Skip to content

Swallowed Star 11

ตอนที่ 11

ปฏิกิริยาโต้ตอบ

“สหายเจียงดูเหมือนจะมั่นใจมากเลยนะ” อาจารย์ใหญ่ ‘อูทง’ กล่าวพร้อมหัวเราะ แต่สายตายังจับไปที่หลัวเฟิงไม่เปลี่ยน ทุกคน ในที่นั้นต่างก็จับตาไปที่หลัวเฟิงและรอคอยดูผลการทดสอบของเขา

หลัวเฟิงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าเครื่องทดสอบแล้วเขาก็ปลดปล่อยพลัง ออกมาจากช่วงเอว ร่างกายของเขาบิดเล็กน้อยเพื่อเพิ่มพลังจากส่วนเอวให้เพิ่มมากขึ้น และทันใดนั้น พลังทั้งหมดก็ถ่ายเทมายังท่อนแขนของเขา หมัดของหลัวเฟิงราวกับลูกธนูเพลิงที่พุ่งออก จากคันธนูภายใต้แสงแห่งจันทร์เพ็ญ พุ่งทะยานจนมองแทบไม่เห็น “ปัง…” หมัดของเขาพุ่งเข้าปะทะกับเครื่องทดสอบอย่างรุนแรง

หลังจากที่เขาปล่อยหมัดออกไป หลัวเฟิงก็รู้สึกเหมือนได้ ปลดปล่อย “รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้ปล่อยหมัดนั้นออกไป พลังทั้งหมดปล่อยออกไปพร้อมหมัดนั้น” เขามองดูที่หน้าจอแสดงผล      ‘1101 กิโลกรัม’

“ดี”

“ไม่เลว” เหล่านักสู้พากันชื่นชมกันเกรียวกราว

อาจารย์ใหญ่ ‘อูทง’ ลูบคางแล้วพยักหน้า “ไม่เลวเจ้าหนุ่ม ไม่ สูญเสียศูนย์ถ่วงร่างกายเลยขณะที่ปล่อยหมัดออกมา หากใครก็ ตามที่ละทิ้งทุกอย่างเพื่อต้องการพลังหมัดที่เพิ่มขึ้น สูญเสียศูนย์ถ่วงร่างกายไป เขาอาจได้พลังหมัดที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ใน การต่อสู้กับลัตว์ประหลาดจริงๆ การสูญเสียศูนย์ถ่วงร่างกายก็คือ การฆ่าตัวตายชัดๆ!.. ไม่เลวๆ”

“ฮ่าๆ เจ้าเด็กหลัวเฟิงคนนี้มันเก่งจริงๆ เลย” อาจารย์เจียงเหนียน กล่าวพร้อมหัวเราะชอบใจ “เขาเคยอัดสมาชิกระดับหัว กะทิถึง 3 คนพร้อมๆ กันด้วยความแข็งแกร่งและความเร็วของเขามาแล้ว!”

หลัวเฟิงรู้สึกดีใจบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินที่อาจารย์และอาจารย์ ใหญ่กล่าวชื่นชม

เขาเคยเข้าโคม่ามา 2 ครั้งเมื่อตอนเป็นเด็ก มันเพิ่มความ แข็งแกร่งและความเร็วให้กับเขา นับตั้งแต่นั้นมา เขาก็วางแผนจะ เป็นยอดนักสู้มาตลอด! นักสู้ที่เก่งจริงก็ต้องมีทักษะในการต่อสู้ที่ ยอดเยี่ยมด้วย ช่วงที่เขาเป็นวัยรุ่น ตอนที่ยังไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกของสำนักขีดสุด เขาก็ศึกษาพื้นฐานศิลปะการต่อสู้และฝึกฝนเพียงลำพังเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์มาโดยตลอด

นั่นจึงทำให้ทักษะการต่อสู้ของเขายอดเยี่ยมอย่างนี้

“ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง เอ้า..ผ่าน!” อาจารย์ใหญ่อูทงสุ่ม หยิบบัตรประจำตัวขึ้นมาแล้วสแกนกับเครื่อง “คนต่อไป ไป๋หยาง”

หลัวเฟิงเดินกลับเข้าที่ซึ่งเตรียมไว้สำหรับผู้เข้าสอบ

“ไม่เลว เจ้าบ้า” หยางอู่หัวเราะ

หลัวเฟิงยิงฟันตอบ

…………….

ทั้ง 8 คนเข้าทดสอบ ‘พลังหมัด’ เสร็จอย่างรวดเร็ว และมีเพียง คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ผ่านการทดสอบ พลังหมัดของเขาทำได้เพียง 892 กิโลกรัม เกือบผ่านแล้วแต่ก็ยังไม่ดีพอ ดังนั้นสำหรับการทดสอบรอบต่อไป การทดสอบความเร็ว ก็จะมีเพียงแค่ 7 คน เท่านั้นที่ได้ทดสอบต่อ

“ติ๊ด..” อาจารย์ใหญ่อูทงเดินเข้าไปเปิดสวิตช์เครื่องทดสอบความเร็ว

“ทีละคน เรียงลำดับย้อนกลับมา คนแรก หยางอู่” อาจารย์ ใหญ่อูทงออกคำสั่ง หยางอู่คือคนสุดท้ายที่เข้าทดสอบพลังหมัด ดังนั้นเขาก็จะเป็นคนแรกในการเข้าทดสอบความเร็ว

หยางอู่สูดหายใจเข้าลึก

เขาเข้าทดสอบเตรียมนักสู้มาเกือบ 10 ครั้งแล้ว และก็ไม่เคยผ่านการทดสอบความเร็วซักครั้งเลย

“พี่หยาง พี่ทำได้แน่” หลัวเฟิงตบไหล่หยางอู่

“คอยดูนะ” หยางอู่ควบคุมลมหายใจและเริ่มวิ่งบนลู่ทันที

อาจารย์เจียงเหนียนขมวดคิ้วมองฉากนี้ เพราะหยางอู่มาจาก เขตอี๋อันเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ผ่าน ‘การทดสอบความเร็ว’ มาหลายครั้งแล้ว

“วืด…”

หยางอู่ก้าวเหยียบบนลู่วิ่งทำให้เกิดเสียงโทนต่ำๆ ดังออกมา ด้วยพลังแขนของเขาและการระเบิดพลังออกมา เขาเร่งความเร็ว แตะจุดสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว เส้นเลือดใหญ่ปูดโปนบนหน้าอันเต็ม ไปด้วยแผลเป็นของเขา ขณะที่กรามของเขาก็เป็นสันนูนด้วยการกัดฟันแน่น เขาครางต่ำๆ ออกมาหลังจากที่ทำการทดสอบเสร็จแล้ว

“ฉันจะต้องผ่านแน่!” หยางอู่หยุดลงและรำพึงในใจ

เขาหันมามองที่หลัวเฟิงก็เห็นว่าหลัวเฟิงกำลังยกนิ้วให้ หลังจากเห็นดังนั้น หยางอู่ก็รู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ทีเดียว

“ฮ่าๆ หยางอู่ ยอดเยี่ยม เธอผ่านจริงๆ ด้วย” อาจารย์เจียงเหนียน หัวเราะชอบใจ

หยางอู่ขยับออกมาและมองดูที่จอแสดงผล… ‘25.1 เมตรต่อวินาที’

“เฮ้อ..เฉียดฉิว” หยางอู่หัวเราะออกมาเหมือนกัน หากร่างกาย ของเขามีปัญหาแม้เพียงเล็กน้อย เขาคงไม่อาจทำได้ถึง 25 เมตร ต่อวินาทีแบบนี้ แบบนั้นเขาก็คงต้องสอบตกอีกครั้งแน่ๆ

“เอ้า..ผ่าน!” อาจารย์ใหญ่อูทงยิ้มให้ “คนต่อไป”

ทุกคนเข้าทดสอบทีละคน เพราะหลัวเฟิงเข้าทดสอบพลังหมัด เป็นคนที่สอง เขาจึงเป็นคนรองสุดท้ายที่จะได้เข้าทดสอบความเร็ว

แล้วก็มาถึงตาของหลัวเฟิงจนได้

“หลัวเฟิง” อาจารย์ใหญ่ตะโกนเรียกมา

“ทำเต็มที่นะ เจ้าบ้า เราจะได้ไปเข้าทดสอบการต่อสู้จริงด้วยกัน” หยางอู่กระตุ้น หลัวเฟิงจึงยิ้มและพยักหน้าให้ เขาก้าวขึ้น ไปบนลู่วิ่งและควบคุมลมหายใจ เขากระโดดเบาๆ สองครั้งบนลู่วิ่ง หลัวเฟิงดูไม่เหมือนกับหยางอู่ซึ่งเป็นประเภทดุดัน แต่หลัวเฟิงกลับ ปลดปล่อยความรู้สึกผ่อนคลายออกมา

“วูบ…”

ทันทีที่เขาเริ่มออกแรงวิ่ง หลัวเฟิงดูไม่ผิดกับเสือดาวผู้เป็นจ้าว แห่งความเร็ว เกิดกระแสลมแรงขึ้นขณะที่เขาเร่งความเร็วแตะขีดจำกัด ตอนนี้สามารถบอกได้ด้วยสายตาเลยว่าความเร็วของหลัวเฟิงน่าจะสูงกว่าคนอื่นๆ ที่ผ่านมาก่อนหน้า

“ผมรู้สึกว่าน่าจะโอเคแล้ว” หลัวเฟิงหันไปทางหยางอู่แล้วก็ เห็นเขายกนิ้วให้ แม้แต่อาจารย์อูทงและอาจารย์เจียงเหนียนก็ยัง อดนึกชมเชยอยู่ในใจไม่ได้

หลัวเฟิงก้าวออกมาแล้วมองดูหน้าจอแสดงผล…

“28.6 เมตรต่อวินาที”

“เร็วมาก..เร็วเกินกว่าขีดกำหนดไว้ซะอีก” อาจารย์ใหญ่อูทงหัวเราะแล้วพยักหน้าให้ “เอ้า..คนสุดท้าย ถงกวาน”

…………

หลังจากการทดสอบพลังหมัด มีหนึ่งคนที่ต้องสอบตกไป และ หลังจากการทดสอบความเร็ว ก็มีอีก 2 คนที่จะต้องกลับบ้านไป ตอนนี้ก็เหลือเพียง 5 คนแล้ว การทดสอบที่ 3 ก็คือ ‘การทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบ’

“ตามฉันมา” อาจารย์ใหญ่อูทงเดินนำกลุ่มนักสู้และ 5 คนที่ เหลือจากการทดสอบก่อนหน้า จากนั้นก็เข้ามาที่ ‘ห้องทดสอบความเร็วของปฏิกิริยาโต้ตอบ’ ซึ่งอยู่ถัดจากโรงฝึกนั่นเอง

ห้องนี้มีพื้นที่ราวๆ 100 ตารางเมตรเห็นจะได้

แน่นอน หากเปรียบเทียบกับโรงฝึกขนาดใหญ่ยักษ์เมื่อสักครู่ ซึ่งมีขนาดพื้นที่เป็นพันๆ ตารางเมตร ห้องทดสอบความเร็วของ ปฏิกิริยาโต้ตอบนี้เล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด มีเพียงเครื่องทดสอบขนาดใหญ่ซึ่งดูเหมือนจะแพงมากตั้งเด่นอยู่เท่านั้น ที่ด้านหน้าเครื่องทดสอบนั้นมีอะไรบางอย่างหน้าตาเหมือนลำกล้องปืนกล อย่างไรก็ตาม ที่เครื่องทดสอบกลับมีช่องให้วิถีกระสุนมากกว่าปืนกลธรรมดา

“คนแรก ถงกวาน” อาจารย์ใหญ่อูทงออกคำสั่ง

เจ้าคนหนวดเฟิ้มก้าวออกไปด้านหน้ากระบอกปีนกลทันที เขา ยืนในวงกลมซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.6 เมตรวงนั่น

“คลิก!” สวิตช์ถูกเปิดขึ้น

แสงสีแดงสว่างจ้าขึ้นเหนือเส้นขอบของวงกลมนั้น ราวกับว่า นักรบที่อยู่ด้านในนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยม่านสีแดง

“จำเอาไว้ไม่ว่าจะยังไง ก็อย่าออกมาจากวงกลมนั้นเด็ดขาด หากก้าวออกมาจะถูกปรับตกทันที และถ้าร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง สัมผัสกับม่านไฟสีแดงนั้น นายก็จะถูกตัดคะแนน” หลังจากที่ อาจารย์ใหญ่อูทงกล่าวจบ เขาก็เดินเครื่องทดสอบความเร็วของ ปฏิกิริยาโต้ตอบแล้วกดปุ่มจำนวนหนึ่งพร้อมทั้งปรับค่าพลัง มีระดับพลังที่แตกต่างกันเป็นระดับชั้น

ขีดที่ต่ำสุดสำหรับสมาชิกขั้นฝีมือระดับกลาง

และขีดที่สูงสุด..สำหรับระดับยอดนักสู้

“เริ่มได้!” อาจารย์ใหญ่กดปุ่มสีแดงลงไป

“ติ๊ด…ติ๊ด….” ปืนกลกระบอกใหญ่เริ่มหมุนติ้วทันที ลำกล้อง ปืนนับโหลเริ่มเปล่งแสงสีแดงออกมา มีทั้งกระบอกที่ช้าและกระบอกที่เร็ว วิถีกระสุนน่าจะเดาทางไม่ได้เลย มันดูวุ่นวายและสับสน และ แล้วมันก็ปล่อยห่ากระสุนเข้าไปในวงกลมนั้น

เจ้าหนวดเฟิ้มนั้นจ้องเขม็งไปข้างหน้าแล้วหลบหลีกซ้ายทีขวา ทีตรงกลางระหว่างกระสุนอย่างต่อเนื่อง

“ปุ๊ๆ..!” กระสุนพุ่งโดนไป 2 นัด

แต่อย่างไรก็ตาม ‘กระสุน’ นี้ผลิตมาจากยาง ไม่ได้เร็วและแรง อะไรมาก ดังนั้นจึงไม่ได้ทำอันตรายใดๆ

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

เจ้าหนวดเฟิ้มนั่นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะหลบหลีก แล้ว เวลาก็ล่วงมาถึงหนึ่งนาที

“ติ๊ด..” หลังจากที่อาจารย์ใหญ่อูทงกดปุ่ม ลำกล้องของปืนกล ก็หยุดลงเพียงแค่นั้น หน้าจอแสดงผลที่อยู่ตรงกลางเครื่องก็ปรากฎ ข้อมูลจำนวนมากออกมา

“ภายในเวลา 60 วินาที โดนยิง 57 ครั้ง และสัมผัสโดนม่านไฟสีแดง 3 ครั้ง…ไม่ผ่าน!” อาจารย์ใหญ่อูทงกล่าวขึ้น ขณะเดียวกันก็ซัดบัตรประจำตัวกลับไปให้เจ้าหนวดเฟิ้มคนนั้น

“พลาดไปนิดเดียว” เจ้าหนวดเฟิ้มคนนั้นกัดกรามกรอดแล้ว เดินออกมาจากวงกลมพลางส่ายหัวอย่างผิดหวัง

“คนต่อไป หลัวเฟิง” อาจารย์ใหญ่อูทงออกคำสั่ง

หลังจากชกกำปั้นกับหยางอู่ หลัวเฟิงก็เดินเข้าไปในวงกลมนั้น

ขณะที่หลัวเฟิงยืนอยู่ในวงกลมและเผชิญหน้ากับปืนกล กระบอกยักษ์อยู่นั้น เขาก็สูดหายเข้าลึกเต็มปอด…ก่อนที่เขาจะเข้ามาฝึกที่สำนัก เขาก็ฝึกฝนแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว อีกอย่าง หลัวเฟิงก็โดดเด่นสุดแล้วในการทดสอบแบบนี้ “ก่อนการสอบในชั้นมัธยมที่เพิ่งจะผ่านมา เราโดนกระสุน 50-55 นัด ใน 60 วินาที แต่ตอนนี้สมรรถภาพร่างกายของเราเพิ่มระดับขึ้นแล้ว ปฏิกิริยา โต้ตอบก็เพิ่มขึ้นด้วยเหมือนกัน การทดสอบนี้เราน่าจะผ่านได้ อย่างไม่มีบัญหาแน่”

“จำไว้ อย่าออกมานอกวงกลม หากก้าวออกมา จะถูกปรับตกทันที หากสัมผัสโดนม่านไฟสีแดงก็จะถูกหักคะแนนทุกครั้ง” หลังจากอาจารย์อูทงกล่าวเช่นนั้น เขาก็กดปุ่มสีแดงทันที

“ตี๊ด..ตี๊ด..”

