ตอนที่ 1209 เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบ
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตชั้นสูงมีความแตกต่างในพลังอมตะที่ไม่สำคัญเท่าไรนัก แต่ความสำคัญของพวกเขาอยู่ที่สมบัติที่มีความเหมาะสมกับพวกเขา ซึ่งทำให้เทคนิคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกเว้นหลัวเฟิง ในแง่ของเทคนิคและสมบัติของเขาไม่ได้แพ้เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง แต่พลังอมตะของเขานั้นอ่อนแอ ทำให้พลังที่เขาปล่อยลดลงไประดับหนึ่ง
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีแผนของตัวเอง แต่เจ้าเพิ่งเสียปีกสมบัติของเจ้า แต่เจ้ายังได้รับเกราะมีค่าที่รองลงมาจากสมบัติแท้จริงสูงสุด เจ้าเพียงแค่อัศวิน แต่การศึกษาการแกะสลักภาพของเจ้ามาถึงระดับเจ้าแห่งจักรวาล” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลหัวเราะและส่ายหัว
“ข้าจะไม่ขวางทางของเจ้า แต่เจ้าต้องตื่นตัวตลอดเวลา ถ้าเจ้าพบกับอันตรายที่ไม่อาจจัดการได้คนเดียว แจ้งให้ข้าหรือขวานยักษ์ทราบ”
“ครับ” หลัวเฟิงพยักหน้า
ผู้นำเมืองมองมายังหลัวเฟิง สายตาของเขามีร่องรอยของความหวัง “เมื่อพิจารณาอัตราการเติบโตในตอนนี้ ถือว่าเป็นเจ้าแห่งจักรวาลตัวจริง เจ้าเพียงต้องการฝึกทักษะของเจ้าเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย จากนั้นเจ้าก็เทียบเท่ากับข้า”
แต่การปะทุขึ้นมาของหลัวเฟิงในการต่อสู้นับร้อยปี ภายในคลื่นทะเลดาว มันเป็นการต่อสู้ที่สร้างความตกใจให้กับผู้นำเมืองและขวานยักษ์ ผู้นำเมืองติดต่อหลัวเฟิงเพื่อแลกเปลี่ยนทักษะกัน รวมถึงการพูดคุยที่เหมาะสม
ภายหลัง ขวานยักษ์นำ หลัวเฟิงไปพบอาจารย์ต้นกำเนิด อาจารย์ต้นกำเนิดได้ถูกขังเอาไว้ชั่วนิรันดร์ แต่เขายังสามารถใช้เทคนิคจักรวาลเสมือนที่ทรงพลังที่สุด นั่นคือการติดต่อกันของพวกเขาระหว่างผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลและขวานยักษ์
ผลสรุปของการพูดคุยระหว่างอาจารย์ต้นกำเนิดและขวานยักษ์ตัดสินว่า ก่อนที่จะยกหลัวเฟิงขึ้น ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลจะต้องเป็นบุคคลสูงสุดที่มีพื้นหลัง และจะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เขาจะเข้าแทนที่ตำแหน่งเจ้าแห่งจักรวาลความมืดและเจ้าแห่งจักรวาลเป็งกง
คำสั่งที่เป็นไปได้ในตอนนี้คือ มีผู้มีแนวโน้มที่จะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดถูกเปลี่ยนเป็น ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล หลัวเฟิง เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกง และเจ้าแห่งจักรวาลความมืด
สองรูปแบบชีวิตยิ่งใหญ่ทั้งสองอย่าง อาจารย์ต้นกำเนิด และขวานยักษ์ มีความชื่นชอบหลัวเฟิง
นับแต่นั้นมา ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลได้ให้ความสำคัญกับศิษย์คนนี้มากขึ้น ถ้าทั้งอาจารย์และศิษย์เป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด พวกเขาจะเป็นคู่ที่มีชื่อเสียงพูดกันในมหาสมุทรจักรวาล
อาจารย์ต้นกำเนิดเป็นอาจารย์ของผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล และผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลคืออาจารย์ของหลัวเฟิง การได้เห็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดสามรุ่นเป็นสิ่งที่ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลหวังว่าจะได้เห็น
