909. ข้าจะมอบปาฏิหาริย์ให้เจ้า
เจ้าแห่งการควบคุมสายฟ้า!
เสียงดังกึกก้อง โลกพลันเปลี่ยนไปและประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า รวมกันเข้าหาหวังหลิน ฉากเหตุการณ์สั่นสะเทือนปฐพี ยิ่งเสียงสายฟ้าแพร่กระจายออกไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสายฟ้าปรากฏออกมามากเท่านั้น
ดุจสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์!
ยู่เฟยมองอีกครั้งและเริ่มหัวเราะ ทว่าเสียงหัวเราะนี้เต็มไปด้วยความหนาวเย็นไร้ที่สิ้นสุด
“เยี่ยม ตอนนี้เจ้ามีกลิ่นอายของเทพสายฟ้าแห่งดาราจักรทุกชั้นฟ้าแล้ว ไม่เสียเวลาที่ข้ามาตัดหัวเจ้าด้วยตัวเอง หากเจ้าตายก็ยิ้มได้แล้วตอนอยู่ในยมโลก ทุกคนที่ถูกข้าสังหารต่างก็มีชื่อเสียงทั้งนั้น!”
“โอหัง!” หวังหลินสีหน้าเย็นเยียบ ชี้นิ้วออกไป สายฟ้าในบริเวณยิ่งแข็งแกร่งหลายเท่า สายฟ้าจากพื้นที่หลายพันลี้เริ่มรวมตัวกัน หากมองจากเบื้องบนคงจะเห็นได้ว่าพื้นที่แถบนี้กลายเป็นทะเลสาปสายฟ้าไปแล้ว
และทะเลสาปสายฟ้าแห่งนี้หดตัวลงอย่างรวดเร็ว ใจกลางของมันคือชายชุดแดง ยู่เฟย!
สายฟ้าหดตัวรวดเร็วมาก และยิ่งหดตัวก็ยิ่งมีสายฟ้ามากขึ้นไปอีก อำนาจแห่งสายฟ้าดุจวันสิ้นโลก!
การหดตัวลงอย่างรวดเร็วนั้นทำให้เกิดรอยแยกอวกาศขึ้นจำนวนมาก เมื่อไหร่ที่สายฟ้าผ่านไป สายลมเย็นไหลออกมาจากรอยแยกพวกนั้น ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
ขณะสายฟ้าร้องคำราม มันก็หดตัวลงเร็วขึ้นดุจวงกลมยักษ์กว้างหมื่นลี้กำลังหดตัวลงอย่างรวดเร็ว
สายฟ้ายิ่งหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ มันบีบรัดจนในที่สุดก็ทรงพลังเหนือจินตนาการ
พลังสายนี้คือการควบแน่นสายฟ้าในพื้นที่หมื่นลี้ทั้งหมดให้กลายเป็นจุดเดียว พลังอำนาจของสายฟ้านี้เทียบได้กับทัณฑ์สวรรค์!
วินาทีที่มันหดลงอย่างบ้าคลั่ง จึงทำให้เกิดสัญญาณรบกวนจนไม่มีเสียงใดเหลืออยู่ กระทั่งต้าซานและเด็กหัวโตที่กำลังต่อสู้อยู่ยังต้องล่าถอยทันทีและเผยสีหน้าเคร่งเครียด
ชั่วพริบตานั้นสายฟ้าทั้งหมดในพื้นที่หมื่นลี้รวมตัวกัน คลื่นสายฟ้าปะทะเข้าใส่ห้าร่างอวตารและกระบี่เหินสามสิบห้าเล่ม
เสียงดังปังสั่นสะเทือนสรวงสวรรค์ อวกาศกำลังสนั่นเทา สายฟ้าทั้งหมดควบแน่นและในที่สุดก็กระหน่ำใส่กระบี่เหิน!
กระบี่โลหิตหนึ่งเล่มสั่นสะท้านและแตกสลายในทันที แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากนั้นก็ถูกสายฟ้าผลักดันไปอีก
ยังไม่จบแค่นั้น กระบี่เหินที่เหลือทั้งหมดต่างก็แตกสลายภายใต้การกระหน่ำโจมตีของสายฟ้าสั่นสะเทือนปฐพี!
