Skip to content

Swallowed Star 1074

ตอนที่ 1074 นั่นหลัวเฟิง

ภายใต้การควบคุมพลังงานอมตะของหลัวเฟิง เกราะสีดำ และ 6 แสงก็บินตรงกลับมาหาเขา

“เกราะสมบัติที่แท้จริงทั่วไป 6 สมบัติที่แท้จริงทั่วไป มันควรจะเป็นชุดสมบัติ มันควรมีค่าเท่ากับสมบัติที่แท้จริงชั้นสูง”

หลัวเฟิงเก็บสมบัติที่แท้จริงและดึงแหวนโลกเข้ามา หลัวเฟิงตรวจสอบพบสมบัติราวสิบชิ้น และสิ่งต่างๆ อีก

หลังจากที่ฆ่าผู้นำแสงสลัว หลัวเฟิงก็ได้เก็บรวบรวมรางวัลจากชัยชนะของเขา

หลัวเฟิงกางปีกบินออกไปเป็นจนกลายเป็นลำแสง เขาใช้ความเร็วไม่เร็วเกินไปไม่ช้าเกินไป เขารักษาความเร็วในการบินใกล้ความเร็วแสง

สภาพแวดล้อมรอบๆ นั้นเงียบสงบ ไม่มีร่องรอยการเคลื่อนไหวใดๆ ไม่มีใครสามารถบอกว่าจุดนี้มีการถูกทำลายของเจ้าแห่งจักรวาล

———-

ในอาณาเขตของกลุ่มพันธมิตรแดนเหนือ ภายในดาวเคราะห์ของดวงดาวเผ่าพันธุ์ม่วงหลอมเหลวที่แดงเข้มทั้งใบ วังบนดาวเคราะห์นี้เป็นของผู้นำแสงสลัว

วังไม่ใหญ่แต่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ม่วงหลอมเหลว ทั้งเผ่าพันธุ์พวกเขามีเจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมด 6 ทำให้แบ่งออกเป็น 6 ดินแดน แต่ละดินแดนถูกจัดการและฝึกฝนโดยเจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 6 ของแต่ละคน

ที่วังมีเหล่าลูกศิษย์และข้ารับใช้คอยเฝ้าดูร่างของผู้นำแสงสลัวที่ทิ้งไว้ก่อนไปดวงดาวต้นกำเนิด

มันคือร่างที่อ่อนแอ แต่ก็ยังพอให้คำแนะนำแก่ศิษย์ จัดการเรื่องบางอย่างโดยไม่ขัดข้อง

“ข้า…” ผู้นำแสงสลัวเผยให้เห็นถึงการแสดงออกที่ตกใจ จากนั้นเขาก็ถูกทำลายและหายไปกับอากาศ

“ท่านผู้นำ”

“อาจารย์”

ลูกศิษย์และข้ารับใช้ที่อยู่ในระยะไกลต้องตกใจเป็นอย่างมาก พื้นที่รอบดาบเคราะห์ถูกผนึกกฎอวกาศ แต่ผู้นำแสงสลัวก็เทเลพอออกไปจากดาวเคราะห์ได้ แต่ร่างของเขาหายไปทันทีได้ยังไง

“ไม่จำเป็นต้องกังวล มีบางเรื่องอาจสำคัญมากที่อาจารย์ต้องให้ความสนใจและออกไป เขาจึงต้องถอดจิตสำนึกจากร่างนี้ ร่างของเขาจึงต้องหายไป”

“เรามาดูเหรียญที่อาจารย์มอบให้เรา”

“งั้นเรามาดูเหรียญกันเถอะ”

ลูกศิษย์ทั้งสามก็นำเหรียญออกมา มันเป็นของมีค่าที่จดจำเจ้าของได้ เมื่อของสิ่งนี้ถูกบดขยี้ ผู้นำแสงสลัวก็จะรับรู้แล้วเร่งรีบไปช่วยเหลือศิษย์

“เหรียญนี้กลายเป็นไม่มีเจ้าของแล้ว” มีเสียงแหลมๆ ตะโกนออกมาจากเหล่าศิษย์

ส่วนคนอื่นๆ ก็คิดแบบเดียวกัน บรรยากาศก็เยือกเย็นทะมึน

“วัตถุนี้ไม่มีเจ้าของ”

“ของข้าก็เหมือนกัน”

ศิษย์ทั้งสาม สบตากัน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ ไม่มีใครในพวกเขาสงสัยว่ามันอยู่ในสถานการณ์แบบใด

มีสองวิธีที่จะทำให้ลบตัวตนของเจ้าของวัตถุ อยากแรกคือการทำลายตราประทับจิตวิญญาณที่อยู่ในวัตถุ อย่างที่สองคือการที่เจ้าของ ของวัตถุนั้นตาย

การที่ผู้นำแสงสลัวไม่ได้อยู่ที่นี่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลบผนึกชีวิตของเขาได้ คำตอบจึงมีอย่างเดียวคือ…ผู้นำแสงสลัวได้ถูกทำลายแล้ว