ผู้นำเมืองพูดออกมาอย่างมีความหวัง “นอกจากนี้การเข้าใจของเจ้าไม่จำเป็นต้องรอนานหลังจากเป็นเจ้าแห่งจักรวาล ก็พยายามเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้ แต่ข้าไม่มีคำแนะนำสำหรับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้วเส้นทางของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทั้งหมดนั้นแตกต่างกัน แม้ข้ายังค้นหาหนทางของข้าอยู่”
มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหลัวเฟิงที่จะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เขามีเทคนิคลับที่ดีและความเข้าใจกฎก็ราบรื่น เขายังมีความเข้าใจหัวใจสัตว์เทพ ในอนาคตการเข้าใจหัวใจสัตว์เทพก็เป็นเรื่องง่าย ทว่าการจะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดนั้นยากกว่านี้มาก เพราะทุกเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดนั้นมีเส้นทางที่แตกต่างกัน การศึกษาการแกะสลัก และการศึกษาสัตว์เทพ หากเขาคิดทิ้งเส้นทางเหล่านี้ตามคนรุ่นก่อน เส้นทางของเขาก็จะแคบมาก
ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลหัวเราะ “เจ้ายังมีอีกหลายทางที่จะไป ข้าว่าตอนนี้เจ้าควรใส่ใจกับการฝึกฝนกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลในตอนนี้ก่อน”
“ครับ” หลัวเฟิงตอบรับ
“ถ้ามีปัญหาหรืออันตราย อย่างลืมบอกข้า หรือขวานยักษ์ ตอนนี้เจ้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกและตัวเองเท่านั้น เจ้ายังเป็นของเรา เผ่าพันธุ์มนุษย์”
“ไปตามที่เจ้าต้องการ ข้าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการเจ้าที่กำลังไปเสาหินลายดำ”
“ครับ ข้าขอตัวลา”
หลัวเฟิงถอยหลัง ร่างของเขาค่อยๆ กลายเป็นเงาหายไปช้าๆ
———-
เสาหินลายดำเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญของเพียงไม่กี่แห่งภายในเรือจักรวาลที่ปราศจากอันตราย อันตรายที่เกิดจากการต่อสู้ของสิ่งมีชีวิตนั้นไม่ถูกนับ
ทั้งพื้นที่ถูกสนับสนุนด้วยเสาหินลายดำ ทั้ง 16 ที่มีความสูง 1 พันปีแสง กาลอวกาศใกล้เสาหินลายดำถูกแช่แข็งเอาไว้ทำให้เทเลพอตไม่ได้ การแกะสลักบนเสาหินเหล่านี้อยู่ในระดับสูงมาก มันมีความอาฆาตรุนแรงที่แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดยังไม่เข้าใจ มันเหมือนความรู้ที่มีประสิทธิภาพของสิ่งมีชีวิตโบราณที่หายไป เหมือนกับพื้นที่ลึกลับที่หลัวเฟิงพบ หากไร้คำแนะนำทีละขั้นตอน และไม่ผ่านระดับความยากเป็นไปทีละขั้น การแกะสลักบนเสาหินเหล่านั้นจึงเป็นไปได้ยากที่จะเข้าใจ
ทุกเสาหินนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก ทรงพลังยิ่งกว่าสมบัติแท้จริงสูงสุด จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถที่จะสัมผัสเสาหินลายดำด้วยมือเปล่าได้ ยิ่งเข้าใกล้เสาหินลายดำก็ยิ่งมีผลกระทบอำนาจจิตที่มากขึ้น แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดก็ไม่อาจยืนต่อหน้าเสาหินลายดำได้ ระดับการแกะสลักที่สูงและกระจายไปทั่วทั้งเสาหินขนาดพันล้านปีแสง มันถือเป็นสถานที่ดึงดูดให้สิ่งมีชีวิตมาจับจองที่นั้น มีหลายปัจจัยที่เหมาะสมในการฝึกฝน ทั้งยังเป็นที่พักผ่อนสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ท่องไปในส่วนลึกของเรือจักรวาล
