ตอนที่ 1090 : ความโกลาหล
“โลก? ไม่มีทาง”
“หินกระจก มันมีทั้งหมด 36 ก้อน ไม่มีทางที่ก้อนเดียวจะแลกกับโลกได้”
เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ ไม่ตกลง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ก็ต้องคิ้วขมวดแล้วพูดขึ้น “ย้อนกลับไปตอนที้ข้านำโลกเข้ามาในองค์กรจักรวาลเสมือน ข้าได้ใช้เงินกว่า 5 หมื่นล้านองค์ประกอบผสม เพื่อซื้อสิทธิ์ทะเลของโลก มันไม่ได้จ่ายเพียงครั้งเดียว มันได้แบ่งจ่าย 3 งวด ตอนนี้ข้าใช้หินกระจกในการแลกเปลี่ยน…ข้าคิดว่าจำนวนมันน่าจะเท่าๆ กัน”
“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล!”
“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล!”
เจ้าแห่งจักรวาล สองคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน พวกนั้นมองหน้ากันจากนั้นหนึ่งในนั้นที่เป็นยักษ์สามเขาและตัวเต็มไปด้วยเกราะก็ได้พูดขึ้นมา “ตอนนั้น หลัวเฟิง ไม่ได้มีค่าอะไร 5 หมื่นล้านองค์ประกอบผสม นั่นถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมากๆ แม้ว่าเจ้าจะได้ทำ สัญญากับองค์กร…เจ้าก็ยังตกลงกับเราด้วย พันธมิตรทหารรับจ้างแห่งจักรวาล และกลุ่มอื่นๆ! ความเป็นเจ้าของทะเลที่โลกและความเป็นเจ้าของที่ระดับท้องฟ้าของทะเลนั้นแบ่งปันในหมู่คนของเรา! ทั้งห้าคนได้ส่งลูกหลานลงไปที่โลก มันก็ผ่านมาแสนปีแล้ว เพราะความเป็นเอกลักษณ์ของโลกซึ่งเจ้าก็ควรจะรู้อยู่แล้ว มันช่างเป็นดาวเคราะห์ที่น่าทึ่ง! เด็กๆ ที่เกิดมาบนโลกนั้นจะมีความสามารถมากกว่าในการเรียนรู้และได้รับพลังมา ในตอนที่ความเร็วเริ่มต้นในการพัฒนาเทียบเท่าได้พวกที่อยู่ดาวเคราะห์อื่นๆ เมื่อเวลาผ่านไปจากการเรียนรู้และการปรับตัว อัตราการพัฒนานั้นก็มากกว่าพวกที่อยู่ดาวเคราะห์อื่นๆ ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ช่างโดดเด่นจริงๆ คิดดูว่าเขาสามารถสร้างดาวเคราะห์แบบนั้นได้! ใครจะไปรู้ว่าเขาใช้เวลากี่ปี ในการสร้างดาวเคราะที่ซึ่งจิตวิญญาณของทารกสามารถที่จะพัฒนาได้? นี่มันเกินกว่าจะอธิบายได้”
ยักษ์ตัวนั้นถอนหายใจออกมาด้วยความทึ่ง “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ สมกับตำแหน่งที่ได้อยู่ในฐานะ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด ที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
ด้วยตำแหน่งที่สูงที่สุดในสังคมเผ่ามนุษย์ พวกเขาต่างก็รู้เกี่ยวกับ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ เผ่ามนุษย์นั้นอาจจะมี เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด แต่ระหว่างตอนที่จักรวาลกำลังกำเนิด มนุษย์นั้นเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังเรียนรู้การเดินแล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นมา ตอนนั้นร่างสิ่งมีชีวิตพิเศษที่ท่องอยู่ในจักรวาลนั้นเป็น สิ่งมีชีวิตที่อยู่ยงคงกระพัน พวกนั้นเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและพลังอย่าง สัตว์เทพอสูรทั้งแปด…
สำหรับ สัตว์เทพอสูรทั้งแปด ในระหว่างช่วงที่โบราณที่สุดก่อนการกำเนิดจักรวาล เขาได้เป็น เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด มานานแล้ว
“โลกนั้นยังคงสร้าง ผู้แข็งแกร่ง อย่างต่อเนื่อง” ยักษ์พูดขึ้นมา “มันสามาถรสร้างสาขาขนาดใหญ่อย่างเผ่ามนุษย์ ทำให้มันมีค่าโดยไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขต ไม่มีทางที่ข้าจะตกลงแลกเปลี่ยนมันกับอะไรได้ง่ายๆ!”
