Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 584

Cover Renegade Immortal 1

584. ฉวี่ลี่กั๋ว 2

“คนคนนี้แข็งแกร่งมาก!” หนึ่งในคนท่ามกลางเหล่าแม่ทัพปิศาจปลดปล่อยรัศมีมืดมิด ดวงตาจ้องหวังหลินเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้ เขาเป็นแม่ทัพปิศาจที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเข่นฆ่า ยู่เสิน

“น่าสนใจ ข้าไม่คาดคิดว่าโม่ลี่ไฮ่จะมีคนช่วยที่น่าเหลื่อเชื่อเช่นนี้…ข้าไม่รู้ว่าเขาจะทนได้นานแค่ไหนหากข้าใช้วิชาเจ็ดปิศาจ…” ท่ามกลางแม่ทัพปิศาจมีชายผมดำอยู่หนึ่งคน เขาสัมผัสแหวนบนนิ้วและเผยรอยยิ้มเบาบาง

“โหดเหี้ยม!” รองผู้บัญชาการซวนกอดอกแน่นและจิตใจเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย

หัวหน้าผู้บัญชาการสูงสุดทั้งแปดคนเพ่งความสนใจบนหวังหลิน หนึ่งในนั้นสวมเสื้อสีเขียว เขาดูสง่างามและมองหวังหลินด้วยสายตาชื่นชม

“การลงมือของเขาสะอาดหมดจดและไม่ต้องเสียเวลาให้มากนัก เด็กคนนี้ใช้ได้ดีทีเดียว!”

เฉินต้าวยืนอยู่ข้างๆฉีเจี้ยนและกำลังจ้องมองหวังหลิน ศิษย์น้องคนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างมาก เขาทรงพลังมากขึ้นจนกล่าวได้ว่าความทรงพลังของเขานั้นเป็นจุดที่น่าหวาดหวั่น!

การต่อสู้กับโอวตี้เป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เฉินต้าวตกใจมากที่สุดคือฝ่ามือที่หวังหลินส่งเข้าใส่หอกสีทอง เฉินต้าวรู้ได้อย่างชัดเจนว่าหอกสีทองนั้นคืออะไร เขาได้ยินมาจากเทียนหยุนมาก่อนว่ามีวิชาที่สามารถเก็บเกี่ยวพลังของดวงอาทิตย์และควบแน่นเป็นของเหลวได้ เทียนหยุนยกย่องวิชานี้ไว้มาก

แม้ว่าชายเกราะทองไม่ได้บรรลุระดับบ่มเพาะที่สามารถเปลี่ยนพลังงานจากดวงอาทิตย์ให้กลายเป็นของเหลวได้ แต่การโจมตีนั้นบรรจุพลังของดวงอาทิตย์ไว้จริงๆ!

เฉินต้าวเชื่อว่าแม้เขาจะสามารถใช้ฝ่ามือเพื่อทำให้มันเคลื่อนได้สักเล็กน้อย แต่การเปลี่ยนทิศทางมันอย่างสมบูรณ์เหมือนที่สองมือของหวังหลินนั้นถือว่าเข้าขั้นยากที่สุด! นั่นไม่ใช่เรื่องระดับบ่มเพาะหรือพลังปราณสวรรค์ มันเป็นการณ์คำนวณ รูปแบบของการคาดการณ์!

“หากเขาอยู่สภาวะนี้ตอนที่เราสู้กันเพื่อตำแหน่งศิษย์สายตรง…ข้าข้าจะเอาชนะได้ ข้าก็คงได้รับบาดเจ็บหนักและต้องปิดด่านฝึกตนถึงร้อยปี ทั้งยังมีโอกาสที่ระดับบ่มเพาะของข้าจะตกลงอีกด้วย!” เสินต้าวสูดหายใจลึกและมองหวังหลินด้วยท่าทางอันซับซ้อน

ส่วนคนที่มีความสุขมากที่สุดนั้นแน่นอนว่าคือโม่ลี่ไฮ่ เขาไม่ได้ซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าไว้เลยและรู้สึกว่าตอนนั้นเขาตัดสินใจได้ถูกมากจริงๆ!

“ด้วยความสัมพันธ์ของเรา เราจะไม่เป็นศัตรูกันในอนาคตแน่นอน ด้วยความแข็งแกร่งของหวังหลินในตอนนี้ ข้ามีโอกาสสูงขึ้นไปอีก! อย่างไรก็ตามหัวหน้าทองคำกลับพาลใส่ หากวันหนึ่งที่ข้าได้กลายเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการสูงสุด ข้าจะสั่งสอนบทเรียนเขาแน่นอน!”

