Skip to content

Swallowed Star 1183

ตอนที่ 1183 หุบเขาเทพการทำลาย

หลัวเฟิงได้บินเข้ามายังรอยแยกเป็นเวลาไม่นานก็พบกับความมืดอันไม่สิ้นสุด มีร่องรอยของการหักเหแสงเพียงเล็กน้อยจากผลึกน้ำแข็ง

“มันเย็นมาก” หลัวเฟิงกล่าว

หลัวเฟิงที่บินด้วยความเร็วแสงพร้อมกับใช้อาณาจักรสีทอง

แสงสีทองได้แผ่กระจายออกไปรอบ 80 ปีแสง พื้นที่ลึกเข้าไปในผลึกน้ำแข็ง แสงสีทองไม่สามารถตรวจจับได้ มีเพียงพื้นที่ธรรมดาเท่านั้นที่สำรวจได้ละเอียด

หลัวเฟิงจำกัดพลังงานในการใช้อาณาจักรสีทองเอาไว้ มันเพียงพอที่จะใช้สำหรับการสำรวจ

หลังจากที่บินมาได้ชั่วครู่…

ใบมีดน้ำแข็งได้ตัดผ่านพื้นที่ว่างโดยไม่มีการเตือน มันกวาดมาจนถึงตำแหน่งของหลัวเฟิง

หลัวเฟิงใช้จิตบังคับให้อาณาจักรสีทองระเบิดพลังออกมา

พลังที่พุ่งออกมาได้ระเบิดใบมีดน้ำแข็ง มันได้เปลี่ยนทิศทางจากแรงกระแทกที่รุนแรง และบินผ่านเหนือหลัวเฟิงไป

หลัวเฟิงเดินทางด้วยความเร็วสูง 90 เท่าของความเร็วแสง ยิ่งลึกเข้าไปมากเท่าไรใบมีดน้ำแข็งก็ยิ่งมามากขึ้น จำนวนเพิ่มมากขึ้นได้สร้างปัญหาให้กับหลัวเฟิง

หลัวเฟิงเปิดใช้งานสมบัติประเภทพื้นที่ แก้วทรายเพลิง

เปลวไฟได้กระจายไปในแสงสีทอง พลังของมันไม่อาจเทียบได้กับอาณาจักรสีทอง แม้ว่ามันจะช่วยเสริมเข้ามาก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ของหลัวเฟิงดีขึ้นมากนัก

ใบมีดน้ำแข็งได้วิ่งผ่านไปมา มันชนเข้ากันจนสร้างเป็นน้ำแข็งขนาดเล็ก

มันเข้ามายังรอบๆ หลัวเฟิง ด้วยพลังของสองสมบัติ หลัวเฟิงก็ทำได้เพียงแค่เปลี่ยนทิศทางของมันออกไปเล็กน้อย

หลัวเฟิงเริ่มใช้สมาธิมากขึ้น

พลังถูกรวมตัวกันสร้างเป็นใบมีดสีทองยาว 100 กิโลเมตร ดาบสีทองที่มีเปลวไฟล้อมรอบ มันเป็นเหมือนกับการใช้สมบัติประเภทพื้นที่เพื่อทำการโจมตีศัตรู

แก้วทรายเพลิงมีพลังในการโจมตีไม่ดีเท่าไหร่ แต่มันก็ยังถือเป็นสมบัติแท้จริงชั้นสูง การรวมพลังของมันสร้างเป็นอาวุธระดับสูงของสมบัติแท้จริงชั้นชูง

หลัวเฟิงทำการควบคุมดาบสีทองขนาด 100 กิโลเมตร เขาควบคุมมันด้วยพลังงานอมตะจากอำนาจจิตและจิตสำนึก ด้วยพันปีในพื้นที่ของปีกสีขาว หลัวเฟิงมีอำนาจจิตเพิ่มขึ้นมากกว่าตอนที่เข้ามาในมหาสมุทรจักรวาล

ดาบสีทองที่ถูกสร้างจากอาณาจักรสีทองอันงดงาม มันรวดเร็วและเปรียบได้กับการโจมตีของเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง ใบมีดสีทองขนาดใหญ่ได้ตัดผ่านกลุ่มของใบมีดน้ำแข็งจำนวนมากมาย ใบมีดที่เกิดการสั่นสะเทือนจากการชนกันได้กระจายออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ และลอยออกไปแบบสุ่มๆ ตรงกลางของพายุดาบน้ำแข็งเกิดเป็นโพรงขนาด 10 กิโลเมตร