“เร็วเข้า เราต้องรีบไปแจ้งยังผู้นำคนอื่นๆ”

“รีบออกไปแจ้งข่าวเร็วเข้า”

“แจ้งให้พวกระดับสูงทราบเรื่องด้วย”

6 เจ้าแห่งจักรวาลที่คอยดูแลเผ่าพันธุ์ม่วงหลอมเหลว ถ้าใครซักคนถูกทำลายก็จะเหมือนกับเสาหลักที่ค้ำจุนทั้งเผ่าพันธุ์หายไป นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวของเผ่าพันธุ์

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเจ้าแห่งจักรวาลที่ไม่ได้ไปยังดวงดาวต้นกำเนิดมาถึง เขาเริ่มต้นถามศิษย์ของผู้นำแสงสลัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาก็ขับไล่เหล่าศิษย์รวมข้ารับใช้ออกไป

สามเจ้าแห่งจักรวาลจากเผ่าพันธุ์ม่วงหลอมเหลวมีบรรยากาศกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“แสงสลัวถูกทำลายแล้ว”

“ใครกันที่สามารถฆ่าเขาได้ คิดว่าเขาคงไม่มีแม้โอกาสขอความช่วยเหลือ เขามีเกราะสมบัติที่แท้จริงชั้นกลาง เทคนิคโจมตีของเขาก็แข็งแกร่ง…เป็นไปได้ไหมว่าคือเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงที่ลงมือ”

“แม้ว่าจะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง ก็จะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงที่ทรงพลังกว่าเจ้าแห่งจักรวาลมาก”

เจ้าแห่งจักรวาลที่มีระดับยีนชีวิตที่พิเศษถึง 8 พันเท่า หรือ 9 พันเท่า พลังงานอมตะเพียงอย่างเดียวของพวกเขาก็มากกว่าเจ้าแห่งจักรวาลทั่วไป 100 เท่า เมื่อทำการโจมตีพลังของพวกเขาก็มากกว่าทั่วไป 100 เท่าเช่นกัน

เจ้าแห่งจักรวาลที่ทรงพลังจะต้องมีสมบัติที่แข็งแกร่ง ด้วยพลังต่อสู้กับขนาดร่างกายอมตะที่ใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะไปเจอกับเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง พวกเขาก็สามารถที่จะยืนหยัดอยู่ได้นาน

“การไปยังดวงดาวต้นกำเนิดย่อมถูกฆ่าได้เสมอ ใครกันก็ตามที่สามารถฆ่าผู้นำแสงสลัวได้ เผ่าของเราก็ไม่ควรจะไปสร้างความไม่พอใจกับเขา”

“เราควรจะขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรแดนเหนือให้ช่วยชุบชีวิตแสงสลัว”

“แสงสลัวเป็นเจ้าแห่งจักรวาล การคืนชีพของเขาต้องอยู่ในมือของเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงหลักของพันธมิตร แต่อารมณ์ของพวกเขานั้นไม่แน่นอน เราควรจะรออารมณ์ของเขาดีก่อน แล้วเราค่อยขอความช่วยเหลือจากเขา”

การคืนชีพอัศวินที่ถูกทำลายล่าช้าที่สุดจะอยู่ในช่วงพันปี จนถึงหนึ่งหมื่นปี

แต่กับเจ้าแห่งจักรวาลนั้นไม่ง่าย ในพันธมิตรแดนเหนือมีแค่เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงหลักของพันธมิตรเท่านั้นที่ทำได้ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงอื่นไม่สามารถทำได้ หากเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงหลักทำการจับเรื่องอื่นเป็นเวลานับพันล้านปี ก็ไม่มีใครที่จะกล้าไปพูดกับเขา

“เราจะส่งคำร้องไปยังพันธมิตร และรออย่างอดทน”

“เมื่อแสงสลัวกลับมา เราจะได้รู้ว่าเขาถูกทำลายได้ยังไง”

———-

หลัวเฟิงอยู่บนท้องฟ้าของดวงดาวต้นกำเนิด เขากำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอารมณ์ดี

“เป็นครั้งแรกที่ออกไปสู้ด้วยพลังทั้งหมด มันคือเทคนิคสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย บริมาณพลังงานอมตะที่ใช้ค่อนข้างน่ากลัว ถ้าไม่มีร่างมหาสมุทรกว้างไกลคอยสับสนุนพลังงาน ด้วยท่าเดียวก็พอที่จะทำให้เสียพลังจากร่างกายอมตะไปครึ่งหนึ่ง”