ในชั่วพริบตานั้นสายฟ้ารอบด้านยังไม่หยุด มันพุ่งเข้าใส่ชายชุดแดงด้วยพลังอันมหาศาล
ห้าร้อยฟุตข้ามผ่านเพียงเสี้ยวพริบตา!
ขณะสายฟ้าควบแน่น ร่างอวตารทั้งห้าตนเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ยักษ์ห้าเล่มและกีดขวางรอบตัวยู่เฟยไปร้อยฟุต สายฟ้ากระแทกใส่พวกมันอย่างรวดเร็ว กระบี่สั่นสะท้านและเกิดเสียงแตกร้าว
ยู่เฟยยังมีสีหน้าดังเดิม จ้องมองหวังหลินอย่างเย็นเยียบ “ข้าประเมินพลังสายฟ้าของเจ้าต่ำไปจริงๆ แต่เบื้องหน้าข้า มันยังไม่พอ!” ขณะเอ่ยขึ้นมาเขาพลันตบกระเป๋า บางอย่างปรากฏอยู่ในฝ่ามือ!
ของชิ้นนี้คือกิ่งไม้ มันดูธรรมดามากแต่ปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณออกมา
“หนึ่งในสมบัติแห่งดินแดนสังหาร กิ่งต้นไม้โลกอัสนี จ้าวดินแดนกล่าวไว้ว่ามันสามารถยับยั้งสายฟ้าเจ้าได้ มาให้ข้าแสดงให้เจ้าดูว่าจะทำลายสายฟ้าเจ้าได้ยังไง!” สิ้นคำพูดเขาก็โยนกิ่งไม้ออกมาข้างหน้า ขณะเดียวกันกระบี่ห้าเล่มที่กำลังขัดขวางสายฟ้าเอาไว้พลันล่าถอย
วินาทีที่กระบี่โลหิตทั้งห้าถอยร่น ไม่มีสิ่งใดขัดขวางสายฟ้าตรงหน้า มันจึงพุ่งเข้าใส่ชายชุดแดงทันที ทว่าในจังหวะนั้นหวังหลินคล้ายจะสูญเสียการควบคุมสายฟ้าและทั้งหมดพุ่งเข้าไปหากิ่งไม้
กิ่งไม้ดูดซับสายฟ้าไว้ทั้งหมด สายฟ้าระเบิดจนมองเห็นไปทั่วกิ่งไม้ ยู่เฟยยืนอยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าเยาะเย้ย สายฟ้าดูเหมือนจะทำให้ดวงตาเขาพร่ามัวแต่มันไม่ได้ทำร้ายเขาเลย และทั้งหมดพุ่งเข้าหากิ่งไม้เสียอีก
กระทั่งหวังหลินก็ยังสีหน้ามืดมัว
“ด้วยขั้นส่องสวรรค์ระดับต้นของเจ้า เจ้าไม่มีอะไรเลยเบื้องหน้าข้าเว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์เท่านั้น ถึงเวลาจบทุกอย่างแล้ว!” แววตายู่เฟยเผยจิตสังหารพร้อมกับพุ่งผ่านสายฟ้าเข้าไป กระบี่เหินห้าเล่มพุ่งไปพร้อมกับเขาและเข้าใกล้หวังหลิน
หวังหลินจ้องยู่เฟยพร้อมล่าถอย เอ่ยน้ำเสียงสงบนิ่งออกมา “ข้าจะมอบปาฏิหาริย์ให้เจ้าเอง!” สิ้นคำพูด ใต้ฝ่าเท้าปรากฏระลอกคลื่นและพลันหายตัวไป
ยู่เฟยตกตะลึง รูม่านตาหรี่แคบ พลังดั้งเดิมพรั่งพรูออกมาก่อตัวเป็นพายุล้อมรอบแต่ก็ยังไม่สามารถหาร่องรอยหวังหลินได้พบ