หลัวเฟิงเดินทางเข้าไปในช่องว่างนั้น และในพริบตาก็เกิดการระเบิดขึ้นในพื้นที่

“นี่เป็นเพียงการเดินทางในพื้นที่แรก ปัญหาเดียวคือใบมีดน้ำแข็งที่ยิ่งใกล้แกนกลางเท่าไรก็ยิ่งเทียบได้กับการโจมตีเต็มกำลังของเจ้าแห่งจักรวาลทั่วไป ถ้าถูกโจมตีจากใบมีดจำนวนมากจะต้องได้รับบาดเจ็บรุนแรง และมันยังไม่ถือว่าเป็นดินแดนอันตราย”

มี 892 ดินแดนที่อันตรายที่สุดในเส้นทางของหลัวเฟิง ทางเข้านั้นถือว่าเป็นดินแดนปกติ พลังตามธรรมชาตินั้นอาจจะยังไม่น่ากลัวพอ และมันสามารถทำการเทเลพอตเพื่อเลี่ยงอันตรายได้

หลังจากบินประมาณสามวันเพื่อรับประสบการณ์ หลัวเฟิงก็เริ่มเดินทางด้วยความเร็วสูง

หลัวเฟิงได้ทำการเทเลพอต อาจมีการสร้างเส้นทางจากระยะไกล หรือใช้หอคอยดวงดาวในสถานการณ์ที่สร้างปัญหาเขาก็จะทำการเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตราย ภายในแหวนโลกของเขายังคงมีร่างอสูรเขาทองที่ถูกป้องกันด้วยหอคอยดวงดาว หากหลัวเฟิงพบเจออันตรายจนร่างถูกทำลาย ร่างอสูรเขาทองที่ซ่อนอยู่ในหอคอยดวงดาวก็จะผ่านสถานการณ์ที่อันตรายและเก็บสมบัติของเขาคืนมาได้

เวลาได้ผ่านไปใน 21 ปี ตลอดเวลาหลัวเฟิงได้มีประสบการณ์ที่น่ากลัวในพื้นที่ของจริง ช่วงทางเข้าในเขตใบมีดน้ำแข็งที่เขาพบเทียบได้กับพื้นที่พักผ่อน

ดินแดนอันตรายทำให้เขาไม่มีทางเลี่ยงที่จะใช้หอคอยดวงดาว เทคนิคดาบสีทองจากอาณาจักรสีทองของเขานั้นไร้ประโยชน์ เขาถูกบังคับให้ใช้หอคอยดวงดาวอยู่ยี่สิบกว่าครั้งในดินแดนที่อันตราย

หลัวเฟิงคิดว่าการเดินทางด้วยสมบัติประเภทวังก็เหมือนกับเดินเล่นในพื้นที่อันตราย

สมบัติประเภทวังชั้นยอดที่เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดก็ยังสร้างความเสียหายกับมันไม่ได้ สมบัติประเภทวังมีคุณสมบัติในความแข็งแกร่งที่จะทำให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งหลาย

เชือกสีเขียวหยกได้บินออกมาจากมหาสมุทรสีดำ มันตรงเข้าหาหลัวเฟิง

มหาสมุทรสีดำ เป็นที่น่ากลัว แต่ด้วยอาณาจักรสีทองทำให้หลัวเฟิงระบุตำแหน่งปลอดภัยได้แม่นยำ และเขาก็ทำการเทเลพอตได้ในทันทีเมื่อต้องการ ในบางครั้งอาณาจักรสีทองถูกใช้เพื่อหยุดเชือกเหล่านั้น

ที่สุดเขตของมหาสมุทรสีดำ เป็นดินแดนของหินสีดำ เหนือพื้นเต็มไปด้วยลาวาที่หลอมละลาย มันเหมือนกับฝนลาวาที่ตกลงมาสู่พื้น ในพื้นที่เดียวกันก็มีหินขนาดต่างๆ ตกลงมาสู่ทะเลลาวาเบื้องล่าง

“เขตมหาสมุทรสีดำ ช่างง่ายดาย แต่วันผ่อนคลายแบบนี้ยากที่จะเกิด…พื้นด้านล่างนั้นคงจะเป็นปัญหาของจริง”

