474. หินไม้มิติว่าง
กล่าวได้ว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่มาก่อนจะเข้ามาจากประตูทางทิศตะวันตกเพราะมันอยู่ใกล้ลานการค้าอิสระมากกว่า ของส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถหาได้ที่ร้านค้าสามารถหาได้ที่นั่นและราคาน้อยลงนิดหน่อย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือมันยากที่จะบอกว่าของชิ้นนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม ไม่เหมือนเหล่าร้านค้าที่ไม่สามารถขายของปลอมได้ ร้านแผงลอยในลานกว้างนั้นของแต่ละชิ้นขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ขายเป็นหลัก
ส่วนคนที่เข้ามาจากประตูตะวันออกเป็นครั้งแรกที่เข้ามาในเมืองนั้นนั่นคือลูกค้าใหญ่!
ชายหนุ่มรีบตอบ “ผู้อาวุโส ผู้น้อยชื่อลี่ต้านหนาน ข้าเติบโตขึ้นในเมืองหมิงเม่ย หากผู้อาวุโสต้องการ ผู้น้อยสามารถแนะนำช่วยเหลือผู้อาวุโสหลีกเลี่ยงปัญหาจำนวนมากได้ ค่าใช้จ่ายเพียงหินวิญญาณระดับสูงสิบก้อนเท่านั้น…”
หวังหลินมองเขา ครุ่นคิดและพยักหน้า หินวิญญาณระดับสูงสิบก้อนถือว่ามีราคานิดหน่อยซึ่งสามารถเอามาซื้อสมบัติระดับต่ำและเม็ดยาได้ ทว่าก่อนที่หวังหลินเข้าไปในสุสานซูซาคุเขาขโมยหินวิญญาณจากเผ่าละทิ้งอมตะจำนวนมากดังนั้นตอนนี้จึงร่ำรวยยิ่งนัก
ลี่ต้านหนานเผยท่าทางนอบน้อมทันทีและถามขึ้น “ผู้อาวุโสมองหาสิ่งใดอยู่ สมบัติวิเศษ หินหยกสวรรค์หรือวัตถุดิบ? หรือพวกรูนหรือวิชาเซียน?”
“ข้าต้องการหินไม้มิติว่าง เจ้าเคยได้ยินมันไหม?”
“หินไม้มิติว่าง…” ลี่ต้านหนานเผยใบหน้าขบคิดก่อนดวงตาส่องสว่างขึ้น “หรือว่าหินไม้มิติว่างที่ว่านี้มีธาตุพฤกษาแผ่ขยายเหมือนกับหินและงอกขึ้นหนึ่งนิ้วทุกพันปี?”
หวังหลินตกใจที่เขารู้เรื่องหินไม้มิติว่างขนาดนี้ นั่นแสดงว่าเขามีความรู้มากทีเดียว หินไม้มิติว่างเป็นหนึ่งในวัตถุดิบจากความทรงจำของตู่ซือในการสร้างเข็มทิศดวงดาวของเทพโบราณ
เผ่าเทพโบราณปกติไม่จำเป็นต้องใช้เข็มทิศดวงดาวเพราะพวกเขาสามารถเหาะเหินผ่านอวกาศด้วยร่างกายตัวเองได้
มีเพียงสถานที่พิเศษไม่กี่แห่งหรือเทพโบราณระดับต่ำที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ ทว่าเข็มทิศดวงดาวของเทพโบราณแตกต่างเล็กน้อยจากสมาพันธ์เซียน
มันต้องใช้วัตถุดิบพิเศษและวิธีการพิเศษเพื่อหล่อหลอม ทว่าเมื่อมันเสร็จสมบูรณ์มันจะเร็วมากขึ้นหลายเท่าและทรงพลังมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
หวังหลินกล่าวอย่างเฉยเมย “ใช่แล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ข้ากำลังหาอยู่ มีร้านค้าใดขายมันหรือไม่?” เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มรู้เรื่องหินไม้มิติว่าง หินวิญญาณระดับสูงสิบก้อนนับว่าไม่สูญเปล่า
ลี่ต้านหนานเผยใบหน้ายุ่งยาก เขาลังเลเล็กน้อยและกล่าวออกมา “ผู้อาวุโส ข้าได้ยินเรื่องนี้จากคนอื่นเท่านั้น มีคนกำลังขายมันที่ตลาดการค้าอิสระแต่ราคาของมันสูงจริงๆ นอกจากสร้างสิ่งของให้เหาะเหินเร็วขึ้นนิดหน่อยแล้วไม่มีวิธีใช้อื่น ดังนั้นจึงไม่มีใครซื้อมันเลย หลังจากนั้นคนขายก็ทิ้งมันไว้ที่แพงลอยของสหาย หากผู้อาวุโสต้องการข้าสามารถนำทางไปได้ ทว่ามันแพงมากๆ หากผู้อาวุโสต้องการวัตถุดิบ ไม่หาอันอื่นที่ดีกว่าหรือ?”