ณ ดาวเคราะห์เซียนแห่งหนึ่งในดาราจักรพันธมิตรเซียนซึ่งห่างไกลจากดาวซูซาคุ พลังปราณจากดาวเคราะห์แห่งนี้หนาแน่นและมันยังเป็นแคว้นเซียนระดับหก
บนดาวดวงนี้มีแคว้นเซียนระดับห้าอยู่จำนวนห้าแห่ง หนึ่งในนั้นมีชื่อว่าจันทราหล่น สตรีนางหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างนอกห้องปรุงยาในหลังภูเขา
นางสวมชุดราตรีผีเสื้อชมพู นางไม่ได้แก่ชรานักและยังสวยสดงดงาม บนคิ้วขวามีแผ่นเหล็กเป็นจุดๆทำให้นางดูน่ารักขึ้นไปอีก
ผิวกายขาวเนียนราวกับหยก เส้นผมดุจก้อนเมฆทำให้นางน่าดึงดูดยิ่งนัก
“พี่ใหญ่หวัง ท่านอยู่ที่นี่ใช่ไหม? ข้าซ่งซิง” ใบหน้าแดงระเรื่อ น้ำเสียงดุจวิหคขับขาน นางเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับมองเข้าไปในห้อง
คนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้องปรุงยา เขามีเส้นผมสีแดง ใบหน้าเย็นชาสุดขั้ว อายุราวๆสามสิบปี กลิ่นอายที่เขาปลดปล่อยออกมาทำให้รู้สึกเหมือนสายลมฤดูหนาว!
เมื่อน้ำเสียงหญิงสาวดังออกมาจากข้างนอก บุรุษข้างในขมวดคิ้วและเอ่ยเย็นเยียบ “ข้าไม่ได้อยู่ที่นี่!” หลังจากนั้นเขาก็หลับตาตั้งสมาธิฝึกฝนต่อไป
หลังนางได้ยินเสียงเย็นชานี้ นางมีความสุขทันที ก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องปรุงยาตรงๆ นางยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “พี่หวังหลิน ข้าไม่รบกวนท่านนานหรอก ข้าแค่นั่งอยู่ที่นี่สักพักแล้วค่อยไป”
ขณะพูดขึ้นมานางก็มาถึงด้านนอกห้องแต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน นางนั่งลงด้านนอกสัมผัสถึงกลิ่นอายความเย็นจากในห้อง กลิ่นอายนี้เข้าสู่ร่างกายนางและทำให้ใบหน้าแดงเถือกแต่นางรู้สึกสะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง
การฝึกเซียนของนางเกี่ยวข้องกันพลังงานเย็นและไม่ค่อยเพิ่มขึ้นมานัก มีสถานที่ไม่มากนักในสำนักที่มีพลังงานเย็นและนางไม่สามารถเข้าไปได้ด้วยตำแหน่งปัจจุบัน ครั้งหนึ่งนางมาที่นี่เพื่อมารับยาและค้นพบโดยบังเอิญว่าพลังงานเย็นในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างมาก
การค้นพบนี้ทำให้นางตื่นเต้นและนางจึงมาที่นี่บ่อยๆ ท้ายที่สุดแล้วนางก็ค้นพบกับศิษย์สายนอกคนหนึ่งชื่อหวังหลินที่นี่!