หลัวเฟิงยืนอยู่ตรงขอบของดินแดนหินสีดำ จากนั้นเขายกหัวขึ้นมองที่ทะเลลาวาที่อยู่ด้านบน พื้นที่นี้ถูกเรียกว่า หุบเขาเทพการทำลาย เส้นทางที่เขาเลือกมีพื้นที่อันตรายที่อยู่ใกล้เคียงกับระดับสูงสุด และหุบเขานี้ถูกจัดอยู่ในอันดับ 1 ใน 3 ของอันดับแรกๆ

หุบเขาเทพการทำลายถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ด้านบนเต็มไปด้วยทะเลลาวา ด้านล่างเป็นหินสีดำกว้างใหญ่ การจะผ่านต้องผ่านหนึ่งในสองที่อยู่ระหว่างกัน

ไม่ว่าจะเกิดอันตรายอะไรก็ไม่สำคัญ หลัวเฟิงเชื่อมั่นในอาณาจักรสีทอง ที่จะเห็นอันตรายใดๆ ที่เข้ามา และหอคอยดวงดาวที่จะช่วยให้เขาผ่านอันตรายไหนก็ได้

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในหุบเขาคือเทพปีศาจลาวาหลอมละลาย มันเป็นร่างความสูงนับหมื่นล้านกิโลเมตร มันประกอบไปด้วยหินและลาวา มี 4 แขนขนาดใหญ่ มีตาสามดวงกับเขี้ยวน่าเกลียดที่ยื่นออกมาจากปาก ระดับความฉลาดของมันต่ำ มันถูกมองว่าไร้สติปัญญา แต่ความสามารถของมันนั้นยอดเยี่ยม

เทพปีศาจลาวาหลอมละลายใช้ร่างกายใหญ่โต หมัด และขา ในการต่อสู้ เพียงแค่การชกและเตะของมันก็เป็นที่ยอดเยี่ยม การต่อสู้ที่แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดที่มีสมบัติแท้จริงสูงสุดก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะร่างกายของมันนั้นไม่ได้รับความเสียหายใดๆ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถสร้างบาดแผลให้กับมันได้ หากติดอยู่ในการต่อสู้กับมัน เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดก็ยากจะหนีรอดออกมา สำหรับเจ้าแห่งจักรวาลถือเป็นการฆ่าตัวตาย

จากข้อมูลที่เหลือไว้โดยเจียฟานฉี และเผ่าพันธุ์มนุษย์ คำแนะนำที่ให้ไว้เกี่ยวกับหุบเขาเทพการทำลาย ของทั้งสองข้อมูลตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นใครที่พบกับเทพปีศาจลาวาหลอมละลายจงจับมือร่วมกัน ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด มันคงจบลงด้วยดี

“แม้ว่าจะซ่อนตัวในหอคอยดวงดาว เทพปีศาจลาวาหลอมละลายคงจะคว้ามันไว้ ไม่ว่าจะหนียังไงก็คงไม่สามารถบินออกไปได้ หอคอยดวงดาวก็จะตกอยู่ในสถานการณ์นั้นไปชั่วนิรันดร์” หลัวเฟิงคิด

ในประวัติศาสตร์ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าสิ่งมีชีวิตที่หลบอยู่ในวังสมบัติแท้จริงชั้นยอดก็จะถูกทำลายหลังจากถูกจับ หลังจากนั้นไม่นาน

หลัวเฟิงถอนหายใจอยู่ภายใน

เทพปีศาจลาวาหลอมละลายเกิดขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่มีใครรู้ สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จำนวนมากได้เดาว่ามันเกิดจากศพของผู้ที่ใช้เรือจักรวาลในยุคแรกเริ่ม มันอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดโจมตีมันก็ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย แต่ความจริงที่รู้กันแน่นอนมีแค่ว่ามันโง่และทรงพลัง

ถือว่ามันเป็นโชคดีที่เทพปีศาจลาวาหลอมละลายนั้นคุ้มกันหุบเขาเทพการทำลายอย่างซื่อสัตย์ จึงไม่ต้องกลัวมันออกมาจากหุบเขา

เทพปีศาจลาวาหลอมละลายที่มีอยู่ในหุบเขาเทพการทำลายนั้นมีทั้งหมด 9 ตัว

“ถ้าหอคอยดวงดาวตกอยู่ภายใต้ระยะหมื่นล้านกิโลเมตรของเทพปีศาจลาวาหลอมละลายก็จะหนีออกมาไม่ได้อีกต่อไป แม้แต่ผู้สร้างขวานยักษ์ก็ต้องซ่อนตัวจากมัน ข้าหวังว่าจะโชคดีพอจะซ่อนตัวจากพวกมันได้” หลัวเฟิงคิด