———–
หมอกถูกกระจายไปทั่วจนสุดสายตา
หลัวเฟิงในชุดเกราะสีเงินทำการเทเลพอตระยะสั้นสองครั้ง
สภาพแวดล้อมของเสาหินลายดำเต็มไปด้วยหมอกในส่วนยอดและส่วนล่าง ส่วนตรงกลางนั้นไม่มีร่องรอยของหมอกอยู่ มีการพูดกันว่า ขอบเขตในการเทเลพอตได้หรือไม่ได้คือหมอกที่บางจนดูแทบไม่แตกต่าง
เส้นแสงสีเงินได้กระจายไปทั่วพื้นที่ว่าง
“ฮ่า ฮ่า หลังจากเดินทางมา 620 ปี ในที่สุดก็มาถึงเสาหินลายดำ” หลัวเฟิงแปลงโฉมตัวเองเป็นแสงสีรุ้ง เขามีความสุขและดูไร้กังวล
“อาจารย์ทั้งสองต่างบอกว่าการต่อสู้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการเสริมสร้างทักษะนั้นถูกต้อง ตั้งแต่เข้ามายังเรือจักรวาลทำให้ได้รับประสบการณ์จากดินแดนอันตรายจำนวนมาก ผ่านการเสี่ยงชีวิตหลายครั้ง จนประสบความสำเร็จในการต่อสู้ที่คลื่นทะเลดาว”
แม้ว่าหลัวเฟิงจะไม่ใช่เจ้าแห่งจักรวาล แต่หากมาถึงเรื่องการแกะสลักภาพแล้วเขานั้นอยู่ในระดับเจ้าแห่งจักรวาล หลังจากการต่อสู้ในคลื่นทะเลดาว เขาก็ใช้เวลาในการสร้างชุดเทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าแห่งจักรวาล ถือเป็นสิ่งยืนยันความสามารถของเขา
ตอนที่เขาแสดงตัวตนเป็นเจ้าแห่งจักรวาลแยกทอง เขาได้สร้างเทคนิคสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาลและใช้ชื่อของเทคนิคเป็นการแสดงตัวตน
แยกทองเป็นเทคนิคที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยมือตัวเอง แต่ท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเป็นการแกะสลักบนแขนขวาเกราะเทพทำลาย
หลัวเฟิงมองออกไประยะไกล
หลัวเฟิงที่เปลี่ยนจากแสงสีเงินเป็นสีรุ้งด้วยสมบัติจากการค้นหาในเรือจักรวาล มันเป็นสมบัติแท้จริงชั้นสูงประเภทขอบเขตชื่อว่า แดนหิมะเพลิง มันเป็นหนึ่งในเหตุการที่เกิดขึ้นในพื้นที่คลื่นทะเลดาว มีสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงความเป็นเจ้าของมัน
“ดูท่าว่าจะเจอคนจากพันธมิตรหง” หลัวเฟิงหัวเราะ
“ผู้นำทางช้างเผือก!”
หลัวเฟิงสามารถที่จะรับรู้ถึงหน้าตาอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็วจากตาเปล่า เขาคือเจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบ เป็นเผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ในพันธมิตรหง เขามีตำแหน่งที่สูงในพันธมิตรหงด้วยความสามารถของเขา เขาอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าแห่งจักรวาลภูเขาน้ำแข็ง เขามีความสามารถในการเอาชีวิตรอด และเป็นเรื่องยากที่จะยั่วยุเขา
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าได้สมบัติประเภทขอบเขตใหม่ที่เป็นเปลวไฟสีฟ้า จากขอบเขตนี้ทำให้ข้าสงสัยว่าคือผู้นำทางช้างเผือกหรือไม่ ข้าจึงรีบมาพิสูจน์ และสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูก ฮ่า ฮ่า…”
“ข้ายากจะพบเพื่อนจากพันธมิตรหงในพื้นที่ด้านในของเรือจักรวาล เป็นเรื่องที่น่ายินดี”
เขาสื่อสารภาษามนุษย์ด้วยการส่งข้อความเสียง ภายในพันธมิตรหง ภาษามนุษย์มีความสำคัญมาก
“การได้พบกับเจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบที่นี่ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดี” หลัวเฟิงส่งเสียงอย่างมีความสุข
