Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 839

Cover Renegade Immortal 1

839. ผนึกสมบูรณ์แบบ

เมื่อเหยาปิงหยุนลืมตาขึ้นมา แววตาหวังหลินกลายเป็นเยือกเย็นและเผยรอยยิ้ม แขนขวาเปิดขึ้นควบแน่นพลังดั้งเดิมไปในห้าดัชนีอย่างรวดเร็ว นิ้วทั้งห้าส่องประกายเจิดจ้าร่อนลงใส่น้ำแข็งรอบตัวเหยาหยิงหยุน

จากนั้นหวังหลินก็รีบล่าถอย ควันสีขาวล้อมรอบร่างกาย ยกแขนขวาขึ้นมาและตวัดลงอย่างโหดเหี้ยม!

แรงครั้งนี้ไม่ได้เข้าหาเหยาปิงหยุนตรงๆแต่เข้าหาหนวดที่พัวพันนาง!

ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา เร็วเกินจนนึกไม่ถึง

เมื่อพลังดั้งเดิมห้าสายร่อนลงบนน้ำแข็งรอบตัวเหยาปิงหยุน พลันเกิดเสียงป๊อปแทงทะลุผ่านชั้นน้ำแข็งดุจมังกรพิษห้าตัวเข้าหาเหยาปิงหยุน

“เต๋า…ของเจ้า…คืออะไร” เหยาปิงหยุนไม่หลบเลี่ยงหรือมองไปยังมังกรห้าตัวที่กำลังพุ่งใส่นาง ใบหน้านางซีดเผือดแต่เผยสีหน้าตั้งมั่นเผยจิตใจแห่งเต๋าอันหนักแน่น!

ในช่วงวิกฤตนี้นางยอมทิ้งทุกอย่างยกเว้นจิตใจแห่งเต๋าและเริ่มการต่อสู้เขตแดนกับหวังหลิน!

ทว่าหวังหลินคาดเดาว่านางจะทำแบบนี้ไว้ก่อนที่จะลืมตาแล้ว กล่าวให้ถูกคือหวังหลินและเหยาปิงหยุนคือคนประเภทเดียวกัน!

แม้แต่ตอนที่พวกเขากำลังจะตาย ก็จะทุ่มเทมันทั้งหมด! แม้ถูกลิขิตไว้ให้ตาย ก็จะพาคนอื่นไปเกิดใหม่ด้วยกัน!

จังหวะที่เหยาปิงหยุนอ้าปาก สายตาเต็มไปด้วยความสับสน ร่างมายาหนึ่งปรากฏเบื้องหน้าเป็นร่างสตรีสาวคนหนึ่ง กล่าวให้ถูกคือเป็นหญิงสาวอายุราวสิบสี่สิบห้าปี

นางรวบผมขึ้นเป็นจุด รูปร่างอ่อนแอและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นางอ้าปากจะพูดขึ้นมาแต่ไม่มีเสียงราวกับเป็นใบ้

ขณะเด็กสาวปรากฏขึ้นมา เขตแดนเต๋าแห่งความเศร้าก็แพร่กระจายหาหวังหลิน ทว่าขณะนั้นตัดสวรรค์ของหวังหลินก็ส่งออกไปถึงหนวดล้อมรอบเหยาปิงหยุนแล้ว

หวังหลินควบคุมพลังของตัดสวรรค์ได้เป็นอย่างดี มันไม่เพียงพอจะทำร้ายหนวดพวกนั้นแต่เพียงพอกระตุ้นพวกมันได้ เมื่อตัดสวรรค์กระทบกับหนวด พวกมันก็รัดแน่นทันที

เหยาปิงหยุนพลันเปลี่ยนใบหน้าซีด นางกระอักโลหิต เสียงเสียดสีออกมาจากร่างกายราวกับกระดูกไม่สามารถต้านทานแรงกดดันได้อีกต่อไป

หนวดพวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหวรวดเร็ว ตัดสวรรค์กระตุ้นพวกมันให้บ้าคลั่งยิ่ง ดวงตาเหยาปิงหยุนหม่นหมอง ร่างกายที่ไร้พลังดั้งเดิมจึงเสมือนกับคนธรรมดา ถูกหนวดพวกนั้นบีบรัดจนทำให้นางเผยรอยยิ้มขมขื่นและแววตาเริ่มเผยความสิ้นหวัง

ความเจ็บปวดจากร่างกายไม่สามารถทำให้จิตใจแห่งเต๋ามั่นคงได้ อย่างไรก็ตามหนวดที่โดนกระตุ้นมาเริ่มดูดซับดุจกำลังบ้าคลั่ง ไม่เพียงจะดูดซับพลังชีวิตและพลังดั้งเดิม ยังดูดซับเต๋าของนางไปด้วย

ภาพหญิงสาวมายาที่ปรากฏเบื้องหน้าเหยาปิงหยุนกลายเป็นภาพพร่ามัวและจากนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิง

“น้องสาว…” หยาปิงหยุนมองเด็กสาวหายไปและหลับตาลง พลังชีวิตและเต๋ากำลังถูกหนวดพวกนั้นดูดซับอย่างรวดเร็ว

หวังหลินคาดคำนวณทุกอย่างไว้เรียบร้อยก่อนที่จะตัดสินใจทำลายน้ำแข็ง ถ้านางไม่ตื่นขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แม้นางจะตื่นมาได้แต่ถูกหนวดพวกนั้นรัดตัวไว้ หวังหลินจึงไม่กลัว

ขึ้นอยู่กับความเร็วและการจู่โจม!

จังหวะเขตแดนของเหยาปิงหยุนลุกลามหายไปแต่ความเศร้ายิ่งมาแทนที่ สิ่งนี้ทำให้หวังหลินตกตะลึงและดวงตาส่องสว่าง แขนขวาชี้ใส่ร่างเหยาปิงหยุนโดยไม่ลังเล

เสียงดังป๊อปรัวเร็วพร้อมกับน้ำแข็งรอบร่างเหยาปิงหยุนแตกสลายจนเผยร่างของนาง!

หวังหลินไม่หยุดแค่นั้น แขนขวาสร้างผนึกใส่ร่างเหยาปิงหยุนอย่างต่อเนื่องทีละชิ้น กฏเกณฑ์ประทับลงใส่ร่างและวิญญาณดั้งเดิม

ขณะวางกฏเกณฑ์ใส่อย่างต่อเนื่อง แขนซ้ายหวังหลินชี้บนท้องฟ้าปรากฏแส้แห่งเวรกรรม มันพุ่งเข้าไปในร่างเหยาปิงหยุนและกักขังวิญญาณดั้งเดิมเอาไว้

หวังหลินยังรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นจึงตบกระเป๋านำธงวิญญาณออกมา ธงวิญญาณห่อหุ้มรอบเหยาปิงหยุนอย่างแน่นหนา

ท้ายที่สุดหวังหลินพ่นตราประทับผนึกเทพออกมา ฝ่ามือสร้างผนึกและส่งเสียงตะโกน “ผนึก!”

อักขระรูนสีทองนับแสนปรากฏขึ้นมาเคลื่อนไหวดุจสายธารสีทองเข้าไปบนร่างเหยาปิงหยุน ผนึกนางไว้อย่างสิ้นเชิง แต่ละอักขระคือหนึ่งผนึก

เมื่ออักขระรูนสีทองนับแสนกำลังผนึกเหยาปิงหยุน จิตใจหวังหลินจึงผ่อนคลาย เขาถอยกลับเข้าไปในเตาหลอม ฝ่ามือขวาสร้างผนึกชี้ใส่เหยาปิงหยุนและเอ่ยเสียงเบา “เปลี่ยนตำแหน่ง!”