หุบเขาเทพการทำลายปกคลุมพื้นที่หมื่นปีแสง มีบางส่วนของพื้นที่ที่กาลอวกาศและเวลาถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยของคลื่นใดๆ มีพื้นที่เพียงไม่กี่แห่งที่สามารถใช้เทเลพอตได้ และยังมีหลายสถานที่ที่ไม่สามารถตรวจสอบด้วยอาณาจักรสีทองได้

หลัวเฟิงเริ่มขยับปีกเพื่อเดินหน้า เขาได้ทำให้เกิดหมอกแสงสีทองที่ขยายออกไป 80 ปีแสง หลัวเฟิงได้บินตรงเข้าไปยังหุบเขาเทพการทำลาย

อุณหภูมิจากการเผาไหม้ได้ทำให้หลัวเฟิงมีสีหน้าไม่ดีเล็กน้อย มันมีความสามารถพอที่จะทำลายอัศวิน

บางครั้งก็มีลาวาจำนวนมากตกลงมาสู่พื้นจำนวนมาก หลัวเฟิงได้คอยระวังเพื่อหลบลาวาที่ตกลงมา มันถือเป็นเหตุการณ์ทั่วไปที่เกิดขึ้นในที่นี้ และมันถือเป็นอันตรายที่เล็กน้อย อุปสรรคที่อันตรายที่สุดคือหินขนาดใหญ่ที่ตกลงมาโดยที่ไม่ละลาย มันจะตกลงมาด้วยความเร็วสูง การปะทะของมันสู่พื้นสามารถทำให้เจ้าแห่งจักรวาลนั้นตายได้ แต่มันก็ถือว่าเป็นเพียงวัสดุหินที่ไร้ชีวิตจึงหลบเลี่ยงได้

ดาบทองเพลิงได้ปกครองพื้นที่ร้อยล้านกิโลเมตร มันฟันผ่านก้อนหินขนาดใหญ่ที่กว้างนับหมื่นกิโลเมตร การฟันทำให้หินยักษ์บินไปด้านหนึ่ง

หลัวเฟิงยังคงคอยระวังลาวาขณะที่เขากำลังเดินทาง

หลังจากเดินทางในดินแดนหุบเขาเทพการทำลาย จากมุมหนึ่งที่หลัวเฟิงไม่สามารถสำรวจได้ มีหัวหนึ่งออกมาจากถ้ำอันมืดมิดในดินแดนสีดำ มันมีผมยุ่งสีแดงเพลิง ดวงตาของมันได้จับจ้องไปยังร่างของสิ่งที่มีปีกสีเงินที่กำลังเดินทางรวดเร็วในอากาศ

“มีคนกล้าที่จะบุกเข้ามาหุบเขาเทพการทำลายสินะ เอ๊ะ! นั่นคงไม่ใช่เจ้าแห่งจักรวาลคนใหม่จากเผ่าพันธุ์มนุษย์ของจักรวาลดั้งเดิม อืม ผู้นำปีกเงินใช่ไหม”

ใบหน้าของสิ่งมีชีวิตนั้นบิดงอเล็กน้อย เขากำลังพึมพำกับตัวเอง มนุษย์นั้นได้ประกาศต่อสาธารณชนว่าหลัวเฟิงนั้นคือ ผู้นำทางช้างเผือก แต่ในพื้นที่ส่วนยอดเอียงนั้น หลัวเฟิงได้รับชื่อเสียงจากปีกสีเงินของเขา เผ่าพันธุ์อื่นจึงนิยมเรียกเขาว่าผู้นำปีกสีเงิน

“เจ้าหนูที่เพิ่งเป็นเจ้าแห่งจักรวาลได้ไม่นาน เจ้ามีปีกสีเงินที่ควบคุมกาลอวกาศและเวลา เจ้าจึงกล้าลองฝ่าเข้ามายังพื้นที่ด้านในสินะ ฮิฮิ ดูเหมือนว่าปีกสีเงินของเจ้าจะตกอยู่ในการดูแลของข้าในไม่ช้า”

สิ่งมีชีวิตได้มองดูเด็กหนุ่มมนุษย์ เขาได้บินออกจากถ้ำด้วยความเร็วสูงในทีเดียว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version