การต่อสู้กับบรรพบุรุษสัตว์อวกาศก่อนหน้านี้ หลัวเฟิงท้าทายโดยไม่ได้ทำการเผาผลาญพลังงานอมตะ ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากนัก แต่การต่อสู้ถึงตาย หลัวเฟิงทำการเผาผลาญพลังงานอมตะ การใช้เทคนิคสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงจำเป็นต้องมีการบริโภคที่มาก การบริโภคพลังงานขนาดใหญ่ ทำให้ได้รับพลังที่แข็งแกร่งอย่างบ้าคลั่ง

“ด้วยดาบของข้าเกราะสมบัติที่แท้จริงชั้นกลางนั้นไร้ประโยชน์ ถ้าเพิ่มการโจมตีอีกหนึ่งระดับ เกราะสมบัติที่แท้จริงนั้นก็ถูกทำลายได้”

“เกราะนั้นทำให้พลังอ่อนลงเพียงครึ่งเดียว ถ้าเขามีเกราะสมบัติที่แท้จริงชั้นสูง ข้าคงทำร้ายเขาได้เพียงแค่บาดเจ็บ ถ้าจะฆ่าเขาคงต้องทำการโจมตี 2-3 ครั้ง”

มันเป็นตัวอย่างที่สำคัญของชุดเกราะ แม้การโจมตีของเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงก็จะมีไม่มากบนเกราะพลัง

“180 ล้านปีที่ฝึกฝนสร้างความสำเร็จให้เป็นอย่างมาก”

หลัวเฟิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาประสบความสำเร็จสูงในการแกะสลักภาพ ทำให้ควบคุมกฎอวกาศเป็นเรื่องเล็กๆ ถึงเขาจะกลับมายังจักรวาลดั้งเดิมไม่กี่วัน เขาก็ทำความเข้าใจกฎอวกาศถึงขั้นสุดท้าย หากเขาทำการรวมกฎอวกาศทั้งสามอย่างเข้าด้วยกันเขาก็จะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง

ก้าวสุดท้ายเป็นความท้าทายเล็กน้อยสำหรับหลัวเฟิง สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่บางคนก็ติดอยู่ที่ก้าวสุดท้ายเหล่านี้ เป็นเหมือนกับที่อาจารย์ท่านผู้ยิ่งใหญ่บอกกับหลัวเฟิง อย่างช้า 1 พันปี ก็เพียงพอจะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง

หลัวเฟิงยิ้ม และบินต่อไป เขารอเจ้าแห่งจักรวาลจะเข้ามาจู่โจมเขา

“มาเอาคลังสมบัติเคลื่อนที่กันเร็วเข้า” หลัวเฟิงยิ้มเยาะ

———-

หนึ่งในหุบเขาที่อยู่ท่ามกลางพื้นราบมีสามอัศวินชั้นสูงจากพันธมิตวงแหวนหนามซ่อนตัวอยู่

พวกเขาได้รอคลื่นพลังกันอยู่เงียบๆ แต่หนึ่งในพวกเขาได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็ต้องตกใจกับสิ่งที่พบ

“ดูนั่น นั่นมันคือหลัวเฟิงจากเผ่ามนุษย์”

“เจ้าหมายถึงมนุษย์ที่โชคดีเสมอ หลัวเฟิงคนนั้นสินะ”

อีกสองอัศวินสะบัดหน้าขึ้นไปมอง พวกเขาพยายามระบุร่างของมนุษย์ที่มีปีกสีเงิน เกราะสีเงิน…

“มันต้องเป็นเขา นั่นคือหลัวเฟิงจากเผ่ามนุษย์”

“มันต้องเป็นเขา ที่มีสมบัติแท้จริงอย่างน้อย 6 ชิ้น และในนั้นมีสมบัติที่แท้จริงประเภทวิญญาณ กับวังบิน”

“เขากล้าที่จะมาดวงดาวต้นกำเนิด อัจฉริยะที่พิเศษคิดว่าจะอยู่ยงคงกระพันงั้นเหรอ ทำไมถึงเย่อหยิ่งอย่างงี้”

“ดีที่เขาหยิ่ง แต่มนุษย์หลัวเฟิงนี้ต้องมีการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง”

“แล้วการสนับสนุนของเขาคืออะไร แม้จะมีเจ้าแห่งจักรวาลในแหวนโลกที่คอยปกป้องเขาอยู่ลับๆ แล้วเขาจะทำอะไรได้บ้าง”

วัชพืชที่อยู่รอบๆพวกเขาทำให้หลบซ่อนจากสายตา เมื่อพวกเขามองขึ้นเห็นร่างที่บินตัดผ่านท้องฟ้าก็หัวใจร้อนรุ่ม

หนึ่งในอัศวินได้ส่งผ่านความคิดโดยที่อีกสองคนได้แบ่งความสนใจจากร่างที่บินอยู่

“เราทำได้ พลังของพวกเรารวมกันนั้นแข็งแกร่งกว่าเขา เมื่อเขาบินใกล้ความเร็วแสง เราจะตามเขาไม่ได้อีกต่อไป ข้ามีแผนที่จะให้เขาไปยังจุดที่หลบหนีไม่ได้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version