หวังหลินกล่าว “ข้ามีวิธีใช้ของข้าเอง นำทางไป!”
ลี่ต้านหนานไม่กล่าวอีกและนำหวังหลินตรงไปที่ตลาดการค้าอิสระทางด้านตะวันตก
ตลาดการค้าฝั่งตะวันตกมีขนาดใหญ่มากและเต็มไปด้วยเสียงอึกทึก ลี่ต้านหนานเกิดที่นี่แน่นอนดังนั้นจึงนำทางหวังหลินไปที่แผงรอยอย่างรวดเร็ว
พื้นดินปกคลุมไปด้วยแผงลอยที่จัดตั้งขึ้นโดยพวกเซียน มีทั้งสมบัติวิเศษ เครื่องดนตรีพิเศษ เม็ดยา วิชาเซียนและสิ่งใดก็ตามที่ท่านต้องการ มีแม้กระทั่งสมบัติโบราณที่มีรูปร่างแปลกประหลาดซึ่งให้ความสนใจจากพวกเซียนจำนวนมาก
ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไป ลี่ต้านหนานอธิบายกฎของตลาดการค้าอิสระให้หวังหลินฟัง ลี่ต้านนานเคร่งเครียดไม่นานก็เล่าเรื่องตลกและอธิบายการทำงานของตลาดการค้าอิสระให้ฟัง
“ผู้อาวุโสดูที่เซียนหัวล้านนั่นสิ เขามาที่นี่ทุกๆสามสี่ปีและขายของหายากทุกครั้ง”
“ผู้อาวุโส คนที่สวมผ้าคลุมเซียนสีขาวดำนั่นไม่ได้มาที่นี่นานแล้วแต่ของทุกอย่างที่เขาขายเป็นของปลอมและหลอกคนไปบ้าง ไม่กี่วันก่อนข้าเห็นคนผู้หนึ่งไล่ล่าเขา ข้าไม่คิดว่าจะเห็นเขาอีกครั้ง คนที่ไล่ล่าเขาอาจจะล้มเหลวไม่ก็ตายไปแล้ว”
หวังหลินมองแต่ละคนที่ลี่ต้านหนานชี้ออกมา
หลังผ่านไปสักพักพวกเขาก็มาถึงร้านแผงลอยขนาดใหญ่ ลี่ต้านหนานคำนับฝ่ามือและกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโสจ้าง ท่านยังจำข้าได้ไหม?”
เจ้าของร้านแผงลอยเป็นชายใบหน้าแดงก่ำ เขามองลี่ต้านหนานและยิ้มแย้ม “เด็กน้อย สมบัติชิ้นไหนของข้าดึงดูดความสนใจของเจ้ากันเล่า?” ขณะที่ชายชราเอ่ยขึ้น สายตากวาดผ่านหวังหลินอย่างลวกๆแต่ดวงตาแข็งค้างทันทีและรูม่านตาหดเล็กลง
ด้วยระดับบ่มเพาะของเขาจึงสามารถบอกได้ว่าหวังหลินไม่ใช่คนเรียบง่ายเพียงแค่ชำเลืองมอง เขาเปลี่ยนเป็นเคารพทันทีและกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโส ผู้น้อยชื่อจ้างฮัวหลิน ข้าสงสัยว่าท่านกำลังมองหาสิ่งใด”
หวังหลินมองชายใบหน้าแดงและพลางกล่าว “หินไม้มิติว่าง!”
ชายใบหน้าแดงตกตะลึงและกล่าวขึ้น “ราคาของชิ้นนี้ไม่ถูกและผู้น้อยรับมาจากคนอื่น เขากล่าวว่ามันไม่ได้เอาไว้แลกเปลี่ยนและให้ขายออกไปด้วยหินวิญญาณระดับสูงชั้นยอดห้าก้อนเท่านั้น!”