ปากกระบอกปีนกลของเครื่องทดสอบเริ่มทำงานทันที ลำ กล้องปืนกลร่วมโหลเริ่มเปล่งแสงสีแดงออกมาแล้วจากนั้นมันก็ ปล่อยห่ากระสุนยางออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“หืม?” หลัวเฟิงจ้องเขม็งไปข้างหน้าและคำนวณตำแหน่งใน หัวอย่างรวดเร็ว ราวกับแมวป่า เขาหลบหลีกไปซ้ายทีขวาที ผ่าน ไปนัดต่อนัด แน่นอนว่ากระสุนบางนัดก็เร็วเกินกว่าจะหลบหลีกได้ทัน ดังนั้นก็มีอยู่บ้างที่โดนตัวเขา

ขณะที่หลัวเฟิงกำลังหลบหลีก นักสู้หลายคนก็เริ่มฮือฮากันขึ้น

“เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่เลวเลย ปฏิกิริยาโต้ตอบของเขาสุดยอด”

“จริงด้วย เขาเร็วมากและพื้นฐานกับท่วงท่าก็ดีด้วย ดูสิ เท้า ของเขาเหมือนอุ้งเท้าแมว เขาไม่สูญเสียการทรงตัวเลยหลังจาก หลบหลีกไปมา ถึงทำให้เขาโยกหลบได้อย่างรวดเร็ว ท่วงท่าแบบนี้ …ถ้าเขาไม่เป็นอัจฉริยะก็ต้องฝึกหนักมาเป็น 10 ปีแน่ ไม่งั้นไม่มีทาง ที่เขาจะมีพื้นฐานแน่นอย่างนี้ได้หรอก”

เหล่านักสู้ที่อยู่ตรงนั้นต่างประหลาดใจไปตามๆ กัน

ระดับสมรรถนภาพร่างกายของนักสู้เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนได้ แต่ท่วงท่าและทักษะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ล้วนๆ อีกอย่างระดับ สมรรถภาพร่างกายก็ไม่ได้ช่วยให้ท่วงท่าดีขึ้นด้วย

“ติ้ด..” หลังจากกดปุ่ม ปืนกลยักษ์ก็หมุนช้าลงและข้อมูล จำนวนมากก็แสดงผลออกมา

“ภายใน 60 วินาที โดนยิง 28 นัด สัมผัสโดนม่านไฟสีแดง 0 ครั้ง ยอดเยี่ยม!” อาจารย์ใหญ่อูทงยิ้มกว้างออกมา “ไม่เลวเลยหลัวเฟิง ขอแสดงความยินดีด้วย รอแค่มีเอกสารแจ้งมาอย่างเป็นทางการ หลังจากข้อมูลของเธอถูกบันทึกไว้ เธอก็จะได้เป็นเตรียมนักสู้ทันที!”

หลังจากการสอบ ใบประกาศนียบัตรที่เป็นทางการก็จะ ออกมาและข้อมูลนี้ก็จะถูกส่งไปให้หน่วยงานรวบรวมข้อมูลประชากรภายใน 7 วัน

หลัวเฟิงกำหมัดขวาแน่น “ในที่สุดก็สำเร็จ!”

ในที่สุดตนก็ได้เป็นเตรียมนักสู้แล้ว!

“หลัวเฟิง ว้นที่ 1 สิงหาคม คือวันที่จะต้องเข้าทดสอบการต่อสู้จริง มาถึงที่ทำการสมาคมขีดสุดแต่เช้านะ ภายใต้การกำกับดูแล ของอาจารย์เธอกับเตรียมนักสู้คนอื่นๆ จะต้องไปต่อสู้กับสัตว์ ประหลาดด้านนอกฐานที่มั่นของมนุษย์! หลังจากผ่านการทดสอบ เธอก็จะได้เป็นนักสู้จริงๆ แล้วทีนี้” อาจารย์เจียงเหนียน ยิ้มให้ ขณะที่พูดกับเขา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version