เตาหลอมสั่นเทาราวกับพลังที่สามารถแยกสวรรค์ได้ปรากฏขึ้นมาในร่างอสรพิษพิฆาตจันทร์ เมื่อพลังสายนี้เต็มไปทั่วบริเวณ ร่างเหยาปิงหยุนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อนางปรากฏร่างอีกครั้ง หวังหลินคว้านางและเก็บเข้าไปในกระเป๋าราวกับสมบัติชิ้นหนึ่ง

‘ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ดีที่สุดในการหลอมองครักษ์เทพ!’ ดวงตาส่องสว่างและกลับไปที่ด้านบนของเตาหลอม เพียงแค่คิด เตาหลอมก็ลอยไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

ระหว่างทาง ควันสีขาวล้อมรอบเตาหลอมดูเหมือนแยกตัวออกมาเองจนหนวดที่ล้อมรอบมันไม่เข้ามารบกวน ตอนนั้นนี่คือวิธีการที่กรีดใช้หลบเลี่ยงอสรพิษตัวน้อยกับหนวดพวกมันจนหลบหนีไปได้หลายครั้ง ทว่าเขากลับล้มเหลวเนื่องจากความสามารถของอสรพิษตัวหลัก

อย่างไรเสียนี่แสดงให้เห็นว่าควันสีขาวจากเตาหลอมมีความสามารถในการล่องหนข้างในอสรพิษ

หวังหลินระมัดระวังตัวเป็นอย่างยิ่งแบะมองไปรอบด้าน คนทั้งหมดที่ถูกหนวดบีบรัดได้ตกอยู่ในสายตาหวังหลินทีละคน

ยิ่งเขาเข้าไปในพื้นที่แคบแห่งนี้ลึกขึ้นก็ยิ่งมีหนวดมากขึ้น เซียนและคนธรรมดาทั้งหมดต่างเผยความเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานก่อนตายจนทำให้หวังหลินขบคิดเงียบๆ

นอกจากเหล่าเซียนและคนธรรมดาพวกนี้แล้ว หวังหลินไม่เจอกลิ่นอายเทพโบราณอันใดอีกเลย เขาไม่ได้ใจร้อนและเคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ

ยิ่งมีหนวดปรากฏมากขึ้น พวกมันก็หยิ่งหนาแน่นปิดเส้นทาง ทำให้หวังหลินเดินต่อไปได้ยากยิ่ง ทว่าพอใช้วิชาของเตาหลอมแล้วหวังหลินสามารถเคลื่อนที่ผ่านพวกมันไปได้ตรงๆ

หลังผ่านไปไม่รู้เวลา พวกคนธรรมดาและเหล่าเซียนที่ถูกหนวดบีบรัดก็เปลี่ยนไป พวกเขาไม่ได้เป็นร่างไร้ชีวิตอีกต่อไป บางส่วนถึงกับมีร่องรอยแห่งชีวิตอยู่จางๆ

ทว่าพลังชีวิตแต่ละคนอ่อนแอเกินไปราวกับเทียนกลางสายลมที่สามารถดับตอนไหนก็ได้

สีหน้าหวังหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย เคลื่อนที่ข้างหน้าต่อเนื่อง ผู้คนมีชีวิตเหลืออยู่ในร่างมากขึ้น ยิ่งเขาไปข้างหน้าเรื่อยๆพลังชีวิตในร่างคนพวกนี้ก็ยิ่งแข็งแกร่ง

หวังหลินหยุดลงทันทีและจ้องอุโมงค์ไม่มีที่สิ้นสุด ‘ดูเหมือนอสรพิษตัวนี้จะดูดซับพลังชีวิตจากภายนอกก่อน ยิ่งข้าเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีคนมีชีวิตถูกขังไว้ที่นี่มากขึ้น ข้าสงสัยว่าจะหาคนมีสติในนี้ได้ไหม!’

หวังหลินเร่งความเร็วขึ้นและพุ่งไปข้างหน้า

จำนวนคนที่มีชีวิตหลงเหลืออยู่มากขึ้นแต่หวังหลินก็ตรวจสอบไม่หยุด ขณะเข้าไปในส่วนลึกของอุโมงค์ เขาพลันได้ยินเสียงเรียกภายในวิญญาณ!

เสียงนี้ดูเหมือนออกมาจากวิญญาณ ทำให้ความคิดหวังหลินสั่นสะท้านรุนแรง

“ทาง…นี้…”

ความรู้สึกนี้ก่อเกิดเป็นพายุขึ้นในจิตใจ รุนแรงมากกว่าตอนที่เขาเห็นเตาหลอมหลายเท่า

น้ำเสียงบรรจุพลังทะลุทะลวง แทงทะลุผ่านร่างกาย แทงทะลุผ่านดวงวิญญาณและตรงกึกก้องภายในวิญญาณเขา!

เสียงเรียกจากวิญญาณนั้นไม่เพียงส่งผลกระทบต่อหวังหลิน กระทั่งร่างดั้งเดิมในดาราจักรพันธมิตรเซียนยังรู้สึก!

ร่างดั้งเดิมซ่อนตัวในดาวเคราะห์เซียนแห่งหนึ่ง แต่ชั่วขณะนั้นดวงตาพลันตื่นขึ้นมา ส่องแสงสว่างดุจดวงอาทิตย์!

หวังหลินอ้าปากค้าง ดวงตาเป็นประกาย

“มา…นี่…” เสียงเรียกดำเนินต่อไป ไม่เพียงแต่ร่างหวังหลินเท่านั้น แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมยังสั่นสะท้าน

น้ำเสียงมีพลังไร้ที่สิ้นสุดทำให้เขารู้สึกต้องเคลื่อนที่ไปและเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

หวังหลินหลับตาครุ่นคิดเงียบๆ แต่วินาทีถัดมาเขาก็ลืมตาเต็มไปด้วยความตั้งมั่น พุ่งเข้าหาต้นตอของเสียงเรียกโดยไม่ลังเล

ณ ตอนนี้ ขณะที่อสรพิษพิฆาตจันทร์เปลี่ยนกลายเป็นดาวเคราะห์ไม่กี่เดือนก่อนและกำลังหลับไหล ทุกอย่างเงียบสงัดราวกับถูกหยุดเวลา

อย่างไรก็ตามในวันนี้มีลำแสงเส้นหนึ่งนำพากลิ่นอายตกตะลึงออกมาไกล เขาคือชายวัยกลางคนชุดดำที่ต่อสู้กับอสรพิษพิฆาตจันทร์คราวก่อน!

ครั้งนี้เขามาพร้อมกับร่างดั้งเดิม ด้านหลังเป็นภาพนิมิตวิหคอินทรีดำสูงพันฟุต ดวงตาวิหคตัวนี้ดุจสายฟ้าและเยือกเย็นยิ่ง

จังหวะที่เขาปรากฏตัว เกิดเสียงสายฟ้าดังสนั่นออกมาไกลพร้อมกับปรมาจารย์จงเฉินตามเข้ามาใกล้

ปรมาจารย์จงเฉินปรากฏตัว พลันเกิดแสงสีแดงกระพริบวาบ ค่ายกลแปดเหลี่ยมเผยออกมากว้างกว่าแสนฟุต แรงกดดันส่งออกมาแข็งแกร่งจนสัมผัสได้ชัดเจนจากระยะอันไกลโพ้น

ค่ายกลแปดเหลี่ยมกระพริบสีแดง กลิ่นอายสั่นสะเทือนสวรรค์แพร่กระจายอย่างช้าๆ ค่ายกลส่องสว่างเจิดจ้าและมีคนสี่คนเดินออกมาจากข้างใน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version