ลี่ต้านหนานยิ้มอย่างขื่นขม “หินวิญญาณระดับสูงชั้นยอดห้าก้อน…มันราคาสูงส่งจริงๆ นอกจากแคว้นเซียนระดับเจ็ดแล้วหินวิญญาณระดับสูงชั้นยอดหายากมาก วัตถุดิบที่ดีกว่านี้ยังไม่แพงเท่าในแคว้นระดับเจ็ด”
ชายชราใบหน้าแดงถอนหายใจ “ราคามันสูงจริงๆ แต่สหายของข้าดื้อดึงเกินไป ผู้อาวุโสท่านคิดอย่างไร…”
หวังหลินครุ่นคิดและกล่าวออกมา “เอามาให้ข้าดูหน่อย”
จ้างฮัวหลินลังเลเล็กน้อยและตบกระเป๋า หินสีฟ้าขนาดเท่าฝ่ามือปรากฎบนมือ กิ่งก้านสาขาคล้ายเส้นโลหิตบนหินราวกับมีต้นไม้กำลังเติบโตข้างใน
มีชั้นแสงบางๆล้อมรอบหินซึ่งเป็นวิชาหนึ่งที่ต้องเรียนไว้ในการทำธุรกิจที่นี่ เรียกวิชานี้กันว่าผนึกกับดัก เอาไว้ป้องกันคนชิงมันมาด้วยกำลัง
เว้นแต่ผู้ซื้อมีระดับสูงส่งเหนือกว่าผู้ขาย มันจะใช้เวลาสิบลมหายใจเพื่อทำลายมัน เวลาสิบลมหายใจนี้ถือว่าอันตรายทีเดียวเช่นนั้นมันจึงทำให้ผู้ขายมักจะเก็บของกลับไปก่อน
หวังหลินสะบัดแขน ก้อนหินลอยออกจากฝ่ามือชายชราและเข้าสู่หวังหลินทันที ม่านแสงดูไม่มีผลกระทบเลยและแตกสลายหลังจากหินไม้มิติว่างถึงมือหวังหลิน
ใบหน้าจ้างฮัวหลินเปลี่ยนไปและสูดอากาศอันหนาวเหน็บ เขาคิดว่าตัวเองประเมินระดับบ่มเพาะชายหนุ่มคนนี้ต่ำเกินไปและดูเหมือนประเมินผิดไปจริงๆ อย่างน้อยชายหนุ่มคนนี้ก็มีระดับขั้นแปลงวิญญาณ!
หวังหลินตรวจสอบหินไม้มิติว่าง หลังยืนยันได้ว่าเป็นของที่ถูกต้องเขาจึงสะบัดแขนและเก็บมันใส่ในกระเป๋า
“ผู้อาวุโส…” จ้างฮัวหลินใบหน้าน่าเกลียดจึ้น
แต่ก่อนที่จะทันพูดจบ หินวิญญาณสีขาวน้ำนมห้าก้อนก็ปรากฎเบื้องหน้า
เพียงชำเลืองก็บอกได้ว่าหินวิญญาณสีขาวน้ำนมห้าก้อนนี้คือหินวิญญาณระดับสูงชั้นยอด เขารีบเก็บมันกลับไปและมองรอบๆอย่างระมัดระวัง หลังเห็นว่าไม่มีคนมากนักสังเกตได้จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อหันมาหาหวังหลินอีกครั้ง เขาเห็นเพียงแต่แผ่นหลังหวังหลินในฝูงชน
จ้างฮัวหลินครุ่นคิดเล็กน้อย หลังขายอยู่ที่นี่อีกครึ่งวันเขาก็รีบออกไปจากเมือง รู้ตัวว่าด้วยหินวิญญาณระดับสูงชั้นยอดห้าก้อน พวกเซียนขั้นตัดวิญญาณระดับกลางคงจะออกมาไล่ล่าเขาเป็นแน่
เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะขายหินไม้มิติว่างชิ้นนั้นออกไปได้
ส่วนหวังหลิน หลังจากออกมาจากแผงลอยเขาก็มองเบื้องหลังอย่างระมัดระวัง ตอนที่ซื้อหินไม้มิติว่าง เขาสังเกตสายตาสามคู่จ้องบนตัวเขาราวกับสายฟ้า
หวังหลินกล่าวอย่างเฉยเมย “ลี่ต้านหนาน!”
