใบหน้าเยาะเย้ยขณะติดตามพวกเขาไป
หวังหลินลอบคิด ‘ท้ายที่สุดแล้วความคิดและจิตใจของนางไม่มั่นคงเลย แม้ว่าการบรรลุขั้นตัดวิญญาณระดับปลายภายในหนึ่งร้อยปีนับว่าเป็นปาฏิหาริย์โดยแท้แต่ยังมีปัญหาหลายอย่าง จิตใจของนางอ่อนแอเกินไป แค่เหาะเหินมันจะต่างกันตรงไหนระหว่างอยู่ข้างหน้ากับข้างหลัง?’
“หากข้าสู่กับนางด้วยระดับฝึกฝนในปัจจุบัน ไม่มีโอกาสที่ข้าจะเอาชนะได้เว้นแต่จะใช้ธงกฎเกณฑ์เพื่อกระตุ้นทัณฑ์สวรรค์ เขตแดนแห่งชีวิตและความตายของข้าสร้างผลกระทบได้น้อยนิดจนแทบจะสูญสิ้นเมื่อปะทะกับเขตแดนไร้อารมณ์ของนาง ทว่าหากข้าบรรลุระดับปลายได้จะควบคุมเขตแดนของข้าได้ดีขึ้น ข้าคงสามารถสร้างผลกระทบกับนางได้ ถึงตอนนั้นแล้วแม้จะไม่กระตุ้นสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ ข้าคงมีโอกาสเจ็ดในสิบส่วนที่จะเอาชนะนางได้”
เขตแดนแห่งชีวิตและความตายของหวังหลินกำเนิดมาจากวัฎจักรเวียนว่ายตายเกินแห่งสวรรค์ แต่เขาเป็นเพียงเซียนขั้นตัดวิญญาณระดับต้นเท่านั้นดังนั้นจึงไม่สามารถแสดงพลังเต็มที่ของมันได้ นอกจากนั้นเขาแค่พึ่งเริ่มทำความเข้าใจกฎแห่งสวรรค์เท่านั้น
แต่เมื่อเขาบรรลุระดับกลางได้ เขตแดนจะบรรลุไปอีกระดับซึ่งทำให้เขาเอาชนะเขตแดนไร้อารมณ์ได้แน่นอน
หวังหลินลอบคิด ‘ข้าสงสัยว่าหากนางบรรลุถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาวิชาเซียน การสร้างผลกระทบต่อหัวใจแห่งเต๋าจะไม่ทำให้นางสั่นคลอน ดูเหมือนว่าข้าจะนำนางไปก้าวนึง’
หลังบรรลุขั้นตัดวิญญาณ หวังหลินมีความรู้สึกว่านอกจากวิชาลึกลับบางอย่าง วิชาอื่นๆส่วนใหญ่นับว่าไร้ประโยชน์ เซียนขั้นตัดวิญญาณสามารถควบคุมพลังแห่งสวรรค์ได้ง่ายๆด้วยการสะบัดมือหนึ่งครั้ง ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือเข้าใจว่าจะใช้เขตแดนของตนอย่างไร
เขตแดนแห่งชีวิตและความตายเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ มันมุ่งเน้นความสนใจไปที่การเปลี่ยนแปลงคำพูด ทว่าแม้คำพูดจะเปลี่ยนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจ นอกจากนั้นหวังหลินเพียงแค่พึ่งเริ่มต้นเข้าใจมันเท่านั้น
เมื่อหวังหลินมีความสามารถในการควบแน่นเขตแดนแห่งชีวิตและความตายทั้งหมดของตัวเองไปเป็นวิชาหนึ่ง ถึงจะนับได้ว่าเชี่ยวชาญ ชีวิตและความตายในฝ่ามือแต่ละข้างจะแทนที่ด้วยวัฎจักรเวียนว่ายตายเกิดแห่งสวรรค์
ขณะที่เหาะเหินไปหวังหลินนึกถึงการต่อสู้กับผีเสื้อแดงอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ทั้งสามคนไม่ใช่คนปกติดังนั้นจึงเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาได้มาถึงสุดทางหนึ่งของพื้นที่ชิ้นส่วนแห่งนี้ภายใต้การชี้ทางของฉีหู มีภูเขาขนาดใหญ่แห่งหนึ่งอยู่ที่นี่
ภูเขาแห่งนี้เป็นรูปร่างคล้ายกับมังกรขณะที่เศียรของมันอยู่ในก้อนเมฆ ก้อนเมฆทำให้เศียรมังกรดูไม่สมจริง ที่นี่เป็นพื้นที่การฝึกฝนของเซียนที่หาได้ยากยิ่ง
หวังหลินยกศีรษะขึ้นและมองไปบนภูเขา “พี่ฉีหู ทำไมถึงไม่มีคนอื่นพบตำแหน่งที่แสดงในหินหยก? โปรดอธิบายให้เราด้วย”
ฉีหูยิ้ม “ถึงเวลาที่ข้าจะบอกความจริงน้องเซิ่ง เหตุผลที่ข้ามั่นใจว่าไม่มีใครพบสถานที่แห่งนี้เป็นเพราะมันไม่ใช่ที่ที่สามารถเข้าผ่านวังวนได้”
แววตาหวังหลินเผยท่าทีสนใจ
ดวงตาผีเสื้อแดงเพ่งไปบนฉีหู
ฉีหูหัวเราะ “พื้นที่ตำแหน่งรูปภาพในหินหยกได้แสดงไว้ก็คือพื้นที่ทับซ้อนที่หาได้ยากมาก”
ใบหน้าหวังหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะเข้าใจในทันที เมื่อดินแดนสวรรค์แตกกระจาย ชิ้นส่วนกระจายไปแบบสุ่มดั้งนั้นจึงมีโอกาสที่ชิ้นส่วนบางชิ้นจะทับซ้อนกันซึ่งทำให้มันค้นหาได้ยากมาก
แม้กระทั่งจะสุ่มมาจากวังวน พวกเขาเพียงมาถึงพื้นที่ส่วนบน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีชิ้นส่วนอีกชิ้นที่อยู่ข้างใต้มัน
ตามตรรกกะเหตุผลนี้แล้วมันจึงสันนิษฐานได้ว่ายังไม่มีใครหามันพบ
ฉีหูหัวเราะ “รวมถึงว่าแม้แต่ชั้นแรกก็ไม่ใช่สถานที่ที่สามารถเข้าไปได้ง่ายๆเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายจนไม่สามารถสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายได้ แม้จะมีใครมีโอกาสมาถึงที่นี่ก็ไม่สามารถทนอย่ได้นาน”
ผีเสื้อแดงเย้ยหยัน “เมื่อตอนนั้นท่านฉีซื่อหามันเจอได้อย่างไรเล่า?”
