Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 815

Cover Renegade Immortal 1

815. โลงศพผลึก

ขณะชายชรากำลังขบคิดอย่างเงียบๆ ต้าซานที่กำลังนอนอยู่บนแท่นไม้กลับตอบด้วยน้ำเสียงอ่อน “ข้าเต็มใจ…”

หวังหลินก้าวครั้งเดียวก้มาถึงข้างแท่นไม้ มองต้าซานซึ่งร่างแตกละเอียดและใกล้ตายรอมร่อ

บนร่างกายไม่มีรอยสักเหลืออยู่แล้ว รอยสักทั้งหมดเข้าสู่ร่างกายและกลายเป็นตัวการทำให้เขาต้องตาย

หวังหลินกล่าวน้ำเสียงสงบนิ่ง “วิชานี้จำเป็นต้องเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นและเต็มใจมุ่งมั่น ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นมันจะล้มเหลวแน่นอน”

ต้าซานเผยรอยยิ้มบิดเบี้ยวและกล่าวเสียงอ่อน “ไม่ต้องพูดมาก ข้าเต็มใจ!”

หวังหลินไม่เสียเวลาอีก คว้าตัวต้าซานและโยนเข้าไปในความว่างเปล่า พลางหายตัวออกไปไกลและส่องข้อความออกมา

“อย่าขัดขวางข้าเป็นเวลาสามเดือน!”

ชายชราจ้องทิศทางที่หวังหลินหายตัวไปด้วยสีหน้าซับซ้อน ท้ายที่สุดเขาก็กัดฟันแน่น หันกลับมาหาทุกคน “ในสามเดือน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับต้าซาน เราต้องโจมตีเตาหลอมหยินลี้ลับและออกไปจากที่นี่!”

หวังหลินกลับมาพร้อมกับต้าซานตรงตำแหน่งที่เขาหลอมสมบัติและวางต้าซานลงไป จากนั้นพ่นแกนพลังดั้งเดิมออกมาล้อมรอบต้าซานเอาไว้ ท้ายที่สุดนำธงวิญญาณพันล้านดวงออกมาส่ายไปมาและมีบางอย่างหลุดออกมา

ของชิ้นนี้คือภูติสวรรค์ที่หวังหลินได้รับมาในแดนสวรรค์อัสนี เมื่อมันปรากฏตัวกลับร้องคำรามและดิ้นรน หวังหลินชี้มันพลางนำแส้แห่งเวรกรรมออกมา แส้ฟาดเข้าใส่ภูติสวรรค์หลายครั้งทำให้มันส่องเสียงร้องโหยหวน

ในเวลาเดียวกันหวังหลินก็นำกระเป๋าอีกใบออกมาซึ่งมีหินหยกสวรรค์อยู่เป็นจำนวนมาก

นั่นยังไม่จบ เขาขบคิดเล็กน้อยและนำกะโหลกออกมามากกว่าสิบหัว กะโหลกพวกนี้มีอักขระรูนอันซับซ้อนกระพริบวูบวาบ มันคือกะโหลกจากเผ่าละทิ้งอมตะแห่งดาวซูซาคุ

หวังหลินมองต้าซานที่กำลังถูกแกนพลังดั้งเดิมปรับแต่ง พลางกล่าวสงบนิ่ง “ข้าจะใช้หินหยกสวรรค์เพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายเจ้า ภูติสวรรค์จะช่วยเจ้าสร้างวิญญาณขึ้นมาและกะโหลกของบรรพชนเจ้าจะช่วยเจ้าสร้างรอยสักที่สมบูรณ์แบบ ต้าซาน ข้าจะมอบโชคลาภอันยิ่งใหญ่ให้!”

“ถ้านี่ยังไม่สำเร็จ เช่นนั้นเจ้าก็ขาดโชค!”