ลมหายใจเย็นเฉียบหนึ่งส่งเสียงดังไปทั่วสนามประลองดุจประกายสายฟ้าซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่เพ่งสายาที่คนที่กำลังพ่นลมหายใจนี้

ชายเกราะทองชี้หวังหลินและตะโกน “เจ้ารู้กฏอยู่แล้วว่าใครก็ตามที่ฆ่าแม่ทัพปิศาจจะถูกสังหาร! เมื่อเห็นว่าแม่ทัพปิศาจโอวตี้ไม่ได้ตาย ข้าจะผ่อนให้เจ้าหนึ่งครั้ง ต่อไปผู้ช่วยของโอวตี้ ออกมา!”

ฝูงชนจากสองฝั่งเงียบสนิทก่อนจะมีเสียงอ่อนๆดังขึ้น “ข้ายอมแพ้!”

สายตาชายเกราะทองมองหวังหลินด้วยความืดมนและเอ่ยขึ้น “เจ้าชนะในรอบนี้ ลงไปได้!”

หวังหลินเดินผ่านแม่ทัพปิศาจโดยไม่ได้กล่าวอะไร ขณะที่เดินผ่านไปแม่ทัพปิศาจบางส่วนด้านหน้าก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวเพื่อเปิดทางให้เขา

เมื่อหวังหลินมาถึงด้านข้างโม่ลี่ไฮ่ สายตาโม่ลี่ไฮ่ส่องสว่างและเอ่ยเสียงเบา “น้องหวังอย่ากังวลเรื่องหัวหน้าทองไปเลย เขาเป็นแค่ขันที หากจักรพรรดิปิศาจโปรดปรานเจ้าจริงๆ เขาจะทำอะไรได้?!”

หวังหลินยิ้มบางแต่ไม่ได้กล่าวอะไร

ณ ตอนนี้ส่วนลึกด้านในอารามกระบี่จักรพรรดิ กระบี่จักรพรรดิอยู่ในค่ายกลซึ่งกำลังปลดปล่อยเสียงหึ่งๆเพราะมันอยู่ในเมืองจักรพรรดิตอนที่หวังหลินโจมตี มันรู้สึกกลิ่นอายเดียวกันกับที่ทำให้มันโกรธ

ในความโกรธของมัน มันลอยออกไปจากพื้นและกำลังจะพุ่งออกไปทำลายคนคนนั้นเสมือนกับที่มันทำลายคุกเมืองฮ่องหลายครั้ง ทว่าขณะที่มันลอยขึ้นสู่อากาศมันก็เริ่มลังเล

นอกจากนั้นแล้วจักรพรรดิปิศาจได้บอกมันให้อยู่เงียบๆสักพักและห้ามปรากฏตัวระหว่างการประลองแม่ทัพปิศาจ ไม่เช่นนั้นมันจะถูกส่งไปที่ทะเลสาบมังกร

เมื่อคิดเช่นนี้ กระบี่จักรพรรดิส่งเสียงหึ่งๆออกมาและปลายกระบี่ชี้ไปที่ประตูปิศาจฟ้า หลังจากดิ้นรนอยู่พักใหญ่ในที่สุดมันก็เคลื่อนไหวและเปลี่ยนเป็นหญิงสาวอายุราวยี่สิบปี ดวงตาของนางสดใสราวกับไข่มุกและรูปร่างงดงามมาก นางร่อนลงพื้นและกระทืบอยู่หลายครั้งทันที ทุกครั้งที่นางกระทืบเท้าจะเกิดปราณกระบี่กระพริบหนึ่งครา

หลากหลายสถานที่ในอารามกระบี่ถูกทำลายลงไปเพราะเพื่อให้นางระบายความโกรธ ตอนนี้ดวงตานางได้เปลี่ยนไปแล้ว

“จักรพรรดิปิศาจไม่อนุญาตให้กระบี่จักรพรรดิไปไหน แต่ข้าเป็นวิญญาณกระบี่ดังนั้นมันควรไม่เป็นไร…มันควรไม่เป็นไร…ก็ได้ ข้าจะไม่โจมตี ข้าเพียงเข้าไปมองหาอาหารที่น่ารังเกียจนั่นและจดจำกลิ่นอายของมันเอาไว้เพื่อจะให้ข้าหาตัวได้ง่ายๆ ใช่แล้วแบบนี้ไม่ควรจะมีปัญหา…” นางกระพริบตาอีกสองสามครั้งก่อนจะลอยออกจากอารามกระบี่และมุ่งตรงไปที่ประตูปิศาจฟ้า

เมื่อนางมาถึงสนามประลองหมื่นฟุต ร่างของนางเปลี่ยนเป็นไร้ตัวตนและร่อนลงบนยอดหลังคาสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่งและมองลงไป

