ตอนที่ 1073 การป้องกันของสมบัติเคลื่อนที่

เหนือภูเขาทอดยาวไปตามพื้นดินมีวังวนอวกาศลอยอยู่

สิ่งมีชีวิตปีกสีเงินใส่เกราะสีเงินได้ก้าวออกมาจากวังวน เขายืนอยู่ข้างนอกแล้วมองรอบๆ ที่เต็มไปด้วยความเงียบ

“จากข้อมูลพื้นฐานที่มี ช่วงร้อยปีแรกที่ดวงดาวต้นกำเนิดเปิด มันจะมีสิ่งของมีค่ามากเกิดขึ้นมา ทำให้สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ได้ต่อสู้กัน มีการฆ่ากันจำนวนมาก แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็จะหลบซ่อนตัว”

หลัวเฟิงขยับปีกเริ่มบิน เขามองลงมายังที่พื้นด้านล่าง ถึงเขาจะมายังดวงดาวต้นกำเนิดดวงอื่นเขาก็ยังไม่พบความแตกต่างในหมู่ดวงดาวต้นกำเนิดเท่าไรนัก

หลังจากบินไปครึ่งชั่วโมง เขาก็พบกับวัตถุสีม่วงที่อยู่ในแม่น้ำ บนหุบเขาเบื้องล่าง

เขาดิ่งลงจากบนฟ้าลงมายืนเหนือแม่น้ำ โดยที่เข้าเยียบอยู่บนน้ำ จากนั้นเขาก็เดินเข้าหาเป้าหมาย

“ไอ้นี่คืออะไร”

หลัวเฟิงหยิบมันขึ้นมาสำรวจดู มันเป็นผ้าสีม่วงขนาด 30 ตารางเมตร หลัวเฟิงส่งพลังงานอมตะใส่เข้าไปยังผ้า ข้อมูลต่างๆ ก็ไหลเข้ามาในใจของเขา

สมบัตินี้เรียกว่า ‘เลียนแบบท้องฟ้าม่วง’ ด้วยพลังงานอมตะผ้าจะขยายออกคุมรอบศัตรู หลัวเฟิงเพิ่งเคยสมบัติที่เหมือนกับผ้า เขารู้สึกว่ามันคือสมบัติชั้นยอดประเภทอาวุธจิตวิญญาณ

“ชื่อที่แปลกประหลาด ทำไมของมีค่าที่เกิดบนดวงดาวต้นกำเนิดถึงได้มีชื่อว่าเลียนแบบท้องฟ้าม่วง” หลัวเฟิงส่งเสียงเบา

ยิ่งหลัวเฟิงคิดเกี่ยวกับมากมากเท่าไร เขาก็คิดว่าจักรวาลนั้นลึกลับ เขาที่ได้มายืนอยู่ในหมู่สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ของจักรวาลในตอนนี้ เขากลับมีความรู้สึกว่าจะได้ค้นพบความลึกลับอีกมากมายที่กำลังรอเขาอยู่

“สมบัตินี้อาจมีค่านับพันคะแนนสมบัติ โชคดีจริงๆ”

หลัวเฟิงยิ้ม มันเป็นสิ่งที่มักจะเกิดบนดวงดาวต้นกำเนิด สิ่งมีชีวิตจำนวนมากรู้ดีว่ามีของมีค่ามากมายในดวงดาวต้นกำเนิด ไม่ว่าของนั้นจะมีค่าสักเท่าไร เขาก็ยังถูกคนอื่นๆ ฆ่าตายได้ พวกเขาทำตามที่ตัวเองต้องการ เฉพาะผู้ที่มีพลังเท่านั้นจะเดินเล่นในดวงดาวต้นกำเนิดได้

หลัวเฟิงไม่จำเป็นต้องกลัวเจ้าแห่งจักรวาลอีกต่อไป สำหรับเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงที่ไม่สามารถเทเลพอตบนดวงดาวต้นกำเนิด เมื่อพวกเขามาถึง หลัวเฟิงจะต้องรู้เกี่ยวกับมันผ่านจักรวาลเสมือน เขาก็จะทำการซ่อนตัวเองได้ทันที ด้วยพลังของหลัวเฟิงในตอนนี้ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงที่ควบคุมกฎอวกาศและเวลาไม่ได้ทำให้เขากลัว

หลัวเฟิงเดินเล่นบนดวงดาวต้นกำเนิดราวกับสวนในบ้าน เขากำลังรอข่าวเกี่ยวกับอัศวินเทียนหยาง ถ้าเขาได้รับมันแล้ว เขาก็รีบไปยังจุดที่อัศวินเทียนหยางอยู่ทันที