เวลาเลื่อนผ่านไปมากกว่าสองเดือน จนวันนี้เองทุ่งราบที่หวังหลินอยู่พลันปลดปล่อยเสียงดังสนั่นจนแม้แต่สมาชิกเผ่ายังได้ยินและทั้งหมดเหาะเหินกันออกมา

คนแรกที่ตอบสนองคือชายชรา ปัจจุบันซีดเซียวยิ่งราวกับสองเดือนผ่านไปหลายปี เขาดูแก่ขึ้นมากโข

พื้นที่ราบตรงหวังหลินเต็มไปด้วยฝุ่นผง ชายสูงยี่สิบฟุตกำลังเดินอยู่ข้างในฝุ่น ทุกผีก้าวดุจสายฟ้าดังสนั่นกึกก้องไปทั่วผืนแผ่นดิน

ชายร่างกำยำคิ้วหนา ทั้งร่างเปลืองแสงสีทอง เขาดูราวกับยักษ์!

บนร่างไม่มีรอยสักอันใดแต่ระหว่างคิ้วกลับเป็นรอยสักอันซับซ้อนหนึ่งจุด มันซับซ้อนเสียจนแค่มองดูก็ทำให้รู้สึกมึนงงได้แล้ว!

ความซับซ้อนของอักขระรูนนี้อยู่เกินกว่าจินตนาการ สายตาชายร่างกำยำแฝงสติปัญญาและเดินออกมานอกฝุ่น หวังหลินเดินออกมาจากด้านหลัง สีหน้าท่าทางแฝงความเหนื่อยล้า

เขามองแผ่นหลังชายร่างกำยำเบื้องหน้า สายตาแฝงความเสียใจเล็กๆ

‘โชคร้ายนัก ท้ายที่สุดเขาก็บรรลุขั้นรูปธรรมหยางสูงสุดเท่านั้นและไม่สามารถทะลวงสู่ขั้นส่องสวรรค์ได้!’ ร่างหวังหลินเคลื่อนไหวปรากฏตัวอยู่บนไหล่ของเจ้ายักษ์ตรงหน้า มันเดินตรงเข้าหาตำแหน่งเผ่าอมตะที่ถูกเลือกอยู่

‘ข้าไม่คิดว่าการบริโภคหินหยกสวรรค์จำนวนมากนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยฟื้นฟูร่างกาย แต่ยังช่วยให้เขาเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว ภูสวรรค์ยิ่งเป็นส่วนสำคัญ หากไม่ใช่มันคงล้มเหลวทันทีในขั้นตอนที่สอง’

หวังหลินยืนอยู่บนไหล่และเริ่มขบคิด

“ระหว่างการพยายามสร้างองครักษ์เทพสำเร็จในแต่ละครั้ง ข้าเชื่อมภูติสวรรค์เข้าไปด้วย สงสัยว่าถ้ามีการเชื่อมต่อกันอยู่ การรวมภูติสวรรค์เข้าไปด้วยจะเพิ่มโอกาสสำเร็จขึ้นหรือไม่กัน?”

ขณะขบคิดอยู่ ชายร่างกำยำเริ่มก้าวยาวขึ้น หนึ่งก้าวข้ามผ่านหลายร้อยฟุตและเคลื่อนไหวดุจสายลมกรรโชก

‘นอกจากนี้ กะโหลกของบรรพชนเผ่าละทิ้งอมตะถือว่าลึกลับยิ่ง ตอนที่หลอมพวกมันไปกลับผสานกลายเป็นรอยสักอันเดียว’

ห่างออกไปไกล สมาชิกเผ่าอมตะที่ถูกเลือกเหาะเหินเข้ามาจ้องชายร่างกำยำ ชายชราตื่นเต้นอย่างผิดปกติและรีบกล่าว “ต้าซาน!”

สีหน้าชายร่างกำยำกลับเย็นเยียบไม่แม้แต่จะมองชายชรา เขาหยุดลงภายใต้คำสั่งของหวังหลินและสงบนิ่งไร้การเคลื่อนไหว หวังหลินกระโดดออกไปร่อนลงบนพื้น

“ผู้มีพระคุณ ต้าซาน เขา…”

หวังหลินกล่าว “ข้าพูดไว้ก่อนว่าข้าไม่มั่นใจว่าสติเขาจะกลับคืนมาหลังจากข้าหลอมร่างกายหรือไม่ บางทีการฟื้นคืนกลับมามันขึ้นอยู่กับเวลา” หวังหลินไม่ได้โกหก ไม่ได้ลบสติของต้าซานออกไป เพียงแต่มันแตกกระจายและยังคงอยู่ในร่างกายเขาเท่านั้น