“ข้าได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเจ้า ผู้นำทางช้างเผือก หนึ่งในร่างของเจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้ายและเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออสถูกทำลาย หลังจากนั้นเจ้าได้เป็นเจ้าแห่งจักรวาลแยกทอง เจ้าได้ปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่อง ข้ากลัวว่าตัวเองคงจะไม่ใช่คู่แข่งของเจ้าอีกต่อไป”
หลัวเฟิงยิ้ม สิ่งที่อีกฝ่ายนั้นพูดคือความจริง แล้วเป็นอีกวิธีที่จะชื่นชมเขา แน่นอนว่าหลัวเฟิงรู้สึกพอใจ
“เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบ เจ้าสุภาพเกินไปแล้ว” หลัวเฟิงกล่าวพร้อมหัวเราะ
“ข้ามีสิ่งที่ต้องการถาม ผู้นำทางช้างเผือกทำไมถึงมายังพื้นที่เสาหินลายดำ”
เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบได้มาอยู่ข้างๆ หลัวเฟิง จนกลายเป็นลำแสงสีรุ้งทั้งคู่ พวกเขาใช้พลังงานในการสื่อสาร
“ข้ามาที่นี่เพื่อยืมความแข็งแกร่งของเสาหินลายดำเพื่อลับคม และฝึกฝนอำนาจจิตของข้า” หลัวเฟิงได้ตอบทันที
“โอ้ ลับคมและฝึกอำนาจจิต จากยุคที่สามของมหาสมุทรจักรวาล และสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มีตัวเลือกไม่มากนักที่จะลับคมและฝึกอำนาจจิต”
“พวกเขาส่วนใหญ่เลือกมาที่นี่เพียงพักผ่อนชั่วคราว และทำความเข้าใจการแกะสลักบนเสาหินลายดำ บางทีข้าก็มาที่นี่บ้าง”
“ข้ามีบางสิ่งที่จะบอกเจ้า ผู้นำทางช้างเผือก”
“เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบโปรดพูดสิ่งที่เจ้าคิด” หลัวเฟิงกล่าว
“พื้นที่เสาหินลายดำมีความปลอดภัยสูง และมันเป็นอนุสรณ์สถานโบราณที่มีการแกะสลักอันลึกซึ้ง”
“นั่นคือเหตุผลที่สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่มายังที่นี่เสมอ โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามได้มายังที่นี่เสมอ ทั้งหมดเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด หนึ่งในนั้นเป็นผู้สันโดษ ส่วนที่เหลือมาจากเผ่าพันธุ์อื่น เจ้าแห่งจักรวาลดาวเป่ยจิจากยุคจักรวาลที่หนึ่ง บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด เทพปีศาจอาละวาดจากยุคจักรวาลที่สอง”
“ข้ารู้” หลัวเฟิงกล่าว
“ข้าอยากจะบอกเจ้าเกี่ยวกับนิสัยของทั้งสาม” เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบกล่าว
“เจ้าแห่งจักรวาลดาวเป่ยใจดีทีเดียว ตราบใดที่เจ้าปฎิบัติต่อเขาด้วยความเคารพจะไม่มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น แต่บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือดเป็นรูปแบบชีวิตพืช เขาได้กระจายออกไปทั่วหนึ่งล้านกิโลเมตร เจ้าต้องอยู่ให้ห่างไกลเขา ไม่อย่างงั้นอาจตกอยู่ในอันตรายจนถูกทำลาย ทั้งสองนั้นเป็นหนึ่งอารมณ์ที่ดีและอีกหนึ่งดุร้าย พวกเขาทั้งสองนั้นง่ายที่จัดการ สิ่งที่ลำบากที่สุดคือเจ้าแห่งจักรวาลปีศาจอาละวาด”
หลัวเฟิงพยักหน้า เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเทพปีศาจอาละวาด รวมไปถึงความอันตรายและเป็นคนยากจะจัดการ พื้นที่ของเสาหินลายดำเป็นเขตแดนเก่าของทั้งสามสิ่งมีชีวิตนี้ เขาจำเป็นต้องระมัดระวังและมั่นใจว่าจะไม่ไปรุกรานพวกเขา