ขณะที่นางปรากฏตัวบนยอดพระราชวังนั้น สายตาแปดคู่ดูเหมือนจะมองเข้ามาโดยไม่ตั้งใจ

ร่างของนางสั่นเทาและแลบลิ้นออกมา สายตาแปดคู่นั้นมาจากหัวหน้าผู้บัญชาการสูงสุด หลายคนเผยรอยยิ้มบางๆ

หวังหลินกำลังเฝ้าดูการประลองของแม่ทัพปิศาจที่เหลือแต่ทว่าพลันรู้สึกบางอย่างได้ หวังหลินได้เชื่อมต่อกับฉวี่ลี่กั๋วที่อยู่ในกระบี่สวรรค์ นอกจากนั้นแล้วฉวี่ลี่กั๋วถูกเขาหลอมด้วยตัวเอง ซึ่งตอนนี้มันอยู่ในกระเป๋าของอย่างไม่เชื่อฟังคำสั่งแต่ร้องตะโกนในใจหวังหลินด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“นายท่าน! ปล่อยข้าออกไป ในที่สุดความสุขของข้าก็อยู่ที่นี่ เร็วเข้า ปล่อยข้าออกไป!”

หวังหลินเอ่ยขึ้นในใจ “เกิดเรื่องอะไร?!”

“นายท่าน ท่านยังจำกระบี่จักรพรรดิที่กำลังค้นหาท่านได้ไหม? ตอนแรกข้าไม่ได้ให้ความสนใจสักนิดแต่ข้าพึ่งพบว่าวิญญาณกระบี่เล่มนั้นเป็นเด็กหญิงน่ารัก…”

ร่างหวังหลินสั่นเทา จากนั้นขัดคำพูดฉวี่ลี่กั๋วและถามออกมา “ที่นี่หรือ?”

ฉวี่ลี่กั๋วกล่าวอย่างภูมิใจ “นางอยู่บนยอดวังตรงนั้น นายท่านไม่สามารถเห็นนางได้ มีเพียงข้าเท่านั้นที่เห็น!” หลังกล่าวจบมันนึกถึงชื่อเสียงหวังหลินได้ว่าเป็นอสูรร้าย ตัวมันสั่นเทาและรีบเอ่ยขึ้น “นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับการบ่มเพาะ ข้าสามารถเห็นนางได้เพราะข้ารู้เคล็ดวิญญาณกระบี่มาจากดาบน้อย มันบอกว่าวิญญาณกระบี่ระดับสูงสามารถสัมผัสดวงอื่นได้เหมือนกับเราแม้ว่าจะอยู่ในประเป๋า แต่ว่าจะรู้สึกได้เมื่อวิญญาณตนอื่นออกมาจากกระบี่แล้วเท่านั้น”

ฉวี่ลี่กั๋วรู้ว่าหวังหลินกำลังคิดอะไรมันจึงพูดขึ้นมาทันที “นายท่านรีบเข้าเถอะ นางกำลังจะมองมาตรงนี้แล้ว! ท่านสบายใจได้ เจ้าดาบน้อยสอนเคล็ดที่ทำให้ข้าซ่อนกลิ่นอายกระบี่ที่ไม่มีใครสามารถเห็นได้ ท่านพักผ่อนเถอะ!”

หวังหลินขมวดคิ้วพลางตบกระเป๋าและเปิดช่องเล็กๆ ไม่มีใครสังเกตตัวตนของฉวี่ลี่กั๋วได้ราวกับเขาเป็นภูติผีที่มองไม่เห็น มันเปลี่ยนร่างเป็นควันเมฆและล่องลอยไปที่ยอดพระราชวัง

“ฮี่ฮี่ หนูน้อยคนสวย ปู่ฉวี่…เอ๊ย พี่ฉวี่มาหาแล้ว! ยายข้า นานแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่ได้สนุกสนานกับสาวน่ารักแบบนี้? ตั้งแต่ที่ความน่ารักนั้นถูกหวังหลินทำลายไป ข้าจะไม่ปล่อยนางน้อยคนนี้ไปแน่นอน!”