ลี่ต้านหนานรีบเดินเข้ามาและกล่าวอย่างนอบน้อม “ผู้อาวุโส ผู้น้อยอยู่นี่!” เขาเคารพยิ่งมากกว่าก่อน เหตุการณ์ที่หวังหลินนำหินไม้มิติว่างมายังสั่นสะเทือนจิตใจเขา
หวังหลินถาม “หากสมบัติสำคัญแลกเปลี่ยนที่นี่ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเซียนคนอื่นสอดแนม เช่นนั้นทำไมถึงยังมีเซียนจำนวนมากแลกเปลี่ยนกันเล่า?”
ลี่ต้านหนานรีบตอบ “ผู้อาวุโสน่าจะไม่รู้ แต่คนส่วนใหญ่ที่มาซื้อขายในร้านแผงลอยเหล่านี้ไม่ได้มาคนเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เกรงกลัวคนจะสอดแนมพวกเขา”
“ส่วนคนที่กังวลเรื่องนั้น พวกเขาสามารถทิ้งมันขายไว้กับร้านค้าที่เชื่อใจและค่อยกลับมาตอนที่มันขายออกไปแล้ว การป้องกันเช่นนี้แก้ปัญหาที่ไม่จำเป็นขึ้นได้”
“บางคนสามารถไปจ้างคนคุ้มกันจากท่านจ้าวเมืองได้ อย่างไรก็ตามการแลกเปลี่ยนมักเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากเมื่อนานมาก่อนแล้ว ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตา”
หวังหลินยิ้ม เขารู้สึกไม่คุ้นเคยกับที่นี่แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนี้ตลอดใช่ไหม? ตอนที่อยู่ในทะเลปิศาจเขาก็ถูกไล่ล่าเพราะเตาปรุงยามาแล้ว
หวังหลินมองขึ้นไปบนฟ้าและเอ่ยถาม “มีหมึกหิมะที่นี่ไหม?”
“หมึกหิมะ…” ลี่ต้านหนานคิดอยู่นานแต่ก็นึกอะไรไม่ออก เขายิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโส ผู้น้อยไม่รู้ว่ามันคืออะไร”
หลังกล่าวจบ ดวงตาลี่ต้านหนานสว่างขึ้นและกล่าวออกมา “ผู้อาวุโส แม้ว่าข้าจะไม่รู้แต่ร้านค้าตระกูลฉางเก็บรวบรวมวัตถุดิบนับไม่ถ้วน อาจจะมีสิ่งที่ท่านต้องการ”
หวังหลินถอนสายตาและกล่าวขึ้น “โอ้? เล่าให้ข้าฟัง”
ลี่ต้านหนานกล่าวทันที “ร้านค้าตระกูลฉางเป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหมิงเม่ย มันเป็นร้านค้าหมายเลขหนึ่ง ข่าวลือว่าถูกสนับสนุนโดยดาวเซียนระดับเจ็ดและมีสาขาอยู่บนดาวแลกเปลี่ยนหลากหลายแห่ง”
“ใครก็ตามที่ซื้อจากที่นี่จะถูกร้านค้าปกป้องจนกว่าพวกเขาจะออกห่างไปห้าหมื่นลี้จากดาวเคราะห์ หากต้องการยังสามารถปกป้องท่านจนกลับไปถึงดาวเซียนของท่านได้!”
หลังจากหวังหลินได้ยินเช่นนี้ เขาพยักหน้าและกล่าว “นำทางไป!”
ลี่ต้านหนานตื่นเต้น เขาอาศัยอยู่ในเมืองหมิงเม่ยมานานหลายปี แต่ไปฝั่งทิศเหนือแค่สองครั้งเท่านั้น เขาไม่ได้เข้าไปในร้านค้าทั้งสองครั้ง มีเพียงเซียนทรงพลังสามารถเข้าไปข้างในได้ หากไม่มีเงินเพียงพอก็ไม่สามารถซื้ออะไรได้สักชิ้นที่นั่น
ด้วยการนำทางของลี่ต้านหนาน ทั้งสองมาถึงฝั่งทิศเหนือของเมืองอย่างรวดเร็ว เบื้องหน้าคือร้านค้าคล้ายกับพระราชวังทั้งเก้าแห่งที่มีหอคอยสูงกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง