ตอนที่ 1111 เมื่อลมพัด
เมื่อสองสิ่งมีชีวิตทรงพลังเทียบเท่ากันต่อสู้จะต้องมีทั้งรุกและถอย แต่เวลานี้กลับแตกต่างไปเลย
หลัวเฟิงได้ใช้เทคนิคสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาล ด้วยการโจมตีครั้งเดียวทำให้ทั้งร่างของอัศวินดอกไม้นภาต้องถูกโยนไปด้านหลัง
“ท่าไม่ดีแล้ว ถ้าโจมตีอีก 9 ครั้ง ร่างกายอมตะของข้าก็ถูกทำลายทั้งหมดทันที” อัศวินดอกไม้นภาคิด
อัศวินดอกไม้นภาไม่รู้สึกตกใจแม้กับความจริงที่หลัวเฟิงได้กลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาล สิ่งสำคัญที่สุดของเขาตอนนี้คือการหนีเพื่อรักษาชีวิตของเขา
“เข็มขาว”
ด้านหลังของอัศวินดอกไม้นภามีกระสวยสีขาวมันวาวขนาดใหญ่ปรากฎขึ้น มันมีความยาวประมาณ 600 กิโลเมตร
เมื่อมันโผล่ออกมาก็บินตรงไปยังอัศวินดอกไม้นภา มันเร่งความเร็วเพื่อรับการโจมตีครั้งที่สองของหลัวเฟิง
อัศวินดอกไม้นภาได้สอดตัวเองเข้าไปยังกระสวยสีขาว หลังจากที่เขาเข้าไปด้านในก็ถอนหายใจออกมา
“ข้าเกือบถูกหลัวเฟิงฆ่า ตอนแรกที่หลัวเฟิงใช้พลังของเขาครั้งแรกมันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของพลังเต็มที่ พลังที่ระเบิดออกมามันอยู่ในระดับของเจ้าแห่งจักรวาล” อัศวินดอกไม้นภากำลังกังวล
“เขาช่างเจ้าเล่ห์ เขาหลอกข้าด้วยการโจมตีแรก…แต่การโจมตีของเขานั้นรวดเร็วจนไม่สามารถแม้จะขวางไว้ได้ เทคนิคของเขานั้นจะต้องเป็นของระดับเจ้าแห่งจักรวาล แล้วมันน่าจะเป็นเทคนิคสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาล หลัวเฟิงที่สามารถสร้างเทคนิคนี้ เขาจะต้องกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลแล้ว”
อัศวินดอกไม้นภามีอารมณ์ที่หลากหลาย
“โชคดีที่เลือกเข็มขาวตอนที่แลกเปลี่ยนสมบัติกับเผ่าพันธุ์ ดีที่ไม่ได้แลกมันกับเกราะสมบัติแท้จริงชั้นสูง”
อัศวินดอกไม้นภาถอนหายใจ เขาได้รับสมบัติจำนวนมากจากการเดินทางในจักรวาล ช่วงแรกของดาวต้นกำเนิด เขาได้แลกสิ่งที่เขารวบรวมกับสมบัติที่ใช้ปกป้องตัวเอง
สมบัติแท้จริงประเภทวังบินนี้มีราคาแพง แต่เขาก็ยังคงกัดฟันที่จะจ่ายสำหรับมัน
“ข้าตัดสินใจถูกแล้ว การโจมตีนั้นของหลัวเฟิงน่ากลัวแม้ว่าจะมีเกราะสมบัติแท้จริงชั้นสูง ถึงพลังโจมตีจะลดลง แต่ก็ยังหนีไม่พ้นที่จะถูกทำลายถ้าถูกโจมตีซ้ำๆ”
อัศวินดอกไม้นภาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากซ่อนตัวอยู่ในสมบัติแท้จริงประเภทวังบิน ในที่นี้เขารู้สึกปลอดภัย และเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัว
หลัวเฟิงยืนมองกระสวยสีขาวอยู่บนคลื่นสีทองของแม่น้ำเก้าเสือ การแสดงออกของเขาเปลี่ยนเป็นไม่สนใจ
“สมบัติแท้จริงประเภทวังบิน”
เสียงดังมาจากกระสวย “ฮ่า ฮ่า หลัวเฟิง ข้าขอชื่นชมความเป็นอัจฉริยะของเจ้า เผ่าพันธุ์นับล้านในจักรวาลได้คิดว่าเจ้าเป็นอัศวินระดับสูงสุดจากช่วงเวลาฝึกฝนอันสั้น พวกเขาคงจะไม่สงสัยเลยว่าเจ้าเป็นเจ้าแห่งจักรวาลแล้ว”
“ถ้าไม่ใช่เพราะสมบัติวังบินของข้า วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ฮ่า ฮ่า…ข้าคิดว่าตอนนี้มันอาจเป็นเพราะโชคของเจ้า”
“โชคของข้า?” หลัวเฟิงมองที่กระสวยสีขาว
“กำลังโกรธ? โกรธมากงั้นเหรอ” อัศวินดอกไม้นภาส่งเสียงเยาะเย้ย “แต่เจ้าจะทำอะไรข้าได้เมื่อข้าอยู่ในวังบิน แม้เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นหลายสิบหลายร้อยเท่าก็ตาม เจ้าก็ทำได้เพียงแค่จ้องมอง”
หลัวเฟิงรู้สึกว่าเขาได้ทำผิดพลาด เขาได้เตรียมการที่จะต่อสู้เพื่อชื่อเสียง เขาวางแผนสำหรับสถานการณ์ที่เป็นไปได้ต่างๆ เขาได้พิสูจน์พลังของเขาต่อหน้าสิ่งมีชีวิตที่กำลังเฝ้าดูเขาจากระยะไกล และอัศวินดอกไม้นภาทำการยอมรับว่าเขาทรงพลังจริง
แต่จากสภาพนี้ เขาไม่มีทางจัดการมันให้จบได้ เขาฆ่าอัศวินดอกไม้นภาไม่ได้ การต่อสู้นี้ไม่จบแน่นอน
หลัวเฟิงไม่คิดที่จะลองพยายามเปิดกระสวยสีขาวนั้นออก วังบินนั้นถือว่าทนทานมากที่สุดในสมบัติระดับเดียวกัน และมันถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในการป้องกันทางวัตถุ
อัศวินดอกไม้นภาที่อยู่ในวังบินจำเป็นต้องทำการโจมตีวิญญาณเท่านั้น หลัวเฟิงที่ไม่ชำนาญการโจมตีวิญญาณ เขาจึงทำอะไรไม่ได้ หลัวเฟิงเก็บแม่น้ำเก้าเสือแล้วกายเป็นลำแสงหายไปจากพื้นที่นั้นด้วยความเร็วสูง
“อยากจะหนีงั้นรึ” อัศวินดอกไม้นภาได้ให้กระสวยสีขาวตามติดเข้าไปใกล้หลัวเฟิงอย่างรวดเร็ว
หลัวเฟิงกับกระสวยสีขาวได้บินออกไป แต่อัศวินจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่เฝ้าดูกำลังตกตะลึง
“เขามีสมบัติแท้จริงประเภทวังบิน”
“อัศวินดอกไม้นภาบอกว่าหลัวเฟิงคือเจ้าแห่งจักรวาล”
“เขาจะต้องเป็นเจ้าแห่งจักรวาลแน่นอน มันจะเป็นอะไรได้อีกถ้าไม่ใช่เจ้าแห่งจักรวาล เขาสามารถทำให้อัศวินระดับสูงสุดสูญเสียร่างกายของเขาไป 10% จากการโจมตีครั้งเดียว นอกจากเจ้าแห่งจักรวาลแล้วใครจะมีพลังนั้น”
“อัศวินดอกไม้นภา อยากตามข้ามางั้นเรอะ” หลัวเฟิงกล่าว
“ใช่ ข้าจะจับตาดูเจ้า เจ้าไม่มีทางที่จะหลบหนีจากข้าไปได้” เสียงดังออกมาจากกระสวย
หลัวเฟิงรู้ดีว่าทั้งสามเผ่าพันธุ์ชั้นยอดมักจะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเขา อัศวินดอกไม้นภาที่ติดตามเขาจะต้องแจ้งพิกัดให้กับระดับสูงของเผ่าพันธุ์มาร
ตาของหลัวเฟิงเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
———-
ในดินแดนลับบรรพบุรุษมารฝัน ของเผ่าพันธุ์มาร
ร่างของอัศวินดอกไม้นภาที่เหลือไว้ในเผ่าพันธุ์ของเขาได้รีบไปยังดินแดนลับบรรพบุรุษมารฝันผ่านจักรวรรดิเทพของทาสรับใช้ เขาทำการเชื่อมต่อพื้นที่เสมือน
เผ่าพันธุ์ต่างๆ ล้วนสร้างโลกเสมือนของพวกเขา พื้นที่เสมือนนั้นจะมีขนาดเล็ก มันง่ายที่จะใช้สำหรับการสื่อสาร และรวบรวมข้อมูล มันยังสามารถที่จะสร้างได้ง่ายในจำนวนมาก
พื้นที่เสมือนจริงเผ่ามารนั้นล้อมรอบดินแดนลับบรรพบุรุษมารฝัน
ภายในพื้นที่เสมือนเผ่าพันธุ์มาร ภายในเมฆหมอกมีวังสีขาวตั้งอยู่ มันคือที่อยู่อาศัยของบรรพบุรุษมารฝัน
ในหมู่หมอกมีโต๊ะยาวที่มี 9 ร่างครอบครองมันอยู่ เหนือทั้ง 8 ร่างมีงูสีเงินที่ขดตัวกันเหมือนกะทะ ร่างขนาดใหญ่ที่สามารถเห็นจากด้านนอกของหมอกได้เป็นครั้งคราว ส่วนร่างที่เหลือทั้งแปดสามารถบอกได้ว่ามาจากเผ่าพันธุ์มาร
“อาจารย์” อัศวินดอกไม้นภาได้ปรากฎขึ้นมาจากความว่างเปล่าในร่างของสิ่งมีชีวิตขนสีขาวราวกับหิมะ เขากำลังโค้งคำนับ
หัวงูสีเงินได้มองลงมา “เจ้าพูดว่าได้พบกับหลัวเฟิง แล้วยังพูดอีกว่าเขาคือเจ้าแห่งจักรวาล?”
“ครับ” อัศวินดอกไม้นภาตอบกลับ
เจ้าแห่งจักรวาลอีก 8 ที่อยู่รอบๆ โต๊ะได้ปล่อยเสียงเขาออกมา
“โกหก”
“ไม่มีทางที่มนุษย์หลัวเฟิงนั้นจะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลได้รวดเร็วขนาดนั้น”
“เป็นไปไม่ได้”
“มันเป็นความจริง ข้าทำการทดสอบและได้เห็นมันด้วยตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะสมบัติประเภทวังบิน ข้าคงถูกหลัวเฟิงนั้นทำลายไปแล้ว” อัศวินดอกไม้นภากล่าว
“ไม่จริง”
“เพื่อที่จะต้องฆ่าเจ้า เขาจะต้องมีพลังในระดับเจ้าแห่งจักรวาล เขาฝึกฝนมานานเท่าไรกันเชียว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
เจ้าแห่งจักรวาลต่างปฎิเสธสิ่งที่พวกเขาได้ยิน มีเพียงบรรพบุรุษมารฝันเท่านั้นที่ยังคงนิ่งเงียบ และคอยมองปฎิกิริยาของพวกเขา
“คำพูดอย่างเดียวมันไร้ประโยชน์ ข้าจะให้ทุกท่านได้ดูสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานการณ์นั้น แล้วทุกท่านจะเชื่อคำพูดของข้าอย่างแน่นอน” อัศวินดอกไม้นภากล่าว
อัศวินดอกไม้นภามองขึ้นไปยังท้องฟ้า เขาแสดงภาพจากความทรงจำของเขาต้องแต่ต้นจนจบ
ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ
เจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมดดูมันด้วยความสนใจ ด้วยประสบการณ์ผ่านความทรงจำนับพันล้านปี ของพวกเขาได้บอกว่าไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าแห่งจักรวาลด้วยระยะเวลาฝึกฝนอันสั้น ไม่มีใครที่จะเป็นไปได้
การจำลองเหตุการณ์สิ้นสุดลง เจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมดยังคงนิ่งเงียบ พวกเขาทั้งหมดสามารถบอกได้ว่าการโจมตีแรกของทั้งสองนั้นยังไม่มีความแตกต่างกันชัดเจน แต่เมื่อการโจมตีครั้งที่สองของหลัวเฟิงพลังถูกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งของมันทำให้พลังในร่างของอัศวินดอกไม้นภาเสียไป 10%
รายละเอียดจากการจำลองนั้นทำให้เขาไม่สามารถเห็นการโจมตีของหลัวเฟิง อัศวินดอกไม้นภาไม่รู้สิ่งที่หลัวเฟิงได้ทำ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะจำลองภาพการใช้เทคนิคของหลัวเฟิงออกมา
มีเพียงแค่ท่าทางเท่านั้นที่จำลองออกมาได้ 100% มันเป็นจุดที่ไร้ความหมาย ส่วนที่สำคัญคือรายละเอียดบนเส้นทางสัตว์เทพที่สร้างการแกะสลักกฎนับไม่ถ้วน แล้วมันคือฉากที่ไม่สามารถจำลองออกมาได้จากความทรงจำ
“โชคดีที่ข้าซ่อนอยู่ในวังบิน ถ้าไม่มีวังบิน ข้าคงต้องถูกทำลายไปแล้ว” อัศวินดอกไม้นภากล่าว
“ไม่จำเป็นที่หลัวเฟิงจะต้องเป็นเจ้าแห่งจักรวาล ตอนเขาเป็นอมตะเขาก็ฆ่าจักรพรรดิกระจกเงาได้แล้ว ถ้าเขาเป็นอัศวินร่างอมตะของเขาก็ต้องแข็งแกร่งกว่าเจ้า ด้วยร่างกายอมตะที่แข็งแกร่ง เขาจะต้องได้โอกาสที่พิเศษ แม้แต่เทคนิคพิเศษ เขาอาจได้รับเทคนิคที่เทียบได้กับเจ้าแห่งจักรวาล” บรรพบุรุษมารฝันกล่าว
เจ้าแห่งจักรวาลอื่นก็พยักหน้า
“เจ้าเคยเห็นเขาควบคุมส่วนหนึ่งของกาลอวกาศและเวลาหรือไม่” บรรพบุรุษมารฝันกล่าว
“ไม่เห็นครับ” อัศวินดอกไม้นภากล่าว
“เพียงแค่เทคนิคเดียวที่ทรงพลัง นั่นอาจเป็นเทคนิคสืบทอด มีเพียงแค่เขาต้องแสดงสองเทคนิค หนึ่งในนั้นจะเป็นเทคนิคที่เขาสร้างเอง” บรรพบุรุษมารฝันส่ายหัว
“นอกจากนี้เจ้ายังมีพลังไม่เพียงพอจะแสดงรายละเอียดที่ถูกต้อง มีเพียงเจ้าแห่งจักรวาลที่ต้องต่อสู้กับเขาเท่านั้นถึงตัดสินใจได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นเจ้าแห่งจักรวาลหรือไม่”
“เจ้ายังคงติดตามเขาอยู่หรือไม่”
“ครับ เขาไม่มีทางหนีพ้น ข้าทำการติดตามเขาไม่ให้หนีไปได้” อัศวินดอกไม้นภากล่าว
“ข้าจะติดต่อกับเผ่าหุ่นยนต์ กับ แมลง ด้วยความพยายามของสามเผ่าพันธุ์จะต้องสังหารหลัวเฟิงได้”