ตอนที่ 1191 : ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดวงจันทร์ม่วง
เมื่อ หลัวเฟิง เห็นมัน เขาก็เตรียมตัวออกเดินทาง มีแสงสายฟ้าสีทองพุ่งเข้าหาเขาด้วยความเร็วสูง ขนาดความสูงของมันแตกต่างจากเขามาก เขามีความสูงเพียง 10 เมตรตอนขดตัว ในขณะที่สายฟ้านี้มีความสูงถึง 1,000 กิโลเมตร ซึ่งง่ายมากที่จะมองเห็น
“4 ใบหน้า กับ 16 แขน?” หลัวเฟิง ตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น “มันต้องมาจาก ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดวงจันทร์ม่วง แน่ๆ!”
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดวงจันทร์ม่วง เป็น 1 ในจักรวาลของ 2 แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ภายในนั้นมีกลุ่มดวงจันทร์ม่วง ปกครองกลุ่มทาสที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ พื้นที่ที่กลุ่มทาสอาศัยนั้นเล็กมากรวมไปถึงแหล่งทรัพยากรต่างๆ ของกลุ่มก็มีเพียงเล็กน้อย ถึงกลุ่มจะรวมตัวกันแต่อำนาจที่เกิดจากการรวมตัวก็ยังคงห่างไกลจากกลุ่มดวงจันทร์ม่วง
ผู้ที่อาศัยอยู่กลุ่มดวงจันทร์ม่วง มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ กลุ่มลำดับที่1 ใน ดวงจันทร์ม่วง ของรอยเลือดบริสุทธิ์จะมีใบหน้า 8 หน้า พร้อมกับแขน 24 แขน กลุ่มรอยเลือดบริสุทธิ์ลำดับที่ 2 จะมีใบหน้า 4 หน้าพร้อมกับแขน 16 แขน และกลุ่มลำดับต่อมาจะมีใบหน้า 3 หน้า พร้อมกับแขน8 แขน และกลุ่มธรรมดาทั่วไปจะมีเพียงแค่ใบหน้า 1 หน้ากับแขนอีก 2 แขน ซึ่งมันหมายความว่ากลุ่มดวงจันทร์ม่วง นั้นแบ่งออกเป็น 4 ขั้น โดยใครที่มี 8 หน้า 24 แขนนับได้ว่าเป็นระดับที่หายากมากๆ
อย่างไรก็ตามการมีผู้ที่ถูกมองว่าอ่อนแอกว่า แต่ครั้งหนึ่งก็เคยมีคนที่กลายมาเป็น เจ้าแห่งจักรวาล มาแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีความแตกต่างกันระหว่างระดับสูงหรือต่ำ ทุกคนสามารถกลายเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ได้
2 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีอำนาจอย่างมากแต่เพราะเป็นจักรวาลขนาดเล็กจึงไม่สามารถไต่เต่ากลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ได้ หลายปีมานี้มีหลายคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดวงจันทร์ม่วง ที่พยายามยกระดับให้ถึง เจ้าแห่งจักรวาล แต่ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ
“เจ้าแห่งจักรวาล จาก 2 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งกันทุกคน” หลัวเฟิงกล่าว “กล่าวกันว่าทุกๆ เจ้าแห่งจักรวาล ผู้ที่ออกผจญภัยมักจะสำเร็จในการเข้าใจเทคนิคขั้นสูงเสมอ มันมีราว 100 กลุ่มกองกำลังใน ทะเลจักรวาล ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม 2 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงแข็งแกร่งที่สุด”
บางทีมันอาจเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยุคต่างๆ ของจักรวาลบ้าง
สำหรับ 3 ยุคแห่งการจุติ ทุกๆ คนสามารถปราบจักรวาลดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างง่ายดาย ถึงกระนั้น ก็ไม่มียุคจุติไหนที่จะรวมกันเป็นหนึ่ง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม 2 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีกองทัพราว 100 กอง ซึ่งยังคงเป็นจักรวาลที่มีความแข็งแกร่งที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาปลีกตัวออกมาได้อย่างสบายๆ เพราะไม่ต้องกังวลถึงวันที่ต้องพบเจอกับวันพิพากษา พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดจากยุคแห่งการจุติได้ สิ่งนี้ทำให้ 2 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สร้างลักษณะเฉพาะของพวกเขา
“บางกลุ่มก็สุภาพและเต็มใจที่จะเป็นมิตรกับ เจ้าแห่งจักรวาล ผู้ใดก็ได้ที่พวกเขาพบ แต่บางกลุ่มก็ดุร้ายและจ้องที่จะฆ่าทำลาย บางกลุ่มก็แปลกที่มีอารมณ์แปรปรวนอยู่เสมอ โดยสรุปแล้ว ไม่มีอำนาจใดที่จะกดขี่ข่มเหงพวกเขาได้ เจ้าแห่งจักรวาลของพวกมันทำสิ่งที่ตนปรารถนา และพวกมันทุกคนก็แตกต่างกันออกไป จุดที่มีเหมือนกันคือ ความทะนงตัวตั้งแต่กำเนิดของพวกมัน”
“นั่นคือเขา เจ้าแห่งจักรวาลซาลา ฮูเล่อ” หลัวเฟิง เอ่ยถึงอย่างรวดเร็ว
เขารู้ตัวแล้วตอนนี้ เจ้าแห่งจักรวาลซาลา ฮูเล่อ อยู่ในอันดับกลางๆ ท่ามกลางเจ้าแห่งจักรวาล นับร้อยของกลุ่ม ดวงจันทร์ม่วง พลังของเขาเทียบได้กับ เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว และเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส
อันที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาที่จะมีพลังขนาดนี้ นี่เป็นเพราะว่า เจ้าแห่งจักรวาล ใครก็ตามที่ปรากฏตัวออกมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดวงจันทร์ม่วง จะอยู่ในระดับต้นๆ ตามมาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่งมี เจ้าแห่งภูเขาน้ำแข็ง เป็นมาตรฐานของกลุ่ม นั่นหมายความว่าถ้าเอาเจ้าแห่งภูเขาน้ำแข็ง มาจัดอันดับ เขาก็จะอยู่ที่อันดับล่างสุดของกลุ่ม ดวงจันทร์ม่วง และ หลัวเฟิง รู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว ถ้าเขาไม่มีปีกซื่อหวู๋ เขาคงต้องอยู่ในอันดับล่างๆ ของกลุ่มอย่างแน่นอน
เจ้าแห่งภูเขาน้ำแข็ง อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล อยู่ในระดับที่สูงกว่า สำหรับ เจ้าแห่งจักรวาล ที่มีสมบัติแท้จริงชั้นยอด ไว้ครอบครองจะอยู่ในระดับจุดสุดยอด นี่เป็นวิธีที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แบ่งประเภทระดับของพวกเขา
ใช่แล้ว ภายในของจักรวาลดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมี เจ้าแห่งจักรวาล ที่มีสมบัติแท้จริงชั้นยอด!
มันจะมี เจ้าแห่งจักรวาล 3 ประเภทที่แตกต่างกันออกไปในจักรวาลแห่งนี้ เห็นได้ชัดเลยว่า กลุ่มพวกนี้แข็งแกร่งกว่า 3 กลุ่มแห่งการจุติอย่างมาก
“ถูกต้องแล้ว” หลัวเฟิง กล่าวกับตัวเอง “หลังจากที่ได้ฝึกฝนสำหรับยุคแห่งการจุติมากมาย ข้าคิดว่าแม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาล เป็นโหลของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็สามารถที่จะไปถึงระดับมาตรฐานของ เจ้าแห่งจักรวาลซาลาฮูเล่อ ได้ พวกมันไม่ได้แข็งแกร่งกว่าพวกเราเลย ทั้งหมดที่พวกมันมีคือเวลาอันมากมายสำหรับการฝึกฝน”
“เจ้าเป็นมนุษย์ ผู้นำปีกเงิน จากจักรวาลดั้งเดิมงั้นเหรอ?” จุดแสงที่กำลังบินอยู่ไกลๆ ถามมนุษย์
“เจ้าแห่งจักรวาลซาลาฮูเล่อ” หลัวเฟิง มองไปบนอากาศ เหนือหัวเขา ที่กำลังส่องประกายแสงราวกับรอยยิ้มที่เป็นมิตร
เจ้าแห่งจักรวาลซาลา ฮูเล่อ หยุดและมองไปที่ หลัวเฟิง สายตาของเขาจ้องไปที่ ปีกเงิน ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ข้าได้ยินมาว่าสมบัติปีกของเจ้าค่อนข้างที่จะดีเลยทีเดียว”
หลัวเฟิง รู้สึกจุกในใจ
เขาไม่ได้ออกไปทันที เพราะเขาไม่ต้องการที่จะเจอกับคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดวงจันทร์ม่วง ที่มีความทะนงตัวเป็นธรรมชาติและบางกลุ่มก็จะเข้าจู่โจมเขาในทันทีซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้น แม้ว่า หลัวเฟิง จะไม่ได้กลัวแต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะทำให้พวกเขาโกรธ อย่างไรก็ตามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดวงจันทร์ม่วง นั้นแข็งแกร่งกว่าเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์มาก ถ้ากล่าวถึงด้านจำนวนแล้วกลุ่มดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดวงจันทร์ม่วง มีจำนวนมากกว่าเยอะ
“ฮ่าๆ! นี่มันอะไรกัน เจ้ากังวลว่าข้าจะฉกปีกสมบัติแท้จริงจากเจ้างั้นเหรอ?” เจ้าแห่งจักรวาลซาลาฮูเล่อ จ้องไปที่ หลัวเฟิง พร้อมกับหายใจออกอย่างแรง “มีผู้ที่มีพลังอำนาจมากมายใน ทะเลจักรวาล และหลายคนในนั้นที่ได้ครอบครองสมบัติแท้จริง มันจะเป็นไปได้ไหมที่ข้าจะฉกทุกๆ อย่างมาจากพวกเขา? ฮ่าๆ เจ้าควรออกไปซะ ทะเลสาบเพลิง เป็นอาณาเขตของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดวงจันทร์ม่วง เจ้าควรรีบออกไปจากที่แห่งนี้โดยด่วน”
ภายในใจของ หลัวเฟิง รู้สึกดีใจ “ข้าเพียงแค่เดินทางผ่านมาเท่านั้น ข้าจะออกจากที่นี้โดยเร็วเท่าที่จะทำได้”
เขายิ้ม
“นั่นดีที่สุดแล้ว” เจ้าแห่งจักรวาลซาลาฮูเล่อ ตอบกลับ
หลัวเฟิง ยิ้มและออกเดินทางจากไป
“โชคดีแค่ไหนที่ไปเจอกับ เจ้าแห่งจักรวาลซาลาฮูเล่อ ของกลุ่ม ดวงจันทร์ม่วง เทียบกับ หยินถั๋ว และเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส แล้ว เขาเป็นผู้ที่คุยด้วยง่ายกว่าเยอะ แต่นั่นก็สมเหตุผลนะ เพราะนับตั้งแต่ผู้ยิ่งใหญ่ของยุคแห่งการจุติแรกที่ได้เจอกับวันพิพากษาของพวกเขา ส่วนใหญ่ก็จะบ้ากันไปหมดแล้ว”
หลัวเฟิง บินขึ้นบนฟ้าไปอย่างต่อเนื่องขณะที่กำลังรักษาระดับความเร็ว 100 เท่าของความเร็วแสง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกถึงการปรากฏของคลื่นอวกาศรอบๆ ตัวเขา
“พื้นที่สีทอง!”
หลัวเฟิง รับมือกับ พื้นที่สีทอง เป็นครั้งแรก มีหมอกนับไม่ถ้วน แสงสีทองกระจายไปทั่วห่อหุ้มเอาไว้
“ในที่สุดข้าก็สามารถทำการเทเลพอร์ทได้แล้ว ไปกันเลย!”
ชั๊วะ!