ชายชราตกตะลึงและกำลังจะเอ่ยถามต่อ ทว่าหวังหลินขัดจังหวะเอ่ยขึ้นมาเพราะอยู่ที่นี่มานานเกินไปแล้ว

“ไปเปิดประตูแท่นพิธี ข้าจะออกไป!” น้ำเสียงหวังหลินไม่ยอมให้เกิดคำถามใดๆขึ้น

ชายชราจ้องต้าซานก่อนจะถอนสายตาและพยักหน้าด้วยความนอบน้อม

หวังหลินก้าวมาข้างหน้าและพุ่งเข้าหาทางเข้าแท่นพิธี ระหว่างทางหวังหลินก็เก็บคางคกสายฟ้าและอสูรยุงกลับไป ต้าซานติดตามด้านหลังหวังหลินมา ส่วนชายชราถอนหายใจ เขาและสมาชิกในเผ่าที่เหลือต่างติดตามไป

เมื่อพวกเขาผ่านตึกรามบ้านช่อง สตรีจำนวนมากเดินออกมาและตามมาด้วยพวกเด็กๆ พวกเขารวมกลุ่มกันและมุ่งตรงเข้าหาแท่นพิธี

ในไม่ช้าหวังหลินก็ปรากฏตัวด้านนอกแท่น ฝ่ามือชายชราสร้างผนึกขึ้นมาโดยไม่รอให้หวังหลินออกคำสั่ง ต้นไม้ระหว่างคิ้วส่องประกายเจิดจ้า ลอยออกมาและประทับลงบนประตู

ประตูค่อยๆบานออกและเวลาถัดมามันก็เปิดออกอย่างสมบูรณ์

เสียงกรีดร้องแหลมดังออกมาจากข้างในประตู เสียงแหลมคมดุจกระบี่ลอยผ่านออกมา

หวังหลินตบกระเป๋านำธงม่วงสามผืนออกมา พวกมันหมุนวนรอบตัวหวังหลินก่อตัวเป็นวังวนสีม่วง เสียงกรีดร้องแหลมถูกบดขยี้ทันที

“ต้าซาน ทำลายจิตวิญญาณซะ!” หวังหลินตะโกน ร่างต้าซานส่องประกายเจิดจ้าและเดินผ่านประตูเข้าไป สายตาเยือกเย็นพุ่งเข้าไปข้างในและโยนกำปั้นที่แข็งแกร่งมากกว่าก่อนจะกลายเป็นองครักษ์เทพหลายเท่า

กำปั้นสร้างคลื่นเสียงกระแทกดังกึกก้องสะท้อนไปในทางเดิน

หมอกดำกระจุยกระจายข้างในทางเดิน พวกมันถอยห่างราวกับถูกโยนออกไป

ดวงตาหวังหลินเย็นเยียบ คราวนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็มั่นใจว่าจะออกไปได้! พลางพุ่งออกไปดุจสายฟ้าเข้าไปในประตูและลงไปบนทางเดิน

สมาชิกเผ่าทั้งหมดเดินเข้าไปข้างใน สายตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

หวังหลินมาถึงปลายสุดทางเดินตรงตำแหน่งที่เตาหลอมหยินลี้ลับตั้งอยู่ เขาเห็นร่างเงาหญิงสาวกำลังเกาะแกะรอบต้าซานและส่งเสียงกรีดร้องไม่มีหยุด

ต้าซานใบหน้านิ่ง เขาคือองครักษ์เทพนั่นหมายความว่าวิญญาณดั้งเดิมแตกสลายไปและผสานกับร่างกายไปแล้ว ดังนั้นเสียงกรีดร้องจึงไม่มีผลกระทบสำหรับเขา แม้เสียงกรีดร้องจะทำอันตรายร่างกายได้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งทางกายที่มีอยู่ตอนนี้มันจึงไม่ส่งผลอะไร

ส่วนหวังหลินมีเกราะหนังเทพโบราณคุ้มครองวิญญาณดั้งเดิมเอาไว้อยู่ เมื่อเสียงนั้นเข้าสัมผัสเกราะหนัง มันจึงแตกสลายไปทันที

ร่างเงาสตรีสาวที่ล้อมรอบต้าซานพลางเห็นหวังหลินและเลิกราต้าซานทันที มันพุ่งเข้าหาหวังหลินพร้อมเสียงครวญครางราวกับต้องการฉีกกระชากหวังหลินออกเป็นชิ้นๆ!