ฉวี่ลี่กั๋วเผยรอยยิ้มลามกพร้อมกับกระโจนเข้าหาเด็กสาวบนยอดพระาชวัง

นางกำลังมองดูเจ้าอาหารน่ารังเกียจในฝูงชน ทว่าเมื่อนางเห็นฉวี่ลี่กั๋วที่กำลังเข้ามาหานางด้วยท่าทีข่มขู่จึงทำให้นางตกตะลึงจนพูดไม่ออก

ฉวี่ลี่กั๋วเห็นท่าทางตกตะลึงของแม่นางน้อยคนนี้ มันรู้สึกภูมิใจและกระโจนเข้าใส่นาง หญิงสาวจ้องมองพร้อมกับเตะออกมา ปราณกระบี่หนึ่งเส้นลอยเข้าใส่ฉวี่ลี่กั๋วทันที

ฉวี่ลี่กั๋วเผยรอยยิ้มซุกซนและเอ่ยขึ้น “เราทั้งคู่ต่างเป็นวิญญาณกระบี่ ไม่จำเป็นต้องมาเย็นชาขนาดนั้น!” สิ้นคำพูดร่างพลันเปลี่ยนเป็นสายหมอกปล่อยให้ปราณกระบี่ทะลุผ่านไป เสี้ยววินาทีต่อมันมันกลับคืนร่างเดิมและกระโจนเข้าใส่นางอีกครั้งราวกับหมาป่า

นางจ้องฉวี่ลี่กั๋วอย่างดุร้าย พลางไม่ค้นหาอาหารตัวนั้นอีกต่อไปและเหาะหนีทันที ฉวี่ลี่กั๋วหัวเราะและรีบติดตามอย่างรวดเร็ว จากนั้นวิญญาณกระบี่ทั้งสองก็เลือนหายเข้าไปในวัง

“แม่นางน้อย เพียงแค่ทำตามพี่ใหญ่! หากเจ้าทำตามพี่ใหญ่ ข้าสัญญาว่าเจ้าจะมีชีวิตที่ดี อย่าคิดว่าข้าน่าเกลียด ถึงแม้ข้าจะมีน้องเล็ก เขาก็ยังเรียกว่าดาบ…”

คำตอบที่เขาได้มาคือปราณกระบี่หนึ่งสาย

“โอ้? แม่นางน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าอารมไม่ดีนะแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา พี่ใหญ่ฉวี่ของเจ้าชอบความโหดเหี้ยม นายท่านเคยบอกไว้ครั้งหนึ่งว่ายิ่งสาวน้อยร้ายกาจมากเท่าไหร่ เอวนางก็ยิ่งน่ารักมากเท่านั้น!”

ปราณกระบี่หนึ่งสายลอยเข้าใส่เขาและเสียงโกรธดังออกมา “นายของเจ้าไม่ใช่คนดี ไปซะ!”

“อาห์ เจ้ากล้าด่านายท่านหรือ?​ ดาบน้อย เจ้าได้ยินไหม? นี่ไม่ใช่ว่าข้าอยากให้เจ้าช่วยเรื่องส่วนตัวของข้า ข้าอยากให้เจ้าแก้ไขความประทับใจของนางที่มีต่อนายท่าน ดังนั้นข้าอยากให้เจ้าช่วยไปจับนางได้ไหม ข้าจะต้องพูดกับนางดีดี!”

คำตอบของเขาคือปราณกระบี่อีกหนึ่งสาย ปราณกระบี่ลอยทะลุผ่านท้องฟ้าพร้อมกับเสียงหัวเราะลามกของฉวี่ลี่กั๋ว

แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นวิญญาณกระบี่ เดิมทีฉวี่ลี่กั๋วไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางแต่ด้วยการช่วยเหลือของดาบน้อย พวกเขาจึงเท่ากันไม่เช่นนั้นจะไม่อาจเอาชนะตัวอื่นได้

นอกจากนี้สภาวะตื่นเต้นของฉวี่ลี่กั๋วได้เกิดแรงผลักขึ้นอย่างมากและทำให้เขามีความสามารถเกินกว่าที่ตนเองทำได้

“ก่อนที่ข้าจะกลายเป็นปิศาจด้วยน้ำมืออสูรร้ายตนนั้น ข้าถูกกลั่นแกล้งมาเช่นกัน อาห์ นี่มันก็นานมากแล้วตั้งแต่ช่วงเวลาดีดีจากเมื่อก่อน ตอนนี้ในที่สุดวันนี้ข้าก็พบเจ้า แม่สาวน้อยจะหนีไปไหน!”

แต่รอยยิ้มลามกของฉวี่ลี่กั๋วต้องหยุดลงทันทีและส่งเสียงคำราม “หน้าด้าน! เจ้ากลับเข้าไปในกระบี่เสียนี่ แล้วข้าจะกลับมา!”

ภายในอารามกระบี่ กระบี่จักรพรรดิโกรธเกรี้ยวและทำลายข้าวของทุกอย่างข้างในอาราม มันอยากออกไปข้างนอกหลายครั้งเพื่อฆ่าเจ้าบัดซบไร้ยางอายนั่น แต่ท้ายที่สุดก็ต้องระงับความต้องการ

“เจ้าวิญญาณกระบี่ไร้ยางอายมีเจตนาร้ายมากกว่าอาหารน่ารังเกียจนั่นเสียอีก!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version