หลัวเฟิง เคลื่อนย้ายภายในพริบตา ด้วย พื้นที่สีทอง สิ่งนี้ทำให้เขาเคลื่อนย้ายไกลราวกับ 2 ปีแสงซึ่งเขาไม่เคยทำ แบบนี้มาก่อน แม้ว่าจะมีหลายที่ใน ทะเลสาบเพลิง ที่สามารถทำการเทเลพอร์ทไปได้แต่ก็ยังมีเขตอันตรายอยู่ 100 แห่งที่เป็นอันตราย บางเขตก็ถูกแช่แข็งปราศจากคลื่นอวกาศ ดังนั้นตราบใดที่สถานที่แห่งนี้ถูกตัดคลื่นการเคลื่อนย้ายออกไปก็ไม่สามารถที่จะทำการเทเลพอร์ทได้
ในการเทเลพอร์ท 1 ครั้ง เขาทำระยะทางได้ถึง 300 ปีแสงห่างจากจุดที่โดนแช่แข็งที่ปราศจากคลื่นอวกาศ หมอกบางๆ กับไอของแท่งน้ำแข็งแสงนับไม่ถ้วน สิ่งนี้เทียบราวกับการโจมตีโดย เจ้าแห่งจักรวาลธรรมดาๆ ดังนั้น หลัวเฟิง จึงเริ่มออกบินอีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ แม้แต่อำนาจผู้สร้างขวานยักษ์ ที่ต้องใช้เวลา 1000 ล้านปีเพื่อจะไปถึงเขตที่ลึกที่สุดของดินแดนอันตรายก็เป็นเรื่องปกติ จากการคาดเดาของ หลัวเฟิง เพื่อข้ามเขต ทะเลสาบเพลิง ที่กว้างถึง 10,000 ปีแสง เขาต้องใช้เวลา 1 เดือน หรือ 2 เดือน
ในขณะที่ หลัวเฟิง กำลังทำการการข้าม ทะเลสาบเพลิง ก็มีกระแสข่าวผุดขึ้นมากระจายไปทั่วยุคแห่งการจุติครั้งแรก กระแสข่าวนี้ ได้เตือนผู้ยิ่งใหญ่มากมายที่อยู่ในยุคแห่งการจุติครั้งแรก
“มันเป็นไปได้ยังไง?”
“หลัวเฟิง ผู้นำปีกเงิน แม้ว่าเขาจะกลายเป็นศัตรู แต่เขาก็ยังมีพลังอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอ ทำให้ หยินถั๋ว บาดเจ็บร้ายแรง และทำลายล้าง เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส และ เจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย”
“ข่าวนี้มาจาก หยินถั๋ว และเขากำลังซ่อนตัวอยู่ ทำให้เขาสามารถฟื้นฟูพลังตัวเองได้ มันเป็นไปได้ยังไง ยิ่งกว่านั้น เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ก็ยังไม่ตาย เพราะเขามีร่างกายหลายร่าง”
“สมบัติที่แท้จริง ปีกเงิน ที่ร่วมพลังกับ พื้นที่สีทอง ซึ่งเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งที่สามารถกดดันเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ได้ แต่ระดับของหลัวเฟิง ไม่ได้สูงเท่ากับเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส เลย นี่หมายความว่าปีกของเขามีพลังมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ใช่แล้ว”
“หยินถั๋ว กล่าวอีกว่า ปีกเงิน เทียบได้กับเกราะเทพทำลายล้าง”
“ไปถามเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ กันดีกว่า เพื่อดูว่าเจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย และเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ถูกทำลายล้างจริงหรือไม่”
เนื่องจากข่าวของ หยินถั๋ว ถูกพูดถึงและเพราะว่ามันอยู่ในยุคแห่งการกำเนิดแรกๆ ที่มีการสื่อสารมากมาย ทำให้กระแสข่าวพี่พัดมาถึงเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ นั้นไม่นาน อย่างไรก็ตามนี่นับเป็นวันที่ 3 นับตั้งแต่เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส และเจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย ได้เข้าไปที่ทะเลลาวา
“อะไรนะ!”
“เจ้าพูดว่าเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส และเจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย ถูกกวาดล้างไปแล้วงั้นเหรอ”
“เร็วเข้า”
“รีบหน่อย”
เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ วิตกกังวลแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ก็อยู่ในลำดับสูงๆ ของผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางพวกเขาทั้งหมด ตำแหน่งของเขาสูงกว่าเจ้าแห่งจักรวาล อันโย มาก
ไม่นาน ในจักรวาลเล็กๆ ของเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์…
บุคคล12 คนเคลื่อนย้ายไปที่ประตูพระราชวังดำของเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส
“เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส”
“เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส”
จากพระราชวังดำก็มีลำแสงผ่านเข้ามา มันคือเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส
“ร่างกายของเจ้านาย ที่กำลังต่อสู้ได้ถูกทำลายลงงั้นเหรอ?”
