Skip to content

Swallowed Star 1169

ตอนที่ 1169 : ขย้ำโดยฝูงชน!

ก่อนหน้านี้กระสวยนี้ทำให้เปลวไฟสีทองรอบๆ กลายเป็นลมวน มันเหมือนกับกระแสน้ำที่รุนแรงที่ก่อตัวเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ด้วยการแทงเพียงครั้งเดียว!

แข็งแกร่ง!

รวดเร็ว!

เจ้าแห่งอันโย เพิ่งจะใช้เทคนิคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วยการเหวี่ยงคทา ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาในการรับมือการโจมตีนี้ เขาได้ใช้ฝ่ามือข้างซ้ายใช้ท่าจากเทคนิคตัวเองออกมา ผนึกท้องฟ้า แต่พลังของท่านี้นั้นอ่อนแอลงเพราะใช้ออกมาด้วยฝ่ามือซ้ายที่ซึ่งควรจะใช้ผ่านคทาออกมา อีกอย่างแล้ว เจ้าแห่งอันโย นั้นไม่ได้มีสมบัติแท้จริงประเภทโจมตีในมือสำหรับการป้องกันตัวเอง ปลายกระสวยได้แทงทะลุฝ่ามือซ้ายของเขา

“อ๊า!”

ร่างอมตะของ เจ้าแห่งอันโย สั่นเครือ พลังอมตะจำนวนมากถูกใช้ไป และการหายใจของเขาก็อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว ในเสี้ยววินาทีมันก็ต่ำกว่า 50% และต่ำกว่านั้นแต่ในเสี้ยวพริบตาร่างอมตะของเขาซึ่งอยู่ในโลกแหวนนั้นก็ได้ส่งพลังอมตะมาให้กับเขาเพื่อให้เขาฟื้นฟูตัวขึ้นมาทันที

ฮ่ง! ล่ง! ล่ง!

ความมืดเข้าครอบคลุมเขตน่านน้ำ และมันก็ตกอยู่ในพื้นที่ที่วุ่นวาย อวกาศที่ปั่นป่วนเริ่มเข้าครอบคลุมรอบๆ ทันที

“ปีกซื่อหวู๋ เพิ่มพลัง!”

“แก้วทรายเพลิง เพิ่มพลัง!”

“จักรวาลเล็ก เพิ่มพลัง!”

หลัวเฟิง หยุดไม่อยู่ หลังจากที่ใช้ จักรวาลเล็ก ออกมา เขาไม่ทันได้ยกนิ้วก็รีบใช้ท่าที่เขาเพิ่งใช้ออกมาก่อนหน้านี้เพื่อชิงความได้เปรียบจากคู่ต่อสู้ ไม่ไกลนัก ข้างๆ เขามี เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ที่แสดงพลังอันแข็งแกร่งออกมา เขาถือกระสวยซึ่งยาวกว่าหมื่นกิโลเมตร เขาพุ่งเข้าใส่ เจ้าแห่งอันโย ด้วยความอาฆาต

หลัวเฟิง และ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ร่วมมือกันโจมตี!

ทุกอย่างเกิดขึ้นตามแผนของ หลัวเฟิง ก่อนหน้านี้ด้วย พื้นที่ทอง และ พื้นที่ไฟ เขาได้เอาชนะ มหาสมุทรทรายน้ำแข็งได้ ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของ หลัวเฟิง เจ้าแห่งอันโย ไม่อาจจะสำรวจโดยรอบได้ เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่รู้ว่า หลัวเฟิง แอบปล่อยร่างสัตว์อสูรเขาทองออกมาในคราบ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต

“เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต!” เจ้าแห่งอันโย มองไปที่เขาและหงุดหงิดขึ้นมา เขาส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต แม้ว่าเจ้าจะหายไปนานแต่เจ้าก็ยังเป็นคนที่มีชื่อเสียง ในจักรวาลเริ่มต้น เจ้าไม่ได้สนิทกับใครแต่วันนี้เจ้ากล้าที่จะโจมตีใส่ข้าโดยไม่คิดถึงฐานะตัวเอง! และช่วยมนุษย์ที่ชื่อ หลัวเฟิง ในการลอบโจมตีข้างั้นรึ?”

“ฮ่า ฮ่า! ข้าจะสนิทกับใครก็เป็นเรื่องของข้า” เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต พูดขึ้น “เจ้าเป็นใครถึงจะมาควบคุมข้า? ข้าพบว่า หลัวเฟิง น่าพอใจและเราสองคนก็มาจากจักรวาลเดียวกัน แม้ว่าข้าจะไม่ช่วยเขา เจ้าคิดว่าข้าจะช่วยเจ้าคนที่มาจากจักรวาลยุคแรกรึไง?”