หวังหลินเยาะเย้ย ฝ่ามือสร้างผนึก ธงสามผืนล้อมรอบตัวเขาพลางลอยออกไปอย่างรวดเร็วก่อเกิดเป็นวังวนควันสีม่วงเผชิญหน้ากับคลื่นเสียง

ในเวลาเดียวกันหวังหลินก้าวหนึ่งครั้งมาถึงเตาหลอมหยินลี้ลับทันที ต้าซานมาถึงพร้อมๆกันเนื่องจากความคิดเชื่อมต่อกับหวังหลิน จากนั้นโยนกำปั้นเข้าใส่เตาหลอมหยินลี้ลับ

ต้าซานปลดปล่อยกำปั้นที่ทรงพลังที่สุดตั้งแต่กลายเป็นองครักษ์เทพ แม้จะกลายเป็นองครักษ์เทพไปแล้วแต่สัญชาตญาณบางส่วนยังคงอยู่ ความเกลียดชังที่มีต่แเตาหลอมหยินลี้ลับมานานหลายพันหลายหมื่นปีส่งออกผ่านหมัดไป

รอยสักซับซ้อนตรงระหว่างคิ้วกำลังกระพริบวูบวาบราวกับมีชีวิต มันลอยออกมาเข้าไปในกำปั้นของต้าซานทั้งยังสร้างความผันผวนอีก

เสียงดังปังสนั่นจนก้อนกรวดตกลงพื้น ราวกับแท่นพิธีกำลังล่มสลาย

เตาหลอมหยินลี้ลับเกิดเสียงแตกร้าวและรอยร้าวปรากฏขึ้นมาคล้ายใยแมงมุม

ขณะนั้นร่างเงาสตรีสาวที่ถูกธงสามผืนล้อมเอาไว้พลันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง มันพุ่งเข้ามาเพื่อพยายามหยุดต้าซาน

หลังต้าซานส่งกำปั้นแรกออกไป เขาก็ยกหมัดขึ้นและโยนอีกกำปั้นใส่เข้าไปโดยไม่ลังเล เสียงดังสนั่นสั่นสะท้านและเตาหลอมหยินลี้ลับตแกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยนับไม่ถ้วน ควันสีดำโผล่ออกมาจากชิ้นส่วนเหล่านั้นแต่ควันสีดำเชื่อมต่อกันอย่างรวดเร็วและหายเข้าไปในค่ายกลเล็กๆราวกับถูกดูดเข้าไป

ควันสีดำหายไปพร้อมกับร่างเงาหญิงสาว

หวังหลินก้าวเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายโดยไม่ลังเลและตะโกนออกมา “ฉวี่ลี่กั๋ว เจ้าจะไม่กลับจริงๆหรือ?!” สมาชิกเผ่าอมตะที่ถูกเลือกคนหนึ่งตัวสั่น ควัสีดำโผล่ออกมาจากระหว่างคิ้วเปลี่ยนกลายเป็นฉวี่ลี่กั๋ว มันขบคิดถึงรสชาติในลำคอและเหาะเหินไปหาหวังหลิน

หลังจากนั้นทั้งหวังหลินและต้าซานก็ก้าวออกไป หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย รอบด้านเงียบสนิทและฝุ่นหินจำนวนมากตกหล่นลงมา ชัดเจนแล้วว่าแท่นพิธีแห่งนี้สามารถแตกสลายได้ทุกขณะ

บรรพชนเผ่าอมตะที่ถูกเลือกมองสมาชิกรอบด้านก่อนจะยกเท้าขึ้นและหายตัวเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้าย หลังจากเขาแล้วสมาชิกคนอื่นๆก็เดินเข้าไปในค่ายกลทีละคน

พวกเขากำลังออกไปจากสถานที่ที่อาศัยอยู่และปกป้องมาตลอดชั่วอายุคน!

