ตอนที่ 1251 ชื่อของดาบนั้นคือ

ภูเขาสมบัติที่ถูกสร้างโดยอาจารย์บรรพบุรุษที่สาม และมีขีดจำกัดมากมาย ผู้สืบทอดแต่ละคนจะมีเครื่องหมายสืบทอด ทำให้พวกเขาสามารถที่จะใช้ตัวอ่อนได้ หากไม่มีมันก็ใช้ไม่ได้

หลัวเฟิงก้าวเดินภายในภูเขาสมบัติและมองดูรอบๆ

แสงที่ปล่อยออกมาจากภูเขาสมบัติทรงพลังพอที่จะฆ่าเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด มันมีการควบคุมที่พิเศษในการกักขังในภูเขา ทำให้ตัวอ่อนทั้งหมดนั้นถูกหยุดเอาไว้

หลัวเฟิงมองไปรอบๆ มันมีป้อมปราการรูปไข่ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับเรือจักรวาล ป้อมปราการยักษ์นี้มี 18 ระดับการโจมตี การแกะสลักบนนั้นยังคงว่างเปล่า ผู้ใช้ต้องเป็นคนเติมมันลงไป

นอกจากนี้ยังมียานรูปแบบพิเศษ ยานนั้นคือโลกของการประดิษฐ์ ซึ่งเติมไปด้วยสภาพที่เหมาะสมสำหรับสร้างสมบัติแท้จริง

มีตัวอ่อนสีทองที่มีความสามารถในเส้นทางของแมลง มันสามารถที่จะสร้างกองทัพแมลงเหมือนกับราชินีของเผ่าพันธุ์แมลง

ยังมีเครื่องจักรที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ที่ใช้เป็นเกราะได้ มันคือหุ่นกลที่สามารถใช้งานได้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับผู้ใช้ประกอบมันเป็นอย่างไร การแกะสลักภายในของมันยังไม่มี ทำให้สร้างขึ้นมาได้หลากหลายวิธี

ในอารยธรรมโบราณมีการต่อสู้หลายประเภทที่แบ่งออกมาเป็นสี่แบบหลัก และส่วนที่เหลือจะอยู่ในประเภทที่ 5 ในแต่ละประเภทก็มีแยกย่อยกันไป

ตัวอ่อนนั้นมีความแตกต่างกันตามเทคนิค และมี 72 ชนิดของตัวอ่อนเครื่องจักรอัตโนมัติ

“อารยธรรมโบราณนิยมระบบเครื่องจักรอัตโนมัติ” หลัวเฟิงรู้สึกถูกล่อลวงจากตัวอ่อนเหล่านี้ทั้งหมด

“สิ่งนี้มีประสิทธิภาพมาก แม้บางคนมีความแข็งแกร่งเล็กน้อยในกฎและเทคนิค เขาก็ยังสามารถที่จะฆ่าศัตรูด้วยเครื่องจักรเหล่านี้ มันน่าเสียดายที่ข้าสามารถเลือกได้แค่หนึ่ง”

หลัวเฟิงยืนมองใบมีดหินขนาดใหญ่ ถึงมันจะเสียบลงไปในภูเขาก็ยังมีขนาดใหญ่มาก แสงรอบใบมีดนั้นมีความงดงามมาก รูปร่างนั้นก็มีความปราณีตมาก

“มีสามดาบตัวอ่อน อันนั้นกว้างไป อีกหนึ่งก็บางไป ส่วนอีกหนึ่งเป็นแบบที่ข้าชอบ” หลัวเฟิงมองแล้วเพ้อไปกับมัน

“มันดูเหมือนกับดาบเงาเลือด แต่มีด้ามจับที่ใหญ่กว่า ข้าต้องจับมันทั้งสองมือ ข้าเลือกมัน”

หลัวเฟิงเดินตรงไปหน้าดาบหินขนาดใหญ่ เขาวางมือลงบนมันพร้อมกับกลั้นหายใจ

เพียงแค่หลัวเฟิงสัมผัสกับดาบ การแกะสลักกฎเริ่มไหลเข้าสู่ดาบ มันซับซ้อนกว่ากฎที่เขาเห็นในภูเขาน้ำแข็ง

ภูเขาสมบัติทั้งหมดเกิดการสั่นสะเทือน ตรงมุมหนึ่งได้เริ่มส่องแสง การแกะสลักกฎส่องแสงออกมาจากตราสืบทอดตรงหว่างคิ้วของหลัวเฟิง