“เมฆโลหิต เราสองคนจะร่วมมือกันในการจัดการเขา!” หลัวเฟิงตะโกนขึ้นมา

“ได้!” เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ตะโกนตอบรับ

เจ้าแห่งอันโย ต้องถอยออกมาพร้อมกับความกังวลและความคลั่ง ทุกอย่างควรที่จะเป็นเขาที่ได้เปรียบแต่เขาไม่คิดว่า เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต จะโผล่มาและโจมตีเขา อีกอย่างแล้วมันมีประโยชน์ที่จะรู้ว่าขุมกำลังชั้นสูงต่างๆ มักจะรวบรวมข้อมูลของพวกระดับสูง แม้แต่ข้อมูลของ หลัวเฟิง ก็ยังถูกตรวจพบ…เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นธรรมดาที่จะค้นหาข้อมูลของ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต และรู้มาว่าเจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ได้สู้กับ เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว ในดวงดาวดั้งเดิมและอาจจะแพ้แต่เขาไม่ได้เสียหายอะไรหรือพลังอมตะไปมากเลย เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาวได้พยายามสุดตัวแต่สุดท้ายก็ได้แต่ยอมแพ้และจากไป

การต่อสู้นี้ยกระดับชื่อเสียงของ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ขึ้นมา ขุมกำลังกว่า 100 แห่งในทะเลจักรวาลได้เปลี่ยนมุมมองทันที ข่าวนี้แม่นยำ

เจ้าแห่งอันโย คิด แต่เดิมแล้วข้าแข็งแกร่งในการป้องกัน และเชื่อในหลักการตาต่อตาฟันต่อฟัน ดังนั้นข้าจึงเอาตัวเข้าแลก ข้าไม่คิดว่าจะโดนกระสวยแทงทะลุ…ซึ่งกินพลังอมตะไปถึง 50% ของร่างอมตะของข้า

เจ้าแห่งอันโย รีบถอยกลับมาเพื่อซื้อเวลาเพิ่ม เขากำลังคิดหาทางที่จะตอบโต้กับสถานการณ์ตอนนี้

แม้ว่าจะสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งกับ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต มันคงยากที่จะเหนือกว่าได้ ด้วยสองคนที่ร่วมมือกัน เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต กำลังช่วย หลัวเฟิง ที่ซึ่งใช้ขอบเขตและ จักรวาลเล็ก ของตนด้วย ข้าคงเสียเปรียบ…ระหว่าง เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต และตัวข้าเอง ข้ากลัวว่าผลลัพธ์นั้นคงจะพ่ายแพ้ไม่มีหนทางชนะ!

ความคิดนั้นโผล่มาในหัวทันที ความเร็วของ ผู้แข็งแกร่ง นั้นรวดเร็วอย่างมาก

น่าพอใจจริงๆ หลัวเฟิง คิด การสามารถใช้ จักรวาลเล็ก ภายในทะเลจักรวาลได้ถือว่าน่ายินดี

หลัวเฟิง กำลังอารมณ์ดีและคำรามออกมาด้วยความตื่นเต้น ทะเลจักรวาลนั้นเต็มไปด้วยอวกาศที่ปั่นป่วนและระดับความบริสุทธิ์ของอวกาศที่ปั่นป่วนนี้ก็สูงอย่างมาก ส่วนยอดเอียง รอบๆ อาจจะมีอวกาศที่ปั่นป่วนเบาบางแต่ความบริสุทธิ์นั้นต่ำกว่า

หลังจากที่ใช้ จักรวาลเล็ก หลัวเฟิง ก็ดีใจที่พบว่า…อวกาศที่ปั่นป่วนนั้นเขาสามารถควบคุมมันได้ เมื่อผสมกับอวกาศที่ปั่นป่วนความบริสุทธิ์สูงแล้วเขาก็สามารถดึงพลังของมันออกมาได้สูงสุด

“จักรวาลเล็ก และอวกาศที่ปั่นป่วน รวมตัว!” หลัวเฟิง ตะโกนสั่งการออกมา

ฮัวะ! ฮัวะ!

จักรวาลเล็ก ได้สร้างพายุวนสองอันขึ้นมาและแต่ละอันก็วนรอบใบมีดของ หลัวเฟิง และกระสวยหอคอยดวงดาวของ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต

ฮัวะ!

กระสวยนั้นได้เข้าแทงทะลุ เจ้าแห่งอันโย อีกครั้ง

ซิ่ว!

ใบมีดสีทองได้เฉือนเข้าใส่ เจ้าแห่งอันโย

“บัดซบ…!” เจ้าแห่งอันโย กังวลและหงุดหงิด ด้วยคทาในมือนั้นเขาได้เปลี่ยนเป็นเงาและใช้เทคนิคของตัวเองออกมา ผนึกท้องฟ้า จากนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นและ เจ้าแห่งอันโย ก็รู้สึกได้ถึงร่างอมตะของเขาที่สั่นสะเทือน ใบมีดสีทองได้โจมตีเขาจากด้านหลังจนทำให้ร่างอมตะนั้นสั่นไหวและอ่อนแอลง 10% ทันที

“บัดซบ บัดซบ!” เจ้าแห่งอันโย หงุดหงิด

“ฮ่า ฮ่า! อันโย วันนี้คือวันตายของเจ้า” หลัวเฟิง แสดงท่าทีหยิ่งทะนงออกมา

เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต เผยรอยยิ้มซะใจออกมา “เจ้าตายไปแล้ว”

ฮ่ง! ฮ่ง!

การโจมตีทั้งสองได้ผสมรวมกัน ในตอนที่ เจ้าแห่งอันโย ได้รับมือการโจมตีของ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต เขาก็ไม่อาจจะป้องกันการโจมตีของ หลัวเฟิง ได้ ในอีกด้านการรับมือกับ หลัวเฟิง ก็หมายความว่าเขาไม่อาจจะรับมือกับ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ได้

ยังไงซะ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ก็สามารถใช้พลังขั้น 2 ของหอคอยดวงดาวได้ซึ่งรวดเร็วอย่างมาก

เทคนิคดาบ, แสงสีทองของ หลัวเฟิง นั้นรู้จักกันดีด้านความเร็ว ด้วยจักรวาลเล็ก, พื้นที่ไฟ และ พื้นที่ทอง ทั้งสามอย่างที่เพิ่มพลังขึ้นมา มันจึงเร็วกว่าเดิมจนทำให้ความเร็วของอาวุธที่ อันโย ใช้นั้นช้าลง ไม่ว่าจะมีเทคนิคที่แข็งแกร่งแค่ไหนแต่เขาก็ยากที่จะรับมือ หลัวเฟิง กับ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวเลือกของเขาก็ต้องรับมือกับ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต

เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต แน่นอนว่าอยู่ระดับ 4!

เจ้าแห่งอันโย คิด และด้วยการเพิ่มพลังของขอบเขตโดยรอบ เขาน่าจะอยู่ที่ระดับ 5 ได้ ร่างมนุษย์อาจจะอยู่แค่ระดับ 2 แต่ด้วยการเพิ่มพลังของขอบเขตโดยรอบ เขาก็จะเทียบได้กับระดับ 4

ใจของ เจ้าแห่งอันโย กระจุกอยู่ที่คอ ความกังวลของเขาตอนนี้ขึ้นถึงขีดสุด

ระดับพลังนั้นเพิ่มทะยานขึ้นมาถึงสองเท่า ร่างสัตว์อสูรเขาทองนั้นมีสมบัติแท้จริงชั้นยอด จนทำให้พอเทียบได้กับพลังโจมตีระดับ 4 ได้ ปกติแล้ว เจ้าแห่งจักรวาล ที่มีสมบัติแท้จริงชั้นยอด นั้นมีพลังต่อสู้ถึงระดับ 6 แต่ หลัวเฟิง ไม่อาจจะดึงพลังของสมบัติแท้จริงชั้นยอด ออกมาได้ทั้งหมดเพราะสองเหตุผล หนึ่งคือเขาสามารถเข้าใจแค่เพียงขั้นสองของหอคอยดวงดาว สองคือความแข็งแกร่งของร่างอมตะเขานั้นยังอ่อนแอเกินไป

เทียบกับพลังของทั้งสามที่เพิ่มขึ้นมา แน่นอนว่ามันเทียบกับระดับ 5 ได้ แต่ระดับ 5 ที่แท้จริงอย่าง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล และเจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาวปกติแล้วจะใช้สมบัติแท้จริงระดับสูงสุดประเภทขอบเขตตอนที่ท่องทะเลจักรวาล ด้วยความสามารถของพวกเขาแล้วพวกเขาสามารถใช้สมบัติแท้จริงระดับสูงสุด ประเภทขอบเขตในขั้นสูงกว่าเดิมได้ และการใช้งานขั้นเหล่านั้นก็แข็งแกร่งกว่าของพวกเจ้าแห่งหมาป่านภา

“ข้าอาจจะอ่อนแอกว่า เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว และอาจารย์ แต่ข้าคิดว่าข้ามั่นใจว่าข้าเอาชนะ เจ้าแห่งอันโย ได้ด้วยการร่วมมือกับอีกร่างของข้า”

ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!

เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต และ หลัวเฟิง โจมตีอย่างไม่หยุด พวกเขาได้เข้าล้อม เจ้าแห่งอันโย เอาไว้และเข้าโจมตีอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง!

“เจ้ายังกล้าหยิ่งทะนงอีก! คิดว่าจะฆ่าข้าอีก! ฝันไปเถอะ!” หลัวเฟิงคำรามแล้วพุ่งเข้าหา เจ้าแห่งอันโย

เจ้าแห่งอันโย หงุดหงิดจนใบหน้าบิดเบี้ยว ตาในรัศมีด้านหลังเองก็บิดเบี้ยวไปด้วย เขาโกรธเกินกว่าที่จะอธิบายได้ เขาเป็น เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง โดยมีความสามารถในการป้องกันที่สูงส่ง ถ้าเผชิญหน้าศัตรูแบบ 1 ต่อ 1 แม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ก็ไม่อาจจะทำให้เขายอมแพ้ได้ แต่ตอนนี้มันมี 2 คนที่รุมเขาอยู่และทุกครั้งที่มีการปะทะกัน เขานี่แหละที่เป็นฝ่ายป้องกัน ร่างอมตะของเขาอ่อนแอลงเรื่อยๆ!

ฟื้นฟู!

“ดื้อด้านจริงๆ!” หลัวเฟิง พึมพำ

หลัวเฟิง สบถและด่า เจ้าแห่งอันโย ในใจ เจ้าแห่งอันโย ได้แต่ป้องกันการโจมตีของ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต โดยไม่สนว่า หลัวเฟิง จะโจมตียังไง ทุกครั้งร่างอมตะของเขาก็เริ่มอ่อนแอลงและฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว

ในเสี้ยวพริบตาก็ผ่านไป 9 วินาที หลัวเฟิง ได้หยุดการใช้ จักรวาลเล็ก และต่อมา จักรวาลเล็ก ก็สลายหายไป อวกาศที่ปั่นป่วนโดยรอบก็หายไป ด้วย ความเสียเปรียบของ เจ้าแห่งอันโย ลดลงทันที

เจ้าแห่งอันโย เห็นโอกาสและรีบเปลี่ยนเป็นลำแสงและบินหนีไปทันที

“อยากหนีเหรอ?” เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต คำรามออกมา

“ไม่ต้องไล่ตาม!” หลัวเฟิง ตะโกนออกมา “เจ้าแห่งอันโย คนนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดทิ้ง”

หลัวเฟิง เองก็ฟื้นฟูอวกาศที่ผนึกเอาไว้

เจ้าแห่งอันโย ได้ทำการผนึกอวกาศเอาไว้ในตอนที่โดน หลัวเฟิง และ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต รุม ในตอนที่เขารู้สึกได้ถึงคลื่นอวกาศ เขาก็ได้หนีด้วยการเคลื่อนย้ายไปทันที เขาไม่ต้องการโดนล้อม และโจมตี การใช้พลังอมตะจนหมดนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ความรู้สึกหมดหนทางตอนที่โดนโจมตีแบบนี้มันเกินรับไหว มันเป็นการดูถูกอย่างมาก

ลึกเข้าไปในเขตน่านน้า หลัวเฟิง และ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ได้ยืนอยู่เคียงข้างกัน

“เขาเคลื่อนย้ายหนีไป”

หลัวเฟิง เย้ยหยันออกมา แค่เพียงคิดเขาก็ได้เรียก เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต กลับไปในโลกแหวน

“แม้ว่าข่าวของ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต กับข้าร่วมมือกันสู้กับ เจ้าแห่งอันโย ได้แผ่ออกไป มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมาก” หลัวเฟิง พูดกับตัวเอง “ยังไงซะ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อเผ่ามนุษย์ อีกอย่างแล้ว เจ้าแห่งอันโย ก็ไม่คิดจะเสียหน้า ดังนั้นเขาคงไม่แผ่ข่าวนี้เพื่อทำให้ชื่อเสียงตัวเองเสียหาย”