“ข้าเองก็ไม่เห็นด้วย”
“ไม่เห็นด้วย”
สองตัวแทนของสองขุมกำลัง ธนาคารจักรวาลแรกเริ่ม และธนาคารแรกกำเนิด ได้บอกความเห็นของตัวเองออกมา นี่ทำให้ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ต้องกังวล เขาถึงกับต้องคิ้วขมวดไปเล็กน้อย
“งั้นหินกระจก เราควรจัดการกับมันยังไง?” เสียงของ ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ ดังขึ้นมาจากบัลลังก์ “ถ้าไม่มีใครยอมคืนโลก งั้น หลัวเฟิง ก็จะไม่ส่งหินกระจกมาให้เรา”
“สิ่งที่เผ่ามนุษย์ขาดนั้นคือ สมบัติแท้จริงชั้นยอด!” ยักษ์พูดต่อ “สำหรับสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขตขั้นสูง…คิดจากระดับนี้แล้วเผ่ามนุษย์ก็ถือว่าเป็นเจ้าของมันหลายชิ้นแล้ว นอกจากนี้แล้วหินกระจกก็แทนโอกาสที่จะได้สมบัติที่แท้จริงชั้นยอด แทน ไม่ใช่ว่าเราได้โอกาสแบบนี้มาหลายครั้งแล้วเหรอ? มันก็เหมือนกับ มหาสมุทร…หากเรากล้าจะทุ่มทั้งหมด มันก็เป็นไปได้ว่าจะได้รับสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขตขั้นสูงมาตอนไหนก็ได้!”
“ด้วยโอกาส 36 ครั้งในการได้รับสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขตขั้นสูง! การใช้โลกในการแลกเปลี่ยนนั้นปัดทิ้งไปได้เลย!”
“ถูกต้อง”
“ข้าเห็นด้วยกับ กระจกร้าง”
พวกตัวแทนของ พันธมิตรทหารรับจ้างแห่งจักรวาล ธนาคารจักรวาลแรกเริ่ม และธนาคารแรกกำเนิด ต่างก็บอกความเห็นของตัวเองออกมา
“ทุกคน ศิษย์ของข้า หลัวเฟิง” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เริ่มพูดขึ้น “ความสามารถของเขาเทียบเท่ากับเจ้าแห่งจักรวาล แล้ว”
ตึง!
ทุกคนรวมไปถึง ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ ต่างก็มองไปที่ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล
“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เจ้าไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
“หลัวเฟิง เพิ่งเริ่มฝึกฝนได้ไม่นาน เขามีพลังเทียบเท่าเจ้าแห่งจักรวาล งั้นเหรอ?”
“เจ้าเห็นมันด้วยตัวเองรึเปล่า?”
“ไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้”
“เป็นไปไม่ได้”
ไม่มีเลยสักคนที่ชื่อว่า หลัวเฟิง ที่ซึ่งฝึกฝนได้แค่ 100,000 ปี นั้นที่กลายเป็นระดับอมตะเมื่อ 20,000 ปีก่อนตอนนี้อยู่ระดับ เจ้าแห่งจักรวาล แล้ว ในทั้งจักรวาลเกือบจะไม่มีใครที่จะเชื่อเรื่องแบบนี้ได้
“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล นั่นมันจริงเหรอ?” ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองไปรอบๆ จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย เขาตอบกลับ “ข้ายังไม่ทดสอบด้วยตัวเองแต่เราเป็นอาจารย์และศิษย์กันมากว่าเกือบแสนปีและจากที่ข้าเข้าใจเขา…ถ้าเขากล้าพูดออกมา มันต้องเป็นเรื่องจริง!”
“เจ้ายังไม่ได้ทดสอบเขาด้วยตัวเอง”
“งั้นสิ่งนี้ก็ยังไม่ได้รับการทดสอบรึพิสูจน์เลย”
ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะและส่ายหน้า
กระจกร้าง ตัวแทนของพันธมิตรทหารรับจ้างแห่งจักรวาล หัวเราะออกมา “ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล หลัวเฟิง อาจจะใช้หินกระจกและเรื่องของโลกมาเพิ่มความน่าเชื่อถือก็ได้ เขาใช้ความสัมพันธ์ที่มีกับเจ้า เขาอาจจะจงใจบอกมันเพราะเขาเชื่อว่าเจ้าจะเชื่อเขา”
“กระจกร้าง เจ้าคิดว่าศิษย์ของข้าจะเป็นเหมือนศิษย์เจ้ารึไง?” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้นพร้อมกับสายตาที่แสดงความโกรธออกมา
กระจกร้าง ไม่ได้พูดอะไรต่อ ยังไงซะ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ก็มีสิทธิ์สูงสุดในองค์กรจักรวาลเสมือน ในด้านความสามารถหรือฐานะแล้วไม่มีใครที่นี่นอกจาก ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ ที่มีสิทธิ์จะค้านเขาได้!
อีกอย่างแล้วแม้แต่ จักรวาลปฐมกาลก็ยังอยู่ภายใต้การดูแลของเขา…นี่ทำให้ฐานะของ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ก้าวกระโดดขึ้นไปอีกจากขุมกำลังทั้งห้าในเผ่ามนุษย์ สำนักขวานยักษ์ และองค์กรจักรวาลเสมือนนั้นแข็งแกร่งที่สุด พันธมิตรทหารรับจ้างแห่งจักรวาล ธนาคารจักรวาลแรกเริ่ม และธนาคารแรกกำเนิด นั้นลดหลั่นกันลงมา
“หาก หลัวเฟิง บอกว่าเป็น เจ้าแห่งจักรวาล และต้องการลองเข้าไปในวิหารแห่งการแจกแจง งั้นก็ปล่อยเขา เขาต้องลิ้มรสความขมขื่นบ้าง สำหรับการแลกเปลี่ยนโลก…หินกระจกนั้นไม่เพียงพอหรอก”
“หินกระจกแลกเปลี่ยนสิทธิ์เจ้าของโลกนั้นแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้”
ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ถอนหายใจออกมา เขารู้สถานการณ์ดี พวกชั้นสูงพวกนี้มีอารมรณ์ที่แปลก!
เย็นชา, หยิ่งทะนงไม่มีความปราณีในใจ พวกนี้มีหลายหน้า!
พวกนี้จะมีเส้นแบ่งการกระทำเพื่อให้มนุษย์นั้นยำเกรง พวกนี้จะได้รับสิทธิพิเศษตราบใดที่ไม่ก้าวข้ามเส้นที่ขีดกำกับเอาไว้!
จากทุกคนที่อยู่ที่นั่นปกติแล้ว ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เป็นหัวหน้าในการจัดการเรื่องต่างๆ ของเผ่ามนุษย์ เขาคือคนที่จัดการเรื่องพวกนี้ด้วยตำแหน่งที่สูงของเขา
จากมุมมองของเขา โลกอาจจะสำคัญแต่ไม่ว่าจะเป็นพวกอัจฉริยะของเผ่าอื่นๆ หรือพวกที่ฝึกฝนที่อาศัยอยู่ที่โลก…ไม่ใช่ว่าพวกนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของเผ่ามนุษย์รึไง?
เผ่ามนุษย์ยังคงแข็งแกร่งและสามารถได้รับความภักดีและซาบซึ้งของ หลัวเฟิง ได้อยู่ อีกอย่างแล้วอาณาเขตของมนุษย์ก็กว้างขวาง….แม้ว่าจะมีสาขาของโลกที่เทียบได้กับเผ่าพันธุ์ หยันชิง แต่มันยังเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของเผ่ามนุษย์
พวกนี้ต่างก็กังวลเรื่องผลประโยชน์ตัวเอง ดังนั้นจึงไม่มีใครยอมลดราง่ายๆ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล คิดแล้วแอบถอนหายใจออกมา
ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ได้ตะโกนออกมา “การพูดคุยจะจบลงที่นี่!”