หลัวเฟิงมายังดวงดาวต้นกำเนิดได้ 29 ชั่วโมงแล้ว

สิ่งมีชีวิตสองหัวขนาดใหญ่ที่มีผิวคริสตัลสีม่วงกำลังนอนรอโอกาสอยู่ในชั้นป่า บนร่างมีเกราะสีทึบ เขาเป็นรูปแบบชีวิตพลังงาน การที่เขาอยู่ในดวงดาวต้นกำเนิดเพียงลำพังทำให้เห็นว่าเขาคือเจ้าแห่งจักรวาล รูปแบบชีวิตพลังงานเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ไม่โดนการโจมตีจิตวิญญาณ พวกเขาชอบอยู่ใกล้กับพื้นดิน สิ่งมีชีวิตพลังงานชอบนั่งเวลาฝึกฝน แต่เผ่าพันธุ์ของพวกเขาชอบนอน

หนึ่งในหัวของผู้นำแสงสลัวได้หลับตา ส่วนอีกหัวลืมตาเพื่อคอยระวังภัย ตาที่เปิดออกของเขาได้พบกับร่างมนุษย์ที่บินผ่านไปในท้องฟ้า ผู้นำแสงสลัวยืนขึ้น

“ปีกสีเงินงั้นรึ ดูเหมือนมันจะเป็น…บุคคลในตำนานของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาชื่อว่าหลัวเฟิงใช่ไหม”

“แม้ว่ามนุษย์นั้นจะฆ่าจักรพรรดิกระจกเงาได้ก็เป็นเพียงแค่อัศวินชั้นกลาง แล้วเขาก็เป็นเพียงแค่ระดับอมตะ อย่างมากพลังของเขาก็เทียบได้กับอัศวินชั้นกลาง ไม่ก็อัศวินชั้นสูงเท่านั้น”

ผู้นำแสงสลัวตื่นเต้นที่ได้เจอหลัวเฟิง เผ่าพันธุ์ของเขาเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่อยู่ภายใต้พันธมิตรดินแดนเหนือ และจักรพรรดิกระจกเงาที่ถูกหลัวเฟิงฆ่าก็เป็นพันธมิตรแดนเหนือ สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากพันธมิตรแดนเหนือจะต้องรู้เกี่ยวกับหลัวเฟิงแน่นอน

ด้วยข้อมูลของระดับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ ทำให้รู้ว่าอัจฉริยะที่พิเศษนี้มีสมบัติที่แท้จริงอย่างน้อย 6 อย่าง หนึ่งในนั้นเป็นสมบัติที่แท้จริงประเภทวิญญาณ อาวุธจิตวิญญาณ ปีก เกราะ แล้วอีกสองสมบัติจากโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล

6 สมบัติที่แท้จริงก็มากเกินกว่าเจ้าแห่งจักรวาลทั้งหลายมี ยิ่งกับสมบัติที่แท้จริงประเภทวิญญาณก็เป็นที่ปรารถนาของเจ้าแห่งจักรวาล พวกเขาทั้งหมดเห็นว่าหลัวเฟิงนั้นอ่อนแอ และเป็นเพียงแค่อมตะเท่านั้น เขาคือมนุษย์ที่มีรูปร่างเป็นคลังสมบัติเคลื่อนที่ มีการพูดคุยกันในหมู่พันธมิตรแดนเหนือ หากหลัวเฟิงเข้ามายังดวงดาวต้นกำเนิด มันก็เพียงแค่มอบสมบัติให้กับเผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ในดวงดาวต้นกำเนิด

พวกเขาทั้งหมดต่างคิดกันว่าหลัวเฟิงจะไม่โง่เข้าไปยังดวงดาวต้นกำเนิด ตามข้อมูลพื้นฐานที่พวกเขาได้มา หลัวเฟิงไม่ได้เข้ามายังดวงดาวต้นกำเนิดมา 2 หมื่นปีแล้ว

“เขามาที่นี่ แต่ข้าก็ยังไม่ได้รับข่าวอะไร ข้าต้องเป็นคนแรกที่พบเขา”

ผู้นำแสงสลัวได้ใช้สองหัวเงยขึ้นไปมองหลัวเฟิงที่กำลังบิน

“เขาเป็นอัจฉริยะที่หาตัวยากของมนุษย์ ข้าไม่คิดว่าเขาจะโง่พอที่จะให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย”

สิ่งมีชีวิตสองหัวระมัดระวัง หลัวเฟิงต้องมีบางสิ่งบางอย่างช่วยตัวเองแน่นอน เมื่อเขาลังเลอยู่ไม่กี่วินาทีก็สรุป

“เขาก็แค่อมตะ แม้ว่าเขาจะมีอะไรหลบซ่อนอยู่ ข้าก็ฆ่าเขาได้อยู่แล้ว มีเพียงเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงที่จะทำอะไรข้าได้ มันเป็นไปไม่ได้ด้วยที่เขาจะนำเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงซ่อนไว้ในแหวนโลก” ผู้นำแสงสลัวยิ้มเยาะ

“ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เขามี เขาไม่เป็นภัยกับชีวิตข้าอยู่แล้ว”

ผู้นำแสงสลัวคิดว่า มันคือโอกาสครั้งสำคัญของชีวิต ถ้าเขาฆ่ามนุษย์ที่เป็นคลังสมบัติเคลื่อนที่ เขาก็สามารถแลกเปลี่ยนสมบัติของเขากับเกราะที่แท้จริงชั้นยอดได้

สมบัติที่แท้จริงประเภทวิญญาณก็ไร้ประโยชน์สำหรับเขา เขาเป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบพลังงาน ทำให้เขาสามารถแลกเปลี่ยนมันได้ตามต้องการ

“มันคือโอกาสที่ข้าไม่ควรพลาด ถ้าข้าไม่ทำ จะเสียใจไปอีกนับพันล้านปี”

ผู้นำแสงสลัวเริ่มต้นเร่งความเร็วเงียบๆ ภายในป่า หลัวเฟิงที่บินด้วยความเร็วปานกลาง ผู้นำแสงสลัวที่อยู่บนพื้นก็ตามติดหลัวเฟิงได้ทันที

หลัวเฟิงที่ไม่ได้ทันเห็นผู้นำแสงสลัวต้องแต่แรก แต่เมื่อเขาออกมาจากป่า หลัวเฟิงก็รับรู้

“มนุษย์”

ผู้นำแสงสลัวที่ผิวคริสตัลสีม่วงกับสองหัวได้จ้องมองมายังหลัวเฟิง

หลัวเฟิงมองลงมาแล้วขมวดคิ้ว “ผู้นำแสงสลัวจากพันธมิตรแดนเหนือใช่หรือไม่”

หลัวเฟิงที่ระบุตัวตนของฝ่ายตรงข้ามได้ก็ชักดาบตัดมุกออกมา

“ตาย” ผู้นำแสงสลัวตะโกนออกมา

6 แขนของผู้นำแสงสลัวส่องแสงเย็นออกมา พวกเขาทั้งคู่พุ่งเข้าหากัน สภาพแวดล้อมโดยรอบถูกขังโดยกฎเวลา มันได้ส่งผลกระทบให้กับหลัวเฟิง ผู้นำแสงสลัวก็ใช้โอกาสนี้ทำการโจมตีหลัวเฟิง

“เขาพยายามที่จะสู้กับข้า เขาเริ่มใช้พลังกฎพื้นที่ก่อนแล้วค่อยเปิดโจมตี ไม่แปลกที่เขาเป็นถึงเจ้าแห่งจักรวาล”

ท้องฟ้าเริ่มต้นส่องแสงประกายราวกับดวงดาวส่องแสง แต่แสงทั้งหมดนั้นดูดุดัน มันเหมือนกับแสงเหล่านั้นพยายามฆ่าหลัวเฟิงโดยตรง

“ข้าจะใช้เจ้าเพื่อเป็นการทดสอบการฝึกฝนในช่วง 180 ล้านปี” หลัวเฟิงถือดาบตัดมุกมองไปยังฝ่ายตรงข้าม

หลัวเฟิงเริ่มเผาผลาญร่างอมตะ เขาเริ่มเคลื่อนไหวดาบในมือ การแกะสลักปราณีตปรากฎขึ้นมาบนดาบ มันงดงามและดูน่าหลงใหล เมื่อหลัวเฟิงสะบัดดาบ กฎทองและอวกาศก็ผสมรวมกัน

“เจ้ากล้าที่จะสู้รึ” ผู้นำแสงสลัวกล่าว

“แม้ว่าเจ้าจะมีเกราะสมบัติที่แท้จริงทั่วไปก็ต้องตายด้วยการโจมตีนี้”

ความหวาดกลัวเกิดขึ้นมาภายในใจผู้นำแสงสลัว

“นั่นมันอะไร” เขาอ้าปากค้าง

แสงสีทองที่รุนแรง หนาวเย็น มันตัดผ่านผู้นำแสงสลัว และเทคนิคของเขา เขาถูกแยกออกจากกันเหมือนผ่ามด แสงสีทองได้ตัดผ่าผู้นำแสงสลัว พลังโจมตีครึ่งหนึ่งถูกลดลงจากเกราะสมบัติที่แท้จริงทั่วไปของผู้นำแสงสลัว ส่วนที่เหลือผู้นำแสงสลัวต้องรับด้วยร่างกายทั้งหมด

เสียงคำรามดังออกมาจากผู้นำแสงสลัว

“ข้า ข้า…” ผู้นำแสงสลัวที่ลอยอยู่บนฟ้าได้ถูกทำลายหายไปในอากาศ ร่างอมตะของเขาถูกทำลาย เหลือเพียงเกราะป้องกันกับ 6 แสงที่ลอยอยู่

หลัวเฟิงที่ยืนอยู่ในท้องฟ้ายิ้มออกมา