ไม่ว่าข่าวนี้จะกระจายออกไปหรือไม่นั้น หลัวเฟิง ก็ได้คุกคามสามพันธมิตร (ซึ่งคือปีศาจ, หุ่นยนต์ และเผ่าแมลง) พวกที่เขาผูกมิตรเอาไว้คือ โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล, พันธมิตรอสูรอวกาศ และเผ่ามนุษย์ ของตัวเอง พวกนั้นคงไม่แปลกใจอะไรมากที่เขาเป็นพันธมิตรกับ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต

ฉัวะ!

หลัวเฟิง บินกลับเข้าไปในถ้ำ

ในทะเลจักรวาลที่กว้างใหญ่มี จักรวาลเล็ก 7 แห่งของเผ่า ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ในห้องโถงวัง เจ้าแห่งอันโย นั่งอยู่ที่บัลลังก์ตัวเอง สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความกลัว ความโกรธของเขายากที่จะลบทิ้งไปได้

“บัดซบ บัดซบ บัดซบ!” เจ้าแห่งอันโย คำรามออกมา อยู่ๆ เขาก็คิ้วขมวด และพลิกมือขึ้นพร้อมกับมีกระจกปรากฏขึ้นตรงหน้า ใจกลางกระจกนั้นมีร่างในเกราะทองปราฏขึ้นมา

“อันโย” ร่างนั้นพูดขึ้น

“โกเด่นซาเวเยอร์” อันโย ตอบกลับ

“อันโย ข้าเพิ่งออกมาจากเขตด้านใน ส่วนยอดเอียง ทำไมอยู่ๆ เจ้าถึงได้ติดต่อมาหาข้า?”

“เจ้าแห่งโกเด่นซาเวเยอร์ ข้าทำให้เจ้าผิดหวัง” เจ้าแห่งอันโย ก้มหน้าลงเพื่อขอโทษ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วพูด “ข้าจัดการกับมนุษย์หลัวเฟิง จากจักรวาลเริ่มต้นอยู่แต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะมี เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต มาช่วยด้วย เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต และหลัวเฟิง ที่ร่วมมือกัน แม้แต่ข้าก็ยังพ่ายแพ้…ปฏิบัติการนี้ล้มเหลว”

“ล้มเหลว?” เจ้าแห่งโกเด่นซาเวเยอร์ แสดงท่าทีรำคาญออกมา “หากเจ้าไม่มั่นใจ เจ้าก็ควรขอความช่วยเหลือจากข้าทันที ข้าได้ออกมาจากชั้นอันตรายแล้ว และตอนนี้เจ้าบอกให้ข้ากลับไปอย่างนั้นรึ? เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง!”

ฮ่ง!

ร่างในกระจกได้หายไปในทันที

เจ้าแห่งอันโย ได้แต่กัดฟัน เขาไม่อาจจะทำอะไรได้ ในด้านพลัง และฐานะ เจ้าแห่งโกเด่นซาเวเยอร์ นั้นเหนือกว่าเขา อีกฝ่ายเป็นเจ้าของสมบัติแท้จริงระดับสูงสุด ประเภทขอบเขตซึ่งนั่นก็แสดงได้ถึงความสามารถของ เจ้าแห่งโกเด่นซาเวเยอร์

“เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต…มนุษย์หลัวเฟิง…ในตอนที่ข้าพบ หลัวเฟิง ข้าได้ใช้ผนึกอวกาศ มันไม่มีทางที่ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต จะโผล่มาจากโลภภายนอกได้ เขาต้องอยู่ในแหวนของ หลัวเฟิง แต่พวกนั้นสนิทกันแค่ไหน มันไม่เหมือนว่า เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต จะคอยติดตาม หลัวเฟิง อย่างใกล้ชิด นอกซะจากว่า…”

ตาของ เจ้าแห่งอันโย เป็นประกายเชิงรับรู้พร้อมกับกัดฟันแน่น

“ข้ารู้แล้ว! มนุษย์ต้องการปกป้อง หลัวเฟิง และความช่วยเหลือของ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ก็คือส่วนหนึ่งที่พวกนั้นเตรียมการมา ไม่แปลกใจเลย…ไม่แปลกใจเลยว่า เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ถึงไม่ได้ลงมือกับเผ่ามนุษย์และมักจะสวมหน้ากาก เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ต้องเป็นมนุษย์!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version