“ทำลายโดยผู้นำปีกเงิน เหรอ?”
บุคคลทั้ง 12 ที่ทุกคนต่างก็มีร่างกายระดับ เจ้าแห่งจักรวาล ในเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ต่างพากันวิตกกังวล ทันใดนั้นก็มีผู้สวมเสื้อคลุมสีขาวยาวหัวล้าน และผิวราวกับหิน นั่นคือเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส และได้ตะโกนออกมา “อย่ามารบกวนข้า! ออกไปซะ! พวกเจ้าทั้งหมดออกไปให้หมดเลย!”
“เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส…”
พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง ทำไมเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ถึงไม่สบายใจขนาดนั้น เป็นไปได้ไหมที่ร่างกายของเขาจะถูกทำลายไป?
เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ยิ่งโกรธหนักมากว่าเดิม เขาตะโกนออกมา “ร่างกายของข้าไม่ได้ถูกทำลายแต่ในสถานการณ์ความเป็นและความตายท่ามกลางทะเลลาวาที่ต้องกระเสือกกระสนรอดชีวิตออกมา ตอนนี้ชีวิตของข้าแขวนอยู่บนเส้นด้าย สติทั้งหมดของข้าจดจ่อไปที่ร่างกาย อย่ามารบกวนข้า เจ้าทำให้ข้าไขว้เขว”
“อ้อ”
ทุกคนต่างตระหนักกับสิ่งที่เกิดขึ้นและรีบถอยออกมาเพื่อจะได้ไม่รบกวนเขา
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็ทำให้เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ค่อนข้างที่จะโกรธ เกือบครึ่งวันหลังจากที่ เจ้าแห่งจักรวาล ได้ไปหาเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส สำหรับคำตอบในจักรวาลขนาดเล็กที่ 6 ร่างอวตารของเจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย ถูกทำลายและหายไปในอากาศบางๆ ก่อนที่จะหายไป เขาทิ้งเพียงข้อความสั้นๆ ไว้ “ฆ่า หลัวเฟิง ผู้นำปีกเงิน เพื่อแก้แค้นให้ข้า ฆ่ามันซะ!”
จากนั้นเขาก็ถูกทำลายไป
การถูกทำลายล้างของ เจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย และถ้อยคำสุดท้ายของเขาเป็นหลักฐานว่า เจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย และ เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส กำลังอยู่ในภัยอันตรายที่เกิดมาจากผู้นำปีกเงิน
“เราควรทำยังไงดี? เจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย ถูกทำลายไปแล้ว แล้วเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ล่ะ”
“อย่าไปถามเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส เลย เขากำลังรวบรวมพลังอยู่ตอนนี้ ไม่ต้องไปทำให้เขาไขว้เขว ถ้าร่างกายของเขาถูกทำลายลงจริงๆ เราจะรู้ในเร็วๆ นี้เอง ถ้าเขายังไม่ถูกทำลาย เขาคงตกอยู่ในสถานที่ที่เลวร้ายมากๆ ก็ได้ตอนนี้ ปล่อยให้เขาทำให้สุดความสามารถเถอะ”
ภายในทะเลลาวา
วิหารต้องห้ามกำลังแกว่งไป ณ จุดที่ความเร็วสูงสุด มันอยู่ในสถานะที่ย่อยยับ มีรอยชำรุดมากมาย สิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดคือรู 4 รูที่ทะลุผ่านเข้าไปที่วิหารต้องห้าม
“ข้าต้องรอดไปให้ได้ ข้าต้องออกไปจากที่นี่อย่างมีชีวิตรอดออกไป ข้าต้องทำให้ได้”
เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ในวิหารต้องห้ามที่เกือบจะถล่ม เขากัดฟันแน่น
“ผู้นำปีกเงิน หลัวเฟิง! หลัวเฟิง! หลัวเฟิง!”