คนอื่นๆ ต่างก็เงียบและมองไปที่เขา
“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล” ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ พูดขึ้นมา
ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล โค้งให้เล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ
“เจ้าต้องแจ้ง หลัวเฟิง กับการใช้หินกระจกในการแลกเปลี่ยนกับโลกนั้นเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขาไม่ยอมรับเงื่อนไขอื่น เผ่าของเราก็จะไม่บังคับเขา” ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ ยิ้ม “สำหรับสิทธิการเป็นเจ้าของโลกแล้ว…บอกเขาว่าหากความสามารถและพลังของเขาไปถึงระดับหนึ่งที่ถือว่าเพียงพอได้ งั้นแน่นอนว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”
ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ยิ้ม “ข้าเข้าใจ”
ในทางกลับกันคนอื่นๆ ต่างก็แปลกใจเล็กน้อย
“ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์”
“ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ นี่มัน…”
ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ มองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “เวลาตอนที่ หลัวเฟิง สามารถมานั่งที่นี่กับเราได้นั้นจะเป็นเวลาที่เขาจะได้โลกกลับไป”
เจ้าแห่งจักรวาล ต่างก็ได้แต่ก้มหน้าบ่น
ในตอนที่ ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ สั่งออกมา ไม่มีเลยสักคนในเผ่ามนุษย์ที่กล้าต่อต้านเขา
******
หลัวเฟิง ได้รับข่าวนี้อย่างรวดเร็ว
ในตอนที่เขาได้ยินข่าวนี้จากอาจารย์ หลัวเฟิง ก็โกรธขึ้นมาแต่เขาก็ยังเห็นความหวัง เขาโกรธเพราะ 5 หมื่นล้านองค์ประกอบผสม นั้นได้ซื้อสิทธิ์ครึ่งหนึ่งของโลกไปแต่ตอนนี้แม้ว่าเขาจะมีหินกระจกที่มีค่ามากว่า 10,000 เท่า…หรืออาจจะล้านเท่าแต่เขาก็ไม่อาจแลกเปลี่ยนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของกลับมาได้!
สำหรับความหวังแล้ว เขาเองก็คาดหวังกับสัญญาที่ ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ได้ให้กับเขาไว้!
นี่แสดงให้เห็นว่าโลกนั้นสำคัญแค่ไหน หลัวเฟิง คิดว่าเขาจะไม่ได้มันกลับไปง่ายๆ ไปนั่งร่วมกันกับพวกเขา?
ไม่นาน โลก…ต้องเป็นของชาวโลก
เกือบ 100,000 ปี ที่เขาขยันในการฝึกฝนเพื่อที่จะแข็งแกร่งและมีพลังได้ในสักวัน สามารถที่จะแบกรับทุกอย่างเพื่อชาวโลกได้!
เขาทำมันแบบนี้เพราะเขาคือ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด จากชาวโลกทุกคน…‘พระเจ้า’ ที่พวกนั้นบูชา เขาจะกลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของชาวโลกทุกคน!
จริงๆ แล้วย้อนกลับไปตอนที่ หลัวเฟิง ได้เข้ามาในจักรวาลตอนแรก โดยเฉพาะในตอนที่เขาได้กลายเป็นผู้นำของโลก เขาได้จัดการอันตรายหลายครั้งที่มีต่อโลกซึ่งมีเหตุผลพอที่ชาวโลกจะบูชาเขา มีพวกที่บูชาเขาสำหรับตัวตนที่เขาเป็น!
มีพวกที่บูชาเขาเพราะการกระทำวีรบุรุษของเขา!
เมื่อเวลาผ่านไปพวกนั้นก็เริ่มที่จะบูชาเขามากกว่าเดิม โดยเฉพาะชาวโลกที่ท่องอยู่ในจักรวาลแบบ หลัวเฟิง ที่ซึ่งรู้ถึงผลประโยชน์ที่เขานำพามาให้ จากนั้น 100,000 ปี ต่อมา….การบูชา หลัวเฟิง ก็ได้ส่งต่อกันไปรุ่นสู่รุ่น สุดท้ายแล้วก็ทำให้ หลัวเฟิง เป็นสัญลักษณ์…และผู้นำของเผ่ามนุษย์บนโลก!
“พลังของข้าไม่นานก็สามารถปกป้องเผ่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกได้!” หลัวเฟิง พูดกับตัวเอง
******
ที่ พันธมิตรแดนเหนือ ในวังของ เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว
“เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว”
อัศวินโฮลไลท์ ก้มหัวให้ด้วยความเคารพ
เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากความมืดได้ครอบคลุมไปทั่ววัง “ผู้นำพันธมิตร ได้ชุบชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับบอกว่า…คนที่ฆ่าเจ้าคือ หลัวเฟิง งั้นรึ?”
“ใช่” อัศวินโฮลไลท์ ตอบกลับด้วยความเคารพ “เขาได้ฆ่าข้าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว…แค่ครั้งเดียว!”