หลังจากนั้น ภาพและแสงหายไป มีรอยประทับชีวิตของหลัวเฟิงตีตราขึ้นมาบนดาบหิน

“ตัวอ่อนดาบนี้จะอยู่กับข้าไปตลอด จนกว่าไปถึงจุดสูงสุดหรือว่าตาย”

หลัวเฟิงก้มมองลงมายังดาบ “ข้าขอเรียกว่ามัน เงาเลือด”

มีอักษรจีนอ่านง่ายขึ้นมาบนดาบ ทุกครั้งที่เขาเติบโตขึ้นเขาจะต้องเปลี่ยนดาบ ทว่าในตอนนี้ดาบนี้จะอยู่กับเขาไปตลอด

“ดาบเงาเลือดทรงพลังจนข้าไม่อาจจินตนาการได้ ถ้าไม่ต้องการฆ่าศัตรูคงไม่จำเป็นต้องใช้ดาบนี้” หลัวเฟิงคิด

ตัวอ่อนดาบเป็นเพียงอาวุธเดียวของหลัวเฟิงที่ได้เป็นสายน้ำวูดูวงคนใหม่

“หากข้าเอาสมบัติแท้จริงสูงสุดมาไว้ในพื้นที่มรดกก็จะเป็นการดูถูกสมบัติเหล่านี้” หลัวเฟิงคิด

นอกจากตัวอ่อนที่มีค่าเหล่านี้ก็ไม่มีสมบัติแท้จริงสูงสุดเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ในหินความทรงจำทุกรุ่นของสายน้ำวูดูวงมีเพียงแค่ตัวอ่อนเหล่านี้เท่านั้นที่ถูกนำออกไป

ในที่สุดแล้ว…การต่อสู้นั้นจำเป็นสำหรับการเติบโต พวกเขาจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้หากพวกเขาเอาแต่พึ่งพาสมบัติที่เหล่าผู้อาวุโสเหลือเอาไว้ให้

หลัวเฟิงในชุดเกราะสีเงินได้ออกจากพื้นที่สมบัติไปยังพื้นที่หลักของมรดก

หลัวเฟิงโบกมือและเส้นแสงได้ลอยมาหาเขา มันเป็นตรารูปแปดเหลี่ยม มันคือส่วนกลางในการควบคุมเรือสุสาน

พื้นที่มรดก ดาบเงาเลือด สองสิ่งนี้เป็นวัตถุที่มีค่าที่สุด ตามมาด้วยหอคอยดวงดาว ปีกซื่อหวู๋และเรือสุสาน

ปีกซื่อหวู๋และเรือสุสานเป็นประเภทเครื่องจักร เรือสุสานนั้นไม่มีพลังมากนักแต่ก็ยังสามารถควบคุมพื้นที่อันตรายที่อยู่ภายใน มันจึงเป็นเครื่องจักร

ปีกซื่อหวู๋นั้นคือเครื่องจักรที่คอยสนับสนุนผู้ใช้งาน มันจะเป็นเพียงแค่สมบัติแท้จริงเท่านั้นหากปราศจากต้นกำเนิด ต้นกำเนิดนั้นเป็นเหมือนเครื่องยนต์ และพลังงานอมตะก็เป็นเหมือนกับพลังงานขับเคลื่อนเครื่องยนต์ พลังของมันจะถูกปล่อยออกมาผ่านปีก

———-

พื้นที่ไฟน้ำแข็ง

เรือสุสานที่ลอยอยู่กลางอากาศได้หายไป ชายชุดเกราะเงินทั้งตัวกับดาบหินบนหลังได้ปรากฏตัวขึ้น

“อาจารย์ได้บอกว่ามีสิ่งมีชีวิตจากสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากซ่อนตัวเพื่อจับผู้สืบทอด” หลัวเฟิงมองไปรอบๆ

“ข้าไม่ได้กลัวพวกเขา แต่หวังว่าไม่จำเป็นต้องถึงกับใช้ดาบเงาเลือด”

หลัวเฟิงโบกมือและหอคอยสีเลือดได้ปรากฏขึ้นมา จากนั้นหลัวเฟิงก็เข้าไปยังหอคอยดวงดาวและออกบิน

“ถึงแม้ตอนนี้จะสู้เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดไม่ได้ ทว่าพวกเขาไม่สามารถฆ่าข้าได้” หลัวเฟิงนั้นมีความมั่นใจ

“เมื่อข้าเป็นเจ้าแห่งจักรวาล และพลังงานอมตะแข็งแกร่งขึ้น…”

หลัวเฟิงจะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนหน้านี้เจ้าแห่งจักรวาลนั้นถึงเพียงแค่ระดับที่หก แต่หลัวเฟิงนั้นอาจจะถึงระดับ 7 หรือ 8