เขาเป็นคนงานที่ห้องปรุงยาแต่นางรู้สึกว่ามันประหลาดมาก แม้เขาจะเป็นคนงานแต่นางไม่เคยเห็นเขาทำงานอะไรเลย นางกระทั่งเห็นอาจารย์ลุงที่ห้องปรุงยาเคารพหวังหลินเป็นอย่างยิ่ง
นางรู้สึกว่าหวังหลินมีความลับมากมายและเขาเป็นคนลึกลับด้วย เช่นนั้นนางจึงมีความคิดอยากจะเปิดเผยความลับทั้งหมดของเขา อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ก็ช่วยนางเพิ่มระดับบ่มเพาะอย่างมาก ดังนั้นนางจึงมาที่นี่เกือบทุกวัน
ด้วยความเย็นชาของหวังหลิน ไม่เพียงแต่นางไม่เกรงกลัง กลับทำให้นางต้องการจะเปิดโปงความลับของเขาเพิ่มขึ้นไปอีก นางแทบจะคิดถึงร่างเย็นชาของหวังหลินตลอดเวลา
ใบหน้าซ่งหยิงแดงเถือกแต่ครั้งนี้หัวใจสูบฉีดและไม่สามารถจมดิ่งไปกับการฝึกฝนได้ นางสัมผัสสิ่งของข้างในเสื้อผ้า ลังเลเล็กน้อยพลางกัดริมฝีปากและเอ่ยเข้าหาห้องเสียงเบา “พี่ใหญ่หวัง ข้า…”
ทว่าก่อนที่นางจะพูดจบ ประตูพลันเปิดออกและหวังหลินเดินออกมาทันที วินาทีที่เขาเดินออกมา พลังงานเย็นจำนวนมากแพร่กระจายออกมาด้วย
พลังงานเย็นนี้ไม่ใช่ของจริงมันแค่หลุดออกมาจากพลังปราณส่วนเกินตอนที่เทพโบราณดูดซับพลังปราณ มันไร้ค่าสำหรับหวังหลิน แต่กับคนอื่นนั้นพลังปราณนี้หนาแน่นเป็นอย่างยิ่ง!
โชคดีที่ห้องปรุงยานั้นมีพลังปราณหนาหน่นอยู่แล้ว มันจึงไม่ผิดสังเกตนัก
รูปร่างดั้งเดิมของหวังหลินทำให้ซ่งซิงกลืนคำพูดลงคอ ขณะที่นางกำลังเรียกความกล้าหาญขึ้นมาอีก นางพลันเห็นพี่ใหญ่หวังที่นางชื่นชมก้าวเท้าพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายตัวไป
ซ่งซิงนำกระเป๋าปักษ์ออกมาด้วยท่าทีเปล่าเปลี่ยว ข้างในเต็มไปด้วยสมุนไพรที่นางเก็บมาด้วยตัวเองและเย็บเข้าไปในกระเป๋า ของชิ้นนี้มีผลทำให้คนสงบลงได้
เพียงก้าวเดียวร่างดั้งเดิมหวังหลินก็ออกไปจากดาวเคราะห์เซียนและพุ่งเข้าสู่อวกาศ ขณะที่ร่างดั้งเดิมเข้าไปในอวกาศ ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นและหวังหลินเดินออกมา
ร่างอวตารและร่างดั้งเดิมเดินเข้าหากันและกันจนปะทะเข้าใส่ จากนั้นเกิดแสงสีเขียวกระพริบวาบ ทั้งสองกลายเป็นหนึ่ง!
ภายหลังการแยกกันหลายร้อยปี ร่างอวตารและร่างดั้งเดิมของหวังหลินผสานกลายเป็นหนึ่งอีกครั้ง!
กลิ่นอายทรงพลังโผล่ออกมาจากร่างหวังหลินอย่างบ้าคลั่งและเต็มไปทั่วดวงดารา!
การผสานร่างดั้งเดิมและร่างอวตารคือการผสานเทพโบราณและเซียนปราณทำให้ร่างกายหวังหลินเกิดเสียงปะทุดังกึกก้อง ประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนกระหึ่มรอบร่าง
ดวงตาซ้ายบรรจุดวงอาทิตย์ ดวงตาขวาบรรจุดวงจันทรา หลังผสานเข้ากับผมสีดำของร่างอวตารมันจึงไม่เป็นสีแดงอีกแล้ว ตอนนี้เส้นผมเป็นสีม่วง ดวงดาวของเทพโบราณถูกตาที่สามซ่อนเอาไว้ ไม่มีใครสามารถมองออกได้
“ข้าจะมอบปาฏิหาริย์ให้เจ้าเอง!” หวังหลินเอ่ยเสียงเย็นเยียบสะท้อน เปลี่ยนกลายเป็นเสียงดังสนั่นไปทั่วดวงดาว หายตัววับไปในก้าวเดียว