หลัวเฟิง ได้ออกจากดินแดนสัตว์อสูรเทพเพื่อกลับมายัง จักรวาลแรกเริ่ม และเมื่อเขากลับมายังดวงดาวต้นกำเนิด อีกครั้ง…เขาก็ควบคุมสมบัติในร่างมนุษย์และกำจัดสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่น ตอนนั้นคนแรกที่ไปพบกับเขา คือ อัศวินโฮลไลท์ และโดน หลัวเฟิง ฆ่าตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากดาบของเขา
“เจ้าแน่ใจนะว่าเป็น หลัวเฟิง? ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวงั้นรึ?” เสียงนั้นถามขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว ข้ามั่นใจ” อัศวินโฮลไลท์ พูดขึ้นมา “นี่คือฉากที่ข้าโดนฆ่าตอนนั้น”
อัศวินโฮลไลท์ ตอบกลับพร้อมกับนึกถึงความทรงจำผ่านทางพลังอมตะของเขาพร้อมกับแสดงภาพที่บันทึกเอาไว้ ดาบอันเย็นชาและคมกริบของ หลัวเฟิง ได้เปลี่ยนเป็นแสงสีทอง ด้วยการโจมตีเพียงครั้งดียวมันได้ฟันผ่าเกราะสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง ของ อัศวินโฮลไลท์ และส่งเขาไปตายโดยไม่มีโอกาสต่อต้าน
เงียบ
เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว เองก็เงียบไปด้วย เขาได้ชุบชีวิตอัศวินอวกาศมาจำนวนมากและได้ยินเรื่องราวที่พวกนั้นบอกว่าโดน หลัวเฟิง ฆ่า….นี่บ่งบอกว่า หลัวเฟิง มีพลังของเจ้าแห่งจักรวาลแล้ว แต่ อัศวินโฮลไลท์ เองก็เป็นเจ้าแห่งจักรวาล!
และด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอจะฆ่าเขาได้…พลังแบบนั้นเป็นไปได้ว่าต้องเป็นเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง
“เป็นอมตะ ในเวลาแค่ 50,000 ปี…” เสียงในความมืดดังก้องขึ้นด้วยความช็อก “ส่งคำสั่งข้าออกไป”
เสียงนั้นดังก้องไปทั่วทั้งวังและอัศวินอวกาศต่างก็ได้ยินมัน พวกเขาเริ่มที่จะทำตามคำสั่งทันที
“มนุษย์ หลัวเฟิง มีพลังของเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง และพลังของเขาก็เทียบได้เท่ากับ ผู้นำวังทลายสวรรค์ ส่งข้อมูลนี้ถูกส่งออกไปทั่วจักรวาล ทุกคนในจักรวาลต้องรู้โดยเฉพาะพวกเผ่าแมลง, ปีศาจและเผ่าหุ่นยนต์…พวกคนที่มีความแค้นกับเผ่ามนุษย์! พวกเขาต้องใช้ทุกวิถีทางในการกำจัด หลัวเฟิง ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาสามารถเข้าถึงระดับของ ผู้นำวังทลายสวรรค์ ได้ในเวลาอันสั้น ถ้าเขามีเวลาอีกไม่กี่ร้อยปี งั้นไม่ใช่ว่าเผ่ามนุษย์จะมีคนอย่าง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เพิ่มอีกคนหรอกรึ?”
“ได้!”
“ได้!”
“ได้!”
อัศวินอวกาศทุกคนภายในวังต่างก็รับคำสั่งทันที
******
ข่าวนี้ไม่นานก็แพร่ไปทุกช่องทางของ พันธมิตรแดนเหนือ
พันธมิตรแดนเหนือ นั้นเป็นหนึ่งในขุมอำนาจภายในจักรวาล ด้วยจำนวนคนที่เยอะที่สุดและอัศวินอวกาศจำนวนมาก ตอนที่พวกเขาได้รับข่าวนี้ ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ภายในวันเดียวทั้งเก้าขุมพลังของจักรวาล, ขุมอำนาจต่างๆ…เกือบทุกคนในจักรวาลอันกว้างใหญ่ก็ได้ยินข่าวนี้
ข่าวนี้สุดท้ายก็มาถึงเผ่ามนุษย์และอัศวินอวกาศเผ่ามนุษย์ทุกคนต่างก็อึ้ง
อัศวินทรูหยัน, อัศวินผู้ผนึกเวลา, อัศวินเก้าดาบ , ผู้นำจักรวรรดิแกนวู , ผู้นำวังทลายสวรรค์, อัศวินอมตะ , อัศวินกุยยี่…ทุกคนต่างก็ได้รับข่าวที่น่าเหลือเชื่อนี้
หลัวเฟิง คนที่สร้างความวุ่นวายขึ้นมาในทุกเผ่าพันธุ์ในจักรวาล