ในความมิดมิดของอสูรเนื้อมีค่ายกลยักษ์อยู่แห่งหนึ่ง ค่ายกลนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหิตสีแดงเข้ม ขณะที่ลอยตัวอยู่ในความว่างเปล่า ควันสีดำระเบิดออกมาจากค่ายกลและเข้าไปในโลงศพผลึกตรงใจกลาง

ในโลงศพมีร่างอยู่หนึ่งร่าง เป็นบุรุษหน้าต่าหล่อเหลาอายุราวๆยี่สิบปี เขากำลังนอนอยู่ข้างในราวกับกำลังหลับไหล

ควันสีดำโผล่ออกมาจากค่ายกลเข้าไปในโลงศพและถูกชายชราดูดซับเอาไว้

มีคนผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิในความว่างเปล่าข้างๆกับโลงศพ เขาสวมชุดคลุมสีดำห่อหุ้มรอบตัวทั้งร่างเอาไว้จนไม่เห็นแม้แต่หัว ดวงตาหลับสนิทพลางบ่มเพาะไปด้วย ราวกับเขาอยู่ที่นี่มาตลอดเพื่กปกป้องโลงศพผลึกในค่ายกล

ขณะนั้นชายชุดดำพลันลืมตาขึ้นมามองออกไปไกลและพึมพำ “เขามาจริงๆ! น่าเสียดายที่ข้าไม่แข็งแกร่งพอจะทำลายค่ายกล ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องกังวลนัก” ดวงตาส่องสว่างขึ้นมา ลำแสงสีดำหนึ่งสายออกมาจากร่างกายร่อนลงออกห่างไปหนึ่งร้อยฟุตกลายเป็นมนุษย์อีกคน

ร่างนั้นค่อยๆควบแน่นและกลายเป็นร่างอวตารที่มีลักษณะแบบเดียวกับชายชุดดำ

ร่างอวตารลืมตาขึ้นมาโบกแขนปรากฏชุดคลุมสีฟ้าขึ้น เคลื่อนร่างแผ่วเบาก่อนจะพุ่งออกไปไกล

ชายชุดดำไม่หยุดเพียงแค่นั้นและร่ายวิชาต่อเนื่อง ถัดมามีร่างอวตารอีกหลายร่างปรากฏขึ้น เมื่อรวมกับร่างแรกไปแล้วมีอยู่ทั้งหมดห้าคนพุ่งออกไปไกล

ห่างชายชุดดำออกไปหมื่นลี้มีแสงกระพริบสีสันและก่อเกิดวังวนยักษ์ขึ้นมา หวังหลินเดินออกมาจากข้างในวังวน ฉวี่ลี่กั๋วลอยอยู่รอบหวังหลินราวกับภูติผี

ต้าซานเดินออกมาจากวังวนหลังจากหวังหลิน

วินาทีถัดมา สมาชิกเผ่าอมตะที่ถูกเลือกก็ปรากฏจากข้างในวังวน หวังหลินแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกมาและพุ่งไปข้างหน้าด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ทว่าดวงตาหรี่แคบอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นคนผู่หนึ่งเหาะออกมา!

เขาคือคนที่สวมชุดสีฟ้าและเป็นร่างอวตาร!

‘เช่นนั้นการที่ข้าฆ่าเขาก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ร่างอวตารเท่านั้น!’ เมื่อหวังหลินเห็นชายชุดฟ้าจึงเข้าใจได้ทันที เพียงแค่คิดคำนึง ต้าซานก็พุ่งโยนกำปั้นเข้าใส่ชายชุดฟ้า

สีหน้าท่าทางของชายชุดฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดมน ฝ่ามือสร้างผนึกกระพริบแสงปรากฏหอกหนึ่งแล่ง ชี้นิ้วออกส่งหอกเล่มนั้นพุ่งเข้าหาต้าซาน

ขณะนั้นร่างอวตารอีกสี่ร่างพุ่งเข้ามาราวกับลำแสง หวังหลินกระพริบตาแฝงจิตสังหารและพุ่งออกไป ฝ่ามือขยับเคลื่อนไหวชัดนำรอยสักกระดูกอสูรให้ลอยออกมา

“ชุดเต๋าร่วงโรยของนายท่าน!” ร่างอวตารแทบอุทานออกมาพร้อมกับตอนที่เห็นรอยสักกระดูกอสูร สายตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่เชื่อ!

ขณะนั้นแม้แต่สายตาของชายชุดดำที่นั่งห่างออกไปไกลหมื่นลี้ยังส่องประกายเจิดจ้า!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version