แววตาฉีหูสว่างขึ้นและเอ่ยออกมา “ผีเสื้อแดง เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความลับของตระกูล ดังนั้นข้าไม่สามารถพูดได้”
หวังหลินมองภูเขารูปมังกรและเงียบเสียง
ร่างฉีหูเคลื่อนไหวและเหาะเหินเข้าหาภูเขา ในไม่ช้าทั้งสามคนก็มาถึงยอดและยืนอยู่บนเศียรมังกร ฉีหูกระจายสัมผัสวิญญาณออกมาและเอ่ยขึ้น “หนึ่งเดือนก่อนข้ามาที่นี่เพื่อตรวจสอบและพบว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ยังอยู่ครบถ้วน เมื่อใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้เราจะสามารถไปเพื่อชิ้นส่วนที่ใกล้ที่สุดกับปลายทางของเรา” สิ้นคำเขาก้าวเข้าไปบนจุดว่างเปล่าหนึ่ง จุดนั้นสว่างขึ้นและร่างกายฉีหูหายวับไป
ผีเสื้อแดงมองไปที่หวังหลิน สายตาของนางสว่างขึ้นและเดินเข้าไปในค่ายกลโดยไม่เอ่ยคำใด
หลังร่างของผีเสื้อแดงหายไป หวังหลินเดินเข้าไปเช่นกันด้วยความสงบนิ่ง
ในเหล่าชิ้นส่วนหลากหลายชิ้นของดินแดนสวรรค์ ในขอบทางทิศใต้มีชิ้นหนึ่งในปัจจุบันเต็มไปด้วยความหนาวอันโหดร้ายและน้ำแข็งปกคลุมผืนดิน
เมื่อหวังหลินเดินออกมาจากค่ายกลในท้องฟ้า เขาขมวดคิ้วทว่าเมื่อมองไปยังผีเสื้อแดง นางเผยใบหน้าสบายๆ สภาพอากาศเช่นนี้ไม่เพียงแต่ไม่ทำอันตรายต่อนางแต่มันยังทำให้นางรู้สึกดีอีกด้วย
ฉีหูเอ่ยอย่างเคร่งเครียด “สหายเซียนผีเสื้อแดง นี่คือเส้นทางสู่ชิ้นส่วนขั้นแรกซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกไปสามแสนลี้ ที่นี่เป็นดินแดนน้ำแข็งและเราจำเป็นต้องใช้ความสามารถของเจ้าเพื่อกันความหนาวเย็น เมื่อเราผ่านดินแดนน้ำแข็งแห่งนี้ได้เราจะพบมิติว่าง ข้ามีเข็มทิศดวงดาวเพื่อให้มั่นใจว่าเราทั้งสามคนจะไม่หลงทาง น้องเซิ่งสิ่งที่คล้ายกับวิญญาณเหล่านั้นที่เจ้าควบคุมมีประโยชน์อย่างยิ่งในมิติว่าง ดังนั้นโปรดอย่าเก็บมันไว้ เมื่อเราผ่านมิติว่างไปได้จะบรรลุชิ้นส่วนแห่งแรก นอกจากนั้นมันไม่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายที่นั่นดังนั้นนี่จึงเป็นหนทางเดียวเพื่อให้แน่ใจว่าเราทั้งสามคนจะไปที่นั่นได้สำเร็จ”
เมื่อฟังเรื่องนี้ในที่สุดหวังหลินก็เข้าใจว่าฉีหูเชิญชวนเขาก็เพราะเหล่าวิญญาณเร่ร่อน ดูเหมือนว่าที่นั่นจะมีอุปสรรคที่สามารถผ่านไปได้ง่ายๆด้วยเหล่าวิญญาณเร่ร่อน
ร่างผีเสื้อแดงเหาะเหินไปบนอากาศและเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออกอย่างรวดเร็ว ในพริบตาทั้งสามคนหายตัวไปสู่พื้นที่ไกลๆ ทว่าหลังจากเหาะเหินมาหลายลี้หวังหลินมองกลับไปทิศทางที่จากมาและเผยใบหน้าสงสัย
สำหรับสามคนการเดินทางสามแสนลี้ต้องใช้เวลาครู่ใหญ่
ในวันนี้ทั้งสามคนได้มาถึงจุดที่ห่างจากจุดเริ่มต้นสามแสนลี้ ณ จุดขอบทางทิศตะวันตกพื้นดินดูเหมือนจะถูกฉีกออกไป พื้นที่ต่อจากนั้นเป็นดินแดนว่างเปล่าไร้จุดสิ้นสุด